วิชากฎหมายอาญาภาคทั่วไป (177285) สงกรานต์ ป้องบุญจันทร์ คณะนิติศาสตร์ ม.เชียงใหม่ kansft@hotmail.com
แนะนำเอกสารและรูปแบบการสอน เริ่มต้นด้วยการอภิปรายคดีอาญาที่เป็นข่าวที่น่าสนใจ 2. เฉลยข้อสอบกลางภาค 3. ข้อสังเกตความผิดฐานลักทรัพย์ ยักยอกทรัพย์และฉ้อโกง 4. ความผิดฐานลักทรัพย์
ข้อสอบข้อ ๑ ข้อ ๑. ให้นักศึกษาอธิบายองค์ประกอบของความผิดต่อชีวิตในมาตรา ๒๘๘, มาตรา ๒๙๐ และมาตรา ๒๙๑ ว่ามีอยู่อย่างไร โดยยกตัวอย่างประกอบคำอธิบายให้ชัดเจน และเปรียบเทียบให้เห็นความแตกต่างที่เป็นสาระสำคัญของความผิดทั้งสาม (๑๐ คะแนน)
แนวคำตอบ ๑.อธิบายองค์ประกอบของมาตรา ๒๘๘, ๒๙๐ และ ๒๙๑ พร้อมยกตัวอย่างประกอบทั้ง ๓ มาตรา ๒. ความแตกต่าง ๒.๑ องค์ประกอบภายนอกในส่วนของการกระทำ มาตรา ๒๘๘ การกระทำ คือ การฆ่า มาตรา ๒๙๐ การกระทำ คือ การทำร้าย มาตรา ๒๙๑ การกระทำ คือ การกระทำอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลาย
แนวคำตอบ ๒.๑ องค์ประกอบภายใน มาตรา ๒๘๘ คือ เจตนาฆ่า มาตรา ๒๙๐ คือ เจตนาทำร้ายร่างกาย มาตรา ๒๙๑ คือ ไม่มีเจตนาฆ่าและไม่มีเจตนาทำร้าย แต่ประมาท คือ สามารถใช้ความระมัดระวังตามวิสัยและพฤติการณ์ของคนที่อยู่ในภาวะเช่นนั้นได้แต่ไม่ใช้
แนวคำตอบ ๒.๓ โทษ มาตรา ๒๘๘ โทษขั้นต่ำหนักที่สุด คือ จำคุกตั้งแต่สิบห้าปีถึงยี่สิบปี จำคุกตลอดชีวิต หรือประหารชีวิต มาตรา ๒๙๐ โทษขั้นต่ำหนักรองลงมา คือ จำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบห้าปี มาตรา ๒๙๑ โทษขั้นต่ำเบาที่สุด คือ จำคุกไม่เกินสิบปี กล่าวคือ ไม่มีการกำหนดโทษขั้นต่ำไว้
ข้อสอบข้อ ๒ ข้อ ๒. เหี้ยมและละมุน เป็นสามีภรรยากัน ทั้งคู่ยังไม่มีแผนที่จะมีลูก แต่ละมุนได้ตั้งครรภ์โดยไม่ได้ตั้งใจ เหี้ยมไม่พอใจที่ละมุนปล่อยให้ตัวเองตั้งครรภ์จึงโทษและดุละมุนมาโดยตลอด วันหนึ่งขณะที่ละมุนตั้งครรภ์ได้ ๔ เดือน เหี้ยมซึ่งเมาเหล้า ได้บอกกับละมุนว่า “ไม่ต้องเอามันไว้แล้วไอ้มารหัวขน ทำลายชีวิตพ่อแม่ กูจะเอามึงออกมาเอง” ละมุนยอมให้เหี้ยมทำร้ายเพราะคิดในใจว่า “มารหัวขนจริง ๆ อย่างที่พ่อมันว่า