01460443 การพัฒนาสังคม Social Development อาจารย์เติมศักดิ์ สุขวิบูลย์ อาจารย์พรเทพ พัฒธนานุรักษ์ และคณะ 4 : 27 ส.ค. 60
กรอบแนวคิดการพัฒนา : กระบวนทรรศน์ (Paradigm) (1) ทรรศนะพื้นฐานอย่างใดอย่างหนึ่ง/หลายอย่างที่จะกำหนดแบบแผน การคิดและการปฏิบัติในประชาคมหนึ่งๆ (2) ความคิดรวบยอดของมนุษย์ที่มีต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง/หลายอย่าง โดยจะกำหนดแบบแผนความคิดหรือพฤติกรรมการกระทำ (3) เมื่อทรรศนะ/ความคิดพื้นฐานเปลี่ยนแปลงจะทำให้แบบแผนการคิด และการปฏิบัติที่เกี่ยวข้องเปลี่ยนแปลงไปด้วย (Paradigm Shift)
“การวิวาทะและความขัดแย้งช่วงชิงอำนาจ” การให้ความหมาย กรอบแนวคิดการพัฒนา : การปรับเปลี่ยนกระบวนทรรศน์ (Paradigm Shift) “การวิวาทะและความขัดแย้งช่วงชิงอำนาจ” การให้ความหมาย “การพัฒนา” : - ทุนนิยม/เสรีนิยม - สังคมนิยม/คอมมิวนิสต์ ตั้งแต่เริ่มก่อกำเนิดของทฤษฎีแรกแห่งการพัฒนา (The First Theory of Development)
กรอบแนวคิดการพัฒนา : การปรับเปลี่ยนกระบวนทรรศน์ (Paradigm Shift) - สมัยประธานาธิบดี Harry S. Truman ของจักรวรรดินิยมอเมริกาภายหลังจากการยุติลงของสงครามโลกครั้งที่ 2 - การต่อสู้ระหว่างลัทธิการเมืองและนโยบาย 4 เป้าหมาย (Point Four Programme) เพื่อถ่วงดุลอำนาจ ช่วงชิงและครอบงำประเทศอ่อนแอให้เป็น ฐานกำลังในการต่อสู้กับปฏิปักษ์ - สงครามระหว่างลัทธิได้ดำเนินติดต่อกันมาจนกระทั่งเกิดการล่มสลาย ของลัทธิสังคมนิยมโซเวียต รวมทั้งการเปลี่ยนท่าที แนวทางและนโยบายทาง การเมืองของพันธมิตรหลายๆ ประเทศ
กรอบแนวคิดการพัฒนา : การปรับเปลี่ยนกระบวนทรรศน์ (Paradigm Shift) - การล่มสลายของลัทธิเศรษฐกิจการเมืองของประเทศที่เป็นปฏิปักษ์ทำให้เกิดการแพร่กระจายและขยายตัวของแนวคิดเศรษฐศาสตร์กระแสหลัก (Main Stream Economy) - การประเทศบริวารและกึ่งบริวารที่เปรียบเสมือนกับประเทศอาณานิคม ยุคใหม่ (New Colony) ของจักรวรรดินิยมอเมริกานำเอาแนวคิดทาง เศรษฐศาสตร์กระแสหลัก และแนวคิดปฏิฐานนิยมไปกำหนดแนวทางใน การพัฒนาประเทศ
- แนวคิดการพัฒนาประเทศที่ใช้ก่อให้เกิดการแสวงหา : กรอบแนวคิดการพัฒนา : การปรับเปลี่ยนกระบวนทรรศน์ (Paradigm Shift) - ผลการนำแนวคิดมาใช้พัฒนาประเทศอย่างขัดแย้งกับวัฒนธรรมและวิถีการดำรงชีวิต (Mode of Living) - แนวคิดการพัฒนาประเทศที่ใช้ก่อให้เกิดการแสวงหา : : ผลประโยชน์ส่วนบุคคลอย่างไร้ขอบเขต : การทำลายล้างระบบนิเวศ ระบบศีลธรรม วัฒนธรรม สังคม รวมทั้ง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
