งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ

งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ

บทที่ 2 ซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์และการเลือกใช้ให้เหมาะสมกับงาน

งานนำเสนอที่คล้ายกัน


งานนำเสนอเรื่อง: "บทที่ 2 ซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์และการเลือกใช้ให้เหมาะสมกับงาน"— ใบสำเนางานนำเสนอ:

1 บทที่ 2 ซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์และการเลือกใช้ให้เหมาะสมกับงาน
บทที่ 2 ซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์และการเลือกใช้ให้เหมาะสมกับงาน

2 บทนำ ประเภทของซอฟต์แวร์ ซอฟต์แวร์ระบบ ซอฟต์แวร์ประยุกต์ เกณฑ์ในการเลือกซอฟต์แวร์ ข้อปฏิบัติหลังการเลือกซื้อซอฟต์แวร์

3 ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับซอฟต์แวร์
ซอฟต์แวร์ (Software) คือ โปรแกรมหรือชุดคำสั่งนี้ที่รวบรวมคำสั่งงานต่างๆ ที่มนุษย์ต้องการเพื่อสั่ง ให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทำงานตามความต้องการ และควบคุมการทำงานของ อุปกรณ์ ซึ่งโปรแกรมหรือซอฟต์แวร์ที่จะสั่งให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทำงานจะต้อง มีรายละเอียดทุกขั้นตอนเพื่อให้เครื่องปฏิบัติตามจนได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ คำสั่ง ที่สั่งให้คอมพิวเตอร์ทำงานอย่างใดอย่างหนึ่ง เรียกว่า โปรแกรม

4 ประเภทของซอฟต์แวร์ ซอฟต์แวร์ ซอฟต์แวร์ระบบ ซอฟต์แวร์ประยุกต์
โดยทั่วไปแล้วจะแบ่งได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ ด้วยกันคือ ซอฟต์แวร์ระบบ (System Software) ซอฟต์แวร์ประยุกต์ (Application Software)

5 ซอฟต์แวร์ระบบ (System Software)
ซอฟต์แวร์ระบบ หมายถึง โปรแกรมที่ทำหน้าที่จัดการระบบคอมพิวเตอร์ โดยที่โปรแกรมควบคุมและประสานการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ ต่าง ๆ ของคอมพิวเตอร์ เช่น รับคำสั่งจากแป้นพิมพ์ สั่งให้ซีพียูคำนวณผล สั่งให้ แสดงผลออกทางลำโพง เป็นต้น ซอฟต์แวร์ระบบแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทด้วยกันคือ ระบบปฏิบัติการ (operation systems) โปรแกรมอรรถประโยชน์ (utility programs)

6 ระบบปฏิบัติการ (operation systems)
ระบบปฏิบัติการ หรือเรียกย่อ ๆ ว่า โอเอส (OS) เป็นซอฟต์แวร์ที่ทำหน้าที่ควบคุม และประสานงานระหว่างอุปกรณ์ภายในคอมพิวเตอร์ทั้งหมด ตั้งแต่ ซีพียู หน่วยความจำ ไปจนถึงหน่วยนำเข้าและส่งออก (input/output device)

7 รูปแบบการติดต่อระหว่างระบบปฏิบัติการกับผู้ใช้งาน
แบบทรรทัดคำสั่ง (Command –Line Interface)

8 รูปแบบการติดต่อระหว่างระบบปฏิบัติการกับผู้ใช้งาน
แบบกราฟิก (Graphic User Interface : GUI)

9 ประเภทของระบบปฏิบัติการ
สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท ดังนี้ ระบบปฏิบัติการแบบเดี่ยว (Stand - alone OS) ระบบปฏิบัติการแบบเครือข่าย (Network OS) ระบบปฏิบัติการแบบฝัง (Embedded OS)