ตายไปได้ก็ดี” ว่าแล้วเหี้ยมก็กำหมัดและวิ่งไปต่อยที่ท้องละมุนเต็มแรง โดยที่ละมุนไม่หลบเลี่ยงแต่อย่างใด แต่ด้วยความเมา หมัดของเหี้ยมได้พลาดไปถูกบริเวณหน้าอกของละมุนและเหี้ยมก็เซล้มลงไปหัวฟาดพื้นจนหัวแตก การหัวแตกทำให้เหี้ยมเริ่มหายเมาและได้สติขึ้นมา เขาสำนึกได้ว่าการท้องของละมุนเป็นความรับผิดชอบของเขาและละมุน ทารกในท้องไม่มีส่วนผิดแม้แต่น้อย เขาจึงขอโทษละมุนและบอกกับละมุนว่าเขาจะตั้งใจทำงานเพื่อเลี้ยงลูกและครอบครัว ละมุนได้ฟังเช่นนั้นก็รู้สึกผิดเช่นกัน เธอเห็นด้วยกับเหี้ยมว่าทารกไม่ผิดและตัดสินใจว่าจะร่วมกันเลี้ยงลูกคนนี้อย่างดีที่สุด จากนั้นเหี้ยมพาละมุนไปหาหมอ ผลปรากฏว่าลูกในท้องยังปลอดภัย แต่ละมุนบาดเจ็บเล็กน้อยบริเวณหน้าอก เช่นนี้ ให้ท่านวินิจฉัยว่าเหี้ยมกับละมุนต้องรับผิดทางอาญาหรือไม่อย่างไร
แนวคำตอบ ๑. หลักกฎหมายที่เกี่ยวข้องได้แก่มาตรา ๘๐, ๓๐๑, ๓๐๒, ๓๐๔, ๓๙๑
แนวคำตอบ ๒.๑ ความรับผิดของเหี้ยม ๒.๑.๑ ความรับผิดเกี่ยวกับการทำให้ผู้หญิงแท้งลูก เหี้ยมมีเจตนาทำให้ละมุนแท้งลูก โดยขณะลงมือนั้นละมุนยินยอมให้กระทำ การกระทำของเขาจึงเป็นความผิดฐานทำให้ผู้หญิงแท้งลูกโดยที่ผู้หญิงยินยอมตามมาตรา ๓๐๒ แต่การกระทำของเหี้ยมไม่บรรลุผล เหี้ยมจึงมีความผิดฐานพยายามทำให้ผู้หญิงแท้งลูกตามมาตรา ๓๐๒ ประกอบกับมาตรา ๘๐ ซึ่งต้องรับโทษสองในสามของโทษที่กฎหมายกำหนดไว้
แนวคำตอบ อย่างไรก็ตามในเรื่องการพยายามกระทำความผิดตามมาตรา ๓๐๒ นั้นมาตรา ๓๐๔ กำหนดไว้เป็นพิเศษแตกต่างจากหลักทั่วไปว่าผู้พยายามกระทำความผิดไม่ต้องรับโทษตามกฎหมาย เหี้ยมจึงไม่ต้องรับโทษ
แนวคำตอบ ๒.๑.๒ ความรับผิดเกี่ยวกับการทำร้ายร่างกาย การที่เหี้ยมเจตนาทำให้ละมุนแท้งลูกแต่ไม่สำเร็จ และมีผลทำให้ละมุนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยที่บริเวณหน้าอกนั้น ไม่เป็นการใช้กำลังทำร้ายผู้อื่นโดยไม่ถึงกับเป็นอันตรายแก่กายหรือจิตใจตามมาตรา ๓๙๑ เพราะ ความผิดตามมาตรา ๓๙๑ นี้ต้องมีเจตนาใช้กำลังทำร้ายร่างกายในลักษณะที่ไม่รุนแรงมาตั้งแต่ต้น ซึ่งไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริงในคดีนี้ที่เขาเจตนาทำให้ละมุนแท้งลูกซึ่งมีลักษณะรุนแรงและมีความผิดฐานพยายามทำแท้ง แต่กฎหมายยกเว้นโทษให้ การกระทำของเขาจึงไม่เป็นความผิดตามมาตรานี้
