ตอนที่ 4: ผลประโยชน์ของความชอบธรรม Part 4: The Benefits of Righteousness
สดุดี 58:11 “แล้วผู้คนจะกล่าวว่า “แน่แล้ว คนชอบธรรมยังได้รับบำเหน็จ แน่แล้ว มีพระเจ้า ผู้ทรงพิพากษาโลก”” Psalm 58:11 “So that men will say, “Surely there is a reward for the righteous; SurelyHe is God who judges in the earth.”
1. เรามีสันติสุขกับพระเจ้า โรม 5:1 “เหตุฉะนั้นเมื่อเราได้ถูกนับเป็นผู้ชอบธรรม โดยความเชื่อแล้ว เราจึง มีสันติสุขกับพระเจ้าโดยทาง องค์พระเยซูคริสต์เจ้าของเรา” 1. We have peace with God. Romans 5:1 “Therefore, having been justified by faith, we have peace with God through our Lord Jesus Christ,”
โรม 5:2 “โดยทางพระองค์เราจึงได้เข้าในร่มพระคุณ 2. เรายืนอยู่ในพระคุณ โรม 5:2 “โดยทางพระองค์เราจึงได้เข้าในร่มพระคุณ ที่เรายืนอยู่นี้ด้วยความเชื่อ และเรา จึงชื่นชมยินดีใน ความหวังที่จะได้มีส่วนในพระเกียรติสิริของพระเจ้า” 2. We stand in grace. Romans 5:2 “through whom also we have access by faith into this grace in which we stand, and rejoice in hope of the glory of God”
3. เราพ้นจากพระพิโรธของพระเจ้า โรม 5:8-10 “แต่พระเจ้าทรงสำแดงความรักของพระองค์เอง แก่เราทั้งหลาย คือขณะที่เรายังเป็นคนบาปอยู่นั้น พระคริสต์ได้สิ้นพระชนม์ เพื่อเรา ในเมื่อบัดนี้เราได้ถูกนับเป็นผู้ชอบธรรมแล้วโดยพระโลหิตของ พระองค์ ยิ่งไปกว่านั้นเราจะรอดพ้นจากพระพิโรธของพระเจ้าโดยพระองค์ อย่างแน่นอน! เพราะถ้าเรายังได้คืนดีกับพระเจ้าโดยการสิ้นพระชนม์ของ พระบุตรของพระองค์ในขณะที่ เราเป็นศัตรูกับพระองค์ ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อ เราได้คืนดีกับพระองค์แล้ว เราก็จะได้รับความรอดโดยพระชนม์ชีพของ พระองค์อย่างแน่นอน!” 3. We are saved from wrath. Romans 5:8-10
4. เราครอบครองในชีวิตผ่านทางพระเยซูคริสต์ โรม 5:17 “เพราะถ้าโดยการล่วงละเมิดของมนุษย์คนเดียว เป็นเหตุให้ความตายได้ครอบครองผ่านทางมนุษย์คนเดียวผู้นั้น ยิ่งกว่า นั้นสักเท่าใดบรรดาผู้ที่ได้รับพระคุณและของประทานแห่งความชอบธรรม ซึ่งพระเจ้าทรงจัดเตรียมไว้อย่างมากล้นย่อมครอบครองในชีวิตผ่านทาง มนุษย์คนเดียวคือพระเยซูคริสต์” 4. We reign in life through Jesus Christ. Romans 5:17 “For if by the one man's offense death reigned through the one, much more those who receive abundance of grace and of the gift of righteousness will reign in life through the One, Jesus Christ.)”
โรม 9:33 (ฉบับมาตรฐาน) “ดังที่มีคำเขียนไว้ใน 5. ไม่มีความรู้สึกละอายหรือความรู้สึกผิดอีกเลย โรม 9:33 (ฉบับมาตรฐาน) “ดังที่มีคำเขียนไว้ใน พระคัมภีร์ว่า “นี่แน่ะ เราวางศิลาก้อนหนึ่งไว้ในศิโยน ที่จะทำให้ สะดุด และหินก้อนหนึ่งที่จะทำให้ล้ม แต่ผู้ที่เชื่อในพระองค์จะไม่ได้ รับความอับอาย”” 5. No more shame or guilt. Romans 9:33 (THS11) “As it is written: “Behold, I lay in Zion a stumbling stone and rock of offense, and whoever believes on Him will not be put to shame.”
“ข้าแต่พระยาห์เวห์ เพราะพระองค์ทรงอวยพรคนชอบธรรม 6. เราได้รับพระพรและความโปรดปรานจากพระเจ้า สดุดี 5:12 (ฉบับอมตธรรม & ฉบับมาตรฐาน) “ข้าแต่พระยาห์เวห์ เพราะพระองค์ทรงอวยพรคนชอบธรรม พระองค์ทรงคุ้มครองพวกเขาไว้ด้วยความโปรดปรานประดุจโล่” 6. We have God’s blessing and favour. Psalm 5:12 (THS11) “For You, O Lord, will bless the righteous; With favor You will surround him as with a shield.”
7. เราจะไม่หวั่นไหวหรือสั่นคลอน สดุดี 55:22 “จงมอบภาระของท่านไว้กับพระยาห์เวห์ และพระองค์จะทรงค้ำจุนท่าน พระองค์จะไม่ทรงยอมให้ คนชอบธรรมคลอนแคลนเลย” 7. Will not be moved or shaken. Psalm 55:22 (THS11) “Cast your burden on the Lord, And He shall sustain you; He shall never permit the righteous to be moved.”
ผลประโยชน์ของความชอบธรรม