ดาวน์โหลดงานนำเสนอ
งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ
1
ขั้นตอนการแปลงแผนภาพ ER มาเป็นรีเลชั่น ER-to-Relational Mapping Algorithm
2
สรุปขั้นตอนการสร้าง E-R Diagram
1. กำหนดว่ามีเอนทีตีอะไรบ้าง 2. กำหนดความสัมพันธ์ระหว่างเอนทีตี 3. กำหนดแอทริบิวต์ของเอนทีตีให้ครบ 4. พิจารณาแอทริบิวต์ที่ขึ้นกับความสัมพันธ์ 5. เลือกคีย์หลัก
3
การแปลง E-R Model เป็น Table
4
Step 1 Entity Students ขั้นตอนการแปลง Entity - สร้างตารางสำหรับ Entity
กรณี Simple Attribute - สร้างตารางสำหรับ Entity - ชื่อของตาราง นำมาจาก ชื่อของ Entity - ชื่อของคอลัมน์ นำมาจากชื่อของ Attribute ของ Entity - Primary Key ของ ตาราง นำมาจาก Primary Key ของ Entity S_ID BirthYear First_name Last_name Students S_ID First_name Last_name BirthYear
5
Step 1 Entity Customer ขั้นตอนการแปลง Entity
city street ขั้นตอนการแปลง Entity กรณี Composite Attributes - นำเพียงแอตทริบิวต์แบบ simple ที่บรรจุอยู่ในแอตทริบิวต์แบบ Composite มาเท่านั้น state Customer Zip Code cus_ID Address First_name Last_name Customer cus_ID First_name Last_name street city State zipcode
6
Step 1 Entity Students ขั้นตอนการแปลง Entity
กรณี Multivalued Attribute - ต้องมีการสร้างรีเลชั่นสองรีเลชั่น - รีเลชั่นแรกจะบรรจุค่าแอตทริบิวต์ที่มีอยู่ใน Entity ทั้งหมด ยกเว้นแอตทริบิวต์ที่เป็นแบบ Multivalued - รีเลชั่นที่สองให้บรรจุ 2 แอตทริบิวต์ - แอตทริบิวต์แรกคือ คีย์หลักที่อยู่ในรีเลชั่นแรก - แอตทริบิวต์สอง คือ แอตทริบิวต์ที่เป็น Multivalued Students S_ID Tel Tel First_name Last_name Students S_ID First_name Last_name Students_Tel S_ID Tel
7
Multivalued Attributes
Instructor - Relational Model จะยอมให้มีเพียง 1 ข้อมูลในแต่ละ attribute - Multivalued attribute ใน ER Model จะถูกสร้างเป็นตารางใหม่ เพื่อเก็บข้อมูลโดยเฉพาะ ID Tel Degrees Name Instructor ID Name Instructor_degree ID Degree
8
Step 2 Weak Entity ขั้นตอนการแปลง Weak Entity
- สร้างตารางใหม่สำหรับ Weak Entity นำ Primary Key จาก Master Entity มาเป็น Primary Key ร่วมกับ Primary Key เดิมของ Weak Entity Attribute นั้นจะมาเป็น Foreign Key สำหรับชี้ไปยัง ตารางของ Master Entity
9
Step 2 Weak Entity EMPLOYEE emp_firstName emp_ID 1 M DEPENDENT
Last Name First Name emp_firstName emp_LastName birthDate dependentname emp_ID gender 1 M EMPLOYEE claims DEPENDENT EMPLOYEE emp_ID emp_firstName emp_LastName DEPENDENT firstName lastname emp_ID birthDate gender
10
Step 2 Weak Entity Building Building_ID Room_number … … 1 M Room