กรอบแนวคิดที่ 1 (First Paradigm) เริ่มประมาณสงครามโลกครั้งที่ 2 ภายหลังสงครามเกิดภัยพิบัติ/หายนะ โดยเฉพาะพื้นที่ประเทศยุโรป และแนวคิดการพัฒนาแพร่หลายสู่ประเทศด้อยพัฒนาประมาณ 1950-60 นักทฤษฎีเสนอกรอบ “การพัฒนาเชิงเนื้อหาทางเทคนิค” (Technical matters) ที่มีการใช้วิเคราะห์ปัญหาสังคมด้อย พัฒนาต่างๆ ด้วยการประยุกต์ใช้:- : Neo-Classic Economic : American Social Science
กรอบแนวคิดที่ 1 (First Paradigm) เสนอตัวแบบเพื่อการวางแผนพัฒนา โดยเห็นว่า “เศรษฐศาสตร์พัฒนาการ” หรือ“Development Economics” เป็นศาสตร์/สาขาที่มีความก้าวหน้าสูง โดยลักษณะ เป็นศาสตร์เชิง “ปฏิฐาน” (Positive Science) ที่มีอิทธิพลต่อ การกำหนดทิศทางการพัฒนาประเทศต่างๆ โดยพิจารณา แนวการปฏิบัติงานเน้นดำเนินงานทางเศรษฐกิจลักษณะ -: Functional Approach :- เศรษฐกิจนำหน้าสังคม/การเมือง/วัฒนธรรม
กรอบแนวคิดที่ 1 (First Paradigm) ทฤษฎีภาวะทันสมัย ModernizationTheory เริ่มปลายสงครามโลกครั้งที่ 2 : โครงการฟื้นฟูประเทศยุโรป ตะวันออก (European Recovery Programme, ERP) = E/F/I/W G เสนอตัวแบบเพื่อการวางแผนพัฒนา โดยเห็นว่าประสบ ผลสำเร็จ แพร่หลายสู่ประเทศด้อยพัฒนา ทฤษฎีภาวะทันสมัย ModernizationTheory
กรอบแนวคิดที่ 1 (First Paradigm) ความเจริญก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ” นักทฤษฏี/นักวิชาการ/นักปฏิบัติในกลุ่ม “ปฏิฐานนิยม/ สุขนิยม” (Positivists) เสนอ “การพัฒนาจะเกิดขึ้นต้องอาศัย ความเจริญก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ” : อุปสรรค/ภาวะด้อยพัฒนาจะเกิดจากการขาดเงื่อนไขการ สร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ
กรอบแนวคิดที่ 1 (First Paradigm) ประเด็นการพัฒนา : : ขจัดเงื่อนไขอุปสรรค : เศรษฐกิจเจริญ : สังคมเจริญ กรอบแนวความคิดประยุกต์ใช้กว้างขวางทั้งประเทศ พัฒนาและประเทศด้อยพัฒนา ลักษณะแนวความคิด/ทฤษฎีกลไก (Technocratic Theory) : ใช้เป็นวิธีเชิงการปฏิบัติงาน
กรอบแนวคิดที่ 2 (Second Paradigm) พิจารณามองการพัฒนาเชิงโต้ตอบ/การต่อต้านกรอบ แนวคิด 1 st Paradigm เริ่มขึ้นระยะเวลาใกล้เคียงกันในพื้นที่ยุโรปตะวันตก ลาตินและอเมริกา ประมาณต้นทศวรรษที่ 1960 (2503) โดยเสนอแยกการศึกษาเกี่ยวกับการพัฒนาออกจาก : - เศรษฐศาสตร์พัฒนา - สังคมวิทยาอเมริกัน แนวคิดหลายกระแสมาก
