ประเทศมาเลียเชีย 10 ประเทศอาซียน ด้านล่างเป็นข้อมูลเกี่ยวกับประเทศมาเลเซียใครสนใจอยากอ่านก็จะได้ความรู้เพิ่มเติมอ่ะล่ะ ประเทศมาเลเซียประกอบด้วยพื้นที่ 2 ส่วนด้วยกัน คือ พื้นที่แหลมมลายู หรือมาเลเซียตะวันตก ซึ่งตอนเหนือของประเทศติดต่อกับประเทศไทย และพื้นที่บนเกาะบอเนียว (Borneo) หรือมาเลเซียตะวันออกซึ่งมีประเทศบรูไน และส่วนหนึ่งของประเทศอินโดนีเซียตั้งอยู่ พื้นที่ 330,400 ตร.กม. เมืองหลวง กรุงกัวลาลัมเปอร์ ภูมิอากาศ เขตร้อนชื้น (Tropical Climate) อุณหภูมิโดยเฉลี่ย 22-36 องศาเซลเซียส ซึ่งไม่สูงนักเนื่องจากภูมิประเทศเป็นเขตป่าร้อนชื้นมีฝนตกชุกตลอดทั้งปี ฝนตกโดยเฉลี่ย 250 เซนติเมตรต่อปี อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ เท่ากับ 3.7 ริงกิต(โดยประมาณ) และ 1 ริงกิต เท่ากับ 11 บาท (โดยประมาณ) ศาสนา ศาสนาประจำชาติ คือ ศาสนาอิสลาม อย่างไรก็ดี มีผู้นับถือศาสนาพุทธ คริสต์ ลัทธิเต๋า ฮินดูหรือซิกห์ อยู่ทั่วไป
10 ประเทศเอเซีย 1.ประเทศพม่า พม่า หรือ เมียนมา (อังกฤษ: Myanmar, พม่า: မြန်မာ) มีชื่อทางการว่า สาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า หรือ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา (อังกฤษ: Republic of the Union of Myanmar; พม่า: ပြည်ထောင်စု သမ္မတ မြန်မာနိုင်ငံတော် [pjìdà̀uɴzṵ θà̀ɴməda̯ mjəmà nàiɴŋàɴdɔ̀] ปี่เด่าง์ซุ ตัมมะดะ มยะหม่า ไหน่หงั่นด่อ) เป็นรัฐเอกราชในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีพรมแดนติดกับอินเดีย บังกลาเทศ จีน ลาว และไทย หนึ่งในสามของพรมแดนพม่าที่มีความยาว 1,930 กิโลเมตรเป็นแนวชายฝั่งตามอ่าวเบงกอลและทะเลอันดามัน ด้วยพื้นที่ 676,578 ตารางกิโลเมตร ประเทศพม่าเป็นประเทศที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 40 ของโลก และใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พม่ายังเป็นประเทศที่มีประชากรมากเป็นอันดับที่ 24 ของโลก โดยมีประชากรกว่า 60.28 ล้านคน นับแต่ได้รับเอกราชใน พ.ศ. 2491 ประเทศพม่าเผชิญกับหนึ่งในสงครามกลางเมืองที่ยืดเยื้อที่สุดท่ามกลางกลุ่มชาติพันธุ์ที่มีอยู่มากมายซึ่งยังแก้ไม่ตก ตั้งแต่ พ.ศ. 2505 ถึง 2554 ประเทศพม่าอยู่ภายใต้ระบอบเผด็จการทหาร คณะผู้ยึดอำนาจการปกครองถูกยุบอย่างเป็นทางการใน พ.ศ. 2554 หลังการเลือกตั้งทั่วไปใน พ.ศ. 2553 และมีการตั้งรัฐบาลพลเรือนในนามแทน แต่ทหารยังมีอิทธิพลอยู่มาก
10 ประเทศอาเซียน 1 .บลูไน บรูไนเป็นที่รู้จักและมีอำนาจมากในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 14 ถึงคริสต์ศตวรรษที่ 16 โดยมีอาณาเขตครอบครองส่วนใหญ่ของเกาะบอร์เนียวและส่วนหนึ่งของหมู่เกาะซูลู มีชื่อเสียงทางการค้า สินค้าส่งออกที่สำคัญในสมัยนั้น ได้แก่ การบูร พริกไทย และทองคำ หลังจากนั้นบรูไนเสียดินแดนและเสื่อมอำนาจลงเนื่องจากสเปน และฮอลันดาได้แผ่อำนาจเข้ามา จนถึงสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 19 ในปี พ.ศ. 2431 (ค.ศ. 1888) ด้วยความวิตกว่าจะต้องเสียดินแดนต่อไปอีก บรูไนจึงได้ยินยอมเข้าอยู่ภายใต้อารักขาของอังกฤษ และต่อมาในปี พ.ศ. 2449 (ค.ศ. 1906) บรูไนได้ลงนามในสนธิสัญญายินยอมอยู่เป็นรัฐในอารักขาของอังกฤษอย่างเต็มรูปแบบ ในปี พ.ศ. 2472 (ค.ศ. 1929) บรูไนสำรวจพบน้ำมันและแก๊สธรรมชาติที่เมืองเซรีอา ทำให้บรูไนมีฐานะมั่งคั่งในเวลาต่อมา ในปี พ.ศ. 2505 (ค.ศ. 1962) ได้มีการเลือกตั้ง ซึ่งพรรคประชาชนบอร์เนียว (Borneo People’s Party) ได้รับชัยชนะอย่างท่วมท้น แต่ถูกกีดกันไม่ให้จัดตั้งรัฐบาล ต่อมาจึงได้ยึดอำนาจจากสุลต่าน แต่สุลต่านทรงได้รับความช่วยเหลือจากกองทหารกูรข่าที่อังกฤษส่งมาจากสิงคโปร์ หลังจากนั้นได้มีการประกาศภาวะฉุกเฉิน และต่ออายุทุก ๆ 2 ปี เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน