Good morning welcome to Calvary Chapel at the Bridge สวัสดีตอนเช้าขอต้อนรับสู่ โบสถ์แคล'วะรีแชพ'เพิลที่สะพาน.

Slides:



Advertisements
งานนำเสนอที่คล้ายกัน
Good morning welcome to Calvary Chapel at the Bridge สวัสดีตอนเช้าขอต้อนรับสู่ โบสถ์แคล'วะรีแชพ'เพิลที่สะพาน.
Advertisements

Luke 15 The Lost Sheep and the Lost Coin Luke 15 The Lost Sheep and the Lost Coin ลูกา​ 15 สูญหายแกะและ ลูกา​ 15 สูญหายแกะตัวและสูญหายเหรียญกษาปณ์
ครูรุจิรา ทับศรีนวล.
ภาษาอังกฤษ ชั้นมัธยมศึกษาปึที่ 4 Grammar & Reading ครูรุจิรา ทับศรีนวล.
คำเทศนาหัวข้อที่ 5: ความเชื่อที่จะแตะต้องโลกนี้
คำเทศนาหัวข้อที่ 4: รักษาคนเจ็บป่วย SERMON 4: HEALING THE SICK
Sermon 2: THE WORKS OF JESUS – TOUCHING LIVES THROUGH TEACHING
ความเชื่อที่จะมีชัยชนะ
คำเทศนาหัวข้อที่ 3: ประกาศข่าวดี SERMON 3: PREACHING GOOD NEWS
คำเทศนาหัวข้อที่ 3: ประกาศข่าวดี SERMON 3: PREACHING GOOD NEWS
ดาเนียลมีชีวิตอยู่เพื่อพระเจ้า
“เอาชนะเนื้อหนัง” OVERCOMING THE FLESH. “เอาชนะเนื้อหนัง” OVERCOMING THE FLESH.
ความเชื่อที่มีการประพฤติตาม
Part 1: By the Power of the Gospel
“ชีวิตที่ไร้กังวล” A WORRY FREE LIFE. “ชีวิตที่ไร้กังวล” A WORRY FREE LIFE.
A Powerful Purpose – Part 2
1. นี่เป็นสิ่งที่พระเยซูทรงทำ พระองค์ทรงรักษาทุกคน ที่เจ็บป่วยให้หายดี
Good morning welcome to Calvary Chapel at the Bridge สวัสดีตอนเช้าขอต้อนรับสู่ โบสถ์แคล'วะรีแชพ'เพิลที่สะพาน.
Good morning welcome to Calvary Chapel at the Bridge สวัสดีตอนเช้าขอต้อนรับสู่ โบสถ์แคล'วะรีแชพ'เพิลที่สะพาน.
1. มีความเชื่อมโยงกันโดยตรงระหว่างการได้ยิน สิ่งที่มองเห็น
1. ดาวิด มอง ผ่านสายตาของพระเจ้า
เรื่องราวของวันคริสต์มาส
เตรียมลูกๆ ของท่านให้พร้อม
Good morning welcome to Calvary Chapel at the Bridge สวัสดีตอนเช้าขอต้อนรับสู่ โบสถ์แคล'วะรีแชพ'เพิลที่สะพาน.
อย่ากลัวสิ่งใดเลย Fear Nothing. อย่ากลัวสิ่งใดเลย Fear Nothing.
เดือนครอบครัวแข็งแกร่ง
ชีวิตที่ไร้กังวล A Life Without Worry. ชีวิตที่ไร้กังวล A Life Without Worry.
ตอนที่ 3: ท่านเป็นผู้ชอบธรรมได้อย่างไร?
พระเยซูและเพื่อนของพระองค์
ฤทธิ์เดชในการปกป้องของพระเจ้า
ท่านมีของประทาน You Have A Gift Part 1: God Has Given You A Gift
The Christmas Story Part 4: Jesus Reveals The Truth
“เข้าใจเรื่องความเชื่อ”
“เรียนรู้ที่จะให้อภัย”
“คิดอย่างแชมป์” THINK LIKE A CHAMPION. “คิดอย่างแชมป์” THINK LIKE A CHAMPION.
ตอนที่ 2: ความเชื่อจากพระเจ้า
