เส้นทางการเป็นผู้ประกาศและ ผู้ดำเนินรายการ

งานนำเสนอเรื่อง: "เส้นทางการเป็นผู้ประกาศและ ผู้ดำเนินรายการ"— ใบสำเนางานนำเสนอ:

1 เส้นทางการเป็นผู้ประกาศและ ผู้ดำเนินรายการ
เส้นทางการเป็นผู้ประกาศและ ผู้ดำเนินรายการ อาจารย์ นารีนารถ ปานบุญ

2 วิทยุกระจายเสียง  พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงบัญญัติขึ้นเพื่อใช้แทนคำว่า เรดิโอ (Radio) ซึ่งหมายถึงการรับและส่งข่าวด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าหรือคลื่นวิทยุโดยไม่ ต้อง ใช้สายเชื่อมต่อกันระหว่างเครื่องรับกับเครื่องส่ง

3 ธรรมชาติของวิทยุกระจายเสียง
1. สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ทุกระดับ ไม่ว่าเพศใด วัยใด อาชีพ หรือภูมิลำเนาใดสามารถฟังวิทยุได้ แม้แต่คนพิการทางสายตา หรือผู้ที่ไม่รู้หนังสือ 2. ความรวดเร็ว 3. การมีปฏิสัมพันธ์ซึ่งกันและกันระหว่างผู้ดำเนินรายการและผู้ฟัง 4. มีเสียงและเพลงเป็นองค์ประกอบสำคัญ

4 ธรรมชาติของวิทยุกระจายเสียง
5. ไม่มีภาพให้เห็น สร้างจินตนาการด้วยน้ำเสียงการเล่าเรื่อง เสียงเพลง เสียงประกอบ effect ต่างๆ ทำให้หลับตาฟังแล้วนึกภาพ 6. ย้อนกลับมาฟังไม่ได้อีก 7. ฟังไปพร้อมกับทำงานอื่น 8. กระบวนการผลิตไม่ยุ่งยาก 9. เครื่องรับมีราคาถูก และ พกพาไปได้สะดวก 10.ส่งตรงถึงผู้ฟังจำนวนมาก

5 หน้าที่ของวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์
1. หน้าที่ของวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ในการให้ข่าวสาร 1.1 ความฉับไวในการเสนอข่าวสาร 1.2 ความน่าเชื่อถือในการเสนอข่าวสาร 1.3 การเข้าถึงผู้รับสาร

6 หน้าที่ของวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์
2. หน้าที่ของวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ที่เกี่ยวข้องกับการเสนอข่าว 2.1 การสอดส่องตรวจตรา 2.2 การกลั่นกรองข่าวสาร

7 หน้าที่ของวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์
3. หน้าที่ของวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ในการแสดงความคิดเห็น 3.1 การให้ความคิดเห็น 3.2 การเป็นเวทีแสดงความคิดเห็น 3.3 การโน้มน้าวชักจูงใจ

8 หน้าที่ของวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์
4. หน้าที่ของวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ในการให้ความรู้และการศึกษา

9 หน้าที่ของวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์
5. หน้าที่ของวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ในการให้ความบันเทิง

10 ระบบวิทยุกระจายเสียง
1.การส่งระบบ AM (Amplitude Modulation) มีช่วงความถี่ kHz( กิโลเฮิรตซ์ )

11 ระบบวิทยุกระจายเสียง
2.ระบบ FM (Frequency ModulatioN) ความถี่ MHz คลื่นวิทยุที่มีความถี่ย่านนี้ จะแพร่กระจายคลื่นเป็นแนวเส้นตรง

12 การส่งกระจายเสียงระบบ Digital HDRadio ได้ประโยชน์อย่างไร
1. AM digital จะให้คุณภาพเสียงที่รับฟังจากเครื่องรับวิทยุเทียบเท่ากับการรับฟังในระบบ FM เดิม 2. FM digital จะให้คุณภาพเสียงที่รับฟังจากเครื่องรับวิทยุเทียบเท่ากับการรับฟังจากเครื่องเล่น CD 3. คุณภาพเสียงในระบบดิจิทัลจะชัดเจน ไม่มีเสียงรบกวนใด ๆ ทั้งสิ้น และสัญญาณที่เบาหรือจาง หายไปบางครั้งจะไม่มี

13 ตอนนี้มีกว่า 40 ประเทศทั่วโลกแล้วที่รับส่งสัญญาณวิทยุกระจายเสียงในระบบดิจิตอล เช่น อิตาลี เยอรมัน ฝรั่งเศส ออสเตรเลีย นอร์เวย์ เป็นต้น ส่วนในเอเชียก็มี เกาหลีใต้ ฮ่องกง มาเลเซีย และอินโดนีเซีย

14 ในเอเชียก็มี เกาหลีใต้ ฮ่องกง มาเลเซีย และอินโดนีเซีย

15 ประเภทของรายการวิทยุ
แบ่งตามจุดประสงค์ ของการนำเสนอ

16 ประเภทของรายการวิทยุ
ให้ข่าวสาร รายการข่าว รายการเล่าข่าว รายการสนทนาข่าว ข่าวสั้นต้นชั่วโมง

17 ประเภทของรายการวิทยุ
ให้ความรู้ รายการพูดคุย รายการสัมภาษณ์ รายการสารคดี

18 ประเภทของรายการวิทยุ
ให้ความบันเทิง รายการเพลง รายการสาระบันเทิง รายการสนทนาหรือสัมภาษณ์บางรายการ

19 ประเภทของรายการวิทยุ
โฆษณา ประชาสัมพันธ์ สปอตโฆษณา สารคดี รายการสัมภาษณ์หรือสนทนา ที่มีจุดประสงค์เพื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์

20 ประเภทของรายการวิทยุ
แบ่งตามลักษณะการออกอากาศ

21 ประเภทของรายการวิทยุ
แบ่งตามลักษณะการผลิตรายการ

22 ประเภทของรายการวิทยุ
รายการละคร รายการสาระบันเทิง รายการพูดคุย พูดคุยคนเดียว พูดคุยตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป (รายการสัมภาษณ์/สนทนา/อภิปราย)

23 ประเภทของรายการวิทยุ
สารคดีทั่วไป สารคดีท่องเที่ยว สารคดีเชิงข่าว สารคดีเชิงวิเคราะห์ สารคดีเนื่องในโอกาสพิเศษ เฉพาะเรื่อง เฉพาะกลุ่ม ข่าว หลากหลาย รายการสารคดี รายการนิตยสาร

24 ความสำคัญของเสียงพูด
1.ช่วยสร้างความหมายให้กับคำศัพท์ โดยการเปล่งเสียงออกมา 2.แสดงความหมายด้วยโทน ความดัง อัตราการเปล่งเสียง เสียงสูง ต่ำ เบา ดัง 3.บุคลิกภาพ (น้ำเสียงช่วยบอกเพศ วัย)

25 มาตรฐานของเสียงที่มีประสิทธิภาพ
เสียงดัง ฟังชัด หรือเสียงดังฟังพอดี เสียงชวนฟัง เสียงลื่นไหล เสียงยืดหยุ่น ปรับได้ตามบริบท

26 ลักษณะของเสียงพูดที่ไม่มีคุณภาพในการสื่อสาร
พูดเสียงลอย พูดเสียงเบา แหบพร่า พูดไม่มีจังหวะจะโคน พูดรัว พูดยานคาง พูดเสียงขึ้นจมูก พูดเสียงแหบ

27 หลักพื้นฐานของการพูดในงานวิทยุ โทรทัศน์
หลักการฟังสบาย การใช้ถ้อยคำภาษา สุภาพ ไม่หยาบคาย ไม่พูดเท็จ หลอกลวง เพ้อเจ้อไร้สาระ ประชดประชัน เสียดสี พูดถูกอักขระวิธี อ่านถูกตามพจนานุกรม หรือ ตามความนิยม

