Good morning welcome to Calvary Chapel at the Bridge สวัสดีตอนเช้าขอต้อนรับสู่ โบสถ์แคล'วะรีแชพ'เพิลที่สะพาน
Psalm เพลงสดุดีบทที่ 102
A Prayer of one afflicted, when he is faint and pours out his complaint before the Lord 1Hear my prayer, O LORD; let my cry come to You!
1คำอธิษฐานของผู้ถูกข่มใจ เมื่อเขาอ่อนระอาใจและระบายความนั้นต่อพระเจ้า ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงฟังคำอธิษฐานของข้าพระองค์ ขอเสียงร้องของข้าพระองค์มาถึงพระองค์
2Do not hide Your face from me in the day of my distress 2Do not hide Your face from me in the day of my distress! Incline Your ear to me; answer me speedily in the day when I call!
2ขออย่าทรงซ่อนพระพักตร์ของพระองค์จากข้าพระองค์ ในวันทุกข์ใจของข้าพระองค์ ขอทรงเงี่ยพระกรรณฟังข้าพระองค์ ขอทรงตอบข้าพระองค์โดยเร็ว เมื่อข้าพระองค์ร้องทูลต่อพระองค์
3For my days pass away like smoke, and my bones burn like a furnace
4My heart is struck down like grass and has withered; I forget to eat my bread. 4จิตใจของข้าพระองค์ถูกนาบเหมือนหญ้าและเหี่ยวไป ข้าพระองค์ลืมรับประทานอาหารของข้าพระองค์
5Because of my loud groaning my bones cling to my flesh
6I am like a desert owl of the wilderness, like an owl of the waste places; 6ข้าพระองค์เป็นเหมือนนกกระทุงที่ในถิ่นทุรกันดาร ดุจนกเค้าแมวในที่ร้างเปล่า
7I lie awake; I am like a lonely sparrow on the housetop
8All the day my enemies taunt me; those who deride me use my name for a curse. 8ศัตรูของข้าพระองค์เยาะหยันข้าพระองค์วันยังค่ำ ผู้ที่คลั่งใส่ข้าพระองค์ใช้ชื่อข้าพระองค์แช่ง
9For I eat ashes like bread and mingle tears with my drink, 9เพราะข้าพระองค์กินขี้เถ้าต่างอาหาร และเจือน้ำตาเข้ากับเครื่องดื่ม
10because of Your indignation and anger; for You have taken me up and thrown me down. 10เหตุด้วยความพิโรธและความกริ้วของพระองค์ เพราะพระองค์ทรงชูข้าพระองค์ขึ้น และโยนข้าพระองค์ทิ้งไปเสีย
11My days are like an evening shadow; I wither away like grass
12But You, O LORD, are enthroned forever; You are remembered throughout all generations. 12ข้าแต่พระเจ้า แต่พระองค์ประทับบนบัลลังก์เป็นนิตย์ พระนามของพระองค์ดำรงอยู่ ทุกชั่วชาติพันธุ์
13You will arise and have pity on Zion; it is the time to favor her; the appointed time has come. 13พระองค์ทรงลุกขึ้นสงสารศิโยน เพราะถึงเวลาที่จะทรงพระกรุณาเธอ เออ เวลากำหนดมาถึงแล้ว
14For your servants hold her stones dear and have pity on her dust
15Nations will fear the name of the LORD, and all the kings of the earth will fear your glory. 15บรรดาประชาชาติจะกลัว พระนามของพระเจ้า และบรรดาพระราชาของแผ่นดินโลก กลัวพระสิริของพระองค์
16For the LORD builds up Zion; He appears in His glory; 16เพราะพระเจ้าจะทรงสร้างศิโยน พระองค์จะทรงปรากฏด้วยพระสิริของพระองค์
17He regards the prayer of the destitute and does not despise their prayer. 17พระองค์จะสนพระทัยในคำอธิษฐาน ของคนสิ้นเนื้อประดาตัว และจะไม่ทรงดูหมิ่นคำอธิษฐานของเขา
18Let this be recorded for a generation to come, so that a people yet to be created may praise the LORD: 18ขอบันทึกเรื่องนี้ไว้ให้ชาติพันธุ์ที่จะมีมา เพื่อประชาชนที่ยังจะทรงสร้างมานั้น จะได้สรรเสริญพระเจ้า
19that He looked down from His holy height; from heaven the LORD looked at the earth, 19บันทึกว่า พระองค์ทอดพระเนตรลงมาจาก ที่สูงอันบริสุทธิ์ของพระองค์ จากฟ้าสวรรค์ พระเจ้าทอดพระเนตรแผ่นดินโลก
20to hear the groans of the prisoners, to set free those who were doomed to die, 20เพื่อทรงฟังเสียงร้องครางของเชลย เพื่อทรงปล่อยคนที่ต้องถึงตาย ให้เป็นอิสระ
21that they may declare in Zion the name of the LORD, and in Jerusalem His praise, 21เพื่อมนุษย์จะประกาศพระนามของพระเจ้าในศิโยน และกล่าวสรรเสริญพระองค์ในเยรูซาเล็ม
22when peoples gather together, and kingdoms, to worship the LORD
Luke ลูกา 1:30-33 30And the angel said to her, “Do not be afraid, Mary, for you have found favor with God. 30แล้วทูตสวรรค์จึงกล่าวแก่เธอว่า “มารีย์เอ๋ย อย่ากลัวเลย เพราะเธอเป็นที่พระเจ้าทรงโปรดปรานแล้ว
31And behold, you will conceive in your womb and bear a son, and you shall call his name Jesus. 31ดูเถิด เธอจะตั้งครรภ์และคลอดบุตรชาย จงตั้งชื่อบุตรนั้นว่าเยซู
32He will be great and will be called the Son of the Most High 32He will be great and will be called the Son of the Most High. And the Lord God will give to him the throne of his father David, 32“บุตรนั้นจะเป็นใหญ่ และจะทรงเรียกว่าเป็นบุตรของพระเจ้าสูงสุด พระเจ้าจะทรงประทานพระที่นั่งของดาวิดบรรพบุรุษของท่านให้แก่ท่าน
23He has broken my strength in midcourse; He has shortened my days
24“O my God,” I say, “take me not away in the midst of my days— You whose years endure throughout all generations!”
