A Powerful Purpose – Part 2 พระประสงค์ที่เปี่ยมด้วยฤทธิ์เดช - ตอนที่ 2 A Powerful Purpose – Part 2
1. เราจะมีชีวิตอยู่เพื่อพระเจ้าได้อย่างไร? ก. เรามีชีวิตอยู่เพื่อพระองค์โดยการทำให้การมีชีวิตอยู่เพื่อ พระองค์เป็นเป้าหมายที่แน่วแน่มั่นคง 1. How do we live for God? a. We live for Him by MAKING that our CONSTANT aim.
ฟีลิปปี 3:12 ไม่ใช่ว่าข้าพเจ้าได้ทั้งหมดนี้แล้วหรือได้รับการปรับปรุง ให้เป็นคนดีพร้อมแล้ว แต่ข้าพเจ้ารุดหน้าไปเพื่อฉวยเอาสิ่งที่พระเยซูคริสต์ทรงตั้งไว้สำหรับข้าพเจ้าเมื่อทรงฉวยข้าพเจ้ามาเป็นของพระองค์ Philippians 3:12 Not that I have already attained, or am already perfected; but I press on, that I may lay hold of that for which Christ Jesus has also laid hold of me.
ข. เรามีชีวิตอยู่เพื่อพระเจ้าโดยการเข้าสนิทใน พระวจนะของพระองค์ ยอห์น 8:31-32 31 พระเยซูตรัสกับชาวยิวที่ได้เชื่อพระองค์ว่า "ถ้าท่านยึดมั่น ในคำสอนของเรา ท่านก็เป็นสาวกของเราจริงๆ 32 แล้วท่านจะรู้จักความจริง และความจริงจะทำให้ท่านเป็นไท" b. We live for God by ABIDING in His WORD. John 8:31-32 (31)Then Jesus said to those who believed Him, “If you abide in My word you are my disciples indeed. (32) And you shall know the truth, and the truth shall make you free.”
ค. เรามีชีวิตอยู่เพื่อพระองค์โดยการยอมจำนนต่อ การทรงนำขององค์พระวิญญาณบริสุทธิ์ โรม 8:14 เพราะพระวิญญาณของพระเจ้าทรงนำผู้ใด ผู้นั้นเป็นบุตร ของพระเจ้า c. We live for Him by YIELDING to the LEADING of the Holy Spirit. Romans 8:14 For as many as are led by the Spirit of God, these are the sons of God.
d. We live for Him through our FAITH. ง. เรามีชีวิตอยู่เพื่อพระองค์โดยความเชื่อของเรา ฮีบรู 10:38 แต่ผู้ชอบธรรมของเรา จะดำรงชีวิตโดยความเชื่อ และหากเขาเสื่อมถอย เราจะไม่พอใจเขา " d. We live for Him through our FAITH. Hebrews 10:38 The just shall live by faith.
2. Why live for God? 2. เพราะเหตุใดเราจึงมีชีวิตอยู่เพื่อพระเจ้า? ก. เราควรมีชีวิตอยู่เพื่อพระองค์เพราะความรัก อันยิ่งใหญ่ที่ทรงมีต่อเรา 1 ยอห์น 4:10 นี่คือความรัก ไม่ใช่ที่เรารักพระเจ้า แต่ที่พระเจ้าทรงรัก เราและทรงส่งพระบุตรของพระองค์มาเป็นเครื่องบูชาลบบาปของเรา 2. Why live for God? a. We should live for Him because of His GREAT LOVE for us. 1 John 4:10 In this is love, not that we loved God, but that He loved us and sent His Son to be the propitiation for our sins.
ข. แผนงานที่พระเจ้าทรงมีให้แก่ชีวิตของท่าน เป็นแผนงานที่ดีเท่านั้น พระองค์ทรงห่วงใยท่าน เยเรมีย์ 29:11 องค์พระผู้เป็นเจ้า ประกาศว่า " เพราะเรารู้แผนการที่เรามีไว้ สำหรับเจ้า เป็นแผนการเพื่อทำให้เจ้ารุ่งเรืองไม่ใช่เพื่อทำร้ายเจ้า เป็นแผนการ เพื่อให้ความหวังและอนาคตแก่เจ้า b. God’s plan for your life is only for GOOD, He has your BEST INTEREST at heart Jer. 29:11 For I know the plans I have for you," declares the Lord , "plans to Prosper You and not to harm you, plans to give you hope and a future. NIV
ค. เราควรมีชีวิตอยู่เพื่อพระองค์เพราะนี่เป็นวิธี ที่เรานมัสการและถวายพระสิริแด่พระองค์ โรม 12:1 เหตุฉะนั้นพี่น้องทั้งหลาย เมื่อพิจารณาถึงพระเมตตาของพระเจ้า ข้าพเจ้าจึงขอให้ท่านทั้งหลายถวายตัวของท่านแด่พระเจ้าเป็นเครื่องบูชาที่ มีชีวิต ที่บริสุทธิ์ และที่พระเจ้าพอพระทัย นี่เป็นการนมัสการที่แท้จริง c. We should live for Him because it is the way in which we WORSHIP and bring GLORY to Him. Romans 12:1 Therefore, I urge you, brothers, in view of God's mercy, to offer your bodies as living sacrifices, holy and pleasing to God — this is your spiritual act of worship.
