เรื่อง น้ำสมุนไพร
น้ำมะนาว มะนาว นับได้ว่าเป็นสมุนไพร ที่มีสรรพคุณสามารถ ขับเสมหะ แก้อาการระคายเคืองในคอ ที่เป็นสาเหตุของ อาการไอได้ มะนาว ยังมีเป็น สมุนไพรแก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ และช่วยในการขับลม ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย นอกจากนี้ มะนาว ยังมีคุณสมบัติ ช่วยในการแก้ โรคลักปิดลักเปิด หรือ โรคเลือดออกตามไรฟัน นั่นเอง เพราะในมะนาว จะมีวิตามินซี มากเป็นพิเศษ และมีเกลือแร่ต่างๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายของเรา อยู่มากมายส่วนผสมของการทำเครื่องดื่ม “น้ำมะนาว” มะนาวแป้นผลโตๆ 1 ผล น้ำสะอาด (ต้มให้เดือด ๆ) 1/2 ถ้วย น้ำตาลทรายขาว 2-3 ช้อนโต๊ะ เกลือป่น 1/4 ช้อนชา น้ำแข็งทุบ หรือน้ำแข็งยูนิค 1 แก้ว วิธีการทำน้ำมะนาว เตรียมส่วนผสมข้างต้นให้ครบตามจำนวน (มะนาว 1 ผล จะได้ น้ำมะนาว 1 แก้ว) นำมะนาวไปล้างน้ำทำความสะอาดให้เรียบร้อย จากนั้นผ่าผลมะนาว และจัดการเอา เมล็ดมะนาวออกให้หมด บีบน้ำมะนาวใส่ในถ้วยให้หมด แล้วใส่น้ำตาลทรายลงไป เทน้ำเดือดใส่ลงไป แล้วคนให้น้ำตาลขาวละลาย จากนั้น เติมเกลือป่นลงไป คนให้ น้ำตาลและเกลือละลายในน้ำให้หมด เอาน้ำแข็งใส่แก้ว เทน้ำมะนาว ลงในแก้วขณะที่น้ำยังร้อนอยู่ จะใช้หลอดดูด หรือยกแก้วขึ้นดื่มก็ได้ รับรองได้เลยว่าจะได้รสชาติที่อร่อยกำลังดี แถมได้วิตามินซี สูงอีกต่างหาก
น้ำตะไคร้ ส่วนผสม ตะไคร้ทั้งต้นและใบ 1 กิโลกรัม (ต้น 600 กรัม ใบ 400 กรัม) น้ำเปล่า 4 ลิตร น้ำตาลทราย 400-700 กรัม กรดมะนาว 0.5-1 กรัม วิธีทำ ล้างตะไคร้ให้สะอาด ตัดเป็นท่อนสั้นๆ นำไปต้มกับน้ำเปล่า 4 ลิตร ประมาณ 5-10 นาที แล้วกรองด้วยผ้าขาวบาง 2-3 ชั้น เพื่อกันไม่ให้มีเศษตะกอนของใบตะไคร้ ผสมน้ำตาลทราย คนจนน้ำตาลละลายหมด ถ้าชอบรสชาติเปรี้ยวเล็กน้อย ให้เติมกรดมะนาว เพื่อความชุ่มคอชื่นใจ แล้วกรองอีกครั้ง ตั้งให้เดือด 1-2 นาที ยกลงกรอกใส่ขวดแก้วที่ล้างสะอาด คว่ำให้แห้ง ขณะร้อนอุณหภูมิ 90 องศาเซลเซียส ถ้ากรอกลงขวดพลาสติก ต้องลดให้อุณหภูมิ 68 องศาเซลเซียส กรอกให้เต็มขวด ปิดฝาให้สนิท แล้วแช่น้ำเย็นทันที เมื่อขวดเย็น ให้รีบนำเข้าตู้เย็น สามารถเก็บไว้ได้ถึง 14 วัน