10 1.ระบบปฏิบัติการแบบเดี่ยว (Stand - alone OS)
ระบบปฏิบัติการที่ใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลหรือ โน๊ตบุ๊ก และสามารถให้บริการสำหรับผู้ใช้เพียงคนเดียว นิยมใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ประมวลผลและทำงานแบบทั่วไป รองรับการทำงานบางอย่าง เช่น พิมพ์รายงาน ดูหนัง ฟังเพลง หรือเชื่อมต่อเข้ากับอินเตอร์เน็ต ปัจจุบันพัฒนาให้มีคุณสมบัติที่เป็นเครื่องลูกข่ายเพื่อขอรับบริการ จากเครื่องแม่ข่ายได้ด้วย

11 ตัวอย่างระบบปฏิบัติการแบบเดี่ยว
(Stand-Alone OS)

12 ระบบปฏิบัติการดอส (Disk Operating System :DOS)
ใช้สำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ทำงานโดยใช้การป้อนชุดคำสั่งที่เรียกว่า Command-Line PC-DOS (IBM)  MS-DOS (Microsoft )

13 ระบบปฏิบัติการไมโครซอฟต์วินโดวส์ (Microsoft Windows)
ระบบการใช้งานที่เรียกว่า GUI (Graphical User Interface) ระบบปฏิบัติการที่ได้รับความนิยมสูงมากในเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์ทั่วไป ผลิตโดยบริษัทไมโครซอฟท์

14 ระบบปฏิบัติการยูนิกซ์ (UNIX)
ระบบปฏิบัติการใช้กับเครื่องมินิคอมพิวเตอร์ ระบบปฏิบัติการยูนิกซ์เป็นระบบปฏิบัติการที่สามารถรองรับการ ทำงานของผู้ใช้งานได้หลายคนในเวลาเดียวกัน ปัจจุบันยูนิกซ์ใช้งานได้ทั้งแบบเดี่ยวและเครือข่าย

15 ระบบปฏิบัติการ Mac OS X (Macintosh Operating System)
ระบบปฏิบัติการของเครื่องแมคอินทอช ที่ผลิตโดยบริษัท Apple ผลิตภัณฑ์แรกที่ประสบความสำเร็จเกี่ยวกับการทำงานแบบ GUI มีความสามารถในการทำงานหลายโปรแกรมพร้อมกัน (Multitasking) เหมาะกับ งานในด้านประเภทสิ่งพิมพ์ กราฟิก และศิลปะเป็นหลัก

16 ระบบปฏิบัติการลินุกซ์ (LINUX)
ระบบปฏิบัติการที่คล้ายกับ UNIX แต่มีขนาดเล็กกว่าและทำงานเร็วกว่า พัฒนาขึ้นมาเพื่อคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล LINUX พัฒนาขึ้นมาเพื่อแจกจ่ายให้ใช้ฟรี โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

17 2. ระบบปฏิบัติการแบบเครือข่าย (Network OS)
ระบบปฏิบัติการที่ออกแบบเพื่อจัดการงานด้านการสื่อสารระหว่าง คอมพิวเตอร์ และการใช้ทรัพยากรร่วมกันได้ มีระบบป้องกันการสูญหายของข้อมูล

18 ตัวอย่างระบบปฏิบัติการแบบเครือข่าย
(Network OS)

19 Windows Server ใช้งานกับระบบเครือข่ายโดยเฉพาะ พัฒนาโดยบริษัทไมโครซอฟท์
รุ่นแรกออกมาในชื่อ Windows NT  Windows 2000  Windows Server  Windows 2008 รองรับการใช้งานในระดับองค์กรขนาดเล็กและขนาดกลาง ส่วนใหญ่เหมาะกับ การติดตั้งและใช้งานกับเครื่องประเภทแม่ข่าย (server)

20 OS/2 Warp Server ระบบปฏิบัติการเครือข่ายทำงานแบบกราฟิก
เลิกพัฒนาต่อไปแล้ว

21 โซลาริส (Solaris) ระบบปฏิบัติการเครือข่ายที่อยู่ในตระกูลเดียวกับระบบปฏิบัติการ Unix (Unix Compatible) พัฒนาโดยบริษัท Sun Microsystems เหมาะสำหรับงานด้านโปรแกรม E–commerce