กรอบแนวคิดที่ 2 (Second Paradigm) นักทฤษฎี/นักวิชาการกลุ่มนี้เรียกว่า แนวคิดก้าวหน้า (The Radicals) โจมตีวิพากษ์ทฤษฎีภาวะทันสมัยว่า เป็น การมองปัญหาคับแคบ/ไม่ครอบคลุมถึงแก่นแท้ปัญหามาก พอสำหรับการพัฒนาประเทศต่างๆ ปัญหาประเทศด้อยพัฒนาเกิดจากครอบงำ การเอารัดเอา เปรียบ และขูดรีดจากประเทศจักรวรรดินิยม Structuralism Approach
กรอบแนวคิดที่ 2 (Second Paradigm) หลักการที่ใช้วิเคราะห์ปัญหาและทางออกของสังคมด้อย พัฒนาที่ขยายตัวและได้รับความสนใจอย่างรวดเร็ว ได้แก่ - ทฤษฎีพึ่งพา (Dependency Theory) - ทฤษฎีภาวะด้อยพัฒนา (Underdevelopment Theory)
กรอบแนวคิดที่ 3 (Third Paradigm) เริ่มประมาณต้นศตวรรษที่ 1970 โดยกลุ่มนักทฤษฎี มาร์กซิสต์ (The Marxists) ที่เริ่มให้สนใจปัญหาการพัฒนา โลกที่ 3 การขยายตัวระบบทุนนิยมโลกมีผลต่อภาวะความสับสน และภาวะด้อยพัฒนาของประเทศด้อยพัฒนาทั่วไป
กรอบแนวคิดที่ 3 (Third Paradigm) : แนวทางพิจารณาปัญหาสังคมด้อยพัฒนา - วิถีการผลิต (Mode of Production) - การดูดซับมูลค่าส่วนเกินทางเศรษฐกิจ (Economic Surplus) - การขัดแย้งทางชนชั้น (Social Class Conflict)
กรอบแนวคิดที่ 3 (Third Paradigm) การพัฒนา : ทุน (Capital) แรงงาน (Labour) ความสัมพันธ์ระหว่างชนชั้น (Social Class Relationship)
กรอบแนวคิดการพัฒนา ทฤษฎีการพัฒนามิใช่สูตรสำเร็จ (Ready Formula) ที่จะนำไปใช้ได้อย่างกว้างขวางในทุกระบบสังคม แนวคิดเกี่ยวกับการพัฒนาไม่ควรจะมีลักษณะเป็น mechanico- formal formulation เพราะ : 1) กระบวนการพัฒนาเป็นกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลง 2) ประเด็นการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ การเมือง สังคมและวัฒนธรรม ของสังคมที่มีเงื่อนไขและรูปแบบทางประวัติศาสตร์แตกต่างกัน 18 18
จุดมุ่งหมายของการพัฒนา Quality of Life : Wealth = Rich พิจารณา : เชิงคุณภาพ = เชิงประมาณ 19 19
จุดมุ่งหมายของการพัฒนา 1. จุดมุ่งหมายของการพัฒนาทั่วไป “การสร้างสรรค์ประเทศให้มีความเจริญ” ทำให้ประเทศ : - เสถียรภาพ - ความมั่นคง - ประชาชนมีความเป็นอยู่/คุณภาพชีวิตที่ดีตามมาตรฐานที่เหมาะสมกับสังคมนั้น 20 20
จุดมุ่งหมายของการพัฒนา Dudley Seers : “The Meaning of Development” เสนอ 2. จุดมุ่งหมายของการพัฒนาเบื้องต้น 2.1. ขจัดความไม่รู้ : ภาวะขาดการศึกษา ความไม่รู้ ความโง่ของประชาชนเป็นอุปสรรคการพัฒนาประเทศ ความรู้/ความฉลาดจะเป็นโครงสร้างพื้นฐาน (Basic Structure/Pattern) 21 21
