กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ช่วงชั้นที่ 2 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ช่วงชั้นที่ 2 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดย ครูอดุลย์ คำแหง โรงเรียนวัดกะโสม อำเภอทุ่งสง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานครศรีธรรมราช เขต 2
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 ร่างกายมนุษย์
ของระบบต่าง ๆ ในร่างกาย การเจริญเติบโตของร่างกาย ระบบต่าง ๆ ของร่างกาย ระบบย่อยอาหาร ระบบลำเลียงโลหิต ร่างกายมนุษย์ ระบบหายใจ ระบบขับถ่ายของเสีย ความสัมพันธ์ ของระบบต่าง ๆ ในร่างกาย การเจริญเติบโตของร่างกาย
ระบบย่อยอาหาร
อวัยวะที่เกี่ยวข้องกับระบบย่อยอาหาร หลอดอาหาร ปาก ตับ กระเพาะอาหาร ลำไส้ใหญ่ ลำไส้เล็ก ทวารหนัก
หน้าที่ของอวัยวะต่าง ๆ ของระบบย่อยอาหาร ภายในปากมีฟัน ช่วยบดอาหาร ลิ้นช่วยคลุกเคล้าอาหาร และน้ำลายช่วยย่อยอาหารบางส่วน ปาก
หน้าที่ของอวัยวะต่าง ๆ ของระบบย่อยอาหาร บิบรัดอาหารให้เคลื่อนที่ลงสู่กระเพาะอาหาร หลอดอาหาร
หน้าที่ของอวัยวะต่าง ๆ ของระบบย่อยอาหาร ตับ สร้างน้ำดีช่วยทำให้ไขมันแตกตัวมีขนาดเล็กลง ตับอ่อน สร้างน้ำย่อยหลายชนิดมาช่วยย่อยสารอาหารประเภทแป้งและโปรตีนที่ลำไส้เล็ก ตับ/ตับอ่อน
หน้าที่ของอวัยวะต่าง ๆ ของระบบย่อยอาหาร ช่วยย่อยสารอาหารให้มีขนาดเล็กลง กระเพาะอาหาร
หน้าที่ของอวัยวะต่าง ๆ ของระบบย่อยอาหาร ย่อยอาหาร ให้มีขนาดเล็กที่สุด สามารถดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดไปเลี้ยงร่างกาย ลำไส้เล็ก
หน้าที่ของอวัยวะต่าง ๆ ของระบบย่อยอาหาร ดูดซึมน้ำ เกลือแร่วิตามิน น้ำตาลกลูโคส และกำจัดของกากอาหารออกจากร่างกายทางทวารหนัก ลำไส้ใหญ่
ระบบไหลเวียนโลหิต หลอดเลือดแดง หลอดเลือดดำ หัวใจห้องบนซ้าย ปอดขวา หัวใจห้องบนขวา หัวใจห้องล่างซ้าย หัวใจห้องล่างขวา ปอดซ้าย
การไหลเวียนของเลือดในร่างกาย
การไหลเวียนของเลือดในร่างกาย หัวใจ เป็นอวัยวะที่ทำหน้าที่บีบตัวและคลายตัวเพื่อ สูบฉีดเลือดผ่านหลอดเลือดไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ขณะที่หัวใจบีบตัว เลือดจะถูกดันออกจากหัวใจทางหลอด เลือดแดง ขณะที่หัวใจคลายตัวเลือดจะไหลเข้าสู่หัวใจ ทางหลอดเลือดคำ การไหลเวียนของเลือดจะเกิดขึ้นภายใน หลอดเลือด และไหลไปทางเดียวกันตลอดเวลาไม่มีการไหล ย้อนกลับ การไหลเวียนของเลือดในร่างกายมนุษย์ เป็นการ ไหลเวียนเลือดแบบวงจรปิด
