ทำดีไม่ขึ้น ทำให้มากขึ้น ข้อคิดวันนี้ ทำดีไม่ขึ้น ทำให้มากขึ้น ห้องสมุดบัญชี
การทำดีไม่ขึ้น ยิ่งทำกลับเป็นโทษ มีคนไม่น้อยที่บ่นว่า ทำงานหนัก ทุ่มเททุกอย่าง ทำจนดึกดื่น แต่กลับไม่ก้าวหน้า เงินก็ขึ้นน้อย
ส่วนคนที่ไม่ค่อยทำ มีแต่เลียแข้งเลียขาไปวัน ๆ กลับก้าวหน้ากว่าแล้วบอกว่าเมื่อทำดีไม่ขึ้น เห็นที่ต้องเลียนแบบคนอื่น ๆ บ้าง ทำน้อยลง ทำพอผ่านๆ ไปที ทำให้น้อยที่สุด หรือถ้าเลี่ยงได้ก็ไม่ทำเลย ได้เงินน้อยทำไมต้องทำงานให้มาก เปลืองทั้งสมอง เปลืองทั้งพลังงาน นั่งเฉย ๆ ดีกว่า ฟังดูก็สมเหตุสมผลดี
อันที่จริงการทำดีนั้น ต้องทำดีด้วยใจ ไม่ใช่เพราะคนบอก หรือบังคับให้เราทำ ยิ่งทำดีไม่ขึ้นยิ่งต้องทำให้มากขึ้นด้วยซ้ำ ถึงจะได้ผล ไม่ใช่เลิกทำหรือ ประชดด้วยการทำไม่ดีเสียเลย
การประสบความสำเร็จของคนอื่น ๆ มาจากโชคดี โชคช่วย หรือปาฎิหารย์ หลายท่านอาจจะคิดว่า การประสบความสำเร็จของคนอื่น ๆ มาจากโชคดี โชคช่วย หรือปาฎิหารย์ โดยแท้จริงแล้ว ภายใต้คำว่าโชคดีนั้นคือ การทำงานหนักอย่างมีเป้าหมาย การตัดสินใจที่ถูกต้อง และประสบการณ์มากมายในอดีต ทั้งหมดนี้แหละคือ โชค ซึ่งพอจะสรุปเป็นข้อปฏิบัติได้สาม สี่ประการ
ประการแรก จงทำใจให้ชอบและรักงานของคุณ แม้ว่างานดังกล่าวจะดูเล็กน้อยเพียงใดก็ตาม เพราะถ้าหากคุณชอบงาน คุณจะมีความสุขในการทำงาน แล้วเวลาแห่งการทำงานก็จะผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ประการที่สอง ไม่ว่างานอะไรก็ตามที่คุณทำอยู่ จงทุ่มเททั้งพลังกาย และพลังสมองให้กับงานนั้น คุณจะต้องรู้หรือรอบรู้ในงานนั้นให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ประเภทที่ใคร ๆ ต้องเรียกหาได้ยิ่งดี
ประการที่สาม จงทำงานให้มากกว่าเงินเดือนที่ได้รับ แม้ว่าจะดูเหมือนทำดีไม่ขึ้น ก็จงทำให้มากยิ่งขึ้น เพราะทุกอย่างที่คุณทำจะตอบแทนคุณในที่สุด ข้อนี้เป็นกฎแห่งการตอนแทน ยิ่งบริษัท หรือหัวหน้าเอาเปรียบคุณมากเท่าไร จงทำงานให้หนักยิ่งขึ้น เพราะว่าเขาจะเป็นหนี้คุณมากยิ่งขึ้น ผลตอบแทนที่ได้ก็คือ ความชำนิชำนาญ และประสบการณ์ต่าง ๆ ในงานของตนเอง ซึ่งจะติดตัวไปในอนาคต จำไว้ว่า ถ้าคุณทำเพื่อเงินเดือนอย่างเดียว คุณก็ได้เงินน้อยกว่าความเป็นจริงเสมอ
ประการสุดท้าย จงใช้เวลาว่างของคุณให้เป็นประโยชน์มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ยิ่งเป็นการเรียนรู้อะไรที่ใหม่ ๆ ละก็ไม่ควรปล่อยให้โอกาสผ่านไปเด็ดขาด จงจำให้ขึ้นใจว่า เราเรียนรู้ทุกสิ่งจากการลงมือทำมัน ไม่มีวิธีอื่น ไม่มีทางลัด อย่าเลือกการนั่งเฉย ๆ แทนการหาความรู้เพิ่มเติมเด็ดขาด อะไรที่ท่านรู้ก็คือ ของแถมหรือกำไรที่เพิ่มจากหน้าที่ปัจจุบันของคุณ ลองคิดดูว่าจะมีเวลาอย่างนี้ ให้คุณบ่อยมากแค่ไหน โอกาสเหล่านี้ผ่านแล้วผ่านเลย ดังคำกล่าวที่น่าคิดว่า การฆ่าเวลาก็เหมือนการฆ่าตัวตาย
จากหนังสือ “ของไม่กินรู้เน่า ของไม่เล่ารู้ลืม” ของ : อุสาห์ สุวัฒโน ชฎิล ขะม้อ ทุกย่างก้าวของชีวิตมีบทเรียน