ง. การมีชีวิตอยู่เพื่อพระองค์นำมาซึ่ง การจัดเตรียมอย่างอุดม การปกป้อง และพระพร สดุดี 91 ผู้ที่พำนักในที่กำบังขององค์ผู้สูงสุด จะได้พักพิงในร่มเงา ขององค์ทรงฤทธิ์ d. Living for Him brings His abundant PROVISION, PROTECTION and BLESSING. Psalm 91 He who dwells in the secret place of the Most High shall abide under the shadow of the Almighty.
Part 2: The Blessed Life. What are the benefits of living for Him. ตอนที่ 2: ชีวิตที่เปี่ยมพระพร อะไรคือผลประโยชน์ที่จะได้รับ จากการมีชีวิตอยู่เพื่อพระองค์ Part 2: The Blessed Life. What are the benefits of living for Him.
1. ผลประโยชน์ต่างๆ มีอะไรบ้าง ก. เราสามารถเก็บรักษาความทรงจำที่ดีของเราได้ จิตวิญญาณของข้าพเจ้าเอ๋ย จงสรรเสริญองค์พระผู้เป็นเจ้า และอย่าลืมพระราชกิจทั้งปวงอันเปี่ยมด้วยพระคุณ (ข้อ 2) 1. What are some benefits? a. We can retain a good memory. Praise the Lord, my soul, and FORGET NOT all his benefits. (verse 2)
ข. ผู้ทรงอภัยโทษบาปทั้งหมดของท่าน (ข้อ 3) 1 ยอห์น 1:7 แต่ถ้าเราดำเนินในความสว่างเหมือนอย่างที่พระองค์ ประทับในความสว่าง เราก็ร่วมสามัคคีธรรมกันและพระโลหิตของ พระเยซูพระบุตรของพระองค์ก็ชำระเราพ้นจากบาปทั้งปวง b. Who FORGIVES all your SINS (Verse 3) 1 John 1:7 But if we are living in the light, as God is in the light, then we have fellowship with each other, and the blood of Jesus, his Son, cleanses us from all sin. NLT
ค. และทรงรักษาโรคภัยทั้งสิ้นของท่าน (ข้อ 3) มัทธิว 8:17 การนี้เป็นจริงตามที่ได้กล่าวไว้ผ่านทางผู้เผยพระวจนะ อิสยาห์ ว่า " พระองค์ทรงรับความอ่อนแอทั้งหลายของเรา และ แบกรับโรคต่างๆ ของเราไว้ " c. And HEALS all your DISEASES, (Verse 3) Matthew 8:17 This fulfilled the word of the Lord through the prophet Isaiah, who said, "He took our sicknesses and removed our diseases."
1 เปโตร 2:24 พระองค์เองทรงรับแบกบาปของ เราทั้งหลายไว้ที่พระกายบนไม้กางเขน นั้น เพื่อเราจะได้ตายต่อบาปและมีชีวิตอยู่เพื่อความชอบธรรม และด้วยบาดแผลของพระองค์พวกท่าน ได้รับการรักษาให้หาย 1 Peter 2:24 who Himself bore our sins in His own body on the tree, that we, having died to sins, might live for righteousness — by whose stripes you were healed. NKJV
ง. ทรงไถ่ชีวิตของท่านจากแดนผู้ตายและทรงเชิดชู (สวม) ท่านด้วยความรักมั่นคงและความเอ็นดูสงสาร (ข้อ 4) 1) เราสามารถกล่าวได้อีกอย่างหนึ่งว่า เราถูกห้อมล้อมไว้ด้วย ความโปรดปรานของพระเจ้า d. Who REDEEMS your life from the pit and CROWNS you with love and compassion, (vrs 4) 1) Another way of putting that is that we are surrounded by Gods favor.