แนวคำตอบ ๒.๒ ความรับผิดของละมุน ละมุนยินยอมให้เหี้ยมทำให้ตนเองแท้งลูก เป็นการกระทำความผิดกฎหมาย ฐานเป็นผู้หญิงยินยอมให้ผู้อื่นทำให้ตนแท้งลูกตามมาตรา ๓๐๑ แต่การกระทำของเหี้ยมไม่บรรลุผล ละมุนไม่แท้งลูก ละมุนจึงมีความผิดเพียงฐานพยายามกระทำความผิดตามมาตรา ๓๐๑ ประกอบกับมาตรา ๘๐ ซึ่งต้องรับโทษสองในสามของโทษที่กฎหมายกำหนดไว้
แนวคำตอบ อย่างไรก็ตามในเรื่องการพยายามกระทำความผิดตามมาตรา ๓๐๑ นั้นมาตรา ๓๐๔ กำหนดไว้เป็นพิเศษแตกต่างจากหลักทั่วไปว่าผู้พยายามกระทำความผิดไม่ต้องรับโทษตามกฎหมาย ละมุนจึงไม่ต้องรับโทษ
แนวคำตอบ ๓.สรุป เหี้ยมมีความผิดฐานพยายามทำให้ผู้หญิงแท้งลูกโดยที่ผู้หญิงยินยอม แต่กฎหมายยกเว้นโทษให้เขาจึงไม่ต้องรับโทษ การกระทำของเหี้ยมไม่เป็นความผิดฐานใช้กำลังทำร้ายผู้อื่นโดยไม่ถึงกับเป็นอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ละมุนมีความผิดฐานพยายามทำให้ตนเองแท้งลูก แต่กฎหมายยกเว้นโทษให้เธอจึงไม่ต้องรับโทษ
ข้อสอบข้อ ๓ สนอง เล่าให้ ศักดา ฟังว่า “เมื่อวานข้าเห็นเดชา น้องเขยของแกพาผู้หญิงเข้าโรงแรมม่านรูด ข้าสงสัย จึงเข้าไปถามเจ้าหน้าที่โรงแรมเขาบอกข้าว่าน้องเขยเอ็งเป็นขาประจำของโรงแรมแต่ผู้หญิงที่พามาด้วยไม่เคยซ้ำหน้า” ศักดาได้ฟังก็โกรธมากที่เดชาไม่ซื่อสัตย์กับน้องสาวของตน ด้วยความโกรธจึงพูดว่า “ไอ้เดชา ไอ้สัตว์ ไอ้หน้าส้นตีน ไอ้สารเลว เดี๋ยวมึงเจอกูแน่” จากข้อเท็จจริงข้างต้น หากต่อมาเดชาทราบเรื่องทั้งหมดเขาจะสามารถดำเนินคดีกับสนองและศักดาได้หรือไม่อย่างไร
แนวคำตอบ หลักกฎหมายที่เกี่ยวข้อง มาตรา ๓๒๖, มาตรา ๓๙๓
แนวคำตอบ ๒.๑ ความรับผิดของสนอง คำพูดของสนองที่ว่า “เมื่อวานข้าเห็นเดชา น้องเขยของแกพาผู้หญิงเข้าโรงแรมม่านรูด ข้าสงสัย จึงเข้าไปถามเจ้าหน้าที่โรงแรมเขาบอกข้าว่าน้องเขยเอ็งเป็นขาประจำของโรงแรมแต่ผู้หญิงที่พามาด้วยไม่เคยซ้ำหน้า” เป็นการใส่ความเดชาต่อบุคคลที่สามในประการที่น่าจะทำให้เดชาเสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นและถูกเกลียดชัง