28 หลักพื้นฐานของการพูดในงานวิทยุ โทรทัศน์
หลักการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ เข้าใจธรรมชาติของสื่อวิทยุ รู้จักผู้ฟังรายการ เป็นเสียงที่อยู่ระหว่างเสียงอ่านกับเสียงพูดคุย เป็นเสียงที่ชัดเจน ชัดถ้อยชัดคำ

29 ท่านผู้ฟัง (คะ/ครับ) น้ำใจนั้นเป็นสิ่งที่วิเศษสุดของคนเรา การมอบน้ำใจให้แก่ผู้อื่นนั้น สามารถเริ่มต้นง่ายที่สุดด้วยการมองและการยิ้ม ต่อจากนั้นก็ใช้การพูดทักทายการให้หรือการกระทำ สิ่งที่ดีๆ ต่อกัน ไม่ว่าคนนั้นเราจะรู้จักหรือยังไม่รู้จักกันก็ตาม คนที่มีน้ำใจให้ แก่ผู้อื่นจะเป็นที่รัก ยกย่องสรรเสริญ และชื่นชม ในสังคม น้ำใจเป็นของที่มีอยู่แล้วในตัวเราทุกคน ไม่ต้องไปซื้อหาหรือขอจากใคร เมื่อเรามอบน้ำใจให้คนอื่น สิ่งที่เราได้รับก็คือน้ำใจที่คนอื่นมอบให้เราเช่นกัน

30 การใช้เสียงพูดในงานวิทยุ โทรทัศน์
ข้อความ คำพูด น้ำเสียง จังหวะเร็ว ช้า ระดับเสียงสูง ต่ำ ดัง เบา ข้อความหรือคำพูดเป็นสัญลักษณ์บอกความหมายให้รู้ว่าสิ่งที่พูดนั้น คืออะไร แต่เสียงเป็นวิญญาณที่ทำให้ถ้อยคำมีชีวิตชีวา ดังนั้น การใช้เสียงให้เหมาะสมกับถ้อยคำ จะทำให้การพูดนั้นเข้าถึงจิตใจของคนฟัง

31 เสียงพูดในงานวิทยุโทรทัศน์
ใช้วรรณยุกต์ได้ถูกต้อง “เจ้าจ๋อจอมจู้จี้ ส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวเจื้อยแจ้วแจ้งไก่แจ้กับกระจงว่า จิ้งจอกจะเข้าจู่โจม” ***จากเอกสารประกอบการอบรมผู้ประกาศ / มรรยาท อัครจันทโชติ

32 การสื่อสารผ่านสื่อมวลชน

33 เราใช้ภาษาอะไร ในการดำเนินรายการวิทยุ+โทรทัศน์
วัจนภาษา(verbal language) คือ ภาษาที่ใช้ถ้อยคำทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการพูดหรือการเขียนก็ตาม อวัจนภาษา(nonverbal language) คือ ภาษาที่ไม่ใช้ถ้อยคำทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการแสดงกิริยาท่าทางของมนุษย์ การแสดงสีหน้า สายตา น้ำเสียง การใช้มือ วัตถุ หรือสัญญาณต่างๆ ที่นำมาใช้สื่อความหมายให้เกิดความเข้าใจ

34 ภาษาวิทยุกระจายเสียง
ภาษาเขียน(การเขียนบท) 01 ภาษาพูด 02 ภาษาท่าทาง - ลีลาการพูด - จังหวะวรรคตอน - การทอดหางเสียง 03 05

35 หลักการพูดทางวิทยุกระจายเสียง
เป็นการพูดที่มีชีวิตชีวา 01 เป็นการพูดกับเพื่อน 02 มีความสุภาพและจริงใจ 03 04 พูดถูกต้องชัดเจนและมีความมั่นใจ สามารถควบคุมอารมณ์ในขณะพูด