24ข้าพเจ้าว่า “ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ ขออย่าทรงนำข้าพระองค์ไปเสีย ในกึ่งกลางวันเวลาของข้าพระองค์ พระองค์ ผู้ปีเดือนดำรงอยู่ตลอดทุกชั่วชาติพันธุ์”
25Of old You laid the foundation of the earth, and the heavens are the work of Your hands. 25เมื่อเดิมพระองค์ทรงวางรากฐานของแผ่นดินโลก และฟ้าสวรรค์เป็นพระหัตถกิจของพระองค์
26They will perish, but You will remain; they will all wear out like a garment. You will change them like a robe, and they will pass away,
26สิ่งเหล่านี้จะพินาศ แต่พระองค์จะทรงดำรงอยู่ สิ่งเหล่านี้จะเก่าไปเหมือนเครื่องนุ่งห่ม พระองค์ทรงเปลี่ยนสิ่งเหล่านี้ เหมือนเสื้อผ้า แล้วมันก็สิ้นไป
27but You are the same, and Your years have no end
28The children of Your servants shall dwell secure; their offspring shall be established before You. 28ลูกหลานของบรรดาผู้รับใช้ของพระองค์ จะอยู่มั่นคง และพงศ์พันธุ์ของเขาจะได้รับการสถาปนาต่อเบื้อง พระพักตร์พระองค์
Hebrews ฮีบรู 1:10-12 10And, “You, Lord, laid the foundation of the earth in the beginning, and the heavens are the work of Your hands; 10และ องค์พระผู้เป็นเจ้าเจ้าข้า ในเบื้องต้นพระองค์ทรงสร้างแผ่นดินโลก และฟ้าสวรรค์เป็นฝีพระหัตถ์ของพระองค์
11they will perish, but You remain; they will all wear out like a garment, 11สิ่งเหล่านี้จะพินาศ แต่พระองค์ทรงดำรงอยู่ สิ่งเหล่านี้จะเก่าไปเหมือนเครื่องนุ่งห่ม
12like a robe You will roll them up, like a garment they will be changed. But You are the same, and Your years will have no end.” 12พระองค์ทรงม้วนสิ่งเหล่านี้ไว้ดุจผ้าคลุม และสิ่งเหล่านั้นก็จะเปลี่ยนแปลงไป แต่พระองค์ยังทรงเป็นอย่างเดิม และปีเดือนของพระองค์ไม่สิ้นสุด
Hebrews ฮีบรู 13:5-8 5Keep your life free from love of money, and be content with what you have, for he has said, “I will never leave you nor forsake you.” 5ท่านจงอย่าเป็นคนเห็นแก่เงิน จงพอใจในสิ่งที่ท่านมีอยู่ เพราะว่าพระองค์ได้ตรัสว่า เราจะไม่ละท่าน หรือทอดทิ้งท่านเลย
6So we can confidently say,“The Lord is my helper; I will not fear; what can man do to me?” 6เหตุฉะนั้นเราทั้งหลายอาจกล่าวด้วยใจเชื่อมั่นว่า องค์พระผู้เป็นเจ้า ทรงเป็นพระผู้ช่วยของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะไม่กลัว มนุษย์จะทำอะไรแก่ข้าพเจ้าได้เล่า
7Remember your leaders, those who spoke to you the word of God 7Remember your leaders, those who spoke to you the word of God. Consider the outcome of their way of life, and imitate their faith. 7ท่านทั้งหลายจงระลึกถึงหัวหน้าของท่าน ผู้ซึ่งได้ประกาศพระวจนะของพระเจ้าแก่ท่าน และจงพิจารณาดูผลปลายทางที่เกิดแก่เขา แล้วจงตามอย่างความเชื่อของเขา
8Jesus Christ is the same yesterday and today and forever