โครงการกำจัดโรคหัด
กำหนดตัวชี้วัดความสำเร็จของการดำเนินงานกำจัดโรคหัด อุบัติการณ์ผู้ป่วยยืนยันโรคหัดไม่เกิน 5 ต่อประชากรล้านคนทุกกลุ่มอายุในปี 2015 และไม่เกิน 1 ต่อประชากรล้านคนทุกกลุ่มอายุในปี 2020 (ไม่นับผู้ป่วยนำเข้าจากต่างประเทศ) ผู้ป่วยยืนยันโรคหัดไม่เกิน 10 รายต่อหนึ่งเหตุการณ์การระบาด ในอย่างน้อยร้อยละ 80 ของเหตุการณ์การระบาดทั้งหมด ไม่มีผู้ป่วยยืนยันโรคหัดที่ติดเชื้อไวรัสโรคหัดสายพันธุ์ภายในประเทศ เป็นระยะติดต่อกันไม่ต่ำกว่า 12 เดือน
กำหนดตัวชี้วัดความสำเร็จของการดำเนินงานกำจัดโรคหัด ความครอบคลุมของวัคซีนโรคหัดเข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 ต้องไม่น้อยกว่าร้อยละ 95 ทั้งในระดับตำบลและระดับประเทศ หมายเหตุ : ตัวชี้วัดทั้งหมดต้องดำเนินการภายใต้ระบบเฝ้า ระวังที่มีประสิทธิภาพ
ระบบเฝ้าระวังที่มีประสิทธิภาพของโรคหัด อัตราการรายงานผู้ป่วยสงสัยโรคหัดไม่น้อยกว่า 2 ต่อแสนในประชากรทุกกลุ่มอายุแสนคนต่อปี เก็บตัวอย่างซีรั่มเพื่อส่งตรวจ Measles IgM ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของผู้ป่วยที่รายงานเข้าสู่ระบบเฝ้าระวัง(ไม่นับผู้ป่วยสงสัยในการสอบสวนเหตุการณ์การระบาด)
ระบบเฝ้าระวังที่มีประสิทธิภาพของโรคหัด มีการเก็บสิ่งส่งตรวจเพื่อวิเคราะห์หาสายพันธุ์ของไวรัสโรคหัด ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของเหตุการณ์การระบาด มีการสอบสวนโรคเฉพาะรายของผู้ป่วยสงสัยโรคหัดภายใน 48 ชั่วโมงหลังพบผู้ป่วย ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของผู้ป่วย
เป้าหมายของโครงการกวาดล้างโปลิโอและกำจัดโรคหัด AFP มากกว่าเป้า 2/100,000 )ประชากรอายุต่ำกว่า 15 ปี Fever with rash มากกว่าเป้า 2/100,000 ประชากรทุกกลุ่มอายุ คนไข้ Fever with rash ตรวจหาการติดเชื้อมากกว่า 80%
การเฝ้าระวังโรคหัด ผู้ป่วยที่เข้าเกณฑ์การเฝ้าระวัง(Surveillance case) หมายถึง ผู้ป่วยไข้ออกผื่น ผู้ป่วยสงสัยโรคหัด/หัดเยอรมันทั้งหมดที่ถูกรายงานเข้าโครงการกำจัดโรคหัด เป็นค่าเริ่มต้น(default) ก่อนจะพิจารณาเกณฑ์ทางคลินิกและผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ
การรายงานผู้ป่วยเข้าสู่ระบบเฝ้าระวังตามโครงการกำจัดโรคหัด ให้รายงานตั้งแต่ผู้ป่วยไข้ออกผื่น หรือผู้ป่วยสงสัยโรคหัดหรือหัดเยอรมัน พร้อมทั้งเก็บสิ่งส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการในผู้ป่วยสงสัยทุกราย