Good morning welcome to Calvary Chapel at the Bridge สวัสดีตอนเช้าขอต้อนรับสู่ โบสถ์แคล'วะรีแชพ'เพิลที่สะพาน.
ตอนที่ 4: ผลประโยชน์ของความชอบธรรม
1 ยอห์น 1:5-7 5 นี่เป็นเรื่องราวซึ่งเราได้ยินจากพระองค์และประกาศแก่ท่าน คือพระเจ้าทรงเป็นความสว่าง ในพระองค์ไม่มีความมืดเลย 6 ถ้าเราอ้างว่ามีสามัคคีธรรมกับพระองค์แต่ยังดำเนินในความมืด.
ตอนที่ 1: ใจที่ตั้งมั่นคง
ตอนที่ 5: จิตสำนึกแห่งความชอบธรรม
ความเชื่อที่จะเจริญรุ่งเรือง
1. พระเยซูทรงมีฤทธิ์เดชที่จะ ช่วยให้รอด
ตอนที่ 4: เดินตามรอยเท้าพระเยซู Part 4: Follow Jesus’ Footsteps
PART 5: The Spirit of Faith
“ความเชื่อที่นำสู่ชัยชนะ”
ตอนที่ 2: ความชอบธรรม 2 ประเภท
ตอนที่ 2: เหล่าสาวกติดตามพระเยซูPart 2: Disciples Follow Jesus
ความเชื่อสำหรับพระมหาบัญชา Faith For The Great Commission
อิสยาห์ 54:14 “เจ้าจะได้รับการสถาปนาขึ้นใน
ตอนที่ 2: ค้นพบของประทานของท่าน Part 2: Finding Your Gift
เรื่องราวของวันคริสต์มาส ตอนที่ 3: ของขวัญแห่งพระคุณ
Good morning welcome to Calvary Chapel at the Bridge สวัสดีตอนเช้าขอต้อนรับสู่ โบสถ์แคล'วะรีแชพ'เพิลที่สะพาน.
Good morning welcome to Calvary Chapel at the Bridge สวัสดีตอนเช้าขอต้อนรับสู่ โบสถ์แคล'วะรีแชพ'เพิลที่สะพาน.
“เคลื่อนไปสู่ชีวิตใหม่ ตอนที่ 2” Moving Into the Newness of Life
1. กุญแจประการแรกสู่การเปลี่ยนแปลงตามแบบพระเจ้า
1. พระเยซูทรงต้องการให้เราเป็น เหมือนพระองค์
ตอนที่ 4: เคลื่อนไปกับของประทานของท่าน Part 4: Flowing In Your Gift
ชีวิตแห่งการฟื้นพระชนม์ในเรา Part 1: Jesus is Your Hope
Part 1 - Jesus Reveals the Father
คำเทศนาชุด ชีวิตคริสเตียนที่สมดุล ตอนที่ 4: ฉันเป็นคนรับใช้ของพระเจ้า
Good morning welcome to Calvary Chapel at the Bridge สวัสดีตอนเช้าขอต้อนรับสู่ โบสถ์แคล'วะรีแชพ'เพิลที่สะพาน.
Good morning welcome to Calvary Chapel at the Bridge สวัสดีตอนเช้าขอต้อนรับสู่ โบสถ์แคล'วะรีแชพ'เพิลที่สะพาน.
เรื่องราวของวันคริสต์มาส ตอนที่ 2: พระเจ้าทรงกลายมาเป็นมนุษย์
Good morning welcome to Calvary Chapel at the Bridge สวัสดีตอนเช้าขอต้อนรับสู่ โบสถ์แคล'วะรีแชพ'เพิลที่สะพาน.
Good morning welcome to Calvary Chapel at the Bridge สวัสดีตอนเช้าขอต้อนรับสู่ โบสถ์แคล'วะรีแชพ'เพิลที่สะพาน.
FREE INDEED! เสรีภาพให้เราเป็นไท
หลักข้อเชื่อของอัครธรรมทูต
Good morning welcome to Calvary Chapel at the Bridge สวัสดีตอนเช้าขอต้อนรับสู่ โบสถ์แคล'วะรีแชพ'เพิลที่สะพาน.
1. ทูตเป็นผู้ที่เป็นตัวแทนถึงสิ่งที่พระเจ้า
ใบสำเนางานนำเสนอ:

Good morning welcome to Calvary Chapel at the Bridge สวัสดีตอนเช้าขอต้อนรับสู่ โบสถ์แคล'วะรีแชพ'เพิลที่สะพาน

Luke 2, the birth of Jesus ลูกา 2, เกิดของพระเยซู

I. Birth of Jesus at Bethlehem in a Stable verses 1-7 I การเกิดของพระเยซูที่เบธเลเฮในยุ้งข้าวข้อ 1-7

1In those days a decree went out from Caesar Augustus that all the world should be registered. 1 อยู่มาคราวนั้น มีรับสั่งจากมหาจักรพรรดิซีซาร์ ออกัสตัส ให้จดทะเบียนสำมะโนครัวทั่วทั้งแผ่นดิน

2This was the first registration when Quirinius was governor of Syria

3And all went to be registered, each to his own town

4And Joseph also went up from Galilee, from the town of Nazareth, to Judea, to the city of David, which is called Bethlehem, because he was of the house and lineage of David,

4ฝ่ายโยเซฟก็ขึ้นไปจากเมืองนาซาเร็ธ แคว้นกาลิลีถึงเมืองของดาวิดชื่อเบธเลเฮมแคว้นยูเดียด้วย เพราะว่าเขาเป็นวงศ์วานและเชื้อสายของดาวิด

5to be registered with Mary, his betrothed, who was with child

6And while they were there, the time came for her to give birth

7And she gave birth to her firstborn son and wrapped him in swaddling cloths and laid him in a manger, because there was no place for them in the inn. 7นางจึงประสูติบุตรชายหัวปี เอาผ้าอ้อมพันและวางไว้ในรางหญ้า เพราะว่าไม่มีที่ว่างให้เขาในโรงแรม

Micah มีคาห์ 5:2 But you, O Bethlehem Ephrathah, who are too little to be among the clans of Judah, from you shall come forth for me one who is to be ruler in Israel, whose origin is from of old, from ancient days.

โอ เบธเลเฮม เอฟราธาห์ แต่เจ้า ผู้เป็นหน่วยเล็กในบรรดาตระกูลของยูดาห์ จากเจ้าจะมีผู้หนึ่งออกมาเพื่อเรา เป็นผู้ที่จะปกครองในอิสราเอล ดั้งเดิมของท่านมาจากสมัยเก่า จากสมัยโบราณกาล

Philippians ฟีลิปปี 2:6-7 6who, though He was in the form of God, did not count equality with God a thing to be grasped, 6ผู้ทรงสภาพของพระเจ้า แต่มิได้ทรงถือว่าการเท่าเทียมกับพระเจ้านั้นเป็นสิ่งที่จะต้องยึดถือ

7but made himself nothing, taking the form of a servant, being born in the likeness of men. 7แต่ได้กลับทรงสละ และทรงรับสภาพทาส ทรงถือกำเนิดเป็นมนุษย์

2 Corinthiansโครินธ์ 8:9 For you know the grace of our Lord Jesus Christ, that though he was rich, yet for your sake he became poor, so that you by his poverty might become rich.

เพราะท่านทั้งหลายรู้จักพระคุณของพระเยซูคริสตเจ้าของเราแล้วว่า แม้พระองค์มั่งคั่ง พระองค์ก็ยังทรงยอมเป็นคนยากจน เพราะเห็นแก่ท่านทั้งหลาย เพื่อท่านทั้งหลายจะได้เป็นคนมั่งมี เนื่องจากความยากจนของพระองค์กษัตริย์องค์นี้ลงนามในใบเรียกเก็บเงินภาษีที่โลกทั้งโลกของวัน,

II. Angels announce His birth to shepherds and the shepherds visit the stable verses 8-20 II ประกาศนางฟ้า เกิดของพระองค์ไปเลี้ยงแกะและเลี้ยงแกะไปที่ยุ้งข้าว ข้อ 8-20

8And in the same region there were shepherds out in the field, keeping watch over their flock by night. 8ในแถบนั้นมีคนเลี้ยงแกะอยู่ในทุ่งนา เฝ้าฝูงแกะของเขาในเวลากลางคืน