has Room Building Building_ID … Room Building_ID Room_number …
11
Step 3 : One-to-Many Relationship
- นำ Primary Key ฝั่ง One ไปเพิ่มเป็นคอลัมน์ ในฝั่ง Many - คอลัมน์ นั้นจะเป็น Foreign Key อ้างถึง Primary Key ของตารางที่ต้องการอ้างถึง(ฝั่ง One) - การแปลง Many-to-One ก็กระทำอย่างเดียวกัน
12
Step 4 : Many -to-Many Relationship
- สร้างตารางของความสัมพันธ์ขึ้นมา 1 ตารางเพื่อเก็บ Primary Key ของทั้ง 2 ตาราง - คอลัมน์ที่ได้ใหม่ทั้ง 2 คอลัมน์จะเป็น Foreign Key ชี้ไปยังตารางที่ดึงมา - ใช้ Entity ใหม่ ที่ได้มาเป็นทั้ง 2 Entity เป็น Primary Key ของตารางความสัมพันธ์
13
Step 4 : Many -to-Many Relationship
… C_ID S_ID … M N STUDENT takes COURSE … C_ID … S_ID M M STUDENT takes COURSE STUDENT_COURSE S_ID C_ID STUDENT S_ID … COURSE C_ID …
14
Step 4 : Many -to-Many Relationship
ในกรณีที่ความสัมพันธ์มีแอตทริบิวท์ ให้นำแอตทริบิวท์ นั้นไปต่อท้ายแอตทริบิวท์ที่นำมาจากตารางทั้ง 2 ฝั่ง … C_ID S_ID Registration_date … M N STUDENT takes COURSE … C_ID … S_ID M M STUDENT takes COURSE Registration_date STUDENT_COURSE S_ID C_ID Registration_date STUDENT S_ID … COURSE C_ID …
15
ข้อสังเกต ข้อสังเกต คอลัมน์ของตารางที่คล้ายๆ กัน ควรมีชื่อที่แตกต่างกัน เช่น ID เป็นชื่อของ Primary Key ของตาราง 2 ตาราง 1 ใน 2 ตารางนั้นควรจะเปลี่ยนชื่อก่อนที่จะเพิ่มตารางใหม่ลงไป การเปลี่ยนควรจะ ทำโดยการเพิ่มชื่อของ Entity ลงไป ใน ชื่อ Attribute นั้น เช่น Student_id, Instructor_id
16
ข้อสังเกต
17
Step 6 : การแปลงความสัมพันธ์แบบ Unary
ความสัมพันธ์แบบ Unary ชนิดหนึ่งต่อกลุ่ม (1:M) ความสัมพันธ์แบบ Unary ชนิดกลุ่มต่อกลุ่ม (M:N)
18
Step 6 : การแปลงความสัมพันธ์แบบ Unary
ความสัมพันธ์แบบ Unary ชนิดหนึ่งต่อกลุ่ม (1:M) emp_ID emp_Name birthDate M EMPLOYEE 1 manages EMPLOYEE emp_ID emp_Name birthDate managerID
19
Step 6 : การแปลงความสัมพันธ์แบบ Unary
ความสัมพันธ์แบบ Unary ชนิดกลุ่มต่อกลุ่ม (M:N) item_Name จะต้องสร้างรีเลชั่น 2 รีเลชั่นด้วยกัน โดยรีเลชั่นแรกจะมีคีย์หลักพร้อมแอตทริบิวต์ที่เกี่ยวข้อง ส่วนอีกรีเลชั่นประกอบด้วย 2 แอตทริบิวต์ที่ใช้เป็นคีย์หลัก ซึ่งแอตทริบิวท์ทั้ง 2 ก็คือค่าข้อมูลเดียวกันกับคีย์หลักในเอ็นทิตี้แรก แต่เปลี่ยนชื่อให้แตกต่างกัน item_ID unitCost N ITEM M quantity contains ITEM item_ID item_Name unitCost ITEM_Component item_ID Component_NO quantity
20
Step 7 : การแปลงความสัมพันธ์แบบ Ternary (and n-ary)
patient_Name physician_ID physician _Name patient_ID M M PATIENT Patient_ Treatment PHYSICAIN time results date M treatmentCode TREATMENT description
21
Step 7 : การแปลงความสัมพันธ์แบบ Ternary (and n-ary)