นิยามผู้ป่วยสำหรับการเฝ้าระวัง ผู้ป่วยไข้ออกผื่น หมายถึง ผู้ป่วยที่มีไข้ร่วมกับผื่นนูนแดง(Maculopapular rash) ซึ่งรวมถึงโรค Reseola infantum(B08.2) โรค Erythema infectiotum(B08.3) รวมทั้งโรคไข้ออกผื่นอื่นๆ ในกลุ่มการติดเชื้อไวรัสอื่นๆ ที่ไม่ทราบแน่ชัด(B09)
เกณฑ์ทางห้องปฏิบัติการ นิยามผู้ป่วย เกณฑ์ทางห้องปฏิบัติการ Serology test : Measles IgM ให้ผลบวก Genotyping : การตรวจหาสารพันธุกรรมและวิเคราะห์สายพันธุ์ไวรัสโดยการทำ PCR และ sequencing จาก Throat swab หรือ Nasal swab
ประเภทผู้ป่วย(Measles classification) ผู้ป่วยสงสัย(Suspected case) หมายถึง ผู้ที่มีอาการตามเกณฑ์ทางคลินิก แต่ไม่มีผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ ผู้ป่วยเข้าข่าย(Probable case) หมายถึง ผู้ป่วยที่มีอาการตามเกณฑ์ทางคลินิก ร่วมกับมีข้อมูลทางด้านระบาดวิทยาเชื่อมโยงกับผู้ป่วยที่ยืนยันผล
ประเภทผู้ป่วย(Measles classification) ผู้ป่วยยืนยัน(Confirmed case) หมายถึง ผู้ที่มีอาการตามเกณฑ์ทางคลินิก และมีผลบวกตามเกณฑ์ทางห้องปฏิบัติการอย่างน้อย 1 ข้อ ผู้ป่วยที่ไม่ใช่โรคหัด(Non-measles case) หมายถึงผู้ป่วยที่เข้าเกณฑ์การเฝ้าระวัง มีผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการเป็นลบ และไม่มีความเชื่อมโยงทางด้านระบาดวิทยากับผู้ป่วยยืนยัน
นิยามการระบาดผู้ป่วยสงสัยโรคหัด นิยามการระบาดของโรคตามโครงการกำจัดโรคหัดที่ใช้ในประเทศไทย คือ การพบผู้ป่วยไข้ออกผื่นหรือผู้ป่วยสงสัยโรคหัด/หัดเยอรมันอย่างน้อย 2 ราย ภายใน 14 วัน ในหมู่บ้าน ชุมชน หรือ สถานที่ที่มีประชากรอาศัยอยู่อย่างหนาแน่น เช่น โรงงาน โรงเรียน สถานศึกษา ศูนย์เด็กเล็ก และ อื่นๆ เดียวกัน
อัตราป่วยต่อแสนของผู้ป่วยโรคหัดทุกกลุ่มอายุ , ประเทศไทย , พ. ศ อัตราป่วยต่อแสนของผู้ป่วยโรคหัดทุกกลุ่มอายุ , ประเทศไทย , พ.ศ. 2555-2557 พ.ศ. อัตราป่วย 2555 8.10 2556 4.12 2557 1.85
เปรียบเทียบจำนวนผู้ป่วยโรคหัดในฐานข้อมูล506และฐานข้อมูลME , ประเทศไทย , 2555-2557 จำนวนผู้ป่วยโรคหัดในฐานข้อมูล 506 จำนวนผู้ป่วยโรคหัดในฐานข้อมูล ME ร้อยละ 2555 5207 2934 37.14 2556 2643 1072 43.52 2557 1167 395 33.85
ร้อยละของผู้ป่วยยืนยันโรคหัด , ประเทศไทย , 2555-2557 จำนวนส่งตรวจตัวอย่าง จำนวนตัวอย่างที่ให้ ผลบวก ร้อยละ 2555 1934 976 50.47 2556 986 353 35.80 2557 395 74 18.73
สาเหตุที่โรงพยาบาลไม่ส่งตัวอย่างยืนยันโรคหัด แพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ระบาดวิทยา รพ. ไม่ทราบว่ามีผู้ป่วยโครงการกำจัดโรคหัด 9 7 3 ผู้ป่วยไม่อยู่ในเงื่อนไขเวลาของการเก็บตัวอย่าง 1 ผู้ป่วยไม่มาตามนัด ไม่ได้นัดผู้ป่วย 6 ไม่มีพาหนะมาส่งตัวอย่างที่ห้อง LAB จำนวนผู้ให้ข้อมูล 10
