การบริหารจัดการ เชิงสถานการณ์ (Situaional Management)
Situational Management Theory (SMT) ๏ ถูกเสนอแนวคิดโดย Fred E.Fiedler ในปี 1967 ๏ เป็นการบริหารจัดการที่จะมุ่งเน้นการปรับปรุงพฤติกรรม ทางการบริหารให้เข้ากับสถานการณ์ขององค์กร ๏ ความสำเร็จขององค์กรจะถูกกำหนดโดยสถานการณ์ ๏ เป็นการผสมผสานแนวความคิดที่ทุกส่วนของระบบมี ความสัมพันธ์และผลกระทบซึ่งกันและกัน ๏ ไม่มีวิธีการตายตัว และใช้ประสบการณ์ประกอบ เพื่อให้ได้การตัดสินใจและรูปแบบบริหารที่ดีที่สุด Fred E.Fiedler
หัวใจของ SMT SMT นั้น จะตั้งอยู่บนพื้นฐานสำคัญ 3 ประการ คือ 1. วุฒิภาวะผู้นำ 2. วุฒิภาวะผู้ตาม 3. ลักษณะงาน
1. วุฒิภาวะผู้นำ (Leadership Skills) ๏ ผู้บริหารจะต้องพยายามวิเคราะห์สถานการณ์ให้ดีที่สุด ๏ ใช้สถานการณ์เป็นตัวตัดสินใจ ไม่กลัวการเปลี่ยนแปลง ๏ คำนึงถึงสภาพแวดล้อมและความพร้อมของบุคคลในหน่วยงาน มากกว่าที่จะแสวงหาวิธีการอันดีเลิศมาใช้ในการทำงาน ๏ มีจิตวิทยา รู้จักใช้การพิจารณาความแตกต่าง ที่มีอยู่ในหน่วยงาน เช่น บุคคล วิธีการ เป้าหมาย 1. วุฒิภาวะผู้นำ
2. วุฒิภาวะผู้ตาม (Followership Skills) ๏ มีความสามารถในการบริหารจัดการตนเองได้ดี ๏ มีความผูกพันธ์ต่อองค์กรตามเป้าหมายที่เปลี่ยนแปลง ๏ มีอดทน ซื่อสัตย์ และกล้าหาญที่จะเปลี่ยนบทบาทตัวเองได้ ๏ ทำงานเต็มศักยภาพ และสุดความสามารถ 2. วุฒิภาวะผู้ตาม
3. ลักษณะงาน (Job Category) ๏ มีวิธีการมากกว่า 1 วิธี ที่จะทำให้ถึงเป้าหมายได้ ๏ มีความแตกต่างในองค์กรสูง เช่น ความแตกต่างระหว่างบุคคล ความแตกต่างระหว่างกฏเกณฑ์ วิธีการ และการควบคุมงาน ๏ มีสถานการณ์ที่เป็นภัยคุกคามต่อความสำเร็จขององค์กร ไม่สามารถรอการเปลี่ยนแปลงตามเป้าหมายได้ 3. ลักษณะงาน
ภาวะผู้นำตามสถานการณ์ (situation leadership theory) low Low Ability High Ability บทบาทผู้นำ มีอยู่ 4 แบบ คือ High High ๏ S1 : แบบมีส่วนร่วม (Supporting) Coaching Delegating เน้นการติดต่อสื่อสารสองทางและความร่วมมือ ใช้ในสถานการณ์ที่สมาชิกทีมมีความสามารถที่จะรับผิดชอบงาน แต่ไม่มีความเต็มใจหรือมีความเสี่ยงเกินไปที่จะให้ทำงานนั้น Directing Supporting Low Ability High Ability Ability
ภาวะผู้นำตามสถานการณ์ (situation leadership theory) low Low Ability High Ability บทบาทผู้นำ มีอยู่ 4 แบบ คือ High High ๏ S2 : แบบมอบอำนาจ (Delegating) Coaching Delegating ให้ความเป็นอิสระในการทำงานมาก ใช้กับสถานการณ์ที่สมาชิกทีม มีความสามารถ และมีความเต็มใจหรือความมั่นใจที่จะทำงานนั้น Directing Supporting Low Ability High Ability Ability
ภาวะผู้นำตามสถานการณ์ (situation leadership theory) low Low Ability High Ability บทบาทผู้นำ มีอยู่ 4 แบบ คือ High High ๏ S3 : แบบแนะแนว (Coaching) Coaching Delegating อธิบายถึงสิ่งที่จะทำและให้โอกาสในการทำความเข้าใจในงานที่จะทำนั้น ใช้ในสถานการณ์ที่สมาชิกทีมไม่มีความสามารถแต่มีความเต็มใจหรือมีความมั่นใจที่จะทำงานนั้น Directing Supporting Low Ability High Ability Ability
ภาวะผู้นำตามสถานการณ์ (situation leadership theory) low Low Ability High Ability บทบาทผู้นำ มีอยู่ 4 แบบ คือ High High ๏ S4 : แบบกำกับ (Directing) Coaching Delegating ต้องกำหนดสิ่งที่จะทำและวิธีการดำเนินงานให้ กำกับและควบคุมอย่างใกล้ชิด ใช้ในสถานการณ์ที่สมาชิก มีความพร้อมต่ำ ไม่มีความสามารถและไม่เต็มใจ หรือจะมีความเสี่ยงเกินไปถ้าให้รับผิดชอบงานนั้น Directing Supporting Low Ability High Ability Ability
ข้อดี – ข้อเสียของ SMT ข้อดีของทฤษฎีการบริหารเชิงสถานการณ์ ๏ ให้แง่คิดที่เป็นรูปธรรมว่า “ไม่มีวิธีการแบบใดที่ดีที่สุด” ๏ ให้แนวคิดเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลง ผู้บริหารจะต้องตื่นตัวต่อสภาพความ เปลี่ยนแปลงของสังคมอยู่เสมอ ๏ ให้การสะท้อนภาพที่แท้จริงต่อผู้บริหารว่า งานของการบริหารนั้นซับซ้อน ผู้บริหารจะต้องมีความรอบรู้มีข้อมูลอยู่เสมอ
ข้อดี – ข้อเสียของ SMT ข้อเสียของทฤษฎีการบริหารเชิงสถานการณ์ ๏ ความไว้วางใจที่มีต่อผู้บริหารแนวนี้ อาจจะมีมากเกินไป ๏ มีความเหนื่อยและลำบากในการปรับตัวมากกว่าทฤษฎีอื่น เพราะผู้บริหาร จะต้องมีความตื่นตัวและการตัดสินใจต่อสถานการณ์ต่างๆ อยู่เสมอ
ตัวอย่างของธุรกิจที่ใช้หลัก SMT
ตัวอย่างของธุรกิจที่ใช้หลัก SMT ๏ ในปี 2007 สตีฟ จ็อบส์ CEO ของ Apple ได้เปิดตัวโทรศัพท์มือถือ Iphone เครื่องแรกของโลก
ตัวอย่างของธุรกิจที่ใช้หลัก SMT
ตัวอย่างของธุรกิจที่ใช้หลัก SMT ๏ ในปี 2008 บริษัท Google ได้เปิดตัวโทรศัพท์ Android เครื่องแรกของโลก ในชื่อว่า HTC Dream (T-Mobile G1)