Array.

Slides:



Advertisements
งานนำเสนอที่คล้ายกัน
Suphot Sawattiwong Array ใน C# Suphot Sawattiwong
Advertisements

สาขาวิชาคอมพิวเตอร์ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
โดยอาจารย์ศิริพร ศักดิ์บุญญารัตน์ ครูชำนาญการ โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์
ตัวแปรชุด การเขียนโปรแกรมภาษาคอมพิวเตอร์ 1
ข้อมูลชนิดอาร์เรย์ Array (บทที่ 5)
บทที่ 5 โครงสร้างข้อมูลคิว
BC322 ครั้งที่ 10 ตัวแปรชุด (Array)
User Defined Simple Data Type
Principles of Programming
Principles of Programming
Data Type part.II.
Array.
LAB # 5.
Location object Form object
ทบทวน Array.
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับโปรแกรม Microsoft Office Access 2003
อาเรย์ (Array).
การเขียนโปรแกรม ASP การประกาศตัวแปร
Arrays.
Kairoek Choeychuen M.Eng (Electrical), KMUTT
ARRAY ข้อมูลชนิดอาร์เรย์
การควบคุมทิศทางการทำงานของโปรแกรม
Advanced VB (VB ขั้นสูง)
การเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุ ด้วยภาษาจาวา
โปรแกรม Microsoft Access
การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์และอัลกอริธึม
Lab 8 ตัวแปรและชนิดข้อมูล
บทที่ 4 Method (2).
อาร์เรย์และข้อความสตริง
อาร์เรย์ ชื่อ น. ส. พิชชากานต์ ไชยชาญยุทธ์ เลขที่ 22 ชั้นสทส.1/1.
บทที่ 2 อาร์เรย์ อาร์เรย์ คือ ชุดของตัวแปรเดียวกัน ซึ่งสมาชิกของอาร์เรย์จะเป็นตัวแปรพื้นฐาน จำนวนสมาชิกในอาร์เรย์มีขนานแน่นอน และสมาชิกของอาร์เรย์แต้ละตัว.
อาร์เรย์ (Array).
อาร์เรย์ (Array).
ASP.NET Server Control.
การเชื่อมต่อฐานข้อมูล โดยใช้คอนโทรล SQLDataSource
ตัวแปร (Variable) คือ ชื่อที่ตั้งขึ้นเพื่อเก็บข้อมูลในหน่วยความจำ สามารถเก็บข้อมูลชนิดใดก็ ได้ ลักษณะที่สำคัญ ค่าที่จัดเก็บ เมื่อปิดโปรแกรมข้อมูลจะหายไป.
อาร์เรย์ หรือแถวลำดับ (Array)
บทที่ 7 คำสั่งสำหรับเขียนโปรแกรม
บทที่ 8 อาร์เรย์.
Chapter 7 Iteration Statement
การเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับตัวแปร
Data Structure and Algorithm
คิว ลักษณะการทำงานของ Queue การดำเนินการของ Queue การตรวจสอบ Queue
คิว (Queue) Queue ADT Queue เป็น List ชนิดหนึ่ง แต่สำหรับ queue การแทรกข้อมูลลงบน queue (Insertion) จะทำที่ปลายใดปลายหนึ่งของ Queue ในขณะที่การลบข้อมูลออกจากคิว.
โครงสร้างข้อมูลพื้นที่สุด ที่ไม่เคยเลย จะไม่ใช้อาร์เรย์
Liang, Introduction to Java Programming, Sixth Edition, (c) 2007 Pearson Education, Inc. All rights reserved Java Programming Language.
เก็บข้อมูลเป็นกลุ่มด้วยอาร์เรย์
การใช้ Word เพื่อการคำนวณ
โดย อ. นัฐพงศ์ ส่งเนียม การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ และอัลกอรทึ่ม ( ) Lec04 : [ การแปลงจาก FlowChart.
Java Desktop Application #4
Java Desktop Application #5
เขียนโปรแกรมเพื่อแสดงข้อมูลพนักงาน ด้วย ADO.NET vs. DataReader
Week 12 Engineering Problem 2
Control Statements.
ฟอร์ม โมดูล และ MDI.
ลิงค์ลิสต์ (Linked List)
อาร์เรย์ (Arrays).
วิธีการเขียนโปรแกรมเพื่อทำงานกับข้อมูล โดยที่ ข้อมูลนั้นจะต้อง 1. เป็นประเภทเดียวกัน | ตัวเลข, ตัวอักษร 2. มีขนาดเท่ากัน ? ARRAY คืออะไร.
CHAPTER 12 SQL.
Java collection framework
BCS 121 บท 5 การโปรแกรมเชิงวัตถุ (Object-Oriented Programming)
สายอักขระ เขียนโปรแกรม Java เบื้องต้น.
หลักการเขียนโปรแกรม ( )
บทที่ 9 การใช้งานฟอร์มและคอนโทรลต่าง ๆ
การทำงานและคำสั่งพื้นฐาน
Array 1. Array คือ 2 ตัวแปรชุด ( Arrays ) คือ กลุมของขอมูลที่มีชนิด ของขอมูลเหมือนกัน จึงทําการจัดกลุมไวดวยกัน แลวอางถึงดวยกลุมของขอมูลนั้นดวยชื่อ.
การเขียนโปรแกรม (ภาษาซี)
ต้นไม้ Tree [3] ผู้สอน อาจารย์ ยืนยง กันทะเนตร
บทที่ 6 ตัวแปรชุดและ สตริง รายวิชา ง การเขียนโปรแกรมเชิง วัตถุ Reading: ใบความรู้ บทที่ 6.
หลักการทั่วไปเกี่ยวกับการเขียนโปรแกรม
ใบสำเนางานนำเสนอ:

Array

อาร์เรย์ ชุดหรือคำสั่งของข้อมูลที่เก็บในอาร์เรย์จะประกอบไปด้วยข้อมูลย่อยๆ ที่เรียกว่า “สมาชิก” หรืออิลิเมนต์ ของอาร์เรย์ สมาชิกแต่ละตัวในอาร์เรย์ จะมีเลขลำดับ(Index) ที่ต่อเนื่องกันไป โดยเริ่มต้นที่ 0,1,2… ไป จนสุดอาร์เรย์

สร้างอาร์เรย์และขอบเขตของอาร์เรย์ Dim ชื่ออาร์เรย์(ขอบเขตบน) As ชนิดข้อมูล ตัวอย่าง Dim num(2) as integer ‘อาร์เรย์เก็บข้อมูลชนิด Integer มีสมาชิกทั้งหมด 3 ตัว

สร้างอาร์เรย์และขอบเขตของอาร์เรย์ ฟังก์ชั่นตรวจสอบของเขตของอาร์เรย์ Dim nums(9) As integer Dim bound as integer=ubound(nums) ผลลัพธ์ที่ได้คือ bound มีค่าเท่ากับ 9

สร้างอาร์เรย์และขอบเขตของอาร์เรย์ ฟังก์ชั่นนับสมาชิก Dim nums(9) As integer Dim len as integer=nums.length ผลลัพธ์ที่ได้คือ len มีค่าเท่ากับ 10

การกำหนดข้อมูลให้กับอาร์เรย์ การกำหนดข้อมูลให้สมาชิกทีละตัว Dim thaiweekdays(6) As string thaiweekdays(0)=“อาทิตย์” thaiweekdays(1)=“จันทร์” thaiweekdays(6)=“เสาร์”

การกำหนดข้อมูลให้กับอาร์เรย์ การกำหนดข้อมูลแบบค่าเริ่มแรก dim ชื่ออาร์เรย์() as ชนิดข้อมูล={สมาชิก 1, สมาชิก 2, ….} ตัวอย่าง dim nums() as integer={11, 12, 13} dim weekday () as string={“อาทิตย์”,”จันทร์”,”อังคาร”}

การกำหนดข้อมูลให้กับอาร์เรย์ การนำข้อมูลจากพร็อปเพอร์ตี้หรือเมธอดของออบเจ็กต์อื่น dim lines() as string=textbox1.lines หรือ dim str as string=“www.google.com” dim s() as string=str.split(“.”) ‘---- s={“www”, “google” ,“com”}

การเรียงลำดับข้อมูลในอาร์เรย์ Dim a() as integer={21,10,1,3,56,12} เรียงจากน้อยไปหามาก array.sort(a) ‘—a={1,3,10,12,21,56} เรียงจากมากไปหาน้อย array.Reverse(a) ‘—a={56,21,12,10,3,1}

