งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ

งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ

แบบฝึกพูดบทสนทนา.

งานนำเสนอที่คล้ายกัน


งานนำเสนอเรื่อง: "แบบฝึกพูดบทสนทนา."— ใบสำเนางานนำเสนอ:

1 แบบฝึกพูดบทสนทนา

2 ให้นักเรียนฝึกพูดตามประโยคภาษาอังกฤษ
ตามเสียงในประโยคที่ได้ฟัง

3 บทสนทนาภาษาอังกฤษ English Conversation

4 การทักทาย( Greeting )

5 สวัสดี มาร์ค สวัสดี โทนี่ Tony: Good morning, Mark.
Mark: Good morning,Tony. สวัสดี โทนี่

6 ฉันสบายดี ขอบคุณ แล้วคุณล่ะ
Tony: How are you? คุณสบายดีหรือ Mark: I’m fine, thank you, and you? ฉันสบายดี ขอบคุณ แล้วคุณล่ะ

7 Tony: I'm fine, thank you. ฉันสบายดี ขอบคุณ

8 หากทักทายกันในตอนบ่ายใช้คำว่า
Good afternoon. หากทักทายกันในตอนเย็นใช้คำว่า Good evening. หากกล่าวลาเมื่อจากกันตอนกลางคืนใช้คำว่า Good night.

9 การแนะนำให้รู้จักกัน
( Introduction )

10 Henry: Miss Nancy, May I introduce
Richard. Nancy: How do you do? Richard: How do you do?

11 เมื่อกล่าวทักทายกันด้วยคำว่า
How do you do? และผู้กล่าวตอบจะตอบว่า Nice to meet you. อาจพูดคุยต่อด้วยคำว่า Nice to meet you, too.

12 ยินดีที่ได้พบคุณ(รู้จักคุณ) และผู้กล่าวตอบจะตอบว่า
หรือ Glad to meet you. ยินดีที่ได้พบคุณ(รู้จักคุณ) และผู้กล่าวตอบจะตอบว่า Glad to meet you, too. ยินดีที่ได้พบคุณ(รู้จักคุณ)เช่นกัน

13 Henry: Miss Nancy, May I introduce Richard.
คุญแนนซี่ ผมขอแนะนำรู้จักคุณริชาร์ด

14 Nancy: How do you do? Richard: How do you do?
สวัสดีค่ะ Richard: How do you do? สวัสดีครับ เป็นคำที่ใช้ทักทายในกรณีที่เพิ่งรู้จักกัน ทั้งผู้ที่ทักทายและผู้ถูกทักทายจะใช้คำเดียวกัน

15 และเมื่อจะกล่าวลา มักจะใช้คำกล่าวว่า
I hope to see you again. ฉันหวังว่าคงได้พบคุณอีก ผู้ตอบก็จะตอบว่า I hope so, too. ฉันก็หวังเช่นนั้น

16 การใช้คำกล่าวขอโทษและขออภัย
Excuse me and apologies

17 คำที่ใช้กล่าวเพื่อขอโทษ ขอโทษครับ/ขอโทษค่ะ ขอได้โปรดอภัย ขออภัยค่ะ
Excuse me. ขอได้โปรดอภัย Excuse me, please. ขออภัยค่ะ Pardon me. ขออภัยครับ I’m sorry. ขออภัยครับ I beg your pardon.

18 ขอโทษค่ะ กรุณาบอกทางไปสถานีขนส่งด้วยค่ะ
การเริ่มต้นก่อนจะถาม ซึ่งโดยมารยาทจะต้องกล่าวขอโทษก่อนถามเสมอ เช่น การสอบถาม บางสิ่งบางอย่างในขณะที่ผู้ถูกถามกำลังทำงานอยู่ ตัวอย่างเช่น Excuse me, Please tell me the way to the bus station. ขอโทษค่ะ กรุณาบอกทางไปสถานีขนส่งด้วยค่ะ

19 ขอโทษค่ะ ฉันขอถามคุณบางอย่างได้ไหม
หรืออาจพูดว่า Excuse me. May I ask you something? ขอโทษค่ะ ฉันขอถามคุณบางอย่างได้ไหม Excuse me. Where is the toilet? ขอโทษค่ะ ห้องน้ำอยู่ที่ไหนคะ?