ใครควรเป็นผู้ที่มาปิด gap ของ communication เครือข่าย ส่วนกลาง สำนักงานป้องกันควบคุมโรค สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด โรงพยาบาล
เป้าหมายของส่วนกลางในโครงการกำจัดโรคหัด AFP มากกว่าเป้า 2/100,000 )ประชากรอายุต่ำกว่า 15 ปีในภาพของประเทศ Fever with rash มากกว่าเป้า 2/100,000 ประชากรทุกกลุ่มอายุ ในภาพของประเทศ คนไข้ Fever with rash ตรวจหาการติดเชื้อมากกว่า 80% ในภาพของประเทศ
บทบาทของส่วนกลางในโครงการกำจัดโรคหัด สนับสนุนทางด้านวิชาการและการประสานงานให้กับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เป้าหมายของสำนักงานป้องกันควบคุมโรคในโครงการกำจัดโรคหัด AFP มากกว่าเป้า 2/100,000 )ประชากรอายุต่ำกว่า 15 ปีในภาพของเขต Fever with rash มากกว่าเป้า 2/100,000 ประชากรทุกกลุ่มอายุ ในภาพของเขต คนไข้ Fever with rash ตรวจหาการติดเชื้อมากกว่า 80% ในภาพของเขต
บทบาทของสำนักงานป้องกันควบคุมโรคในโครงการกำจัดโรคหัด ให้ ผอ.สคร. เกิดความตระหนักว่างานตามโครงการกำจัดโรคหัดเป็นงานของกรมฯ ที่ต้องดำเนินการ มีระบบติดตามจาก สคร. ในการติดตามการรับส่งหนังสือราชการของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด
บทบาทของสำนักงานป้องกันควบคุมโรคในโครงการกำจัดโรคหัด สคร. Monitor เป้าหมายในภาพของเขต กรณีที่ยังไม่บรรลุเป้าหมาย ให้มีกิจกรรมลงไปกระตุ้น สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด และโรงพยาบาล เช่น การลงไปประเมินระบบเฝ้าระวัง การจัดประชุมราชการเพื่อชี้แจง การขอความร่วมมือจากเขตสุขภาพให้ช่วยกระตุ้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เป้าหมายของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดในโครงการกำจัดโรคหัด AFP มากกว่าเป้า 2/100,000 ประชากรอายุต่ำกว่า 15 ปีในภาพของจังหวัด Fever with rash มากกว่าเป้า 2/100,000 ประชากรทุกกลุ่มอายุ ในภาพของจังหวัด คนไข้ Fever with rash ตรวจหาการติดเชื้อมากกว่า 80% ในภาพของจังหวัด
บทบาทของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดในโครงการกำจัดโรคหัด ให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเกิดความตระหนักว่างานตามโครงการกำจัดโรคหัดเป็นงานของกระทรวงสาธารณสุข ที่ต้องดำเนินการ เมื่อสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดได้รับหนังสือจากกระทรวงสาธารณสุขให้ดำเนินงานตามโครงการกำจัดโรคหัด ให้ทำหนังสือแจ้งต่อไปยัง รพ. ในเครือข่ายได้รับทราบ
บทบาทของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดในโครงการกำจัดโรคหัด ให้มีระบบติดตามหนังสือที่แจ้งจาก สสจ. ไป รพ. เพื่อให้มั่นใจว่า บุคคลที่เกี่ยวข้อง เช่น แพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ระบาดวิทยาโรงพยาบาลได้รับทราบเรื่อง โครงการกำจัดโรคหัด
บทบาทของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดในโครงการกำจัดโรคหัด กรณีที่ยังไม่บรรลุเป้าหมายของจังหวัด ให้กระตุ้นโรงพยาบาลเป็นระยะเพื่อให้เกิดการดำเนินงานของ รพ.อย่างต่อเนื่อง ตามโครงการกำจัดโรคหัด เช่น การประเมินระบบเฝ้าระวัง การจัดประชุมชี้แจงเป็นระยะ การไปนิเทศงานเป็นระยะ
บทบาทของโรงพยาบาลในโครงการกำจัดโรคหัด บทบาทของแพทย์ รายงานผู้ป่วยไข้ออกผื่นหรือผู้ป่วยสงสัยโรคหัด/หัดเยอรมันไปที่งานระบาดวิทยาของโรงพยาบาลทุกราย สั่งเก็บตัวอย่างซีรั่มผู้ป่วยไข้ออกผื่นหรือผู้ป่วยสงสัยโรคหัด/หัดเยอรมัน(Single case)ทุกรายส่งตรวจที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์หรือศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย
บทบาทของโรงพยาบาลในโครงการกำจัดโรคหัด บทบาทของแพทย์ ในกรณีที่มีการระบาดของผู้ป่วยไข้ออกผื่นหรือผู้ป่วยสงสัยโรคหัด/หัดเยอรมัน เก็บตัวอย่างซีรั่มประมาณ 10-20 ตัวอย่างในช่วงเวลา 4-30 วันหลังพบผื่นเพื่อหา Measles_IgM เก็บตัวอย่าง Throat/Nasal swab ภายในเวลาไม่เกิน 5 วัน หลังพบผื่น ประมาณไม่เกิน 5 ตัวอย่าง
บทบาทของโรงพยาบาลในโครงการกำจัดโรคหัด บทบาทของแพทย์ การเก็บตัวอย่างซีรั่มในกรณีที่ผู้ป่วยไข้ออกผื่นหรือผู้ป่วยสงสัยโรคหัด/หัดเยอรมันเป็นผู้ป่วยนอก และผู้ป่วยมาโรงพยาบาลเร็ว เก็บตัวอย่างซีรั่มทันที ถ้าผล LAB negative นัดผู้ป่วยมาเก็บตัวอย่างอีกครั้ง ให้ผู้ป่วยกลับบ้านไปก่อน และนัดผู้ป่วยมาเจาะเลือดอีกครั้งในเงื่อนไขเวลาที่เหมาะสม
บทบาทของโรงพยาบาลในโครงการกำจัดโรคหัด บทบาทของพยาบาล คัดกรองผู้ป่วยไข้ออกผื่น และแจ้งเตือนให้แพทย์ทราบถึงการวินิจฉัยและเก็บตัวอย่างซีรั่มผู้ป่วยในโครงการกำจัดโรคหัด
บทบาทของโรงพยาบาลในโครงการกำจัดโรคหัด บทบาทของเจ้าหน้าที่ระบาดวิทยา เมื่อได้รับแจ้งผู้ป่วยสงสัยโรคหัดจากแพทย์หรือพยาบาลให้ key ข้อมูลลงในฐานข้อมูลกำจัดโรคหัด บน web-site ของสำนักระบาดวิทยา ทบทวนข้อมูลผู้ป่วยสงสัยโรคหัดในฐานข้อมูล 506 เพื่อตรวจสอบการเก็บตัวอย่างซีรั่มส่งตรวจของผู้ป่วยแต่ละราย
บทบาทของโรงพยาบาลในโครงการกำจัดโรคหัด บทบาทของเจ้าหน้าที่ระบาดวิทยา ให้มีระบบติดตามการเก็บตัวอย่างซีรั่มในพื้นที่ ในกรณีที่ยังไม่มีการเก็บตัวอย่างในผู้ป่วยสงสัยโรคหัดที่รายงานเข้าระบบรายงาน 506