22 3. ระบบปฏิบัติการแบบฝัง (Embedded OS)
ระบบปฏิบัติการที่ใช้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์พกพาขนาดเล็กหรือ อุปกรณ์ไร้สาย เช่น พีดีเอ ปาล์ม โทรศัพท์มือถือ บางระบบมีคุณสมบัติที่ใกล้เคียงกับระบบปฏิบัติการแบบเดี่ยวด้วย เช่น รองรับกับการทำงานทั่วไป ดูหนัง ฟังเพลง หรือเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ได้

23 ระบบปฏิบัติการปาล์ม (Palm OS)
ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในเวลาต่อมา

24 Pocket PC OS (Windows CE เดิม)
สามารถรองรับการทำงานแบบ multi-tasking

25 Symbian OS ระบบปฏิบัติการที่รองรับเทคโนโลยีการสื่อสารแบบไร้สาย (wireless) โดยเฉพาะอย่าง Smart phone สนับสนุนการทำงานแบบหลายๆ งานในเวลาเดียวกันอีกด้วย (multi-tasking)

26 อื่น ๆ

27 โปรแกรมอรรถประโยชน์ (Utility)
เป็นโปรแกรมหรือซอฟต์แวร์ที่ช่วยสนับสนุน/เพิ่ม/ขยายขีด ความสามารถของโปรแกรมที่ใช้งานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งเป็นโปรแกรม ที่ติดตั้งมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการอยู่แล้ว ยูทิลิตี้สำหรับระบบปฏิบัติการ (OS Utility Programs) ยูทิลิตี้อื่นๆ (Stand-alone utility Programs)

28 ประเภทการจัดการไฟล์ (File Manager)
คัดลอกแฟ้มข้อมูล เปลี่ยนชื่อแฟ้มข้อมูล ลบแฟ้มข้อมูล หรือเรียกใช้งานโปรแกรมต่างๆ ได้อย่างสะดวก ยูทิลิตี้ที่มีหน้าที่หลักในการจัดการเกี่ยวกับไฟล์ต่างๆ ระบบปฏิบัติการ Windows รุ่นใหม่ๆยังได้เพิ่ม คุณสมบัติที่เรียกว่า image viewer

29 ประเภทการลบทิ้งโปรแกรม (Uninstaller)
โปรแกรมอรรถประโยชน์ที่ใช้ในการยกเลิกโปรแกรมที่ทำ การติดตั้งไว้ในระบบ

30 ประเภทสแกนดิสก์ (Disk Scanner)
เครื่องมือตรวจสอบความเสียหายที่เกิดขึ้นกับฮาร์ดดิสก์ ผู้ใช้สามารถกำหนดให้เครื่องมือตรวจสอบดิสก์นี้ทำการ ซ่อมส่วนที่เสียหายได้

31 ประเภทจัดเรียงพื้นที่เก็บข้อมูล (Disk Defragmenter)
ดิสก์เมื่อมีการเรียกใช้งานอยู่บ่อยๆ จะทำให้เกิดการกระจัดกระจาย ของไฟล์ข้อมูลอย่างไม่เป็นระเบียบ  ดึงข้อมูลนั้นๆช้าลง ทำหน้าที่จัดเรียงไฟล์ต่างๆให้เป็นระเบียบมากขึ้น ช่วยในการเข้าถึง ข้อมูลให้ง่ายและเร็วกว่าเดิม

32 ประเภทรักษาหน้าจอ (Screen Saver)
โปรแกรมที่ช่วยป้องกันปัญหา อันเนื่องมาจากการที่ เราเปิดจอภาพของคอมพิวเตอร์ทิ้งไว้นานๆ โดยไม่ มีการเคลื่อนไหวใดๆ  อายุการใช้งานของหน้า จอคอมพิวเตอร์สั้นลงตามไปด้วย

33 ตัวอย่างยูทิลิตี้อื่นๆ (Stand-alone utility Programs)

34 โปรแกรมป้องกันไวรัส (Anti virus Program)
โปรแกรมที่ใช้ป้องกันไวรัสคอมพิวเตอร์ ผู้ใช้จึงต้องอัพเดทข้อมูลเพื่อให้โปรแกรมสามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์ตลอดเวลา

35 โปรแกรมไฟร์วอลล์ (Firewall)
โปรแกรมที่จะช่วยป้องกันบุคคลภายนอกบุกรุกเข้ามาในระบบของเรา ทั้งจากอินเตอร์เน็ต หรือจาก network อื่นๆ เรียกว่า personal firewall เนื่องจากใช้เฉพาะส่วนตัวบนเครื่องเดียว เช่น โปรแกรม Norton Internet Security ซึ่งเป็นชุดซอฟต์แวร์ เพื่อความปลอดภัย ที่รวมโปรแกรม firewall, cookie blocking, virus scanning และ Web control ไว้ด้วย

36 โปรแกรมบีบอัดไฟล์ (File Compression Utility)
โปรแกรมที่ทำหน้าที่บีบอัดไฟล์ให้มีขนาดเล็กลง/ซิปไฟล์ (zip file) ยูทิลิตี้ที่นิยมใช้และรู้จักกันเป็นอย่างดีเช่น Winzip, Winrar เป็นต้น Windows XP เองก็มีความสามารถในการบีบอัดไฟล์ ระดับหนึ่งอยู่ แล้ว เรียกว่าเป็น Compressed Folder นั่นเอง

37 ซอฟต์แวร์ประยุกต์ (Application Software)
ซอฟต์แวร์ประยุกต์ คือ ซอฟต์แวร์หรือโปรแกรมซึ่งเขียนขึ้นเพื่อการทำงานเฉพาะอย่าง ที่เราต้องการ ซอฟต์แวร์ประยุกต์ส่วนใหญ่เขียนโดยบริษัทซอฟต์แวร์เฮาส์สำหรับเครื่อง ไมโครคอมพิวเตอร์ สามารถจัดเป็นประเภทใหญ่ๆ ได้ 6 ประเภทคือ ซอฟต์แวร์จัดระบบฐานข้อมูล (Database Management Software) ซอฟต์แวร์การคำนวณ (Calculation Software) ซอฟต์แวร์จัดพิมพ์รายงาน (Word Processing Software) ซอฟต์แวร์นำเสนอข้อมูล(Presentation Software) ซอฟต์แวร์ทางด้านกราฟิกส์และมัลติมีเดีย (Graphics and Multimedia Software) ซอฟต์แวร์การใช้งานบนเว็บและการติดต่อสื่อสาร (Web and Comunications)

38 1.ซอฟต์แวร์จัดระบบฐานข้อมูล (Database Management Software)
การรวบรวมข้อมูลหลายๆ เรื่องที่เกี่ยวข้องกันในคอมพิวเตอร์ ซึ่งเราเรียกว่า ฐานข้อมูล ซอฟต์แวร์จัดการฐานข้อมูลจึงหมายถึงซอฟต์แวร์ที่ช่วยในการเก็บ การเรียก ค้นมาใช้งาน การทำงาน การสรุปผลจากข้อมูล ซอฟต์แวร์จัดการฐานข้อมูลที่นิยมใช้ เช่น Dbase , Paradox , Foxbase และ Micrisoft Access เป็นต้น

39 Microsoft Access

40 2.ซอฟต์แวร์ประมวลคำ (Word Processing Software)
ซอฟต์แวร์ประยุกต์ใช้สำหรับการพิมพ์เอกสาร สามารถแก้ไข เพิ่ม แทรก ลบ และจัดรูปแบบเอกสารได้อย่างดี เอกสารที่พิมพ์ไว้จัดเป็นแฟ้มข้อมูล ซอฟต์แวร์ประมวลที่นิยมในปัจจุบัน เช่น Microsoft Word , PageMaker,CorelDraw, Office Pradoaw เป็นต้น