36 ผู้ประกาศ ทำหน้าที่เป็นสื่อกลางระหว่าง ดำเนินการให้รายการต่างๆ
สถานีกับผู้ฟัง ดำเนินการให้รายการต่างๆ ออกอากาศตามผังรายการ

37 หน้าที่ของผู้ประกาศ ประกาศเปิดปิดสถานี แจ้งรายการกระจายเสียง
ประกาศแจ้งชื่อสถานีและความถี่ในการกระจายเสียง ประกาศนำรายการ – ปิดรายการ อ่านข่าว / บทความ / คำขวัญ / ประกาศต่างๆ บรรยายถ่ายทอดเสียง / รายงานเหตุการณ์นอกสถานที่

38 ของรายการในรูปแบบต่างๆ
ผู้ดำเนินรายการ ผู้ที่ทำหน้าที่พูด อ่าน บรรยายเนื้อหาสาระ ของรายการในรูปแบบต่างๆ นำเสนออย่างราบรื่นและน่าสนใจ

39 หน้าที่ของผู้ดำเนินรายการ
บรรยายเรื่องราวตามบท กล่าวนำรายการ/เชื่อมโยงเนื้อหาของรายการอย่างต่อเนื่อง สนทนา/สัมภาษณ์บุคคลต่างๆ เป็นพิธีกร/ผู้ดำเนินรายการอภิปราย

40 ผู้ดำเนินรายการเพลงที่ทำหน้าที่เปิดเพลงด้วยตนเอง
ดีเจ (disc jockey) ผู้ดำเนินรายการเพลงที่ทำหน้าที่เปิดเพลงด้วยตนเอง

41 ผู้ดำเนินรายการเพลงทางโทรทัศน์
วีเจ (video jockey) ผู้ดำเนินรายการเพลงทางโทรทัศน์

42 ผู้ประกาศข่าว ผู้ประกาศข่าวทำหน้าที่อ่านข่าวตามบทที่มีผู้เขียนไว้ให้แล้ว จะไม่มีการสอดแทรกความคิดเห็น

43 ผู้รายงานข่าวทำหน้าที่รายงานข่าวจากสถานที่เกิดเหตุ

44 คุณสมบัติของผู้ประกาศและผู้ดำเนินรายการ
น้ำเสียงดี ชัดเจน มีลีลาบุคลิกเป็นของตัวเอง มีความเชื่อมั่นในตนเอง คล่องแคล่ว ไม่ลังเล มีความรอบรู้ ใฝ่หาความรู้อยู่เสมอ ใช้ภาษาได้ชัดเจน ถูกต้องตามหลักภาษา มีความรับผิดชอบสูง จริงจังต่อหน้าที่ ตรงต่อเวลา สามารถควบคุมอารมณ์และแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี ใจกว้าง ยอมรับคำติชม ไม่หวั่นไหวต่อคำวิจารณ์ มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี ปรับตัวเข้ากับคนได้ทุกชั้น

45 หน้าที่-ความรับผิดชอบของผู้ประกาศ และผู้ดำเนินรายการ
เตรียมคำประกาศหรือบทให้เรียบร้อย ฝึกซ้อมอ่านบทให้ถูกต้องตามวรรคตอน พยายามขจัดความผิดพลาดและขออภัยถ้าเกิดความผิดพลาด รักษาเวลาในการอ่านให้คงที่ มีความกระตือรือร้น พัฒนาการทำงานให้ดีขึ้นเรื่อยๆ มีความรู้กว้างขวาง ทันต่อเหตุการณ์ สามารถแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี

46 เตรียมเป็นผู้ประกาศและผู้ดำเนินรายการที่ดี
มีความตั้งใจจริงที่จะสนทนากับผู้ฟัง พร้อมให้ผู้ฟังมีส่วนร่วม พูดคุยอย่างเป็นกันเอง(Talk) ต้องเป็นนักแสดงบ้าง มีความกระตือรือร้นสนใจ พยายามเข้าใจผู้ฟัง มีความรับผิดชอบในฐานะตัวแทนของสถานี