20 ขอโทษครับ คุณซาร่าอาศัยอยู่ที่นี่หรือเปล่า
Excuse me. Does Miss Sara live here? ขอโทษครับ คุณซาร่าอาศัยอยู่ที่นี่หรือเปล่า Pardon me. How far is it to the bank? ขอโทษครับ ธนาคารอยู่ไกลไหม Pardon me. What time does the bank open? ขอโทษค่ะ ธนาคารเปิดเวลาเท่าไหร่

21 ในกรณีที่เราไปทำความเดือดร้อนให้ใคร เช่น
เดินชนใครเข้า หรือเหยียบเท้าใครเข้า เราจะต้องกล่าว แสดงความเสียใจโดยการกล่าวขอโทษ ใช้คำพูดว่า I’m sorry. ขอโทษค่ะ(ฉันเสียใจ) ขอโทษค่ะ Pardon me. I beg your pardon. ขอได้โปรดอภัยด้วย

22 การกล่าวตอบ เมื่อมีผู้กล่าวขออภัย
ซึ่งเป็นมารยาทที่ดีที่ควรจะกล่าวตอบว่า ไม่เป็นไรหรอก That’s all right. That’s OK. ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร Don't mention it.

23 ฉันเสียใจที่ทำให้คุณคอย
I’m sorry I’m late. ฉันเสียใจที่มาสาย I’m sorry I kept you waiting. ฉันเสียใจที่ทำให้คุณคอย I’m sorry to have troubled you. ฉันเสียใจที่รบกวนคุณ I’m sorry to delay you. ฉันเสียใจที่หน่วงเหนี่ยวคุณไว้

24 คำขออภัย อีกคำหนึ่งที่ควรทราบ คือ
To apologize เป็นคำขออภัย เมื่อกระทำสิ่งที่กระเทือนใจคนอื่น เพื่อแสดงการขออภัยและขอรับผิด จะพูดว่า I must apologize. ฉันต้องขออภัย I must apologize for what I said. ฉันต้องขออภัยที่ฉันได้พูดไป

25 คำกล่าวตอบ สามารถตอบได้หลายแบบ เช่น ไม่เป็นอะไรหรอก
That’s all right. Don’t mention it. ไม่เป็นไรหรอก ไม่เป็นอะไร It’s doesn’t matter. อย่ากังวลเลย Don’t worry about it. ไม่เป็นอะไร It’s nothing at all.

26 การกล่าวคำแสดงความยินดีและกล่าวอวยพร
Congratulations Congratulations. ขอแสดงความยินดีด้วย Congratulations to you. ขอแสดงความยินดีด้วย Congratulations to you on your success. ขอแสดงความยินดีในความสำเร็จของคุณ

27 ขอแสดงความยินดีที่คุณสำเร็จการศึกษา
Congratulations to you on your graduation. ขอแสดงความยินดีที่คุณสำเร็จการศึกษา Let me congratulate you on your good fortune. ขอแสดงความยินดีในความโชคดีของคุณ

28 ขอแสดงความยินดีที่คุณได้ลูกชาย
Congratulations to you on the birthday of your son. ขอแสดงความยินดีที่คุณได้ลูกชาย My congratulations on winning the first prize lottery. ขอแสดงความยินดีที่คุณถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1

29 วิเศษจริงๆ ยินดีด้วยนะ จอห์น
หรืออาจจะใช้คำว่า แหมโชคดีจริงๆ How fortunate! How fortunate you are! คุณช่างโชคดีจริงๆ That is fantastic! Congratulations, John. วิเศษจริงๆ ยินดีด้วยนะ จอห์น

30 การกล่าวขอบคุณ ใช้ได้หลายแบบ เช่น Thank you
Excuse me. Do you have something to eat? I’m very hungry. Yes, we do. We have a big cake. Thank you, that's very kind.

31 ขอโทษค่ะคุณมีอะไรให้กินไหม ฉันหิวเหลือเกิน
ความหมาย Excuse me. Do you have something to eat? I’m very hungry. ขอโทษค่ะคุณมีอะไรให้กินไหม ฉันหิวเหลือเกิน Yes, we do. We have a big cake. ได้สิ เรามีเค้กก้อนใหญ่เชียวละ

32 ขอบคุณมากค่ะ นับเป็นความกรุณามากค่ะ
Thank you, that's very kind. ขอบคุณมากค่ะ นับเป็นความกรุณามากค่ะ Thank you very much. ขอบคุณมากค่ะ

33 ขอโทษค่ะ คุณมีปากกาบ้างไหม
Excuse me, Do you have any pens? ขอโทษค่ะ คุณมีปากกาบ้างไหม Yes, I do. Here you are. มีครับ นี่ครับ Thank you very much. ขอบคุณมากค่ะ It’s my pleasure. ด้วยความยินดีครับ

34 ขอโทษค่ะ คุณมีน้ำตาลบ้างไหม
Excuse me, do you have any sugar? ขอโทษค่ะ คุณมีน้ำตาลบ้างไหม No, I don’t. ไม่มีครับ

35 ขอโทษค่ะ คุณช่วยส่งกระดาษให้ฉันได้ไหม
Excuse me, can you hand me some paper? ขอโทษค่ะ คุณช่วยส่งกระดาษให้ฉันได้ไหม Yes, of course. Here you are. ได้ครับ นี่ครับ Thank you, that's very kind of you. ขอบคุณค่ะ นับเป็นความกรุณามาก It’s my pleasure. ด้วยความยินดีครับ