จุดมุ่งหมายของการพัฒนา 2. 2 ขจัดความยากจน : ประชาชนในประเทศต้องมีงานรายได้เพื่อประทังชีพ งานเป็นศักดิ์ศรี (Dignity) ของทรัพยากรมนุษย์อย่างน้อย หัวหน้าครอบครัวต้องมีงาน การขจัดความยากจนเป็นการสร้างศักยภาพของมนุษย์ (Human Potential) ความยากจนประชาชนเป็น 25% ทำให้เกิดปัญหาการพัฒนา 22 22
จุดมุ่งหมายของการพัฒนา 2.3. ขจัดเจ็บป่วย : ประชาชนสุขภาพไม่ดีย่อมเอื้อต่อกัน/ เกี่ยวกับปัญหาอื่นๆ จึงต้องเสริมสร้างความสมบูรณ์และเข้มแข็งทั้ง ร่างกาย & จิตใจ 2.4. ขจัดอยุติธรรม : แก้ไขการเอารัดเอาเปรียบคุณธรรม & จริยธรรมเป็นพื้นฐานสังคมมนุษย์ ความไม่ยุติธรรมก่อให้เกิดความขัดแย้งเอารัดเอาเปรียบ แก่งแย่งและความแตกต่างการใช้ความรุนแรง ความขัดแย้ง การใช้ความรุนแรง ปฏิวัติ การเปลี่ยนแปลง 23 23
3.1 การพึ่งตนเอง : มุ่งต้องการให้พึ่งตนเอง (Self- 3. จุดมุ่งหมายของการพัฒนาสูงสุด 3.1 การพึ่งตนเอง : มุ่งต้องการให้พึ่งตนเอง (Self- reliance) ทั้งระดับบุคคล ครัวเรือน ชุมชน สังคมและ ประเทศชาติ 3.2 ความสามารถในเชิงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี : ความก้าวหน้าในแง่ความเข้าใจ การคิดค้น ประดิษฐ์และการ ประยุกต์ใช้ 24
3.3 การใช้ทรัพยากร : ทุกประเภททั้งในแง่ทุนและอื่นๆ 3. จุดมุ่งหมายของการพัฒนาสูงสุด 3.3 การใช้ทรัพยากร : ทุกประเภททั้งในแง่ทุนและอื่นๆ ทางกายภาพ ชีวภาพและมนุษย์ให้เกิดประโยชน์สูงสุด 3.4. การกระจายอำนาจ : การบริหาร การพัฒนาใน การกระจายอำนาจอาจจะเกิดทั้ง - แง่ + ระดมความคิดและร่วมมือระดับล่าง - แง่ - อาจล่าช้าเพราะผ่านขั้นตอน 25
เท่าเทียม/ทัดเทียม/ทั่วถึง/เป็นธรรมกับทุกฝ่าย การพิจารณาการกระจายอำนาจ 1. ขอบเขตและการตัดสินใจ 2. การกำหนดนโยบายต่างๆ 3. การใช้จ่ายและการควบคุมการคลัง 4. การบังคับบัญชาบุคลากร 5. การจัดการและรูปแบบการบริหาร 3.5 การกระจายผลประโยชน์ : ทุกในแง่ประโยชน์จาก บริการสาธารณะ (Public Interest) เท่าเทียม/ทัดเทียม/ทั่วถึง/เป็นธรรมกับทุกฝ่าย 26
กลไกการบรรลุจุดมุ่งหมายของการพัฒนา 1. การเสริมสร้างความมีเหตุผล : การพยายามให้ผู้อื่นเกิดความรู้อย่างมีเหตุผล : การใช้ปัญญาให้ เกิดการพัฒนา การพัฒนาโดยใช้ภูมิปัญญา 2. การวางแผนอย่างมีเป้าหมาย : การมองการณ์ไกล : การยอมรับความก้าวหน้าและนวัตกรรม 3. ทัศนคติที่ดี “ชีวิต” และ “งาน” : การที่มีทัศนคติที่ดี สร้างสิ่งที่ดี หรือมองผู้อื่นด้วยดี : พิจารณาคุณค่าและให้คุณค่าที่ดีต่องาน ชีวิต และผู้อื่น 27
