ดาวน์โหลดงานนำเสนอ
งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ
1
บทที่ 3 เลขยกกำลัง เนื้อหา ความหมายของเลขยกกำลัง
การเขียนจำนวนให้อยู่ในรูปของเลขยกกำลัง การดำเนินการของเลขยกกำลัง การนำไปใช้
2
1. ความหมายของเลขยกกำลัง
บทนิยาม
3
ตัวอย่าง สัญลักษณ์ 24 อ่านว่า สองยกกำลังสี่ หรือ สองกำลังสี่
สัญลักษณ์ อ่านว่า สองยกกำลังสี่ หรือ สองกำลังสี่ 24 มี 2 เป็นฐาน และ 4 เป็นเลขชี้กำลัง 24 แทน 2 × 2 × 2 × 2 = 16 สัญลักษณ์ (-2)4 อ่านว่า ลบสองทั้งหมดยกกำลังสี่ (-2)4 มี -2 เป็นฐาน และ 4 เป็นเลขชี้กำลัง (-2)4 แทน (-2) × (-2) × (-2) × (-2) (-2)4 = 16 สัญลักษณ์ อ่านว่า ลบสองยกกำลังสี่ มี 2 เป็นฐาน และ 4 เป็นเลขชี้กำลัง แทน - (2 × 2 × 2 × 2) = -16
4
Example 1 จงหาว่า 63 แทนจำนวนใด
Solution 63 = 6 × 6 × 6 = 216 Answer 216 Example 2 จงหาว่า (-5)4 แทนจำนวนใด Solution (-5)4 = (-5) × (-5) × (-5) × (-5) = 625 Answer 625
5
Example 3 จงหาว่า − 𝟐 𝟑 𝟑 แทนจำนวนใด
Solution − 𝟐 𝟑 𝟑 = − 𝟐 𝟑 × − 𝟐 𝟑 × − 𝟐 𝟑 = - 𝟖 𝟐𝟕 Answer - 𝟖 𝟐𝟕 Example 4 จงหาว่า −𝟎.𝟎𝟐 𝟒 แทนจำนวนใด Solution −𝟎.𝟎𝟐 𝟒 = - (0.02 × × × 0.02) = Answer
6
2. การเขียนจำนวนให้อยู่ในรูปของเลขยกกำลัง
Example 1 จงเขียน 64 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังที่มีเลขชี้กำลังมากกว่า 1 Solution วิธีที่ = 8 × 8 = 82 วิธีที่ = (-8) × (-8) = (-8)2 วิธีที่ = 4 × 4 × 4 = 43 วิธีที่ = 2 × 2 × 2 × 2 × 2 × 2 = 26 วิธีที่ = (-2) × (-2) × (-2) × (-2) × (-2) × (-2) = (-2)6 Answer 82 หรือ (-8)2 หรือ หรือ 26 หรือ (-2)6
7
Example 2 จงเขียน -125 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังที่มีเลขชี้กำลังมากกว่า 1