36 ขอโทษค่ะ ฉันขอทราบชื่อคุณได้ไหม
Excuse me, can I have your name? ขอโทษค่ะ ฉันขอทราบชื่อคุณได้ไหม Yes. I’m Joe. ครับ ผมชื่อโจครับ

37 Excuse me, can you tell me the way to the police station?
ขอโทษค่ะ คุณบอกทางไปสถานีตำรวจได้ไหม Yes. You can drive along this road. It's on your right. ได้ครับ คุณขับตรงไปตามถนนนี้ จะอยู่ด้านขวา Thank you very much. ขอบคุณมากค่ะ It’s my pleasure. ด้วยความยินดีครับ

38 ขอโทษค่ะ คุณมีนาฬิกาบอกเวลาไหม(เวลาเท่าไรแล้ว)
Excuse me. Do you have the time? ขอโทษค่ะ คุณมีนาฬิกาบอกเวลาไหม(เวลาเท่าไรแล้ว) Yes. It’s 10:15. ครับ เวลา สิบนาฬิกาสิบห้านาที Thank you, that's too kind of you. ขอบคุณค่ะ คุณมีน้ำใจจริงๆ Don’t mention it. ไม่เป็นไรครับ

39 ประโยคสนทนาที่ใช้ในชั้นเรียน

40 สวัสดีค่ะ( ครับ) คุณครู
Teacher: Good morning, class. สวัสดี นักเรียน Students: Good morning, teacher. สวัสดีค่ะ( ครับ) คุณครู Teacher: How are you today? เป็นอย่างไรบ้าง (สบายดีไหม) Teacher: I’m fine. thank you. สบายดี ขอบคุณ

41 ตัวอย่างประโยคที่ใช้ถาม-ตอบทั่วๆไป
ที่อาจจะใช้ในชั้นเรียน

42 สมศักดิ์และฉันมีพจนานุกรม ใครนั่งตรงนี้
Who has a dictionary? ใครมีพจนานุกรมบ้าง Somsak and I have dictionaries. สมศักดิ์และฉันมีพจนานุกรม ใครนั่งตรงนี้ Who sits here? Prapaporn sits there. ประภาพรนั่งตรงนั้น

43 ใครนั่งข้างคุณ คุณสมพร ดำรง
Who sits beside you, Somporn? ใครนั่งข้างคุณ คุณสมพร ดำรง Dumrong. Where is Thanongsak? ทนงศักดิ์อยู่ไหน He goes to the toilet. เขาไปห้องน้ำ

44 ใครสามารถเห็นปากกาของฉัน
Who can see my pen? ใครสามารถเห็นปากกาของฉัน I can see your pen in your pocket. ฉันสามารถเห็นปากกาของคุณในกระเป๋าของคุณ Who comes to school by bicycle? ใครมาโรงเรียนโดยจักรยาน Mali and I come to school by bicycle? มะลิและฉันมาโรงเรียนโดยจักรยาน

45 ใครสามารถอ่านคำนี้ได้
Who can read this word? ใครสามารถอ่านคำนี้ได้ I can. ฉันสามารถอ่านคำนี้ได้ Who can answer this question? ใครสามารถตอบคำถามนี้ได้ I can answer the question? ผมสามารถตอบคำถามนี้ได้

46 ความหมายของคำนี้คืออะไร
What is the meaning of this word? ความหมายของคำนี้คืออะไร It’s means………..? ความหมายของคำนี้คือ……

47 การทักทาย ถามตอบเกี่ยวกับความเป็นอยู่ทั่วๆไปนอกจากจะตอบตามมารยาทว่า สบายดีก็จะตอบไปตามความเป็นจริง เช่น ไม่ค่อยสบาย ใช้คำว่า Not very well. เป็นหวัด ใช้คำว่า I have a cold. ปวดหัว ใช้คำว่า I have a headache. ปวดท้อง ใช้คำว่า I have a stomachache.

48 เป็นไข้ ใช้คำว่า เป็นไข้หวัด ใช้คำว่า น้ำมูกไหล ใช้คำว่า
I have a fever. เป็นไข้หวัด ใช้คำว่า I have a flu. น้ำมูกไหล ใช้คำว่า I have a running nose. ทำมีดบาดมือ ใช้คำว่า I cut my finger. ไอมาก ใช้คำว่า I have a bad cough. ขาหัก ใช้คำว่า I broke my leg. แขนหัก ใช้คำว่า I broke my arm.