กลไกการบรรลุจุดมุ่งหมายของการพัฒนา 4. การสร้างสถาบันที่มีความชำนาญ : การพัฒนาสถาบัน/องค์กรที่มีความชำนาญ : สร้างงาน ให้งานกับผู้ที่มีความสามารถ และสร้างสถาบัน/องค์กรที่ดีตามความชำนาญ 5. ประสิทธิภาพการผลิต/ดำเนิงาน: การประกอบกิจกรรมอย่างมีประสิทธิภาพ : สร้างประสิทธิภาพการผลิต/ทำงานจะมีผลต่อการใช้ทรัพยากรและการพัฒนา Input Process/System Output สมดุล ด้อยพัฒนา พัฒนา Input = Output Input > Output Input < Output 28
กลไกการบรรลุจุดมุ่งหมายของการพัฒนา 6. การเพิ่มผลผลิต/ผลงาน การยกระดับด้วยการเพิ่มผลผลิต/ผลงาน : เพิ่มประสิทธิภาพในผลงานที่รับผิดชอบให้ดีขึ้น 7. โอกาสการได้รับบริการสาธารณะ ความเสมอภาคในโอกาสการได้รับบริการสาธารณะ : พิจารณาโอกาส เงื่อนไข และการยกเว้น 8. ประชาธิปไตยระดับ “รากหญ้า” วิถีทางประชาธิปไตยในการอยู่ร่วมกันในสังคมประชาธิปไตย : สามารถยอมรับความแตกต่างและการมีเหตุผล 29
กลไกการบรรลุจุดมุ่งหมายของการพัฒนา 9. การสร้างความเข้มแข็งของชาติ ผลประโยชน์ของสังคม/ประเทศเป็นหลัก : การให้ความ สำคัญต่อผลประโยชน์โดยรวมของทุกคนในสังคมและประเทศ 10. ความมีวินัยของสังคม สร้างเสริมวินัยบุคคลในประเทศ : วินัยการดำรงชีวิต/ประกอบอาชีพ (จริยธรรม/จรรยาบรรณ) 30
ปรัชญาพื้นฐานการพัฒนา บุคคลมีความแตกต่างและมีเอกลักษณ์ บุคคลมีสิทธิและกำหนดวิถีชีวิตตนเอง บุคคลสามารถเรียนรู้ บุคคลมีความคิดริเริ่ม บุคคลความสามารถพัฒนาขีดความสามารถของชุมชน 31
ปรัชญาแห่งการพัฒนา มนุษย์เป็นทรัพยากรที่มีค่ามากที่สุด เพราะมีความสามารถและพลัง ซ่อนเร้น ศรัทธาในความยุติธรรมของสังคม เพื่อขจัดความขัดแย้งและความ เหลื่อมล้ำในสังคม ความไม่รู้ ความดื้อรั้นและการใช้กำลังเป็นอุปสรรคสำคัญในการ พัฒนา 32
แนวคิดเกี่ยวกับการพัฒนา ความหมายของการพัฒนาขึ้นอยู่กับบุคคล สถานการณ์ และเวลา การพัฒนาเป็นความคิดที่กำเนิดมาจากตะวันตก และมีอิทธิพลครอบงำการกำหนดนโยบายการพัฒนาในประเทศโลกที่ 3 สามารถจำแนกการพัฒนาตามอุดมการณ์ เช่น ทุนนิยมกับสังคมนิยม ระดับการพัฒนา เช่น ประเทศยากจน ประเทศฝ่ายเหนือฝ่ายใต้ และประเทศโลกที่ 1 และ 2 องค์การสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนา ประกอบด้วย UN WB ADB IMF และ WTO เป็นต้น