Solution วิธีที่ = (-5) × (-5) × (-5) = (-5)3 วิธีที่ = - (5 × 5 × 5) = Answer (-5)3 หรือ -53 Example 3 จงเขียน ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังที่มีเลขชี้กำลังมากกว่า 1 Solution 𝟐𝟒𝟑 𝟏𝟎𝟎,𝟎𝟎𝟎 = = 𝟑×𝟑×𝟑×𝟑×𝟑 𝟏𝟎 ×𝟏𝟎×𝟏𝟎×𝟏𝟎×𝟏𝟎 = 𝟑 𝟓 𝟏𝟎 𝟓 = = Answer 0.35
8
Example 4 จงเขียน 81 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังที่มีฐานเป็นจำนวนเฉพาะ
Solution 81 = 3 × 3 × 3 × 3 = 34 Answer 34
9
Example 5 ถ้า x แทนจำนวนเต็มบวก และ
5x = 3,125 แล้ว x มี ค่าเท่าไร Solution เนื่องจาก 3,125 = 5 × 5 × 5 × 5 × 5 = 55 ดังนั้น 5x = 55 เพราะฉะนั้น x = 5 Answer 5
10
3. การดำเนินการของเลขยกกำลัง
สมบัติของเลขยกกำลัง 1. an × am = am+n เมื่อ a ≠ 0 m และ n เป็นจำนวนเต็ม Example เช่น × = 34+3 = 37 2. (-5) × (-5)5 = (-5)1+5 = (-5)6 3. an+1 × an = an+1+n+2 = a2n+3
11
2. am ÷ an = am-n เมื่อ a ≠ 0 m และ n เป็นจำนวนเต็ม
Example เช่น ÷ = 45 - 2 = 43 ÷ = = = 1 ÷ = 23 - 7 = = 𝟏 𝟐 𝟒 = 𝟏 𝟏𝟔
12
ไม่นิยาม (บอกค่าไม่ได้)
3. a0 = 1 เมื่อ a ≠ 0 Example เช่น = 1 2. (-10)0 = 1 3. (2y)0 = 1 เมื่อ y ≠ 0 ไม่นิยาม (บอกค่าไม่ได้) 4. a-n = 𝟏 𝒂 𝒏 เมื่อ a ≠ 0 Example 𝟏 𝟓 เช่น = 𝟏 (−𝟒) 𝟑 = - 𝟏 𝟔𝟒 2. (-4) = 3. 𝟏 𝟑 −𝟐 = 𝟏 𝟏 𝟑 𝟐 = 𝟏 𝟏 𝟗 = 9
13
Example เช่น 1. ( 𝟒 𝟐 ) 𝟓 = 2. ( (−𝟐) 𝟑 ) 𝟒 = 3. ( 𝒂 𝒎+𝟏 ) 𝟐 =
5. (am)n = am × n เมื่อ a ≠ 0 m และ n เป็นจำนวนเต็ม Example เช่น 1. ( 𝟒 𝟐 ) 𝟓 = 𝟒 𝟐×𝟓 = 𝟒 𝟏𝟎 2. ( (−𝟐) 𝟑 ) 𝟒 = (−𝟐) 𝟑×𝟒 = (−𝟐) 𝟏𝟐 3. ( 𝒂 𝒎+𝟏 ) 𝟐 = 𝒂 (𝒎+𝟏)×𝟐 = 𝒂 𝟐𝒎+𝟐
14
Example เช่น 1. ( 𝟑×𝟖) 𝟒 = 2. 𝟏 𝟐 ×𝟓 𝟓 = 1 2 5 × 5 5 3. ( −𝟒𝒙𝒚) 𝟑 =
6. (ab)n = an × bn เมื่อ a ≠ 0 และ n เป็นจำนวนเต็ม Example เช่น 1. ( 𝟑×𝟖) 𝟒 = 𝟑 𝟒 ×𝟖 𝟒 𝟏 𝟐 ×𝟓 𝟓 = × 5 5 3. ( −𝟒𝒙𝒚) 𝟑 = −𝟒 𝟑 𝒙 𝟑 𝒚 𝟑 7. 𝒂 𝒃 𝒏 = 𝒂 𝒏 𝒃 𝒏 เมื่อ a , b ≠ 0 และ n เป็นจำนวนเต็ม 𝟑 𝟓 𝟐 = เช่น 1. 𝟑 𝟐 𝟓 𝟐 = 𝟗 𝟐𝟓 Example 𝟐𝒙 𝟕 𝟑 = 2. 𝟐 𝟑 𝒙 𝟑 𝟕 𝟑 = 𝟖 𝒙 𝟑 𝟑𝟒𝟑
15
Example 1 จงเขียน 𝟓 𝟑 ×𝟓 𝟒 ในรูปของเลขยกกำลัง Solution
𝟓 𝟑 ×𝟓 𝟒 = 𝟓 𝟑+𝟒 = 𝟓 𝟕 Answer 𝟓 𝟕 Example 2 จงเขียน × 𝟕 𝟏𝟎 ×𝟑𝟒𝟑 ในรูปของเลขยกกำลัง Solution 49 × 𝟕 𝟏𝟎 ×𝟑𝟒𝟑 = 𝟕 𝟐 ×𝟕 𝟏𝟎 ×𝟕 𝟑 = 𝟕 𝟐+𝟏𝟎+𝟑 = 𝟕 𝟏𝟓 Answer 𝟕 𝟏𝟓
16
Example 3 จงเขียน −𝟑 𝟒 ×𝟑 𝟓 ×(−𝟑) 𝟐 ในรูปของเลขยกกำลัง
Solution −𝟑 𝟒 ×𝟑 𝟓 ×(−𝟑) 𝟐 = 𝟑 𝟒 ×𝟑 𝟓 ×𝟑 𝟐 =𝟑 𝟒+𝟓+𝟐 =𝟑 𝟏𝟏 Answer 𝟑 𝟏𝟏 Example 4 จงเขียน (−𝟏𝟔) ×(−𝟐) 𝟑 ×𝟐 𝟓 ในรูปของเลขยกกำลัง Solution (−𝟏𝟔) ×(−𝟐) 𝟑 ×𝟐 𝟓 = −(𝟐 𝟒 )×(−𝟐) 𝟑 ×𝟐 𝟓 =−(𝟐 𝟒 )×−(𝟐) 𝟑 ×𝟐 𝟓 = (−𝟏)(−𝟏)(𝟐 𝟒 )×(𝟐) 𝟑 ×𝟐 𝟓 = (𝟐 𝟒 )×(𝟐) 𝟑 ×𝟐 𝟓 = 𝟐 𝟒+𝟑+𝟓 Answer = 𝟐 𝟏𝟐 𝟐 𝟏𝟐
17
Example 5 จงเขียน 𝟐 −𝟏 ×𝟑×𝟖×𝟐 𝟑 ×𝟑 𝟎 × 𝟐𝟕 ในรูปของเลขยกกำลัง
Solution 𝟐 −𝟏 ×𝟑×𝟖×𝟐 𝟑 ×𝟑 𝟎 × 𝟐𝟕= 𝟐 −𝟏 ×𝟑 ×𝟐 𝟑 ×𝟐 𝟑 ×𝟑 𝟎 ×𝟑 𝟑 = 𝟐 −𝟏+𝟑+𝟑 ×𝟑 𝟏+𝟎+𝟑 = 𝟐 𝟓 ×𝟑 𝟒 Answer 𝟐 𝟓 ×𝟑 𝟒
18
Example 6 จงหาผลลัพธ์ของ 𝟑 𝟗 × 𝟑 𝟒 𝟑 𝟏𝟎
𝟑 𝟗 × 𝟑 𝟒 𝟑 𝟏𝟎 = Solution 𝟑 𝟗+𝟒−𝟏𝟎 = 𝟑 𝟑 = 𝟐𝟕 Answer 𝟐𝟕 Example 7 จงหาผลลัพธ์ของ 𝟐 𝟐 × 𝟐 𝟕 𝟐 𝟏𝟏 𝟐 𝟐 × 𝟐 𝟕 𝟐 𝟏𝟏 = Solution 𝟐 𝟐+𝟕−𝟏𝟏 = 𝟐 −𝟐 = 𝟏 𝟐 𝟐 = 𝟏 𝟒 𝟏 𝟒 Answer
19
Example 8 จงหาผลลัพธ์ของ (−𝟓) 𝟒 × 𝟐 𝟎 ×𝟏𝟐𝟓 𝟓 −𝟑 ในรูปของเลขยกกำลัง
(−𝟓) 𝟒 × 𝟐 𝟎 ×𝟏𝟐𝟓 𝟓 −𝟑 = 𝟓 𝟒 ×𝟏× 𝟓 𝟑 𝟓 −𝟑 Solution = 𝟓 𝟒+𝟑+𝟑 = 𝟓 𝟏𝟎 Answer 𝟓 𝟏𝟎 Example 9 จงหาผลลัพธ์ของ 𝒂 −𝟐 × 𝒂 𝟔 𝒂 −𝟑 เมื่อ 𝒂 ≠𝟎 𝒂 −𝟐 × 𝒂 𝟔 𝒂 −𝟑 = Solution 𝒂 −𝟐+𝟔+𝟑 = 𝒂 𝟕 Answer 𝒂 𝟕
20
Example 10 จงหาผลลัพธ์ของ 𝐚 −𝟐 𝐛 −𝟏 𝐜 −𝟑 𝟐 𝐚 𝟐 −𝟏 𝐛 −𝟑 𝐜 𝟐 −𝟏 เมื่อ 𝐚 , 𝐛 และ 𝐜 ≠𝟎
