กรุงสุโขทัย ปัจจัยที่มีผลต่อการสถาปนาอาณาจักร ปัจจัยภูมิศาสตร์ ปัจจัยทางการเมือง
อาณาจักรสุโขทัย พ.ศ. 1792 - 1981 เมื่ออาณาจักรขอมเจริญรุ่งเรืองสูงสุดในพุทธศตวรรษที่ 17 นั้น อิทธิพลของขอมแผ่ขยายครอบคลุมดินแดน สุวรรณภูมิ อารยธรรมหรือวัฒนธรรมของขอมจึงแทรก ซึมไปในหมู่ประชากรของบริเวณนี้อย่างทั่วถึงและผสมต ลุกเคล้าเป็นวัฒนธรรมสืบต่อมาจนถึงปัจจุบัน ครั้น อาณาจักรขอมเสื่อมลงในตอนปลายพุทธศตวรรษที่ 18 กลุ่มคนไทยหรืออาณาจักรต่างๆ ของคนไทยที่เคยตกอยู่ ภายใต้อิทธิพลของขอมจึงต่างพยายามตั้งตนเป็นอิสระ
ปัจจัยที่เอื้อต่อการสถาปนาอาณาจักรสุโขทัยเป็นราช ธานี มีดังนี้ 1. ปัจจัยภายใน ได้แก่ การมีขวัญและกำลังใจดีของ ประชาชนเนื่องจากมีผู้นำที่เข้มแข็งและมีความ สามารถ การมีนิสัยรักอิสระ ไม่ชอบให้ผู้ใดมากดขี่ข่ม เหง บังคับและบ้านเมืองมีความอุดมสมบูรณ์ 2. ปัจจัยภายนอก ได้แก่ การเสื่อมอำนาจของ ขอม หลังจากที่พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 สิ้นพระชนม์ ลง กษัตริย์องค์ต่อมาไม่สามารถรักษาอำนาจของตนใน ดินแดนที่ยึดครองมาได้ ทำให้หัวเมืองต่าง ๆ พากันตั้งตน เป็นอิสระ
ดังปรากฏในศิลาจารึกหลักที่ 1 ดังนี้ ทิศเหนือ ครอบคลุมเมืองแพร่ น่าน พลัว จนถึงเมืองหลวง พระบาง ทิศใต้ ครอบคลุมเมืองคณฑี (กำแพงเพชร) พระ บาง (นครสวรรค์) แพรก (ชัยนาท) สุพรรณบุรี ราชบุรี เพชรบุรี นครศรีธรรมราช จนถึงแหลมมลายู ทิศตะวันออก ครอบคลุมเมืองสระหลวงสองแคว (พิษณุโลก) ลุมบาจาย (หล่มเก่า) สระคา และข้ามฝั่งแม่น้ำ โขงไปถึงเมืองเวียงจันทน์และเวียงคำ
ทิศตะวันตก ครอบคลุมเมืองฉอด หงสาวดี จนถึง ชายฝั่งทะเลด้านอ่าวเบงกอล
กรุงสุโขทัย มีกษัตริย์ปกครอง 9 พระองค์ ดังนี้ 1. พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ 2. พ่อขุนบานเมือง 3. พ่อขุนรามคำแหงมหาราช 4. พญาเลอไทย 5. พญางั่วนำถม 6. สมเด็จพระมหาธรรมราชาที่ 1 (ลิไทย) 7. สมเด็จพระมหาธรรมราชาที่ 2 8. สมเด็จพระมหาธรรมราชาที่ 3 (ไสลือไทย) 9. สมเด็จพระมหาธรรมราชาที่ 4 (บรมปาล)
ปัจจัยที่มีผลต่อการสถาปนากรุงสุโขทัย ได้แก่ 1 ปัจจัยที่มีผลต่อการสถาปนากรุงสุโขทัย ได้แก่ 1. ปัจจัยทางภูมิศาสตร์ การเลือกที่ตั้งเมืองหลวงในอดีต ส่วนใหญ่มักใกล้แม่น้ำ แต่เมืองสุโขทัยไม่ได้ตั้งอยู่ริมน้ำ เพราะแม่น้ำยมอยู่ห่างจากตัวเมืองสุโขทัยไปประมาณ 13 กิโลเมตร การเลือกตั้งเมืองหลวงที่สุโขทัยคงเป็นเพราะ สุโขทัยเป็นเมืองสำคัญมาแต่เดิม 2. ปัจจัยทางการเมืองและประวัติศาสตร์ ก่อนการสถาปนา อาณาจักรสุโขทัยนั้น ในเขตสุโขทัยและศรีสัชนาลัยมี ชุมชนที่มีผู้นำไทยอยู่ก่อนแล้ว เช่น พ่อขุนศรีนาว นำถุม เจ้าเมืองเชลียง พ่อขุนผาเมือง เจ้าเมืองราด โอรส ของพ่อขุนศรีนาวนำถุม และพ่อขุนบางกลางหาว