ทฤษฎีว่าด้วยการพัฒนาสังคม ทฤษฎีการพัฒนาช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 ประกอบด้วย ทฤษฎีว่าด้วยความชะงักงันทางเศรษฐกิจ ทฤษฎีวัตถุนิยมทางประวัติศาสตร์ และทฤษฎีของ จอห์น เมนาร์ด เคนท์ ทฤษฎีการพัฒนาช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ประกอบด้วย ทฤษฎีว่าด้วยความทันสมัย ทฤษฎีว่าด้วยขั้นตอนความเจริญทางเศรษฐกิจ ทฤษฎีวงจรอุบาทว์ ทฤษฎีการเจริญเติบโตที่สมดุลกับการเจริญเติบโตที่ไม่สมดุล ทฤษฎีนีโอมาร์กซิสต์ ทฤษฎีพึ่งพาและทฤษฎี อคติแห่งความเป็นเมือง
ทฤษฎีการพัฒนา : กลุ่มวิวัฒนาการประวัติศาสตร์แบบเส้นตรง ทฤษฎีการพัฒนา : กลุ่มวิวัฒนาการประวัติศาสตร์แบบเส้นตรง ทฤษฎีภาวะทันสมัย (Modernization Theory) เกิดขึ้นที่อเมริกาและยุโรปภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 มีคำขวัญว่า “ถ้าอยากก้าวหน้า ต้องเป็นแบบอเมริกาและยุโรป” ทฤษฎีภาวะพึ่งพา (Dependency Theory) หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 มหาอำนาจประเทศอเมริกาสร้างวาทกรรมการพัฒนาให้ประเทศด้อยพัฒนาต้องพึ่งพิงทางเศรษฐกิจและการเมืองประเทศมหาอำนาจในฐานะประเทศบริวาร ทฤษฎีว่าด้วยความด้อยพัฒนา (Underdevelopment Theory) ประเทศโลกที่ 3 ที่ต้องพึ่งพิงประเทศมหาอำนาจในทุกด้าน จึงจะสามารถดำรงอยู่ได้และนำไปสู่ความเป็นประเทศที่พัฒนา ตามความหมายของมหาอำนาจ
ทฤษฎีการพัฒนา : กลุ่มวิวัฒนาการประวัติศาสตร์แบบเส้นตรง ทฤษฎีการพัฒนา : กลุ่มวิวัฒนาการประวัติศาสตร์แบบเส้นตรง ทฤษฎีอคติแห่งความเป็นเมือง อธิบายถึงความเหลื่อมล้ำของการพัฒนา ระหว่างเมืองกับชนบทและช่องว่างระหว่างรายได้ของประชาชน ทฤษฎีวัตถุนิยมทางประวัติศาสตร์ของมาร์กซิสต์ ความขัดแย้งทางชนชั้นนำไปสู่การล้มล้างระบอบระบบกษัตริย์และศักดินาทุกรูปแบบ พร้อมทั้งเสนอให้สถาปนาระบบการเมืองและเศรษฐกิจแบบคอมมิวนิสต์ ทฤษฎีระบบโลก (World System Theory) อเมริกาเป็นศูนย์กลางของอำนาจทางเศรษฐกิจและการเมือง
ทฤษฎีการพัฒนา : กลุ่มวิวัฒนาการประวัติศาสตร์แบบเส้นตรง ทฤษฎีการพัฒนา : กลุ่มวิวัฒนาการประวัติศาสตร์แบบเส้นตรง ทฤษฎีการบรรจบกัน เป็นการคลี่คลาย/ เคลื่อนตัว/ ปรับปรนเข้าหากันของระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยมและสังคมนิยม เพื่อสร้างรูปแบบเศรษฐกิจที่เป็นจริง/ สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงและเป็นไปของสังคม ทฤษฎีความหลากหลาย มองปัจจุบัน ปฏิเสธความขัดแย้งว่าเป็นการเผชิญหน้า มาเป็นมองความแตกต่าง/ ขัดแย้ง เป็นความหลากหลาย และไม่ใช่คู่ตรงข้าม