49 ฉันหวังว่าคุณคงหายเร็วๆนะคะ/ครับ
การกล่าวตอบเมื่อคู่สนทนาบอกอาการเจ็บป่วยที่เป็นอยู่ ตามมารยาทควรกล่าวว่า แย่จังเลยนะคะ/ครับ That’s too bad. I hope you feel better. ฉันหวังว่าคุณคงหายเร็วๆนะคะ/ครับ

50 การพูดคุยถึงสภาพดินฟ้าอากาศ คำถาม-ตอบที่ใช้พูดคุยเกี่ยวกับดินฟ้าอากาศ
How is the weather today? อากาศวันนี้เป็นอย่างไร อากาศร้อนมาก It’s very hot. อากาศหนาวมาก It’s very cold. อากาศเย็นมาก It’s very cool.

51 ลมแรงและดูเหมือนฝนกำลังจะตก
It’s very wet. อากาศชื้นแฉะมาก It’s windy and looks like rain. ลมแรงและดูเหมือนฝนกำลังจะตก

52 วันนี้อากาศสดใสจังเลยนะ
What a beautiful day? วันนี้อากาศสดใสจังเลยนะ Yes, it is. จริงด้วยค่ะ Let’s go walking to the park. เราไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะกันเถอะ

53 คำเกี่ยวกับสภาพดินฟ้าอากาศที่ควรทราบ อากาศดี อากาศดี
It’s nice. อากาศดี อากาศดี It’s lovely. It’s wonderful. อากาศดี อากาศน่ากลัว It’s awful.

54 อากาศร้อน อากาศอบอุ่น อากาศเย็น ลมแรง หมอกลงจัด เมฆครึ้ม ฝนตกเปียกแฉะ
It’s hot. อากาศร้อน อากาศอบอุ่น It’s warm. อากาศเย็น It’s cool. ลมแรง It’s windy. หมอกลงจัด It’s foggy. It’s cloudy. เมฆครึ้ม ฝนตกเปียกแฉะ It’s wet.

55 การใช้ประโยคคำถามและคำตอบทั่วๆไป
การใช้ What ความหมายแปลว่าอะไร ใช้ถามถึงสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ตัวอย่างประโยค เช่น คุณชื่ออะไรครับ What is your name? My name is ……… ชื่อของฉันคือ…. What class are you in? คุณเรียนชั้นอะไร I am in Pratom 5. ฉันเรียนอยู่ชั้นประถมปีที่ 5

56 ครูของฉันชื่อ……… (ใส่ชื่อ)
What is your teacher’s name? ครูของคุณชื่ออะไร My teacher’s name is …… ครูของฉันชื่อ……… (ใส่ชื่อ) What food do you like best? อาหารอะไรที่คุณชอบที่สุด……… I like ………… best? (ใส่ชื่ออาหาร) ฉันชอบรับประทาน………ที่สุด

57 ผลไม้อะไรที่คุณชอบมากที่สุด
What fruit do you like best? ผลไม้อะไรที่คุณชอบมากที่สุด Papaya . มะละกอค่ะ หรือจะตอบว่า My favorite fruit is papaya. ผลไม้ที่ฉันชอบมากที่สุดคือมะละกอ

58 ฉันชอบวิชาภาษาอังกฤษ
What subject do you like? วิชาอะไรที่คุณชอบ หรือ คุณชอบวิชาอะไร ฉันชอบวิชาภาษาอังกฤษ I like English. What season do you like? คุณชอบฤดูอะไร I like the rainy season. ฉันชอบฤดูฝน

59 คุณชอบกีฬาอะไรมากที่สุด
What is your favorite sport? คุณชอบกีฬาอะไรมากที่สุด My favorite sport is football. กีฬาที่ฉันชอบมากที่สุดคือฟุตบอล หรือ ฉันชอบกีฬาฟุตบอลมากที่สุด

60 คุณชอบสีอะไรมากที่สุด
What is your favorite color? คุณชอบสีอะไรมากที่สุด Red is my favorite color. สีแดงเป็นสีที่ฉันชอบมากที่สุด วันนี้เป็นวันอะไร What day is today? Today is Monday. วันนี้เป็นวันจันทร์

61 คุณรับประทานอะไรเป็นอาหารกลางวัน
What do you have for lunch? คุณรับประทานอะไรเป็นอาหารกลางวัน I have noodle for lunch. ฉันทานก๋วยเตี๋ยวเป็นอาหารกลางวัน What do you want to be? คุณต้องการเป็นอะไร I want to be a policeman. ฉันต้องการเป็นตำรวจ

62 ถนนนี้ชื่อถนนศรีวิเศษค่ะ
เวลาเท่าไหร่ครับ What time is it? It’s ten o’clock. เวลาสิบนาฬิกาค่ะ What is the name of this road? ถนนนี้ชื่ออะไรครับ Siviset is the name of this road. ถนนนี้ชื่อถนนศรีวิเศษค่ะ

63 คุณต้องการขนาดอะไร( เบอร์อะไร)
What size do you want? คุณต้องการขนาดอะไร( เบอร์อะไร) I want XL, please. ฉันต้องการขนาดเบอร์ XL

64 ฉันอาศัยอยู่ยางชุมน้อย
Where (ที่ไหน) ใช้ถามถึงสถานที่ Where do you live? คุณอาศัยอยู่ที่ไหน I live in Yangchumnoi. ฉันอาศัยอยู่ยางชุมน้อย Where do you come from? คุณมาจากไหน ฉันมาจากอเมริกา I come from America.