𝐚 −𝟐 𝐛 −𝟏 𝐜 −𝟑 𝟐 𝐚 𝟐 −𝟏 𝐛 −𝟑 𝐜 𝟐 −𝟏 = 𝐚 −𝟒 𝐛 −𝟐 𝐜 −𝟔 𝐚 −𝟐 𝐛 −𝟑 𝐜 𝟐 −𝟏 Solution = 𝐚 𝟒 𝐛 𝟐 𝐜 𝟔 𝐚 𝟐 𝐛 𝟑 𝐜 −𝟐 = 𝐚 𝟒−𝟐 𝐛 𝟐−𝟑 𝐜 𝟔+𝟐 = 𝐚 𝟐 𝐛 −𝟏 𝐜 𝟖 = 𝐚 𝟐 𝐜 𝟖 𝐛 𝐚 𝟐 𝐜 𝟖 𝐛 Answer
21
4. การนำไปใช้ การเขียนแสดงจำนวนในรูปสัญกรณ์วิทยาศาสตร์
ทำไมต้องเขียนในรูปของสัญกรณ์วิทยาศาสตร์ด้วย เนื่องจากจำนวนบางจำนวนมีค่ามากๆ หรือ บางจำนวนมีค่าน้อย ๆ จึงไม่เหมาะที่จะเขียน ให้ครบทุก ๆ ตัว ซึ่งพบมากในทางวิทยาศาสตร์ รูปทั่วไปคือ เมื่อ และ n เป็นจำนวนเต็ม
22
ตัวอย่าง การเขียนจำนวนที่มีค่ามากๆให้อยู่ในรูปสัญกรณ์วิทยาศาสตร์
1) 50, = 5 × 10,000 = 𝟓×𝟏𝟎 𝟒 2) 2,819, = 2,819 × 1,000 = (𝟐.𝟖𝟏𝟗×𝟏𝟎 𝟑 ) ×𝟏𝟎 𝟑 = 𝟐.𝟖𝟏𝟗×𝟏𝟎 𝟔 3) 11,342, = 𝟏.𝟏𝟑𝟒𝟐𝟏𝟎𝟖×𝟏𝟎 𝟕
23
ตัวอย่าง การเขียนจำนวนที่มีค่าน้อยๆให้อยู่ในรูปสัญกรณ์วิทยาศาสตร์
𝟗 𝟏,𝟎𝟎𝟎 ตัวอย่าง 1) = = 𝟗 𝟏𝟎 𝟑 = 𝟗×𝟏𝟎 −𝟑 𝟒𝟐𝟕 𝟏,𝟎𝟎𝟎,𝟎𝟎𝟎 2) = = 𝟒.𝟐𝟕× 𝟏𝟎 𝟐 𝟏𝟎 𝟔 = 𝟒.𝟐𝟕×𝟏𝟎 𝟐−𝟔 = 𝟒.𝟐𝟕×𝟏𝟎 −𝟒
24
สรุปหลักการ ถ้าจำนวนที่กำหนดให้เป็นจำนวนเต็ม ให้นับจากขวามือย้อนไปทางซ้ายมือจนเหลือตัวเลขเพียงตัวเดียว ใส่จุดทศนิยมหลังตัวเลขนั้น แล้วคูณด้วย 10 ยกกำลังที่มีเลขชี้กำลังเป็นจำนวนเต็มบวก เท่ากับตัวเลขที่นับไปทางซ้ายมือนั้น ถ้าจำนวนที่กำหนดให้เป็นทศนิยมที่ขึ้นต้นด้วยศูนย์จุด (0. ...) ให้นับหลังจากจุดตั้งแต่ทศนิยมตำแหน่งที่หนึ่งไปทางขวามือจนได้ตัวเลขหนึ่งที่ไม่ใช่ 0 ใส่จุดทศนิยมหลังตัวเลขนั้น แล้วคูณด้วย 10 ยกกำลังที่มีเลขชี้กำลังเป็นจำนวนเต็มลบเท่ากับตัวเลขที่นับไปทางขวามือนั้น
25
1) การเขียนจำนวนที่มีค่ามาก ๆ ให้อยู่ในรูปสัญกรณ์วิทยาศาสตร์
70, = 𝟕×𝟏𝟎 𝟒 30,900, = 𝟑.𝟎𝟗×𝟏𝟎 𝟕 500, = 𝟓.𝟎𝟎𝟎𝟐𝟏×𝟏𝟎 𝟓 2) การเขียนจำนวนที่มีค่าน้อย ๆ ให้อยู่ในรูปสัญกรณ์วิทยาศาสตร์ = 𝟕×𝟏𝟎 −𝟒 = 𝟗.𝟓×𝟏𝟎 −𝟓 = 𝟏.𝟑𝟖𝟒×𝟏𝟎 −𝟑
งานนำเสนอที่คล้ายกัน
© 2024 SlidePlayer.in.th Inc.
All rights reserved.