ผลพวงสำคัญของทฤษฎีการพัฒนา นโยบายและประสบการณ์การพัฒนาของประเทศต่างๆ ในโลก ประสบปัญหาทางเลือกที่สำคัญ 7 ประการ คือ - ความเจริญเติบโตกับการกระจายความเจริญ - การพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจกับการพัฒนาด้านอุตสาหกรรม - การพัฒนาเมืองกับการพัฒนาชนบท - การใช้เทคโนโลยีที่เน้นทุนกับการใช้เทคโนโลยีที่เน้นแรงงาน - การรวมอำนาจกับการกระจายอำนาจ - ความทันสมัยกับขนบธรรมเนียมดั้งเดิม - การวางแผนทางกายภาพกับการวางแผนทางเศรษฐกิจและสังคม
ผลพวงสำคัญของทฤษฎีการพัฒนา การพัฒนาที่ผ่านมา บทเรียนสำคัญที่ประเทศต่าง ๆ ต้องคำนึง - การพัฒนาที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของตัวเลข - การขอรับโครงการช่วยเหลือเพื่อการพัฒนา - ปัญหาความยากจน สิ่งแวดล้อม และสิทธิชุมชน การพัฒนาในปัจจุบันมีลักษณะการพัฒนาแบบองค์รวมมากขึ้น แนวคิดที่สำคัญซึ่งเป็นผลพวงจากการพัฒนาแบบเดิมมีอยู่ด้วยกัน 3 แนวคิด คือ แนวคิดที่ว่าด้วยระบบโลก แนวคิดที่ว่าด้วยการพัฒนาแบบยั่งยืนและแนวทางใหม่เพื่อการพัฒนา แนวคิดที่ว่าด้วยการพัฒนาแบบยั่งยืนในสังคมไทยที่สำคัญมีอยู่ด้วยกัน 2 แนวคิด คือ การพัฒนาตามแนวพุทธศาสน์ และการพัฒนาแนววัฒนธรรมชุมชน
ยุทธศาสตร์แห่งการพัฒนา ยุทธศาสตร์การพัฒนา เป็นแนวทางการพัฒนาที่กำหนดขึ้นเพื่อใช้ดำเนินงานและควบคุมการพัฒนา ยุทธศาสตร์การพัฒนาจะขึ้นอยู่กับเป้าหมายของประเทศ ยุทธศาสตร์การพัฒนาสามารถจำแนกได้หลายประเภท ได้แก่ - ยุทธศาสตร์เพื่อความทันสมัย - ยุทธศาสตร์การพัฒนาเพื่อความจำเริญทางเศรษฐกิจ - ยุทธศาสตร์การพัฒนาเพื่อความเท่าเทียม - ยุทธศาสตร์การพัฒนาเพื่อการพึ่งตนเอง - ยุทธศาสตร์การพัฒนาเพื่อความยั่งยืน ในปัจจุบันแนวโน้มประเทศต่างๆ กำลังให้ความสนใจต่อการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ เพราะเป็นหัวใจของการพัฒนาทุกรูปแบบ ในขณะเดียวกันรัฐบาลก็ต้องเร่งเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชน โดยเฉพาะชุมชนท้องถิ่นระดับฐานราก
ความสำคัญและปัจจัยกำหนดยุทธศาสตร์แห่งการพัฒนา ยุทธศาสตร์การพัฒนาเป็นแนวทางการพัฒนาที่สำคัญเพื่อดำเนินงานและควบคุมการพัฒนาให้สามารถบรรลุเป้าหมายของการพัฒนาที่กำหนดไว้ได้อย่างรวดเร็ว ถูกต้องและมีประสิทธิภาพ ยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศจะขึ้นอยู่กับเป้าหมายในการพัฒนาของรัฐ ซึ่งถูกกำหนดโดยสถานการณ์ต่าง ๆ ทั้งภายในและนอกประเทศ