เพราะเป็นการกล่าวยืนยันข้อเท็จจริงที่เสื่อมเสียทางประเวณีของเดชาต่อศักดาซึ่งเป็นบุคคลที่สาม ซึ่งการกล่าวถ้อยคำเช่นนี้ย่อมทำให้เดาชาเสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นและถูกเกลียดชังได้ การกระทำของสนองจึงเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท เดชาจึงสามารถดำเนินคดีฐานหมิ่นประมาทกับสนองได้
แนวคำตอบ ๒.๒ ความรับผิดของศักดา การกล่าวถ้อยคำของศักดาที่ว่า “ไอ้เดชา ไอ้สัตว์ ไอ้หน้าส้นตีน ไอ้สารเลว เดี๋ยวมึงเจอกูแน่” เป็นการดูถูกเหยียดหยามและทำให้ เดชาอับอายขายหน้าเป็นการลดคุณค่าความเป็นมนุษย์ของเดชา แต่ไม่มีลักษณะเป็นการยืนยันข้อเท็จจริง จึงเป็นถ้อยคำดูหมิ่น แต่ไม่เป็นถ้อยคำที่มีลักษณะหมิ่นประมาท การกระทำของศักดาจึงไม่ผิดฐานหมิ่นประมาท อย่างไรก็ตาม การกระทำของศักดาขาดองค์ประกอบฐานดูหมิ่นตามมาตรา ๓๙๓ เนื่องจากขณะที่ศักดาพูดนั้นไม่ได้พูดต่อหน้าเดชาหรือไม่ได้มีลักษณะเป็นการโฆษณา การกระทำของศักดาจึงไม่เป็นความผิดฐานดูหมิ่นซึ่งหน้าหรือด้วยการโฆษณาตามมาตรา ๓๙๓ เดชาจึงไม่อาจดำเนินคดีกับศักดาได้
แนวคำตอบ เดชาสามารถดำเนินคดีกับสนองในข้อหาหมิ่นประมาทได้ ๓. สรุป เดชาสามารถดำเนินคดีกับสนองในข้อหาหมิ่นประมาทได้ เดชาไม่สามารถดำเนินคดีกับศักดาในข้อหาหมิ่นประมาท และดูหมิ่นซึ่งหน้าหรือด้วยการโฆษณาได้
กรณีศึกษาที่ ๑ สุรชัย และสมชายเป็นเพื่อนบ้านกัน วันหนึ่งสุรชัยซื้อแอปเปิ้ลจากตลาดมา ๑๒ ลูก โดยนำไปแขวนไว้หน้าบ้านเพื่อไปทำธุระ สมชายกลับจากทำงานก่อสร้างด้วยความเหนื่อยล้าและหิว ขณะเดินผ่านหน้าบ้านสุรชัยเห็นแอปเปิ้ลแขวนอยู่จึงหยิบแอปเปิ้ลมาสองลูก ขณะหยิบก็พรึมพรำว่า “ขอยืมหน่อยนะสุรชัย เดี๋ยวซื้อมาคืน” เช่นนี้สมชายมีความผิดหรือไม่อย่างไร
กรณีศึกษาที่ ๒ สุรชัยและสมชาย เป็นเพื่อนกัน สมชายชอบจักรยานของสุรชัยมาก วันหนึ่งขณะที่ทั้งสองกำลังจะเดินทางไปต่างจังหวัดด้วยกัน ทั้งคู่ปั่นจักรยานไปฝากไว้ที่ร้านฝากรถและได้บัตรฝากรถคนละเบอร์ ขณะที่สุรชัยเผลอสมชายก็แอบเปลี่ยนเอาบัตรของสุรชัยมาขอแลกจักรยานของสุรชัย แต่เจ้าของร้านจำได้ว่าเป็นรถของสุรชัยจึงไม่ยอมให้ สมชายจึงบอกว่าเป็นเพื่อนกันเปลี่ยนกันขี่ เจ้าของร้านจึงยอมมอบจักรยานให้ สมชายจึงเอาจักรยานหนีไป