น้ำกระเจี๊ยบ ส่วนผสม - ดอกกระเจี๊ยบสด/แห้ง 20 กรัม ( 5 ดอก ) - น้ำเชื่อม 30 กรัม ( 2 ช้อนคาว ) - น้ำเปล่า 200 กรัม ( 14 ช้อนคาว ) - เกลือป่นเสริมไอโอดีน 2 กรัม ( 2/5 ช้อนคาว ) วิธีทำ 1.เอาดอกกระเจี๊ยบสดหรือแห้งก็ได้ ล้างน้ำทำความสะอาด นำใส่หม้อต้ม จนเดือด แล้วลดไฟลงอ่อนๆเคี่ยวเรื่อยๆจนน้ำเป็นสีแดงจนเข้มข้น 2.เอาดอกกระเจี๊ยบขึ้นจากหม้อต้ม แล้วเอาน้ำเชื่อมและเกลือใส่ลงไป ปล่อยให้น้ำกระเจี๊ยบเดือด 1 นาที ยกลงชิมรสตามชอบ 3.เอาขวดเปล่ามาล้างทำความสะอาด ต้มในน้ำเดือด 20 นาที นำน้ำกระเจี๊ยบแดงมากรอกแล้วปิดจุกให้แน่น แช่ตู้เย็นเก็บไว้ได้นาน …หรืออีกวิธีหนึ่ง…นำดอกกระเจี๊ยบมาตากแห้ง แล้วนำมาบดเป็นผง นำผงกระเจี๊ยบครั้งละ 1 ช้อนชา ชงในน้ำเดือด 1 ถ้วย(250 มิลลิกรัม) ประโยชน์ที่ร่างกายได้รับ คุณค่าทางอาหาร : ให้วิตามินเอสูงมาก ช่วยบำรุงสายตา รองลงมามี แคลเซียม ช่วยบำรุงกระดูกและฟัน คุณค่าทางยา : ช่วยขับปัสสาวะ ลดความดันโลหิต เป็นยาระบายอ่อนๆ และช่วยแก้อาการกระหายน้ำ
น้ำมะตูม ส่วนผสม - มะตูมแห้ง 8 กรัม( 2ชิ้น ) - น้ำตาลทราย 15 กรัม( 1 ช้อนคาว ) - น้ำเปล่า 240 กรัม( 16 ช้อนคาง ) วิธีทำ นำมะตูมแห้งมาล้างให้สะอาด ปิ้งไฟให้หอม นำไปใส่หม้อเติมน้ำ ตั้งไฟเคี่ยวสักครู่ ยกลงกรองเอาแต่น้ำ เติมน้ำตาลทรายตั้งไฟให้ละลายชิมรสตามชอบ ยกลง ประโยชน์ที่ร่างกายจะได้รับ คุณค่าทางยา : เป็นยาระบาย ขับลม ท้องเฟ้อ ช่วยย่อยอาหาร บำรุงธาตุ ทำให้ขับถ่ายดีและเจริญอาหาร ขับเสมหะแก้อาการร้อนในใด้ดี
น้ำใบบัวบก ส่วนผสม 1.ใบบัวบก 2.น้ำตาลทราย 3.เกลือป่น 4.น้ำต้มสุก 1.ใบบัวบก 2.น้ำตาลทราย 3.เกลือป่น 4.น้ำต้มสุก วิธีการทำน้ำใบบัวบก 1.ตัดก้านใบบัวบกห่างจากโคนก้าน 2 นิ้ว ล้างให้สะอาดหลายๆ น้ำ แช่น้ำทิ้งไว้สักครู่ 2.หันใบบัวบกหยาบๆ ใส่ลงในเครื่องปั่น เติมน้ำสุกลงครั้งละ 2 ถ้วยตวง ต่อใบบัวบก 150 กรัม ปั่นละเอียด เทลงในกระชอน ที่ปูผ้าขาวบางช้อนกัน 2 ชั้น ทำจนหมด ใส่เกลือป่น 2 ช้อนชา ลงในน้ำที่กรองไว้ แช่เย็นเก็บไว้ 3.ทำน้ำเชื่อมโดยการใช้น้ำ 1 ถ้วยตวง และน้ำตาล 2 ถ้วยตวง ตั้งไฟทำน้ำเชื่อมเข้มข้น เสิร์ฟโดยการใส่น้ำเชื่อมเข้มข้น 2 ช้อนโต๊ะลงในน้ำใบบัวบก 1 แก้วประโยชน์ของน้ำใบบัวบก **มีวิตามินเอสูงมาก ช่วยบำรุงสายตาและมีสารแคลเซี่ยมมากเช่นกัน นอกจากนั้นยังมีวิตามินบี 1 สูงกว่าผักหลายๆชนิด