65 ฉันเรียนอยู่โรงเรียนโนนคูณ ห้องน้ำอยู่ที่ไหน
คุณเรียนอยู่ที่ไหน Where do you study? I study in Noonkoon school. ฉันเรียนอยู่โรงเรียนโนนคูณ ห้องน้ำอยู่ที่ไหน Where is the toilet? It’s at the back of that building. มันอยู่ด้านหลังอาคารนั่น

66 ครูภาษาอังกฤษของคุณอยู่ที่ไหน
ห้องสมุดอยู่ที่ไหน Where is the library? It’s next to that room. อยู่ถัดจากห้องนั้น Where is your English teacher? ครูภาษาอังกฤษของคุณอยู่ที่ไหน She is in the meeting room. เธออยู่ในห้องประชุม

67 ฉันจะไปกรุงเทพฯพรุ่งนี้ หรือ
Where will you go tomorrow? คุณจะไปไหนพรุ่งนี้ I will go Bangkok tomorrow? ฉันจะไปกรุงเทพฯพรุ่งนี้ หรือ พรุ่งนี้ฉันจะไปกรุงเทพ

68 ผมชื่อสมศักดิ์ ผมเป็นตำรวจ
การใช้คำถาม Who (ใคร) ใช้ถามถึงบุคคล ตัวอย่างเช่น Who is that? นั่นใครหรือ It’s Somporn. เธอคือสมพร Who are you? คุณเป็นใคร I am Somsak. I am a policeman. ผมชื่อสมศักดิ์ ผมเป็นตำรวจ

69 ใครคือเพื่อนที่ดีที่สุดของคุณ หรือเพื่อนสนิท
Who is your best friend? ใครคือเพื่อนที่ดีที่สุดของคุณ หรือเพื่อนสนิท Thanongsak is my best friend? ทนงศักดิ์คือเพื่อนสนิทของฉัน Who is your English teacher? ใครคือครูภาษาอังกฤษของคุณ Mary is my English teacher. ครูภาษาอังกฤษของฉันคือ แมรี่

70 ใครมีปากกา 2 ด้าม ฉันมีปากกา 2 ด้าม ใครจะไปกับคุณ ปราณีจะไปกับฉัน
Who has two pens? ใครมีปากกา 2 ด้าม ฉันมีปากกา 2 ด้าม I have two pens? ใครจะไปกับคุณ Who will go with you? ปราณีจะไปกับฉัน Pranee will go with me? ใครจะมาพบคุณ Who comes to meet you? Tony will come to meet me? โทนี่จะมาพบฉัน

71 ใครนั่งข้างๆคุณ ปัญญานั่งข้างๆฉัน ใครไปกับคุณ ประยงค์ไปกับฉัน
Who sits beside you? Panya sits beside me? ปัญญานั่งข้างๆฉัน ใครไปกับคุณ Who goes with you? ประยงค์ไปกับฉัน Prayong goes with me? คุณอาศัยอยู่กับใคร Who do you live with? I live with my uncle? ฉันอาศัยอยู่กับลุง

72 คุณไปกับใคร ฉันไปกับทองดี ใครกำลังเล่นเทนนิส ซูซานและมาร์ค
Who do you go with? I go with Thongdee? ฉันไปกับทองดี Who is playing tennis? ใครกำลังเล่นเทนนิส Susan and Mark. ซูซานและมาร์ค

73 การใช้ When (เมื่อไหร่) ใช้ถามเวลา
When do you come to school? คุณมาโรงเรียนเมื่อไหร่ I come to school at 7. ฉันมาโรงเรียนเวลา 7 นาฬิกา When is Christmas Day? เมื่อไหร่วันคริสต์มาส

74 มันตรงกับวันที่ 25 ธันวาคม
It’s on December 25. มันตรงกับวันที่ 25 ธันวาคม When is your birthday? วันเกิดของคุณเมื่อไหร่ It’s on November 12. มันตรงกับวันที่ 12 พฤศจิกายน

75 คุณจะไปกรุงเทพฯเมื่อไหร่
When will you go to Bangkok? คุณจะไปกรุงเทพฯเมื่อไหร่ Tomorrow morning. พรุ่งนี้เช้า When will you come again? คุณจะกลับมาเมื่อไหร่ Next month. เดือนหน้า

76 พวกเขาทานอาหารเช้าเมื่อไหร่
When did she arrive? หล่อนมาถึงเมื่อไหร่ ชั่วโมงที่แล้ว Last hour. When do they have breakfast? พวกเขาทานอาหารเช้าเมื่อไหร่ They have breakfast at 7.30? พวกเขาทานอาหารเวลา เจ็ดนาฬิกา สามสิบนาที