ตัวอย่าง Public Class Form1 Private Sub Button1_Click(ByVal sender As System.Object, ByVal e As System.EventArgs) Handles Button1.Click Dim nums() As String = TextBox1.Lines MessageBox.Show(UBound(nums)) End Sub Private Sub Button2_Click(ByVal sender As System.Object, ByVal e As System.EventArgs) Handles Button2.Click MessageBox.Show(nums.Length) Private Sub Button3_Click(ByVal sender As System.Object, ByVal e As System.EventArgs) Handles Button3.Click Dim sum As Integer For i = 0 To UBound(nums) sum += i Next MessageBox.Show(sum) Private Sub Button4_Click(ByVal sender As System.Object, ByVal e As System.EventArgs) Handles Button4.Click Dim str As String = "" For Each x In nums str &= x + vbNewLine MessageBox.Show(str) Private Sub Button5_Click(ByVal sender As System.Object, ByVal e As System.EventArgs) Handles Button5.Click Dim indexs As Integer = TextBox2.Text MessageBox.Show(nums(indexs)) End Class

อาร์เรย์ 2 มิติ และ jagged array อาร์เรย์แบบ 2 มิติ dim ชื่ออาร์เรย์(,) as ชนิดข้อมูล={ {สมาชิก 1, สมาชิก 2, ….}, _ {สมาชิก 1, สมาชิก 2, ….}, _ {สมาชิก 1, สมาชิก 2, ….} } ตัวอย่าง dim nums(,) as integer={ {11, 12, 13}, {11, 12, 13}, {11, 12, 13} }

อาร์เรย์ 2 มิติ และ jagged array อาร์เรย์แบบ jagged array dim ชื่ออาร์เรย์()() as ชนิดข้อมูล={_ new integer() {สมาชิก 1, สมาชิก 2, ….}, _ new integer() {สมาชิก 1, สมาชิก 2, สมาชิก 3 ,….}, _ }

อาร์เรย์ 2 มิติ และ jagged array อาร์เรย์แบบ jagged array dim jagg()() as integer ={_ new integer() {1, 2,}, _ new integer() {1, 2, 3 }, _ }

คอนโทรลชนิดตัวเลือก Combobox Listbox checkedlistbox

คอนโทรลชนิดตัวเลือก คำสั่งเพิ่มข้อมูล Item.add(รายการ) = เพิ่มตัวเลือกเข้าไปในคอลโทรลรายการตัวสุดท้าย --------- Listbox1.items.add(“one”) Public Class Form1 Private cats() As String = {"Notebook", "Digital Camera", "Mobile Phone"} Private brands()() As String = {New String() {"Acer", "Asus", "Dell", "HP"}, _ New String() {"Canon", "Sony", "Fuji", "Olympus", "Nikon"}, _ New String() {"Nokia", "Samsung", "IPhone"}} Private Sub Form1_Load(ByVal sender As System.Object, ByVal e As System.EventArgs) Handles MyBase.Load ComboCategory.Items.AddRange(cats) ComboCategory.SelectedIndex = 0 End Sub Private Sub ComboCategory_SelectedIndexChanged(ByVal sender As System.Object, ByVal e As System.EventArgs) Handles ComboCategory.SelectedIndexChanged '-- ตรวจสอบลำดับรายการหมวดสินค้าที่ถูกเลือก '-- มาเป็นลำดับในการอ่านข้อมูลจากอาร์เรย์ยี่ห้อสินค้า Dim idx As Integer = ComboCategory.SelectedIndex ComboBrand.Items.Clear() ComboBrand.Items.AddRange(brands(idx)) ComboBrand.SelectedIndex = 0 End Class

คอนโทรลชนิดตัวเลือก คำสั่งเพิ่มข้อมูล Item.Addrange(รายการแบบอาร์เรย์) = เพิ่มข้อมูลเป็นช่วง --------- Dim items() as String={“a”, “s”, “d”} Listbox1.items.addrange(items) Public Class Form1 Private cats() As String = {"Notebook", "Digital Camera", "Mobile Phone"} Private brands()() As String = {New String() {"Acer", "Asus", "Dell", "HP"}, _ New String() {"Canon", "Sony", "Fuji", "Olympus", "Nikon"}, _ New String() {"Nokia", "Samsung", "IPhone"}} Private Sub Form1_Load(ByVal sender As System.Object, ByVal e As System.EventArgs) Handles MyBase.Load ComboCategory.Items.AddRange(cats) ComboCategory.SelectedIndex = 0 End Sub Private Sub ComboCategory_SelectedIndexChanged(ByVal sender As System.Object, ByVal e As System.EventArgs) Handles ComboCategory.SelectedIndexChanged '-- ตรวจสอบลำดับรายการหมวดสินค้าที่ถูกเลือก '-- มาเป็นลำดับในการอ่านข้อมูลจากอาร์เรย์ยี่ห้อสินค้า Dim idx As Integer = ComboCategory.SelectedIndex ComboBrand.Items.Clear() ComboBrand.Items.AddRange(brands(idx)) ComboBrand.SelectedIndex = 0 End Class