กรณีศึกษาที่ ๓ แจ่มจรัสขับรถมอเตอร์ไซด์มาฝากไว้ที่ร้านฝากรถที่ ขนส่งอาเขตเพื่อเดินทางไปต่างจังหวัด วันก่อนที่แจ่ม จรัสจะกลับมารับรถ สมชายมารับรถของตนที่ร้าน เดียวกันปรากฏว่ารถน้ำมันหมด ด้วยความใจดีของ เจ้าของร้าน เจ้าของร้านจึงดูดเอาน้ำมันจากรถของ แจ่มจรัสเติมให้สมชายจนสมชายขี่รถกลับบ้านได้ เช่นนี้สมชายและเจ้าของร้านมีความรับผิดทางอาญา หรือไม่อย่างไร
กรณีศึกษาที่ ๔ ทุจริตซึ่งรอรถเมล์อยู่บริเวณป้ายรถเมล์ เห็นเรณู นั่ง ทุจริตซึ่งรอรถเมล์อยู่บริเวณป้ายรถเมล์ เห็นเรณู นั่ง หลับอยู่บนรถเมล์ โดยที่มือซึ่งสวมสร้อยทองอยู่ยื่น ออกมานอกรถเมล์ ขณะที่รถเมล์กำลังเคลื่อนตัวออกไป ทุจริตก็ไปคว้าสร้อยเส้นดังกล่าวจากข้อมือของเรณู เรณูสะดุ้งตื่นทันเห็นทุจริตเอาสร้อยไป เช่นนี้ทุจริตมี ความผิดฐานใด กรณีจะเป็นอย่างไรถ้าทุจริตค่อย ๆ ใช้ คีมตัดสร้อยไปโดยที่เรณูหลับไม่รู้ตัว
กรณีศึกษาที่ ๕ แสงชัย อยากได้นาฬิกา SEIKO รุ่น AA ซึ่งราคา ๕๐,๐๐๐ บาท แต่เขามีเงินไม่พอ จึงเอาป้ายราคาของรุ่น BB ซึ่งราคา ๑๐,๐๐๐ บาทมาเปลี่ยนแทน แล้วนำเงินไปจ่าย ๑๐,๐๐๐ บาท เช่นนี้แสงชัยมีความรับผิดฐานใด
กรณีศึกษาที่ ๖ เสถียรอยากได้ประมวลกฎหมายอาญา ฉบับอ้างอิงของสุทัศน์เป็นของตัวเอง จึง ทำทีเป็นขอยืมไปอ่าน แต่พอสุทัศน์ขอ คืนกลับปฏิเสธว่าไม่เคยยืมหนังสือของ สุทัศน์มาก่อนเลย เช่นนี้เสถียรมีความรับผิด ทางอาญาหรือไม่อย่างไร
กรณีศึกษาที่ ๗ เสถียรอยากได้ประมวลกฎหมายอาญา ฉบับอ้างอิงของสุทัศน์เป็นของตัวเอง จึง ทำทีเป็นขอซื้อ แต่พอสุทัศน์มอบหนังสือให้แล้ว เสถียรก็ขอไปกดเงินและเอาหนังสือหลบหนีไปเลยเช่นนี้เสถียรมีความรับผิดทางอาญาหรือไม่อย่างไร
ความผิดฐานลักทรัพย์ ม.๓๓๔ องค์ประกอบภายนอก ผู้ใด เอาไป ทรัพย์ของผู้อื่น หรือผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วย ๒. องค์ประกอบภายใน เจตนาธรรมดา (ประสงค์หรือเล็งเห็นผล) เจตนาพิเศษ โดยทุจริต