77 การใช้ Why (ทำไม) ใช้ถามถึงเหตุผล เช่น
Why do you come to school late? ทำไมคุณถึงมาโรงเรียนสาย(ช้า) Because I have a stomachache. เพราะฉันปวดท้อง

78 ทำไมเธอถึงเดินมาโรงเรียน
Why do you walk to school? ทำไมเธอถึงเดินมาโรงเรียน Because my bicycle is broken? เพราะจักรยานฉันพัง Why does she come to school late? ทำไมหล่อนถึงมาโรงเรียนสาย Because her mother is sick. เพราะแม่ของหล่อนป่วย

79 ทำไมพวกเขาถึงไม่ทานอาหารกลางวัน
Why don’t you go with her? ทำไมคุณไม่ไปกับเธอ Because I’m busy. เพราะว่าฉันงานยุ่ง Why don’t they have lunch? ทำไมพวกเขาถึงไม่ทานอาหารกลางวัน Because they are not hungry. เพราะว่าพวกเขาไม่หิว

80 ทำไมคุณจึงไม่ตอบคำถามเขา
Why don’t you answer his questions? ทำไมคุณจึงไม่ตอบคำถามเขา Because I don’t know the answers. เพราะฉันไม่ทราบคำตอบ Why do you like English? ทำไมคุณชอบภาษาอังกฤษ Because my English teacher is a very good teacher. เพราะครูเขาเป็นคนดี

81 การใช้ How (อย่างไร) เป็นการถามถึงวิธีการ เช่น
How do you come to school? คุณมาโรงเรียนอย่างไร I come to school by bus? ฉันมาโรงเรียนโดยรถประจำทาง

82 หล่อนไปที่นั่นอย่างไร
How does she go there? หล่อนไปที่นั่นอย่างไร She goes there by trains. หล่อนไปที่นั่นโดยรถไฟ How do they play football? พวกเขาเล่นฟุตบอลเป็นอย่างไร They play very well? พวกเขาเล่นดีมาก

83 การใช้ How many มากเท่าไหร่ ใช้ถาม จำนวน ( ที่นามนับได้ )
How many pens do you have? คุณมีปากกามากเท่าไหร่ I have 2 pens. ฉันมีปากกา 2 ด้าม

84 มีนักเรียนมากเท่าไหร่ในสนาม ยี่สิบ
How many students are there in the field? มีนักเรียนมากเท่าไหร่ในสนาม Twenty ยี่สิบ How many sisters do you have? คุณมีพี่สาว(น้องสาว)มากเท่าไหร่ I have 3 sisters? ฉันมีพี่สาว(น้องสาว) 3 คน

85 ใช้ถามจำนวน(ของนามนับไม่ได้) เช่น
How much (มากเท่าไหร่) ใช้ถามจำนวน(ของนามนับไม่ได้) เช่น How much money do you have? คุณมีเงินมากเท่าไหร่ I have 100 baht. ฉันมีเงินหนึ่งร้อยบาท

86 คุณต้องการเงินมากเท่าไหร่
How much money do you need? คุณต้องการเงินมากเท่าไหร่ I need 1,000 baht? ฉันต้องการเงินหนึ่งพันบาท How much coffee do you need? คุณต้องการกาแฟมากเท่าไหร่ I need 2 cups of coffee. ฉันต้องการกาแฟ 2 ถ้วย

87 คุณต้องการน้ำมากเท่าไหร่
How much water do you want? คุณต้องการน้ำมากเท่าไหร่ I want 2 glasses of water. ฉันต้องการน้ำ 2 แก้ว How much paper do you want? คุณต้องการกระดาษมากเท่าไหร่ I want 5 pieces of paper. ฉันต้องการกระดาษ 5 แผ่น

88 คุณต้องการขนมปังมากเท่าไหร่
How much bread do you need? คุณต้องการขนมปังมากเท่าไหร่ I need 5 pieces. ฉันต้องการ 5 ชิ้น How much is it? ราคาเท่าไหร่ It’s 500 baht. ราคา ห้าร้อยบาท

89 ข้อสังเกต ความแตกต่างในการใช้ กับ (ต้องการ) want need want need
ใช้เพื่อบอกความต้องการที่มีความอยากได้ ( ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ) need ใช้เพื่อบอกความต้องการที่จำเป็นต้องได้

90 ตัวอย่างประโยคคำถามที่ขึ้นต้นด้วยกริยาช่วย
Are you Tony? Yes, I am. คุณคือโทนี่ใช่ไหม ครับผมคือโทนี้ Is she a nurse? หล่อนเป็นพยาบาลใช่ไหม Yes, she is. ใช่ค่ะหล่อนเป็นพยาบาล