9And an angel of the Lord appeared to them, and the glory of the Lord shone around them, and they were filled with fear. 9มีทูตองค์หนึ่งของพระเป็นเจ้ามาปรากฏแก่เขา และพระสิริของพระเป็นเจ้าส่องล้อมรอบเขา และเขากลัวนัก

10And the angel said to them, “Fear not, for behold, I bring you good news of a great joy that will be for all the people. 10ฝ่ายทูตองค์นั้นกล่าวแก่เขาว่า “อย่ากลัวเลย เพราะเรานำข่าวดีมายังท่านทั้งหลาย คือความปรีดียิ่งซึ่งจะมาถึงคนทั้งปวง

11For unto you is born this day in the city of David a Savior, who is Christ the Lord. 11เพราะว่าในวันนี้พระผู้ช่วยให้รอดของท่านทั้งหลาย คือพระคริสตเจ้า มาบังเกิดที่เมืองดาวิด

12And this will be a sign for you: you will find a baby wrapped in swaddling cloths and lying in a manger.” 12นี่จะเป็นหมายสำคัญแก่ท่านทั้งหลาย คือท่านจะได้พบพระกุมารนั้นพันผ้าอ้อมนอนอยู่ในรางหญ้า”

13And suddenly there was with the angel a multitude of the heavenly host praising God and saying, 13ในทันใดนั้น มีชาวสวรรค์หมู่หนึ่งมาอยู่กับทูตองค์นั้นร่วมสรรเสริญพระเจ้าว่า

14“Glory to God in the highest, and on earth peace among those with whom he is pleased!” 14พระสิริจงมีแด่พระเจ้าในที่สูงสุด ส่วนบนแผ่นดินโลก สันติสุขจงมีท่ามกลางมนุษย์ทั้งปวง ซึ่งพระองค์ทรงโปรดปรานนั้น”

15When the angels went away from them into heaven, the shepherds said to one another, “Let us go over to Bethlehem and see this thing that has happened, which the Lord has made known to us.”

15เมื่อทูตสวรรค์เหล่านั้น ไปจากเขาขึ้นสู่สวรรค์แล้ว พวกเลี้ยงแกะได้พูดกันว่า “ให้เราไปยังเมืองเบธเลเฮมดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ซึ่งพระเป็นเจ้าได้ทรงแจ้งแก่เรา”

16And they went with haste and found Mary and Joseph, and the baby lying in a manger. 16เขาก็รีบไปแล้วพบนางมารีย์กับโยเซฟ และพบพระกุมารนั้นนอนอยู่ในรางหญ้า

17And when they saw it, they made known the saying that had been told them concerning this child. 17ครั้นเขาได้เห็นแล้ว จึงเล่าเรื่องซึ่งเขาได้ยินถึงพระกุมารนั้น

18And all who heard it wondered at what the shepherds told them

19But Mary treasured up all these things, pondering them in her heart

20And the shepherds returned, glorifying and praising God for all they had heard and seen, as it had been told them. 20คนเลี้ยงแกะจึงกลับไปยกย่องสรรเสริญพระเจ้า เพราะเหตุการณ์ทั้งปวงซึ่งเขาได้ยิน และได้เห็นดังได้กล่าวไว้แก่เขาแล้ว

John ยอห์น1:29 The next day he saw Jesus coming toward him, and said, “Behold, the Lamb of God, who takes away the sin of the world! วันรุ่งขึ้นยอห์นเห็นพระเยซูกำลังเสด็จมาทางท่าน ท่านจึงกล่าวว่า “จงดูพระเมษโปดกของพระเจ้า ผู้ทรงรับความผิดบาปของโลกไปเสีย

III. Adoration verses 25-40 III การเคารพข้อ 25-40

25Now there was a man in Jerusalem, whose name was Simeon, and this man was righteous and devout, waiting for the consolation of Israel, and the Holy Spirit was upon him.