การเอาไป ๒. ต้องเป็นการแย่งการครอบครอง ๓. ต้องมีลักษณะตัดกรรมสิทธิ์ ๑. ต้องเป็นทรัพย์ที่อยู่ในการครอบครองของผู้อื่น ๒. ต้องเป็นการแย่งการครอบครอง ๓. ต้องมีลักษณะตัดกรรมสิทธิ์
๑.ต้องเป็นทรัพย์ที่อยู่ใน ความครอบครองของผู้อื่น การครอบครองตามความเป็นจริง คือ ดูจากตัวทรัพย์และวิธีการครอบครองทรัพย์นั้นโดยทั่วไป การครอบครองตามเจตจำนง คือ ดูจากเจตจำนงของเจ้าของทรัพย์เป็นหลัก การทำของหาย ถ้ายังอยู่ในบริเวณนั้นหรือเจ้าทรัพย์กำลังติดตามเอาคืนในเวลาใกล้ชิดถือว่ายังครอบครอง
๑.ต้องเป็นทรัพย์ที่อยู่ใน ความครอบครองของผู้อื่น เสกสรรทำโทรศัพท์มือถือหาย เขาพยายามตามหาหลายวันแต่ก็ไม่พบ จึงตัดสินใจซื้อใหม่ ต่อมาธานีเก็บมือถือของเสกสรรได้บริเวณริมอ่างแก้วจึงนำมาใช้ ขณะที่ธานีโทรศัพท์อยู่หน้าคณะฯ เสกสรรจำได้ว่าเป็นโทรศัพท์ตัวเองจึงต้องการแจ้งความดำเนินคดีกับธานี เช่นนี้ธานีมีความรับผิดทางอาญาหรือไม่อย่างไร
๑.ต้องเป็นทรัพย์ที่อยู่ใน ความครอบครองของผู้อื่น เครื่องบินของสายการบิน A ตก ทุกคนบนเครื่องบินเสียชีวิตทั้งหมด สำราญและเสรีไปพบซากเครื่องบินตกหลังเกิดเหตุไม่นาน พอเห็นว่าไม่มีใครรอดชีวิตจึงช่วยกันเก็บทรัพย์สินที่เหลืออยู่ เช่นนี้ทั้งคู่มีความรับผิดทางอาญาหรือไม่อย่างไร
๒. ต้องเป็นการแย่งการครอบครอง การแย่งการครอบครองหมายถึงการเข้าถือเอาทรัพย์โดยผู้ครอบครองเดิมไม่อนุญาต ฝ่าฝืนความเจตจำนงของผู้ครอบครองเดิม เป็นการทำร้ายสิทธิครอบครองของผู้ครอบครองเดิม
๒. ต้องเป็นการแย่งการครอบครอง สุรชัย และสมชายเป็นเพื่อนบ้านกัน วันหนึ่งสุรชัยซื้อแอปเปิ้ลจากตลาดมา ๑๒ ลูก โดยนำไปแขวนไว้หน้าบ้านเพื่อไปทำธุระ สมชายกลับจากทำงานก่อสร้างด้วยความเหนื่อยล้าและหิว ขณะเดินผ่านหน้าบ้านสุรชัยเห็นแอปเปิ้ลแขวนอยู่จึงหยิบแอปเปิ้ลมาสองลูก ขณะหยิบก็พรึมพรำว่า “ขอยืมหน่อยนะสุรชัย เดี๋ยวซื้อมาคืน” เช่นนี้สมชายมีความผิดหรือไม่อย่างไร
๒. ต้องเป็นการแย่งการครอบครอง ธเนศ ให้จำเนียรยืมหนังสือวิชากฎหมายอาญา ต่อมาเมื่อถึงกำหนดการคืนหนังสือจำเนียรไม่ ยอมคืนเพราะเห็นว่าหนังสือของธเนศดีมากมี การทำบันทึกย่อไว้ทำให้เข้าใจได้ง่าย จำเนียร อ้างว่าธเนศไม่เคยให้เธอยืมหนังสือเลย เช่นนี้ จำเนียรมีความรับผิดทางอาญาหรือไม่อย่างไร