91 คุณเป็นหมอใช่ไหม ครับผมเป็นหมอ คุณหิวไหม ครับผมหิว คุณเหนื่อยไหม
Are you a doctor? คุณเป็นหมอใช่ไหม Yes, I am. ครับผมเป็นหมอ Are you hungry? คุณหิวไหม ครับผมหิว Yes, I am. คุณเหนื่อยไหม Are you tired? Yes. I am very tired. ครับผมเหนื่อยมาก

92 ฉันหน้าตาน่าเกลียดไหม เปล่าหรอกคุณน่ารัก คุณสามารถว่ายน้ำได้ไหม
Am I ugly? เปล่าหรอกคุณน่ารัก No. You are pretty. คุณสามารถว่ายน้ำได้ไหม Can you swim? เปล่า ฉันว่ายน้ำไม่ได้ No, I can’t. คุณจะกลับไปไหม Will you go back? No, I won’t. เปล่าครับ

93 คุณสามารถพูดภาษาอังกฤษได้ไหม ค่ะฉันพูดภาษาอังกฤษได้.
Can you speak English? คุณสามารถพูดภาษาอังกฤษได้ไหม ค่ะฉันพูดภาษาอังกฤษได้. Yes, I can. Do you like English? คุณชอบภาษาอังกฤษไหม Yes, I do. ค่ะฉันชอบภาษาอังกฤษ

94 พวกเขาทำงานที่นี่หรือ เปล่าพวกเขาไม่ได้ทำงานที่นี่
Do they work here? No, they don’t. เปล่าพวกเขาไม่ได้ทำงานที่นี่ Does she like to drink milk? หล่อนชอบดื่มนมใช่ไหม No, she doesn’t. เปล่าหล่อนไม่ชอบดื่มนม คุณเดินไปทำงานหรือ Do you walk to work? No. I don’t. I go by bus. เปล่าฉันไปโดยประจำทาง

95 เขาขับรถไปทำงานหรือ ใช่เขาขับรถไปทำงาน ใช่ โทนี่ทำอาหารเก่ง
Does he drive to work? เขาขับรถไปทำงานหรือ Yes, he does. ใช่เขาขับรถไปทำงาน Does Tony cook well? โทนี่ทำอาหารเก่งใช่ไหม Yes, he does. ใช่ โทนี่ทำอาหารเก่ง

96 พวกเราพักที่นี่ใช่ไหม
Do we stay here? ใช่พวกเราพักที่นี่ Yes. we do. Will we go tomorrow? พวกเราจะไปพรุ่งนี้ใช่ไหม No. We will go next week. เปล่า พวกเราจะไปอาทิตย์หน้า

97 คำที่ใช้กล่าวทักทายและสนทนาทั่วไปที่ควรทราบ

98 คุณเป็นยังไงบ้าง (ความหมายเดียวกัน) ฉันรู้สึกไม่ค่อยสบาย หรือ
How have you been? How’s everything with you? คุณเป็นยังไงบ้าง (ความหมายเดียวกัน) I’m not well. ฉันรู้สึกไม่ค่อยสบาย หรือ I’m very well. ฉันสบายดีมากๆ

99 คุณเป็นอะไรหรือเปล่า
What’s wrong with you? คุณเป็นอะไรหรือเปล่า What’s happening? เกิดอะไรขึ้น How’s your business? ธุรกิจคุณเป็นอย่างไรบ้าง Where have you been? คุณไปอยู่ไหนมา

100 ดีใจที่ได้ทราบข่าวคุณอีก
Are you O.K.? I’m O.K.? คุณเป็นอะไรไหม ฉันไม่เป็นไร What’s up? มีอะไรหรือ Good to hear from you. ดีใจที่ได้ทราบข่าวคุณอีก

101 การถามและตอบเกี่ยวกับข้อมูลของบุคคล
ให้นักเรียนฝึกตอบคำถามต่อไปนี้

102 1.What is your name? คุณชื่ออะไร My name is………… ชื่อของฉันคือ ……..(บอกชื่อตนเอง) 2.Where do you live? คุณอาศัยอยู่ที่ไหน I live in….. ฉันอาศัยอยู่ที่…..(บอกที่อยู่) 3.Who do you live with? คุณอาศัยอยู่กับใคร I live with……(บอกชื่อคนที่อาศัยอยู่ด้วย)

103 4.How old are you? คุณอายุเท่าไหร่ I am…………(บอกอายุ) 5.How many sisters do you have? คุณมีพี่สาว(น้องสาว)มากเท่าไหร่ I have…………(บอกจำนวนพี่สาวน้องสาว) ฉันมี………………คน 6.How tall are you? คุณสูงเท่าไหร่ I am…………….(บอกส่วนสูง)