ระบบหายใจ จมูก หลอดลม ปอด ปอด กระดูกซี่โครง กล้ามเนื้อกะบังลม
การทำงานของระบบหายใจ เมื่อมนุษย์หายใจเข้า อากาศจะผ่าน จมูก โพรงจมูก หลอดลม ปอดและถุงลม ซึ่ง อยู่เป็นจำนวนมากในปอดแต่ละข้าง รอบ ๆ ถุงลมมีเส้นเลือดฝอยหุ้มอยู่ซึ่งจะมีการแลก เปลี่ยนแก๊ส และลำเลียงแก๊สต่อไป การหายใจ เข้า-ออกแต่ละครั้ง กะบังลมและกระดูกซี่โครง จะทำงานสัมพันธ์กันถ้ากล้ามเนื้อกะบังลม หกตัวต่ำลง กระดูกซี่โครงยกตัวขึ้น ท้องป่อง ขณะนั้นเป็นการหายใจเข้า และถ้ากะบังลม คลายตัว กระดูกซี่โครงลดต่ำลง ท้องแฟบ เป็นการหายใจออก ถุงลมปอด
ระบบขับถ่ายของเสีย การขับถ่ายเป็นระบบกำจัดของเสียจากร่างกาย และช่วยควบคุมปริมาณของน้ำในร่างกายให้สมบูรณ์ประกอยด้วย ไต ตับ และลำไส้ เป็นต้น
ระบบขับถ่ายของเสีย ไต มีหน้าที่ขับสิ่งที่ร่างกายไม่ได้ใช้ออกจากร่างกาย อยู่ด้านหลังของช่องท้อง ลำไส้ใหญ่ มีหน้าที่ขับกากอาหารที่เหลือจากการย่อยของระบบย่อยอาหารออกมาเป็นอุจจาระ โครงสร้างของระบบขับถ่าย ไตเป็นอวัยวะที่กรองของเสียเพื่อกำจัดของเสียออกจากร่างกาย ไตของคนมี 1 คู่ อยู่ในช่องท้องสองข้างของกระดูกสันหลังระดับเอว มีรูปร่างคล้ายเมล็ดถั่ว ต่อจากไตทั้งสองข้างมีท่อไตทำหน้าที่ลำเลียงน้ำปัสสาวะจากไตไปเก็บไว้ที่กระเพาะปัสสาวะ ก่อนจะขับถ่ายออกมานอกร่างกายทางท่อปัสสาวะเป็นน้ำปัสสาวะนั่นเอง
ระบบขับถ่ายของเสีย ผิวหนัง การกำจัดของเสียออกทางผิวหนัง ในรูปของเหงื่อ เหงื่อประกอบไปด้วยน้ำเป็นส่วนใหญ่ เหงื่อจะถูกขับออกจากร่างกายทางผิวหนัง โดยผ่านต่อมเหงื่อซึ่งอยู่ใต้ผิวหนัง ต่อมเหงื่อมี 2 ชนิด คือ 1. ต่อมเหงื่อขนาดเล็ก มีอยู่ทั่วผิวหนังในร่างกาย ยกเว้นท่าริมฝีปากและอวัยวะสืบพันธุ์ ต่อมเหงื่อขนาดเล็กมีการขับเหงื่อออกมาตลอดเวลา เหงื่อที่ออกจากต่อมขนาดเล็กนี้ประกอบด้วยน้ำร้อยละ 99 สารอื่นๆ ร้อยละ 1 ได้แก่ เกลือโซเดียม และยูเรีย 2. ต่อมเหงื่อขนาดใหญ่ จะอยู่ที่บริเวณ รักแร้ รอบหัวนม รอบสะดือ ช่องหูส่วนนอก อวัยวะเพศบางส่วน ต่อมนี้มีท่อขับถ่ายใหญ่กว่าชนิดแรกต่อมนี้จะตอบสนองทางจิตใจ สารที่ขับถ่ายมักมีกลิ่น ซึ่งก็คือกลิ่นตัวเหงื่อ จะถูกลำเลียงไปตามท่อที่เปิดอยู่ ที่เรียกว่า รูเหงื่อ
ระบบขับถ่ายของเสีย ลำไส้ใหญ่ กากอาหารที่เหลือกจากการย่อย จะถูกลำเลียงผ่านมาที่ลำไส้ใหญ่ โดยลำไส้ใหญ่จะทำหน้าที่สะสมกากอาหารและจะดูดซึม สารอาหารที่มีประโยชน์ ต่อร่างกายได้แก่ น้ำ แร่ธาตุ วิตามิน และกลูโคส ออกจากกากอาหาร ทำให้กากอาหารเหนียวและข้นจนเป็นก้อนแข็ง จากนั้นลำไส้จะบีบตัวเพื่อให้กากอาหารเคลื่อนที่ไปรวมกันที่ลำไส้ตรง และขับถ่ายสู่ภายนอกร่างกายทางทวารหนัก ที่เรียกว่า อุจจาระ