47 การฝึกฝนตนเองในการเป็นผู้ประกาศ
ฝึกเปล่งเสียงเป็นธรรมชาติ/ชัดถ้อยชัดคำ ฝึกพูดให้มีจังหวะจะโคน/มีน้ำหนัก กระฉับกระเฉง ฝึกพูดออกเสียงคำหรือข้อความยาวๆยากๆ ฝึกออกเสียง ร ล ควบกล้ำ ชัดเจนเป็นธรรมชาติ ฝึกควบคุมลมหายใจ ฝึกการใช้สายตา ฝึกความแข็งแรงของร่างกาย

48 การ ผัน เสียง ตาม อักษรควบ
อักษรควบแท้ กราบ กรด ความ อักษรควบไม่แท้ จริง ทรง ทราย

49 หลักการอ่านตามอักขรวิธี
ตามอักขรวิธีของภาษาไทย ตามอักขรวิธีของภาษาที่นำมาใช้ ตามความนิยมและเคยชิน ตามลักษณะวิธีคำประพันธ์หรือฉันทลักษณ์ ตามวิธีคำสมาส การอ่านออกเสียงตัวเลข การอ่านเครื่องหมายต่างๆ คำที่เป็นวิสามานยนาม รักษาความสำคัญของบทที่นำมาอ่าน

50 อ่านออกเสียงคำภาษาไทยพิเศษบางพวก
คำที่มักเขียนย่อ เอามาเพียงตัวอักษร ออกเสียงทับศัพท์หรือคำต่างประเทศ

51 หมวดอ่านคำวิสามานยนาม
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ อ่านว่า กะ-เสด-สาด มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ อ่านว่า สี-นะ-คะ-ริน-วิ-โรด สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี อ่านว่า สม-เด็ด- พฺระ-เทบ-พะ-รัด-ราด-สุ-ดา-สะ-หยาม-บอ-รม-มะ-ราด-ชะ-กุ-มา-รี*, หรือ สม-เด็ด- พฺระ-เทบ-พะ-รัด-ราด-ชะ-สุ-ดา-สะ-หฺยาม-บอ-รม-มะ-ราด-ชะ-กุ-มา-รี กันทรลักษ์ อ่านว่า กัน-ทะ-ระ-ลัก กันทรารมย์ อ่านว่า กัน-ทะ-รา-รม

52 จักราช (นครราชสีมา) อ่านว่า จัก-กะ- หราด
แม่สรวย (เชียงราย) อ่านว่า แม่-สวย

53 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร อ่านว่า พระ-บาด-สม-เด็ด-พระ-ปอ-ระ-มิน-มะ-หา-พู-มิ-พน-อะ-ดุน-ยะ-เดด มะ-หิด-ตะ-ลา-ทิ-เบด-รา-มา-ทิ-บอ-ดี จัก-กรี-นะ-รึ-บอ-ดิน สะ-หยา-มิน-ทรา-ทิ-ราด บอ-รม-มะ-นาด-บอ-พิด พระ-บาด-สม-เด็ด-พระ-ปะ-ระ-มิน-มะ-หา-พู-มิ-พน-อะ-ดุน-ยะ-เดด มะ-หิด-ตะ-ลา-ทิ-เบด-รา-มา-ทิ-บอ-ดี จัก-กรี-นะ-รึ-บอ-ดิน สะ-หยา-มิน-ทรา-ทิ-ราด บอ-รม-มะ-นาด-บอ-พิด สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร อ่านว่า สม-เด็ด-พระ-เจ้า-อยู่-หัว-มะ-หา-วะ-ชิ-รา-ลง-กอน-บอ-ดิน-ทระ-เทบ-พะ-ยะ-วะ-ราง-กูน

54 พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ
อ่านว่า พระ-เจ้า-วอ-ระ-วง-เทอ- พระ-อง-เจ้า-โสม-สะ-วะ-ลี- พระ-วอ-ระ-รา-ชา-ทิ-นัด-ดา-มาด พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ อ่านว่า พระ-เจ้า-หลาน-เธอ-พระ-องค์-เจ้า -สิ - ริ - วัน - วะ - รี - นา - รี – รัด

