งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ

งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ

ผู้รับประกัน (Insurer) ผู้เอาประกัน (Insured) ผู้รับผลประโยชน์ (Beneficiary)

งานนำเสนอที่คล้ายกัน


งานนำเสนอเรื่อง: "ผู้รับประกัน (Insurer) ผู้เอาประกัน (Insured) ผู้รับผลประโยชน์ (Beneficiary)"— ใบสำเนางานนำเสนอ:

1

2

3 ผู้รับประกัน (Insurer) ผู้เอาประกัน (Insured) ผู้รับผลประโยชน์ (Beneficiary)

4

5

6 แบ่งออกเป็น 4 ประเภท คือ การประกันอัคคีภัย (Fire Insurance) การประกันทางทะเลและการขนส่ง (Marine Insurance) การประกันรถยนต์ (Motor Insurance) การประกันเบ็ดเตล็ด

7 การประกันอัคคีภัย (Fire Insurance) หมายถึง การประกันภัยที่คุ้มครองทรัพย์สิน จากภัยไฟไหม้ ฟ้าผ่า และการระเบิดของแก๊สที่ใช้หุงต้มหรือให้แสงสว่างเพื่อการอยู่อาศัย และ ยังสามารถขยายความคุ้มครองภัยอื่น ๆ ได้อีกด้วย

8 การประกันทางทะเลและการขนส่ง (Marine Insurance) เป็นการประกันภัยที่คุ้มครองการประกันทางทะเลและการขนส่ง (Marine Insurance) เป็นการประกันภัยที่คุ้มครองความเสียหายของตัวเรือและสินค้าที่อยู่ระหว่างการขนส่งทั้งภายในและระหว่างประเทศ

9

10 1. รายละเอียดของผู้อันประกัน จะประกอบไปด้วย ชื่อ ที่อยู่ อายุ บัตรประชาชน ธุรกิจ 2. รายละเอียดที่อยู่อาศัย สถานที่สร้างด้วยอะไรเป็นลักษณะ ห้องเช้า บ้าน เรือน หรือ แฟลตปีที่สร้าง 3. รายละเอียดการเอาประกัน เช่นผู้รับประกันจะรับประกันสูงสุดเท่าใด ในระยะเวลากี่ปี จำนวนเสียอัตราดอกเบี้ย

11 การประกันภัยมีหลักการที่สำคัญ คือ ช่วยลดภาระ การเสี่ยงภัยให้แก่ผู้เอาประกัน ดังนั้นจึงมีประโยชน์ดังนี้ 1. ให้ความคุ้มครองแก่ครอบครัวของผู้เอาประกัน 2. ช่วยลดภาระแก่สังคมและรัฐบาล 3. ช่วยให้การดำเนินธุรกิจมีประสิทธิภาพ 4. ช่วยให้มีการขยายเครดิต 5. สถานบันการประกันภัยทำหน้าที่เป็นสื่อกลางในการออมเพื่อการลงทุน 6. การประกันภัยในชีวิตระยะยาวเป็นการออมทรัพย์ประเภทหนึ่ง

12 ประโยชน์ของการประกันภัยทางทะเล 1. ทำให้พ่อค้าที่ส่งสินค้าออกไม่ต้องเสี่ยงต่อการสูญเสียกำไรหรือขาดทุน 2. สำหรับผู้สั่งสินค้าเข้าจะใช้เอกสารประกันภัยเป็นหลักฐานในการขอเปิด Letter of Credit 3. ผู้รับทำการขนส่งมักรับผิดชอบอย่างจำกัดและอย่างมีเงื่อนไขในมูลค่าเสีย หายของทรัพย์สิน จึงเป็นการสะดวกและให้ผลดีกว่า โดยอาศัยการประกันภัยมาคุ้มครองสินค้าของตน

13 การประกันภัยและเงื่อนไขการซื้อขายสินค้า 1. ราคาเฉพาะค่าสินค้าอย่างเดียว หรือ F.O.B. (Free on Board) 2. ราคาค่าสินค้าบวกกับค่าระวางเรือเดิน หรือ C & F (Cost and Freight) 3. ราคาค่าสินค้าบวกค่าระวางเรือและบวกค่าประกันภัย หรือ C.I.F. (Cost Insurance and Freight)

14 ทรัพย์สินที่เอาประกันภัยทางทะเล 1. เรือและสินค้า ตลอดทั้งสังหาริมทรัพย์อื่นๆ ที่อยู่ในระหว่างทำการขนส่งทาง ทะเลและตกอยู่ภายใต้การเสี่ยงภัยทางทะเล 2. ค่าระวางเรือ (Freight) 3. ความรับผิดที่เจ้าของเรือหรือเจ้าของสินค้าอาจต้องรับผิดต่อบุคคลที่สาม ใน กรณีทรัพย์สินตามที่กล่าวมาแล้วในข้อ 1) ได้ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ชีวิต ร่างกาย หรือทรัพย์สินของบุคคลที่สามในระหว่างทำการขนส่งทางทะเล

15

16 1. การรั่วไหล 2. การแตก 3. ความร้อน 4. ความชื้น 5. ความเสียหายเพราะสินค้าอื่นๆ 6. การขโมย 7. ความเสียหาย จากน้ำฝนหรือน้ำจืด 8. ความเสียหายจากตะขอ 9. ความเสียหายจากน้ำมัน 10. ความเสียหายโดยโคลน กรด และสารภายนอกอื่นๆ

17 1. กรมธรรม์แบบ F.P.A (Free From Particular Average) หรือเรียกว่าแบบ “ ซี ” (C) กรมธรรม์นี้ไม่คุ้มครองความเสียหายบางส่วน คุ้มครองแต่เฉพาะเสียหายจริงทั้งหมด นอกจากนี้ยัง คุ้มครองความเสียหายต่อไปนี้ 1 2 3

18 กรมธรรม์แบบนี้ให้ประโยชน์ทุกอย่างตามกรมธรรม์แบบ F.P.A. ประโยชน์ที่เพิ่มขึ้นมาจะ คุ้มครองถึงความเสียหายของสินค้าที่เอาประกันอันเนื่องจากภัยธรรมชาติ

19 3. กรมธรรม์แบบ A.R. (All Risk) หรือที่เรียกว่า แบบเอ (A) คือ กรมธรรม์แบบ W.A. แต่คุ้มครองภัยทุกชนิด ไม่ว่าภัยธรรมชาติและภัยพิเศษ วิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการเรียกร้อง ค่าสินไหมทดแทน กรมธรรม์แบบ A.R. จะคล้ายกับกรม F.P.A 1 2

20

21


ดาวน์โหลด ppt ผู้รับประกัน (Insurer) ผู้เอาประกัน (Insured) ผู้รับผลประโยชน์ (Beneficiary)

งานนำเสนอที่คล้ายกัน


Ads by Google