การเจริญเติบโตของร่างกาย
การเจริญเติบโตของร่างกาย . การเจริญเติบโตของร่างกายในวัยต่างๆ ร่างกายคนเรา มีการเจริญเติบโตจากวัยทารกสู่วัยเด็ก วัยรุ่น และวัยผู้ใหญ่ ซึ่งในแต่ละวัยขนาดของร่างกายจะมีการเปลี่ยนแปลงแตกต่างกันไป การเจริญเติบโตทางร่างกายของคนเรา สักเกตได้จากสิ่งต่อไปนี้ น้ำหนัก ส่วนสูง ความยาวของลำตัว ความยาวของช่วงแขนเมื่อกางเต็มที่ ความยาวของเส้นรอบวงศีรษะ ความยาวของเส้นรอบอก การขึ้นของฟันแท้
การเจริญเติบโตของร่างกาย เด็กวัยทารกหรือเด็กวัยแรกเกิด เด็กวัยแรกเกิดจะมีอายุอยู่ในช่วงตั้งแต่แรกเกิดจนถึงสามปี จะมีการเจริญเติบโตโดยมีสัดส่วนของศีรษะต่อลำตัวเป็น 1 ต่อ 4 เด็กก่อนวัยเรียน ในวัยนี้จะมีอายุอยู่ในช่วง 3 -6 ปี รูปร่างและสัดส่วนของเด็กจะเปลี่ยนไปจากวัยแรกเกิด ดังนี้ รูปร่างค่อยๆ ยืดตัวออกใบหน้าและศีรษะเล็กลงเมือเทียบกับลำตัว มือและเท้าใหญ่และแข็งแรง อกและไหล่ขยายกว้างขึ้น แต่หน้าท้องแฟบลง เด็กวัยเรียน เด็กในวัยเรียนอายุระหว่าง 6 – 12 ปี จะมีการเจริญเติบโต ดังนี้ น้ำหนักโดยเฉลี่ยจะเพิ่มขึ้นประมาณ 2 – 3 กิโลกรัมต่อปี ส่วนสูงเพิ่มประมาณ 4 – 5 เซนติเมตรต่อปี ฟันน้ำนมจะเริ่มหักเมื่ออายุประมาณ 6 ปี และจะมีฟันแท้ขึ้นมาแทนที่ เด็กวัยรุ่น เด็กวัยรุ่นจะมีอายุอยู่ในช่วงอายุประมาณ 10 ปีขึ้นไป จนถึงอายุประมาณ 20 ปี ระยะวัยรุ่นจัดว่าเป็นวัยที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะเป็นวัยที่ร่างกายและจิตใจเริ่มเปลี่ยนจากวัยเด็กเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ จึงจัดว่าเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญของชีวิต ซึ่งถ้าวัยรุ่นไม่ได้รับการแนะนำอย่างถูกต้อง อาจทำให้ประพฤติในสิ่งที่ผิดได้ เมื่อย่างเข้าสู่วัยรุ่น ทั้งเพศชายและเพศหญิงจะมีการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ดังนี้ เพศชาย จะมีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว เมื่ออายุประมาณ 15 ปี ร่างกายจะขยายใหญ่ขึ้นมีกล้ามเนื้อขึ้นเป็นมัด แขนขาขาวใหญ่ขึ้น มีหนวดเครา นมแตกพานเสียงห้าว มีขนขึ้น เพศหญิง จะมีส่วนสูงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เมืออายุประมาณ 15 ปี หน้าอกจะขยายใหญ่ขึ้น เอวคอด สะโพกพาย ใบหน้าและผิวพรรณเปล่งปลั่งขึ้น มีสิวขึ้นที่ใบหน้าและมีประจำเดือน