41 Microsoft Word

42 3.ซอฟต์แวร์การคำนวณ (Calculation Software)
ซอฟต์แวร์ที่ช่วยในการคิดคำนวณ ทำงานที่มีกระดาษขนาดใหญ่วางไว้ มีเครื่องมือคล้ายปากกา ยางลบ และเครื่อง คำนวณเตรียามไว้ให้เสร็จ บนกระดาษมีช่องให้ใส่ตัวเลข ข้อความหรือสูตร สามารถ สั่งให้คำนวณตามสูตรหรือเงื่อนไขที่กำหนด ซอฟต์แวร์ที่นิยมใช้ เช่น Microsoft Excel

43 การนำเสนอข้อมูลในรูปแบบกราฟ การนำเสนอข้อมูลในรูปแบบแถวและคอลัมน์
Microsoft Excel การนำเสนอข้อมูลในรูปแบบกราฟ การนำเสนอข้อมูลในรูปแบบแถวและคอลัมน์

44 4. ซอฟต์แวร์นำเสนอข้อมูล (Presentation Software)
ใช้สำหรับนำเสนอข้อมูล ด้วยตัวอักษร รูปภาพ แผนผัง ภาภเคลื่อนไหว นิยมใช้นำเสนอข้อมูลในการเรียนหรือการประชุม ซอฟต์แวร์ที่ใช้งานเฉพาะการนำเสนอข้อมูลเช่น Microsoft PowerPoint , OpenOffice Impress , Pladao Office เป็นต้น

45 5.ซอฟต์แวร์ทางด้านกราฟิกส์และมัลติมีเดีย (Graphics and Multimedia Software)
ซอฟต์แวร์ประยุกต์ที่พัฒนาขึ้นเพื่อช่วยสำหรับจัดการ ทำงานทางด้านกราฟิกและมัลติมีเดียให้เป็นไปได้ง่าย แบ่งกลุ่มย่อยลงไปได้อีกดังตาราง

46 ซอฟต์แวร์ทางด้านกราฟิกส์และมัลติมีเดีย (Graphics and Multimedia Software)
ลักษณะโปรแกรม ตัวอย่างโปรแกรม งานออกแบบ(Computer Aided Design-CAD) Autodesk AutoCAD และ Microsoft Visio Professional งานสิ่งพิมพ์ (Desktop Publishing) Adobe InDesign Adobe PageMaker Corel VENTURA Quark Xpress ตกแต่งภาพ (Paint/Image Editing) Adobe IIlustrator Adobe Photoshop CorelDRAW Macromedia FreeHand

47 ซอฟต์แวร์ทางด้านกราฟิกส์และมัลติมีเดีย (Graphics and Multimedia Software)
ลักษณะโปรแกรม ตัวอย่างโปรแกรม ตัดต่อวิดีโอและเสียง(Video and Audio Editing) Adobe Premiere Cakewalk SONAR Prinnacle Studio DV สร้างสื่อมัลติมีเดีย(Multimedia Authoring) Toolbook Istructor Macromedia Authorware Macromedia Director Shockwave Studio สร้างเว็บ (Web Page Authoring) Adobe Golive Macromedia Dreamweaver Macromedia Fireworks Macromedia Flash Microsoft FrontPage

48 Autodesk AutoCAD Microsoft Visio Professional

49 6.ซอฟต์แวร์การใช้งานบนเว็บและการติดต่อสื่อสาร (Web and Comunications)
การพัฒนาโปรแกรมเพื่อใช้งานเฉพาะอย่างในอินเทอร์เน็ตเพิ่ม มากขึ้น โปรแกรมสำหรับการตรวจเช็คอีเมล์ การท่องเว็บไซต์ การจัดการและดูแลเว็บ การส่งข้อความติดต่อสื่อสาร การประชุมทางไกลผ่านเครือข่าย

50 ซอฟต์แวร์การใช้งานบนเว็บและการติดต่อสื่อสาร (Web and Comunications)
ลักษณะโปรแกรม ตัวอย่างโปรแกรม จัดการอีเมล์ (Electronic Mail) Microsoft Outlook,Outlook Express Mozzili Thundebird ท่องเว็บ (Web Browser) Microsoft Internet Explorer Mozzila Firefox,Opera ประชุมทางไกล(VideoConference) Microsoft Netmeeting ถ่ายโอนไฟล์ (File Transfer) Cute_FTP, WS_FTP ส่งข้อความ (Instant Messaging) MSN Messenger/Windows Messenger,ICQ สนทนาบนอินเทอร์เน็ต PIRCH MIRC