104 I am in .…….…(บอกระดับชั้นที่เรียน) ฉันเรียนอยู่ชั้น………
7.What class are you in? คุณเรียนอยู่ชั้นไหน I am in .…….…(บอกระดับชั้นที่เรียน) ฉันเรียนอยู่ชั้น……… 8.What food do you like to eat? คุณชอบกินอะไร I like to eat ………(บอกสิ่งที่ชอบกิน) ฉันชอบกิน…… 9.What subject do you like best? คุณชอบวิชาอะไร I like………best.(บอกวิชาที่ชอบ)

105 คุณชอบสีอะไรมากที่สุด
10.What color do you like best? คุณชอบสีอะไรมากที่สุด I like …… best.(บอกสีที่ชอบ) 11.How do you come to school? คุณมาโรงเรียนอย่างไร I come to school by ……(บอกวิธีมา) ฉันมาโรงเรียนโดย……….

106 ใครคือเพื่อนที่ดีที่สุดของคุณ(เพื่อนสนิทที่สุด)
12.Who is your best friend? ใครคือเพื่อนที่ดีที่สุดของคุณ(เพื่อนสนิทที่สุด) My best friend is ……(บอกชื่อเพื่อนสนิท) เพื่อนที่สนิทของฉันคือ…….. 13.When do you come to school? คุณมาโรงเรียนเมื่อไหร่ I come to school at……(บอกเวลา) ฉันมาโรงเรียนเวลา……….

107 โรงเรียนของคุณอยู่ที่ไหน
14.Where is your school? โรงเรียนของคุณอยู่ที่ไหน It’s …………(บอกสถานที่ของโรงเรียน) 15.When do you have breakfast? คุณรับประทานอาหารเช้าเมื่อไหร่ I have breakfast at …… (บอกเวลา) ฉันรับประทานอาหารกลางวันเวลา

108 คุณรับประทานอะไรเป็นอาหารเช้า
16.What do you have for breakfast? คุณรับประทานอะไรเป็นอาหารเช้า I have .……for breakfast.(ใส่ชื่ออาหารเช้า) ฉันรับประทาน………เป็นอาหารเช้า 17.Where do you come from? คุณมาจากไหน I come from ………..? (บอกสถานที่มา) ฉันมาจาก………

109 ฉันเกิดเมื่อวันที่………….
18.Where are you from? คุณมาจากไหน I’m from ………..? (บอกสถานที่มา) ฉันมาจาก………. 19.When were you born? คุณเกิดเมื่อไหร่ I was born on……….?(บอกวันเกิด) ฉันเกิดเมื่อวันที่………….

110 20.When do you get up in the morning ? คุณตื่นนอนในตอนเช้าเวลาเท่าไหร่ I get up in the morning at…… ฉันตื่นนอนเวลา……….. (บอกเวลาตื่นนอน) 21.How much money do you have? คุณมีเงินมากเท่าไหร่ I have ………..(บอกจำนวนเงิน) ฉันมีเงิน……..

111 22.How many pens do you have?
คุณมีปากกากี่ด้าม ( มากเท่าไหร่ ) I have………pen(s). (บอกจำนวนปากกา) ฉันมีปากกา…….....ด้าม 23. What do you like to do on your holiday? คุณชอบทำอะไรในวันหยุด I like to ……….. (บอกสิ่งที่ชอบทำ) ฉันชอบทำ………….

112 ถ้าจะตอบว่าได้แต่ไม่ดีนักพูดว่า
24.Can you speak English? Yes./ No.(ได้หรือไม่ได้เลือกตอบ) ถ้าจะตอบว่าได้แต่ไม่ดีนักพูดว่า Yes, but not very well. 25.Do you like to study English? คุณชอบเรียนภาษาอังกฤษไหม Yes./ No.(ชอบหรือไม่ชอบ ให้เลือกตอบ)

113 วันเกิดของคุณเมื่อไหร่
26.When is your birthday? วันเกิดของคุณเมื่อไหร่ It’s on ………...(ใส่วันที่เกิด) มันตรงกับวันที่………. 27.Who is your English teacher? ใครคือครูภาษาอังกฤษของคุณ ……. is my English teacher. ครูภาษาอังกฤษของฉันคือ……(ใส่ชื่อครู)

114 คุณรับประทานอะไรเป็นอาหารกลางวัน
28.What do you have for lunch? คุณรับประทานอะไรเป็นอาหารกลางวัน I have ……….. for lunch. ฉันรับประทานทาน……เป็นอาหารกลางวัน 29.What do you want to be? คุณต้องการเป็นอะไร I want to be a …………. ฉันต้องการเป็น…(บอกสิ่งที่ต้องการเป็น)

115 คุณมีเงินมากเท่าไหร่
30.How much money do you have? คุณมีเงินมากเท่าไหร่ I have …….. baht. ฉันมีเงิน………. กลับสารบัญหลัก


ดาวน์โหลด ppt แบบฝึกพูดบทสนทนา.

งานนำเสนอที่คล้ายกัน


Ads by Google