๒. ต้องเป็นการแย่งการครอบครอง เสถียรอยากได้ประมวลกฎหมายอาญา ฉบับอ้างอิงของสุทัศน์เป็นของตัวเอง จึง ทำทีเป็นขอยืมไปอ่าน แต่พอสุทัศน์ขอ คืนกลับปฏิเสธว่าไม่เคยยืมหนังสือของ สุทัศน์มาก่อนเลย เช่นนี้เสถียรมีความรับผิด ทางอาญาหรือไม่อย่างไร
๓.ต้องมีลักษณะตัดกรรมสิทธิ์ การตัดกรรมสิทธิ์ คือ ต้องเป็นการเอาไปอย่างถาวร กล่าวคือ เจตนาเอาไปเป็นของตน ต่อประเด็นนี้มีสองความเห็น คือ แนวแรก ศาลฎีกาและเกียรติขจร เห็นว่าต้อง เอาไปอย่างถาวรจึงจะผิดฐานลักทรัพย์ แนวสอง ทวีเกียรติ เห็นว่าแม้เอาไปชั่วคราวก็ ผิดฐานลักทรัพย์แล้ว
๓.ต้องมีลักษณะตัดกรรมสิทธิ์ แทนไท ไม่มีหนังสืออ่านช่วงก่อนสอบ หนังสือใน ห้องสมุดก็ถูกยืมออกไปหมด เงินก็ไม่มีซื้อหนังสือ เขา จึงเอาหนังสือของสำราญไปขณะที่สำราญเผลอ โดย ตั้งใจจะเอาไปอ่านเสร็จแล้วจะเอามาคืน เมื่อสอบเสร็จ เขาก็เอามาคืน เช่นนี้แทนไทมีความรับผิดทางอาญา หรือไม่อย่างไร กรณีจะเป็นอย่างไรถ้าแทนไทเอาไปอ่าน ทั้งเทอมแล้วค่อยเอามาคืน
๓.ต้องมีลักษณะตัดกรรมสิทธิ์ สมัยปั่นจักรยานไปเที่ยวงานวัดที่ห่างจากบ้านประมาณ ๒ กม. ขากลับพบว่าจักรยานหายไป เขาตกใจมาก จึงไปแจ้งความ ต่อมาเมื่อเขากลับมาที่บ้านเพื่อแจ้งพ่อกับแม่ กลับพบว่าจักรยานคันดังกล่าวจอดอยู่ที่บ้านแดงซึ่งเป็นเพื่อนของตน โดยแดงเป็นคนปั่นกลับมาเพราะปวดท้องและจำได้ว่าเป็นรถของสมัย เพื่อนสนิทและคิดว่าเสร็จธุระจะปั่นกลับไปจอดที่เดิม เช่นนี้ตำรวจจะดำเนินคดีกับแดงได้หรือไม่อย่างไร
ทรัพย์ คำอธิบายทางตำรา คือ วัตถุมีรูปร่าง มี ราคาหรือคุณค่าและอาจถือเอาได้
ทรัพย์ กระแสไฟฟ้าเป็นทรัพย์หรือไม่ สัญญาณโทรศัพท์สาธารณะเป็นทรัพย์หรือไม่ สัญญาณโทรศัพท์เป็นทรัพย์หรือไม่ ศพเป็นทรัพย์หรือไม่
ทรัพย์ หมอเดชจอมขมังเวช พาลูกศิษย์ไปขุดเอาศพในป่าช้ามาเพื่อทำพิธีทางไสยศาสตร์ โดยเอากะโหลกของศพมา ๕ หัวกะโหลก ชาวบ้านแถวนั้นทราบเรื่องจึงไปแจ้งความดำเนินคดี เช่นนี้หมอเดชมีความรับผิดทางอาญาหรือไม่อย่างไร กรณีจะเป็นอย่างไรถ้าเขาไปเอาศพที่ใช้เป็นอาจารย์ใหญ่ของโรงพยาบาลเชียงใหม่