51

52 แบบฝึกหัด ให้นักศึกษาระบุชื่อซอฟต์แวร์ระบบ และซอฟต์แวร์ ยูทิลิตี้ สำหรับเครื่องพีซีของนักศึกษาว่าควรใช้ซอฟต์แวร์ อะไรบ้าง และทำไมถึงเลือกใช้ซอฟต์แวร์นั้น

53 การจัดหาซอฟต์แวร์มาใช้งาน
1. แบบสำเร็จรูป (Packaged หรือ Ready-made Software) 2. แบบว่าจ้างทำ (Customized หรือ Tailor-made Software) 3. แบบทดลองใช้ (Shareware) 4. แบบใช้งานฟรี (Freeware) 5. แบบโอเพ่นซอร์ส (Public-Domain/Open Source)

54 เกณฑ์ในการเลือกซอฟต์แวร์
กำหนดงานที่เราจะนำมาใช้กับคอมพิวเตอร์ เขียนเหตุผล คร่าวๆ และก็เริ่มศึกษารายละเอียด รู้จักระบบคอมพิวเตอร์ของเราเอง ว่าซอฟต์แวร์ที่ซื้อมานั้น ต้องทำงานกับระบบคอมพิวเตอร์ของเราได้ เช่น ระบบหน่วยปฏิบัติการแบบใด หน่วยประมวลผลกลางรุ่นใด ความเร็วเท่าไหร่ การ์ดแสดงผลรุ่นใด มีหน่วยความจำเท่าไหร่ หน่วยความจำขนาดเท่าไหร่ ความจุของฮาร์ดไดร์ฟ เครื่องพิมพ์รุ่นใด ระบบมัลติมีเดีย

55 เกณฑ์ในการเลือกซอฟต์แวร์ (ต่อ)
ลองใช้ซอฟต์แวร์ อย่างน้อย 15 นาที โดยทดลองใช้ใน แง่มุมต่างๆ ใช้งานง่ายหรือไม่ ระบบความช่วยเหลือมีหรือไม่ คู่มือมีหรือไม่ อ่านง่ายหรือไม่ มีบริการให้คำปรึกษาทางเทคนิคหลังการขายหรือไม่ เลือกเปรียบเทียบ เลือกซอฟต์แวร์ที่มีราคาเหมาะสมที่สุด เปิดโอกาสให้คืนซอฟต์แวร์ที่ซื้อไปไม่น้อยกว่า 30 วัน การเลือกซื้อซอฟต์แวร์ ต้องใช้เวลาทำความคุ้นเคยราว 1 สัปดาห์ก่อนเริ่มทำงานได้ ฉะนั้นควรนำซอฟต์แวร์ มาใช้ เพื่อความคุ้นเคยเสียก่อนแล้วค่อยเลือกใช้ซอฟต์แวร์ตัว ต่อไปมาใช้งาน

56 ข้อปฏิบัติหลังการเลือกซื้อซอฟต์แวร์
ตรวจสอบราคาและค่าบริการต่าง ๆ โดยดูในรายการ ใบส่งของ และใบเสร็จรับเงิน อย่างถูกต้อง เมื่อซื้อแล้ว บริการที่ได้รับหลังจากการซื้อได้แก่ อะไรบ้าง เช่น บริการหลังการขายชนิดเต็มรูปแบบ หรือชนิดจำกัด ในระยะประกัน(Warranty Period) นั้น เมื่อเกิด ปัญหาขึ้น ผู้ซื้อได้รู้อย่างแน่นอนว่าจะต้องแจ้งปัญหา ไปที่แผนกใด หรือผู้ใด และจะสามารถได้รับความ ช่วยเหลือหรือได้รับบริการอย่าง รวดเร็วเพียงใด


ดาวน์โหลด ppt บทที่ 2 ซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์และการเลือกใช้ให้เหมาะสมกับงาน

งานนำเสนอที่คล้ายกัน


Ads by Google