55 ตัวอย่างการอ่านคำที่มักอ่านผิด
หมวดการอ่านคำทั่วไป กรกฎาคม กรรมาธิการ กลวิธี กามวิตถาร กาลเวลา กาลสมัย เกษตรศาสตร์ ขัดสมาธิ คณิตศาสตร์ คมนาคม คุณวุฒิ โฆษณา จรด เจตคติ ฉัตรมงคล ชนนี ดาษดา ดาษดื่น ปฐพี ปรกติ พระราชชนนี พิจารณา มหาวิทยาลัย เมรุ ยุคลบาท รูปธรรม วิตถาร วุฒิ สมดุล สมรรถนะ อุณหภูมิ โอวาทปาติโมกข์

56 การอ่านตัวเลขต่างๆ มีหลักการในการอ่านดังนี้ ๑. การอ่านจำนวนเลขตั้งแต่ ๒ หลักขึ้นไป  ถ้าเลขตัวท้ายเป็นเลข ๑ ให้ออกเสียงว่า "เอ็ด" เช่น               เขียน                                        อ่านว่า            ๑๑                                สิบ - เอ็ด            ๒๑                                ยี่ - สิบ - เอ็ด            ๑๐๑                              ร้อย - เอ็ด  หรือ  หนึ่ง - ร้อย - เอ็ด            ๑๐๐๑                            พัน - เอ็ด  หรือ  หนึ่ง - พัน -เอ็ด            ๒๕๐๑                           สอง - พัน - ห้า - ร้อย - เอ็ด            ๕๐๑,๗๔๑,๒๒๑             ห้า - ร้อย - เอ็ด - ล้าน -                                               เจ็ด - แสน - สี่ -หมื่น - หนึ่ง - พัน -                                               สอง-ร้อย - ยี่ - สิบ - เอ็ด           

57 ตัวเลขหน้าจุดทศนิยม ให้อ่านแบบจำนวนเต็ม ตัวเลขหลังจุดทศนิยม ให้อ่านแบบเรียงตัว  เช่น           เขียน                               อ่านว่า          ๑.๒๓๕         หนึ่ง - จุด - สอง - สาม - ห้า          ๕๑.๐๘       ห้า - สิบ - เอ็ด - จุด - สูน -แปด                              

58 การอ่านตัวเลขบอกเวลา
 ๐๕.๐๐ น. หรือ ๐๕:๐๐ น.           ห้า - นา - ลิ - กา ๒๔.๐๐ น. หรือ ๒๔:๐๐ น.        ยี่ - สิบ - สี่ - นา - ลิ - กา  ๐๐.๐๐ น. หรือ ๐๐:๐๐ น.          สูน - นา - ลิ – กา ๑๑.๓๕ น. หรือ ๑๑:๓๕ น.  สิบ-เอ็ด-นา-ลิ-กา-สาม-สิบ-ห้า-นา-ที ๑๖.๓๐ น. หรือ ๑๖:๓๐ น.  สิบ-หก-นา-ลิ-กา-สาม-สิบ-นา-ที ๘.๐๒.๓๗.๘๖  แปด-นา-ลิ-กา-สอง-นา-ที-สาม-สิบ- เจ็ด-จุด-แปด-หก-วิ-นา-ที

59 การอ่านเลข ร.ศ. ที่มีการเทียบเป็น พ.ศ. กำกับ
ร.ศ. ๑๑๒ (พ.ศ. ๒๔๓๖) อ่านว่า รัด-ตะ-นะ-โก-สิน-สก ร้อย-สิบ-สอง-ตรง-กับ-พุด-ทะ-สัก-กะ- หฺราด สอง- พัน-สี่-ร้อย-สาม-สิบ-หก การอ่านบ้านเลขที่  บ้านเลขที่ ๑๐                อ่านว่า   บ้าน-เลก-ที่ สิบ บ้านเลขที่ ๔๑๔              อ่านว่า   บ้าน-เลก-ที่ สี่-หฺนึ่ง-สี่ หรือ      บ้าน-เลก-ที่ สี่-ร้อย-สิบ-สี่ บ้านเลขที่ ๕๖/๓๔๒        อ่านว่า   บ้าน-เลก-ที่ ห้า-สิบ-หก ทับ สาม-สี่-สอง บ้านเลขที่ ๖๕๗/๒๑        อ่านว่า   บ้าน-เลก-ที่ หก-ห้า-เจ็ด ทับ สอง-หฺนึ่ง

60 ฝนตกปรอยกรกนกคนตลกชวนดวงกมลคนผอม
รอชมภมรดมดอมดอกขจรสองคนชอบจอดรถตรงตรอก ยอมทนอดนอนอดกรนรอยลภมรดมดอกหอมบนขอน ตรงคลองมอญลมบนหวนสอบจนปอยผมปรกคอ สองสมรสมพรคนจรพบสองอรชรสมพรปองสองสมร ยอมลงคลองลอยคอมองสองอรชรมองอกมองคอ มองผมมองจนสองคนฉงนสมพรบอกชวนสองคน ถอนสมอลงชลลองสองหนสองอรชรถอยหลบสมพร วอนจนพลพรรคสดสวยหมดสนกรกนก ชวนดวงกมลชงนมผงรอชมภมรบนดอนตรงจอมปลวก

61 หลักเกณฑ์ การให้ คะแนน
1. อักขรวิธี 40 คะแนน -ร ล / ควบกล้ำ / วรรณยุกต์ / พยัญชนะ / สระ 2. ลีลาการนำเสนอ 20 คะแนน -วรรคตอน / จังหวะ / ความเหมาะสมกับเนื้อหา 3. ความถูกต้อง 15 คะแนน -ตามหลักเกณฑ์การออกเสียง -ความถูกต้องตามบท

62 4. ความชัดเจน -การออกเสียงคำ -เสียงสอดแทรก 5. เสียง -ลักษณะโดยธรรมชาติและคุณภาพ -ระดับเสียงและการเปล่งเสียง

63 คุณภาพเสียงและความถูกต้องในการออกเสียง
การตู่คำ คือการเปลี่ยนแปลงคำ เช่น เปลี่ยนแปร เป็น เปลี่ยนแปลง การตกคำ คือการพูดไม่ครบคำ เช่น ไม่มีสีดีๆ เป็น ไม่มีสี การเติมคำ องค์ประธาน อ่านเป็น องค์พระประธาน การตู่ความ ขอพระราชทานโอกาส-ขอพระบรมราโชวาท การอ่านตกความ เป็นพืชทดแทนเพื่อไม่ให้ชาวเขาปลูกฝิ่น อ่านเป็น เป็นพืชทดแทนเพื่อให้ชาวเขาปลูกฝิ่น การอ่านเติมความ ได้กำหนดวันประชุม-ซึ่งมิได้กำหนดวันประชุม การเว้นวรรคผิด ห้ามพนักงานนุ่งกางเกงใน/ขณะทำงาน การแยกคำผิด ตากลม

64 ผู้ประกาศ อาจไม่ใช่ ใครทำได้ ผู้ประกาศ ควรเข้าใจ ไทยศึกษา ผู้ประกาศ ต้องชัดคำ จำนรรจา ผู้ประกาศ สร้างคุณค่า น่าภูมิใจ ความถูกต้อง และชัดเจน คือเกณฑ์วัด การฝึกหัด ออกเสียงคำ ทำไฉน วรรณยุกต์ เสียงสระ พยัญชนะไทย ผิดเพี้ยนไป ไม่ได้แน่ แม้คำเดียว อาจารย์ สุรัชณา ฤกษ์ชนะ : ประพันธ์

65 ขอบคุณค่ะ