สดุดี 5:12 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า แน่ทีเดียว พระองค์ทรงอวยพร คนชอบธรรม ความโปรดปรานของพระองค์เป็นดั่ง โล่โอบล้อมพวกเขาไว้ Psalm 5:12 For it is You who blesses the righteous man, O LORD, You surround him with favor as with a shield.
ปฐมกาล 39:2 องค์พระผู้เป็นเจ้าสถิตกับโยเซฟและทรง อวยพรให้เขาเจริญรุ่งเรืองขึ้นในบ้านของเจ้านายชาวอียิปต์ Genesis 39:2 The LORD was WITH Joseph, so he SUCCEEDED in everything he did as he served in the home of his Egyptian master.
จ. ผู้ทรงให้ท่านอิ่มเอมด้วยสิ่งดีๆ ตลอดชีวิตเพื่อ วัยฉกรรจ์ของท่านจะกลับคืนมาใหม่ เหมือนวัยหนุ่ม ของนกอินทรี (ข้อ 5) โรม 14:17 เพราะอาณาจักรของพระเจ้าไม่ใช่เรื่องของการกินการดื่มแต่เป็น ความชอบธรรม สันติสุขและความชื่นชมยินดีในพระวิญญาณบริสุทธิ์ e. Who SATISFIES your desires with good things so that your youth is RENEWED like the eagle’s (verse 5) Romans 14:17 for the kingdom of God is not eating and drinking, but righteousness and peace and joy in the Holy Spirit. NKJV
สดุดี 91:16 เราจะให้เขาอิ่มเอมด้วยชีวิตยืนยาว และสำแดงความรอดของเราแก่เขา Psalms 91:16 With long life I will satisfy him, And show him My salvation."
โยบ 33:24-26 24 เพื่อเมตตาสงสารเขาและทูลว่า ' ขอทรงโปรด ไว้ชีวิตเขาไม่ให้ลงไปยังเหวลึก ข้าพระองค์ได้พบค่าไถ่สำหรับเขาแล้ว ' 25 เมื่อนั้นเนื้อหนังของเขาจะกลับฟื้นคืนสภาพดีเหมือนกายเด็ก และได้กำลังวังชาในวัยหนุ่มคืนมาอีก 26 เขาอธิษฐานต่อพระเจ้าและได้รับความโปรดปรานจากพระองค์ เขาได้เห็นพระพักตร์ พระเจ้าและโห่ร้องด้วยความชื่นชมยินดี พระองค์ทรงรับเขาคืนสู่ฐานะผู้ชอบธรรม Job 33:24-26 24 Then He is gracious to him, and says, 'Deliver him from going down to the Pit; I have found a ransom'; 25 His flesh shall be young like a child’s, He shall return to the days of his youth. 26 He shall pray to God, and He will delight in him, He shall see His face with joy, For He restores to man His righteousness. NKJV
2. พระพรเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับชีวิตของเราอย่างเป็นอัตโนมัติ เราจำเป็นต้องตัดสินใจ และเลือก ซึ่งข้าพเจ้าหมายถึงสิ่งใด? 2. Now all these blessing don’t just come automatically into our lives. We have to make a decision, make a choice. What do I mean by that?
ก. เฉลยธรรมบัญญัติ 30:19-20 19 ข้าพเจ้าอ้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก ก. เฉลยธรรมบัญญัติ 30:19-20 19 ข้าพเจ้าอ้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก มาเป็นพยานต่อสู้ท่านว่า ในวันนี้ข้าพเจ้าได้ตั้งชีวิตและความตายพระพร และคำสาปแช่งไว้ต่อหน้าท่าน ขอให้ท่านเลือกเอาชีวิตเถิดเพื่อท่านกับลูกหลานจะมีชีวิตอยู่ 20 และเพื่อท่านจะรักพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน เชื่อฟังพระสุรเสียงของพระองค์และยึดมั่นใน พระองค์ เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้า ทรงเป็นชีวิตของท่านและจะทรงให้ท่านมีชีวิตอยู่ยาวนานใน ดินแดนที่ทรงปฏิญาณว่าจะประทานแก่บรรพบุรุษของท่าน คือแก่อับราฮัม อิสอัค และยาโคบ a. Deuteronomy 30:19-20 19 I call heaven and earth as witnesses today against you, that I have set before you LIFE and death, BLESSING and cursing; therefore choose life, that both you and your descendants may live; 20 that you may love the Lord your God, that you may obey His voice, and that you may cling to Him, for He is your life and the length of your days; and that you may dwell in the land which the Lord swore to your fathers, to Abraham, Isaac, and Jacob, to give them." NKJV