การเมืองการปกครองสมัยสุโขทัย การปกครองสมัยสุโขทัยเป็นการปกครองระบอบ ราชาธิปไตย ที่พระมหากษัตริย์ทรงมีอำนาจเด็ดขาด ใน ตอนต้นของการตั้งอาณาจักรสุโขทัยเป็นการปกครอง แบบบิดาปกครองบุตร แต่ตอนปลายสมัยเป็นการ ปกครองแบบธรรมราชา และมีการสร้างความสัมพันธ์ กับอาณาจักรอื่น เพื่อพัฒนา อาณาจักรให้เป็นปึกแผ่นเจริญ รุ่งเรือง
อาณาจักรสุโขทัยเมื่อแรกตั้งยังมีอาณาเขตไม่กว้างขวาง จำนวนพลเมืองยังไม่มาก และอยู่ในระหว่างก่อร่างสร้าง ตัว การปกครองในระยะเริ่มแรกจึงมีลักษณะเป็นระบบ ครอบครัว ผู้นำของอาณาจักรมีฐานะเป็นพ่อขุน มี ความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับประชาชน ผู้ปกครอง เปรียบเสมือนบิดาของประชาชนทั้งปวง ต่อมาภายหลัง รัชสมัยพ่อขุนรามคำแหงมหาราชสถานการณ์บ้านเมือง เปลี่ยนแปลงไป จึงเริ่มใช้วิธีการปกครองที่เป็นแบบแผน มากขึ้น ความสัมพันธ์ของผู้นำอาณาจักรกับประชาชน แตกกต่างไปจากเดิม มีความพยายามเพิ่มพูนพระราช อำนาจพระมหากษัตริย์ให้สูงขึ้น
ลักษณะการปกครอง ลักษณะการาปกครองสมัยสุโขทัยแบ่งได้ 2 ระยะ คือ การปกครองสมัยสุโขทัยตอนต้น เริ่มจากรัชสมัยพ่อ ขุนศรึอินทราทิตย์ไปถึงสิ้นรัชสมัยพ่อขุนรามคำแหง มหาราช กับการปกครองสมัยสุโขทัยตอนปลาย นับจากรัชสมัยพระยาเลอไทไป จนกระทั่งอาณาจักรสุโขทัยหมด อำนาจลง
การปกครองสมัยสุโขทัยตอนต้น พ. ศ การปกครองสมัยสุโขทัยตอนต้น พ.ศ. 1792 – 1841 เมื่อขอมมีอำนาจปกครองสุโขทัยอยู่นั้น การปกครอง มีลักษณะคล้ายนายปกครองบ่าว ซึ่งขัดกับลักษณะนิสัย ของคนไทยที่รักความเป็นอิสรเสรี เมื่อขับไล่ขอมไปได้ พ่อขุนศรีอินทราทิตย์จึงจัดระบลบการปกครองเสียใหม่ เป็นการปกครองเสมือนหนึ่งประชาชนทุกคนเป็นคนใน ครอบครัวเดียวกัน โดยมีพระมหากษัตริย์เป็นหัวหน้า ครอบครัว คือ พระมหากษัตริย์ปกครองประชาชนใน ลักษณะบิดาปกครองบุตรหรือที่มีผู้เรียกว่า เป็นการ ปกครองในระบบ ปิตุราชาธิปไตย ซึ่งมีลักษณะสำคัญ ดังนี้
1. รูปแบบการปกครองเป็นการปกครองแบบราชาธิปไตย คือ พระมหากษัตริย์ทรงมีฐานะเป็นผู้ปกครองสูงสุด ทรงเป็นผู้ใช้อำนาจอธิปไตย 2. พระมหากษัตริย์ทรงมีความสัมพันธ์กับราษฎรเสมือน บิดากับบุตร มิได้มีฐานะแตกต่างจากราษฎรมากนัก กล่าวคือ พระมหากษัตริย์เปรียบได้กับหัวหน้าครอบครัว
3. ลักษณะการปกครองระบบครอบครัวลดหลั่นกันเป็น ชั้นๆ นอกจากพระมหากษัตริย์ทรงเป็นเสมือนบิดาของ ราษฎรแล้ว ยังมีการจัดระบบการปกครอง ให้ครัวเรือน หลายครัวเรือนหลายครัวเรือนรวมกันเป็นบ้าน 4. พระมหากษัตริย์ทรงยึดหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา ในการบริหารบ้านเมือง และทรงชักชวนให้ประชาชน ปฏิบัติธรรมเพื่อที่จะสามารถอยู่ร่วมกันอย่างผาสุก ดังจะ เห็นได้จากข้อความในศิลาจารึกของพ่อขุนรามคำแหง