25นี่แน่ะ มีชายคนหนึ่งในกรุงเยรูซาเล็มชื่อสิเมโอน เป็นคนชอบธรรมและเกรงกลัวพระเจ้า และคอยเวลาซึ่งพวกอิสราเอลจะได้รับความบรรเทาทุกข์ และพระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงสถิตกับท่าน

26And it had been revealed to him by the Holy Spirit that he would not see death before he had seen the Lord's Christ. 26พระวิญญาณบริสุทธิ์ได้ทรงสำแดงแก่ท่านว่า ท่านจะไม่ตายจนกว่าจะได้เห็นพระคริสต์ของพระเป็นเจ้า

27And he came in the Spirit into the temple, and when the parents brought in the child Jesus, to do for him according to the custom of the Law,

27สิเมโอนเข้าไปในบริเวณพระวิหาร โดยพระวิญญาณทรงนำ และเมื่อบิดามารดาได้นำพระกุมารเยซูเข้าไป เพื่อจะกระทำแก่พระกุมารตามธรรมเนียมแห่งธรรมบัญญัติ

28he took Him up in his arms and blessed God and said, 28สิเมโอนจึงอุ้มพระกุมาร และสรรเสริญพระเจ้าว่า

29“Lord, now you are letting your servant depart in peace, according to your word; 29“ข้าแต่พระเจ้า บัดนี้พระองค์ทรงให้ทาสของพระองค์ไปเป็นสุข ตามพระดำรัสของพระองค์

30for my eyes have seen your salvation 30เพราะว่าตาของข้าพระองค์ได้เห็นความรอดของพระองค์แล้ว

31that you have prepared in the presence of all peoples, 31ซึ่งพระองค์ได้ทรงจัดเตรียมไว้ต่อหน้าบรรดาชนชาติทั้งหลาย

32a light for revelation to the Gentiles, and for glory to your people Israel.” 32เป็นสว่างส่องแสงแก่คนต่างชาติ และเป็นศักดิ์ศรีของพวกอิสราเอลชนชาติของพระองค์”

33And His father and His mother marveled at what was said about Him

34And Simeon blessed them and said to Mary his mother, “Behold, this child is appointed for the fall and rising of many in Israel, and for a sign that is opposed

34แล้วสิเมโอนก็อวยพรแก่เขา แล้วกล่าวแก่นางมารีย์มารดาพระกุมารนั้นว่า “ดูก่อน ท่านทรงตั้งพระกุมารนี้ไว้ เป็นเหตุให้หลายคนในพวกอิสราเอลล้มลงหรือยกตั้งขึ้น และจะเป็นหมายสำคัญซึ่งคนปฏิเสธ

35(and a sword will pierce through your own soul also), so that thoughts from many hearts may be revealed.” 35เพื่อความคิดในใจของคนเป็นอันมากจะได้ปรากฏแจ้ง ถึงหัวใจของท่านเองก็ยังจะถูกดาบแทงทะลุด้วย”

36And there was a prophetess, Anna, the daughter of Phanuel, of the tribe of Asher. She was advanced in years, having lived with her husband seven years from when she was a virgin,

36ยังมีผู้เผยพระวจนะหญิงคนหนึ่งชื่ออันนา บุตรีฟานูเอลในเผ่าอาเชอร์ นางเป็นคนชรามากแล้ว มีสามีตั้งแต่สาวๆและอยู่ด้วยกันเจ็ดปี

37and then as a widow until she was eighty-four 37and then as a widow until she was eighty-four. She did not depart from the temple, worshiping with fasting and prayer night and day. 37แล้วก็เป็นม่ายมาจนถึงแปดสิบสี่ปี นางมิได้ไปจากบริเวณพระวิหารเลย อยู่นมัสการถืออดอาหารและอธิษฐานทั้งกลางวันกลางคืน

38And coming up at that very hour she began to give thanks to God and to speak of him to all who were waiting for the redemption of Jerusalem. 38ในขณะนั้นผู้หญิงคนนี้ก็เข้ามาโมทนาพระเจ้า และกล่าวถึงพระกุมารให้คนทั้งปวงที่คอยการทรงไถ่กรุงเยรูซาเล็มฟัง

39And when they had performed everything according to the Law of the Lord, they returned into Galilee, to their own town of Nazareth. 39ครั้นโยเซฟกับนางมารีย์ได้กระทำการทั้งปวง ตามธรรมบัญญัติของพระเป็นเจ้าเสร็จแล้ว จึงกลับไปถึงนาซาเร็ธเมืองของตนในแคว้นกาลิลี