ทรัพย์ สมร แอบได้ยินเพื่อนบ้านพูดคุยเกี่ยวกับ รหัสใช้อินเตอร์เนต Wifi ของเพื่อนบ้าน สมรจำรหัสได้จึงเอารหัสดังกล่าวแล้วเข้าใช้ อินเตอร์เนตจากบ้านตนเอง เป็นเวลาหลาย เดือน เช่นนี้สมรมีความรับผิดทาง อาญาหรือไม่อย่างไร
ความผิดฐานวิ่งราวทรัพย์ ม.๓๓๖ องค์ประกอบภายนอก ผู้ใด ลักทรัพย์ โดยฉกฉวยเอาซึ่งหน้า องค์ประกอบภายใน เจตนาธรรมดา เจตนาพิเศษ โดยทุจริต
ความผิดฐานวิ่งราวทรัพย์ ม.๓๓๖ ฉกฉวยเอาซึ่งหน้า หมายถึง การทำลาย การครอบครอง โดยที่เจ้าของทรัพย์หรือผู้ ครอบครองรู้สึกตัวอยู่ แต่ไม่จำเป็นต้องวิ่งหรือ คว้าไปโดยพฤติการณ์พิเศษแต่อย่างใด
กรณีศึกษาที่ ๔ ทุจริตซึ่งรอรถเมล์อยู่บริเวณป้ายรถเมล์ เห็นเรณู นั่ง ทุจริตซึ่งรอรถเมล์อยู่บริเวณป้ายรถเมล์ เห็นเรณู นั่ง หลับอยู่บนรถเมล์ โดยที่มือซึ่งสวมสร้อยทองอยู่ยื่น ออกมานอกรถเมล์ ขณะที่รถเมล์กำลังเคลื่อนตัวออกไป ทุจริตก็ไปคว้าสร้อยเส้นดังกล่าวจากข้อมือของเรณู เรณูสะดุ้งตื่นทันเห็นทุจริตเอาสร้อยไป เช่นนี้ทุจริตมี ความผิดฐานใด กรณีจะเป็นอย่างไรถ้าทุจริตค่อย ๆ ใช้ คีมตัดสร้อยไปโดยที่เรณูหลับไม่รู้ตัว
กรณีศึกษาที่ ๖ เสถียรอยากได้ประมวลกฎหมายอาญา ฉบับอ้างอิงของสุทัศน์เป็นของตัวเอง จึง ทำทีเป็นขอยืมไปอ่าน แต่พอสุทัศน์มอบให้ก็บอกว่า “ขอบใจมาก หนังสือเล่มนี้เป็นของกูแล้ว กูไม่คืนมึงหรอกแล้ววิ่งหนีไป” กรณีเช่นนี้เป็นความผิดอาญาฐานใด
ความผิดฐานวิ่งราวทรัพย์ ม.๓๓๖ บทฉกรรจ์ วรรคสอง สามและสี่ เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
กรณีศึกษา ทุจริตซึ่งรอรถเมล์อยู่บริเวณป้ายรถเมล์ เห็นเรณู นั่ง ทุจริตซึ่งรอรถเมล์อยู่บริเวณป้ายรถเมล์ เห็นเรณู นั่ง หลับอยู่บนรถเมล์ โดยที่มือซึ่งสวมสร้อยทองอยู่ยื่น ออกมานอกรถเมล์ ขณะที่รถเมล์กำลังเคลื่อนตัวออกไป ทุจริตก็ไปคว้าสร้อยเส้นดังกล่าวจากข้อมือของเรณู เรณูสะดุ้งตื่นทันเห็นทุจริตเอาสร้อยไป เนื่องจากสร้อย เส้นดังกล่าวเป็นของขวัญแต่งงานของเรณู เรณูจึง ตรอมใจจนตาย เช่นนี้ทุจริตมีความผิดฐานใด