การปกครองสมัยสุโขทัยตอนปลาย พ.ศ. 1841 – 1981 หลังจากพ่อขุนรามคำแหงมหาราชเสด็จสวรรคต ใน พ.ศ. 1841 แล้ว อาณาจักรสุโขทัยเริ่มระส่ำระสาย พระมหากษัตริย์องค์ต่อมาคือ พระยาเลอไท และพระเจ้า งั่วนำถม ไม่อาจรักษาความมั่นคงของ อาณาจักรไว้ได้ เมืองหลายเมืองแยกตัวเป็นอิสระ ไม่ขึ้นต่อกรุงสุดขทัย สภาพการเมือง ภายในเกิดปํญหาการสืบราชสมบัติ รูปแบบการปกครองแบบบิดากับ บุตรหรือแบบปิตุราชาธิปไตย
เริ่มเสื่อมคลายลงเนื่องจากสถาบันพระมหากษัตริย์ไม่ มั่นคงเพียงพอ ความระส่ำระสายในอาณาจักรสุโขทัย มี ขึ้นตลอดระยะเวลาประมาณ 50 ปี หลังจากพ่อขุน รามคำแหงมหาราชสวรรคตถึงขนาดทำให้การขึ้น ครองราชย์ของพระเจ้าลิไทยย ต้องใช้กำลังปราบปราม
การปกครองราชธานีและหัวเมืองต่างๆ เมืองต่างๆ ในอาณาจักรสุโขทัย แบ่งออกเป็น 4 ชั้น แต่ละชั้นพระมหากษัตริย์ทรงใช้อำนาจปกครองดังนี้ 1. เมืองหลวง หรือราชธานี อาณาจักรสุโขทัยมีกรุง สุโขทัยเป็นราชธานี เมืองหลวงหรือราชธานีเป็นที่ ประทับของพระมหากษัตริย์ พระราชวังและวัดจำนวน มากตั้งอยู่ในและนอกกำแพงเมือง ราชธานีเป็นศูนย์กลาง ทางการปกครอง การศาสนา วัฒนธรรม ศิลปะและ ขนบประเพณีทั้งปวง พระมหากษัตริย์ทรงเป็นผู้ปกครอง
2. เมืองลูกหลวง เมืองลูกหลวงเป็นเมืองหน้าด่าน เรียก อีกอย่างหนึ่งว่า หัวเมืองชั้นใน ตั้งอยู่รอบราชธานีทั้ง 4 ทิศ ห่างจากเมืองหลวงมีระยะทางเดินเท้าประมาณ 2 วัน เมืองลูกหลวง 3. เมืองพระยามหานคร เมืองพระยามหานครเป็นหัว เมืองชั้นนอก ห่างจากราชธานีออกไป มากกว่าเมือง ลูกหลวง พระมหากษัตริย์ จะทรงแต่งตั้งผู้เหมาะสม และมีความสามารถไป ปกครองดูแลเมืองเหล่านี้
ขึ้นตรงต่อพระมหากษัตริย์ มีวิธีการปกครองลักษณะ เดียวกับเมืองชั้นใน เมืองพระยามหานครในสมัยพ่อขุน รามคำแหงมีหลายเมือง 4. เมืองประเทศราช เมืองประเทศราช ได้แก่ เมืองทีอยู่ นอกอาณาจักร ชาวเมืองเป็นคนต่างชาติ พระมหากษัตริย์ สุโขทัยทรงดำเนินนโยบายปกครอง ให้ชาวพื้นเมืองเป็น กษัตริย์หรือเป็นเจ้าเมืองปกครองกันแอง โดยไม่เข้าไปยุ่ง เกียวกับการปกครองภายใน ยกเว้นกรณีที่จำเป็นเท่านั้นยาม ปกติเมืองประเทศราชต้องส่ง
เครื่องราชบรรณาการ (ส่วย) มาถวายต่อพระมหากษัตริย์ สุโขทัยทุกปียามสงครามจะต้องส่งกองทัพและเสบียง อาหารไปช่วยยามสงครามจะต้องส่งกองทัพและเสบียง อาหารไปช่วย สมัยพ่อขุนรามคำแหง มีเมืองประทเศราช หลายเมือง หากวิเคราะห์วิธีแบ่งเขตการปกครองในสมัยพ่อขุน รามคำแหง โดยจัดให้มีเมืองลูกหลวงวงล้อมกรุง สุโขทัยวอันเป็นเมืองราชธานี จะมีลักษณะเป็นเสมือน กำแพงชั้นที่ 1 ส่วนเมืองพระยามหานครเป็นเสมือน กำแพงชั้นที่ 2 และเมืองประเทศราชเป็นเสมือนกำแพง ชั้นที่ 3
คำถาม 1.กรุงสุโขทัยมีกษัตริย์ทั้งหมดกี่พระองค์ ตอบ 9 พระองค์ 2.การปกครองสมัยสุโขทัยเป็นการปกครองในลักษณะใด ตอบ ราชาธิปไตย 3.ปัจจัยที่มีผลต่อการสถาปนาอาณาจักรสุโขทัยคืออะไร ตอบ 1)ปัจจัยทางภูมิศาสตร์ 2)ปัจจัยการเมืองและ ประวัติศาสตร์
จัดทำโดย นายณัฐภัทร นำศรีนิรันดร์ ม จัดทำโดย นายณัฐภัทร นำศรีนิรันดร์ ม.4/3 เลขที่ 12 นายปรัชญา กิจสุวรรณวงศ์ ม.4/3 เลขที่ 20