40And the child grew and became strong, filled with wisdom 40And the child grew and became strong, filled with wisdom. And the favor of God was upon Him. 40พระกุมารนั้นก็เจริญวัยแข็งแรงขึ้น ประกอบด้วยสติปัญญาและพระคุณของพระเจ้าอยู่กับท่าน

Luke ลูกา 1:27-35 27to a virgin betrothed to a man whose name was Joseph, of the house of David. And the virgin's name was Mary. 27มาถึงหญิงพรหมจารีคนหนึ่ง ที่ได้หมั้นกันไว้กับชายคนหนึ่งที่ชื่อโยเซฟ เป็นคนในเชื้อวงศ์ดาวิด หญิงพรหมจารีนั้นชื่อมารีย์

28And he came to her and said, “Greetings, O favored one, the Lord is with you!” 28ทูตสวรรค์เข้าบ้านมาถึงหญิงพรหมจารีนั้น แล้วว่า “เธอผู้ซึ่งพระเจ้าทรงโปรดปรานมาก จงจำเริญเถิด พระเป็นเจ้าทรงสถิตอยู่กับเธอ”

29But she was greatly troubled at the saying, and tried to discern what sort of greeting this might be. 29ฝ่ายมารีย์ก็ตกใจเพราะคำของทูตนั้น และรำพึงว่า คำทักทายนั้นจะหมายว่าอะไร

30And the angel said to her, “Do not be afraid, Mary, for you have found favor with God. 30แล้วทูตสวรรค์จึงกล่าวแก่เธอว่า “มารีย์เอ๋ย อย่ากลัวเลย เพราะเธอเป็นที่พระเจ้าทรงโปรดปรานแล้ว

31And behold, you will conceive in your womb and bear a son, and you shall call His name Jesus. 31ดูเถิด เธอจะตั้งครรภ์และคลอดบุตรชาย จงตั้งชื่อบุตรนั้นว่าเยซู

32He will be great and will be called the Son of the Most High 32He will be great and will be called the Son of the Most High. And the Lord God will give to Him the throne of His father David, 32“บุตรนั้นจะเป็นใหญ่ และจะทรงเรียกว่าเป็นบุตรของพระเจ้าสูงสุด พระเจ้าจะทรงประทานพระที่นั่งของดาวิดบรรพบุรุษของท่านให้แก่ท่าน

33and He will reign over the house of Jacob forever, and of His kingdom there will be no end.” 33และท่านจะครอบครองพงศ์พันธุ์ของยาโคบสืบไปเป็นนิตย์ และแผ่นดินของท่านจะไม่รู้จัก สิ้นสุดเลย”

34And Mary said to the angel, “How will this be, since I am a virgin

35And the angel answered her, “The Holy Spirit will come upon you, and the power of the Most High will overshadow you; therefore the child to be born will be called holy—the Son of God. 35ทูตสวรรค์จึงตอบนางว่า “พระวิญญาณบริสุทธิ์จะเสด็จลงมา

Matthew มัทธิว 1:20-21 20But as he considered these things, behold, an angel of the Lord appeared to him in a dream, saying, “Joseph, son of David, do not fear to take Mary as your wife, for that which is conceived in her is from the Holy Spirit.

20แต่เมื่อโยเซฟยังคิดในเรื่องนี้อยู่ ก็มีทูตองค์หนึ่งของพระเป็นเจ้า มาปรากฏแก่โยเซฟในความฝันว่า “โยเซฟบุตรดาวิด อย่ากลัวที่จะรับมารีย์มาเป็นภรรยาของเจ้าเลย เพราะว่าผู้ซึ่งปฏิสนธิ์ในครรภ์ของเธอเป็นโดยเดชพระวิญญาณบริสุทธิ์

21She will bear a son, and you shall call His name Jesus, for He will save His people from their sins.” 21เธอจะประสูติบุตรชาย แล้วเจ้าจงเรียกนามท่านว่า เยซู เพราะว่าท่านเป็นผู้ที่จะโปรดช่วยชนชาติของท่านให้รอดจากความผิดบาปของเขา”