ขั้นที่ 1 ในการแปลง patient_Name physician_ID physician _Name patient_ID 1 M M 1 PATIENT Patient_ Treatment PHYSICAIN M 1 time results date treatmentCode TREATMENT description
22
Step 7 : การแปลงความสัมพันธ์แบบ Ternary (and n-ary)
ขั้นที่ 2 ในการแปลง จะต้องสร้างรีเลชั่น 4 รีเลชั่นด้วยกัน โดยจะมีเอ็นทิตี้หนึ่งเชื่อมโยงระหว่าง 3 เอ็นทิตี้เข้าด้วยกัน เอ็นทิตี้นั้นจะนำคีย์หลักใน 3เอ็นทิตี้มาเป็นคีย์หลัก และอาจเพิ่มเติมคีย์หลักได้ PATIENT patient_ID patient_Name PHYSICIAN physician_ID physicianName PATIENT_TREATMENT patient_ID physician_ID treatmentCode date time results TREATMENT treatmentCode description
23
Step 8 : การแปลงความสัมพันธ์แบบ Supertype และ Subtype
ให้สร้างรีเลชั่นแยกออกต่างหาก สำหรับซูเปอร์ไทป์และแต่ละซับไทป์ แอตตริบิวต์ของซับไทป์จะได้รับการถ่ายทอดจากรีเลชั่นที่เป็นซูเปอร์ไทป์ รวมถึงแอตตริบิวต์ที่เป็นคีย์หลักด้วย กำหนดคีย์หลักให้กับแต่ละรีเลชั่นที่เป็นซับไทป์ โดยจะต้องมีแอตตริบิวต์ที่แตกต่างกัน เพื่อใช้ระบุความแตกต่างของแต่ละซับไทป์ กำหนด Subtype Discriminator ให้กับ Supertype
24
Step 8 : การแปลงความสัมพันธ์แบบ Supertype และ Subtype
name address empNo dataHired EMPLOYEE d SALARIED_EMP HOURLY_EMP CONSULTANT salary hourlyRate bonus contractNo BillingRate
25
Step 8 : การแปลงความสัมพันธ์แบบ Supertype และ Subtype
EMPLOYEE empNo name address dataHired SALARIED_EMP sempNo salary bonus HOURLY_EMP hempNo hourlyRate CONSULTANT cempNo contractNo BillingRate
26
แบบฝึกหัด 1. จงวาดรูป ER Diagram ของระบบร้านเช่าดีวีดีแห่งหนึ่ง ประกอบด้วย แฟ้มสมาชิก(member) ข้อมูลที่เก็บ รหัสลูกค้า , ชื่อ , ที่อยู่,เบอร์โทร แฟ้มชื่อเรื่อง(title) ข้อมูลที่เก็บ รหัสเรื่อง, ชื่อเรื่อง , ผู้กำกับ , นักแสดง (Mutivalue attribute) แฟ้มประเภท(category) ข้อมูลที่เก็บ รหัสประเภท,รายละเอียด และทำการแปลง ER Diagram เป็น Table พร้อมใส่ข้อมูลใน Table อย่างละ 3 เรคคอร์ด
27
2. จงแปลง ER Diagram ต่อไปนี้ให้เป็นตาราง
N 1 M M 1 พร้อมใส่ข้อมูลใน Table อย่างละ 3 เรคคอร์ด
28
3. จงแปลง ER Diagram ต่อไปนี้ให้เป็นตาราง
วันที่เข้าเรียน คณะ เลขที่บัตร วันเกิด รหัสวิชา รหัสนักศึกษา ชื่อ 1 1 มี M ลงทะเบียน N ประวัตินักศึกษา นักศึกษา วิชา M ชั้นปี ชื่อวิชา เชื้อชาติ ที่อยู่ มี หน่วยกิต พร้อมใส่ข้อมูลใน Table อย่างละ 3 เรคคอร์ด 1 อาจารย์ที่ปรึกษา รหัสอาจารย์ ชื่ออาจารย์ ห้องพัก
29
4. จงแปลง ER Diagram ต่อไปนี้ให้เป็นตาราง
N 1 M M N พร้อมใส่ข้อมูลใน Table อย่างละ 3 เรคคอร์ด
งานนำเสนอที่คล้ายกัน
© 2024 SlidePlayer.in.th Inc.
All rights reserved.