คอนโทรลชนิดตัวเลือก คำสั่งเพิ่มข้อมูล Item.insert(ลำดับ,รายการ) = แทรกรายการในลำดับที่ระบุ --------- Listbox1.items.insert(3,”red”) Public Class Form1 Private cats() As String = {"Notebook", "Digital Camera", "Mobile Phone"} Private brands()() As String = {New String() {"Acer", "Asus", "Dell", "HP"}, _ New String() {"Canon", "Sony", "Fuji", "Olympus", "Nikon"}, _ New String() {"Nokia", "Samsung", "IPhone"}} Private Sub Form1_Load(ByVal sender As System.Object, ByVal e As System.EventArgs) Handles MyBase.Load ComboCategory.Items.AddRange(cats) ComboCategory.SelectedIndex = 0 End Sub Private Sub ComboCategory_SelectedIndexChanged(ByVal sender As System.Object, ByVal e As System.EventArgs) Handles ComboCategory.SelectedIndexChanged '-- ตรวจสอบลำดับรายการหมวดสินค้าที่ถูกเลือก '-- มาเป็นลำดับในการอ่านข้อมูลจากอาร์เรย์ยี่ห้อสินค้า Dim idx As Integer = ComboCategory.SelectedIndex ComboBrand.Items.Clear() ComboBrand.Items.AddRange(brands(idx)) ComboBrand.SelectedIndex = 0 End Class

คอนโทรลชนิดตัวเลือก คำสั่งลบข้อมูล Items.Remove(รายการ) = ลบรายการที่ระบุออกไป Items.Remove(ลำดับรายการ) = ลบรายการในลำดับที่ระบุ Items.clear() = ลบรายการทิ้งไป Public Class Form1 Private cats() As String = {"Notebook", "Digital Camera", "Mobile Phone"} Private brands()() As String = {New String() {"Acer", "Asus", "Dell", "HP"}, _ New String() {"Canon", "Sony", "Fuji", "Olympus", "Nikon"}, _ New String() {"Nokia", "Samsung", "IPhone"}} Private Sub Form1_Load(ByVal sender As System.Object, ByVal e As System.EventArgs) Handles MyBase.Load ComboCategory.Items.AddRange(cats) ComboCategory.SelectedIndex = 0 End Sub Private Sub ComboCategory_SelectedIndexChanged(ByVal sender As System.Object, ByVal e As System.EventArgs) Handles ComboCategory.SelectedIndexChanged '-- ตรวจสอบลำดับรายการหมวดสินค้าที่ถูกเลือก '-- มาเป็นลำดับในการอ่านข้อมูลจากอาร์เรย์ยี่ห้อสินค้า Dim idx As Integer = ComboCategory.SelectedIndex ComboBrand.Items.Clear() ComboBrand.Items.AddRange(brands(idx)) ComboBrand.SelectedIndex = 0 End Class

คอนโทรลชนิดตัวเลือก คำสั่งลบข้อมูล listbox1.Items.Remove(“Five”) listbox1.Items.Remove(3) listbox1.Items.clear() Public Class Form1 Private cats() As String = {"Notebook", "Digital Camera", "Mobile Phone"} Private brands()() As String = {New String() {"Acer", "Asus", "Dell", "HP"}, _ New String() {"Canon", "Sony", "Fuji", "Olympus", "Nikon"}, _ New String() {"Nokia", "Samsung", "IPhone"}} Private Sub Form1_Load(ByVal sender As System.Object, ByVal e As System.EventArgs) Handles MyBase.Load ComboCategory.Items.AddRange(cats) ComboCategory.SelectedIndex = 0 End Sub Private Sub ComboCategory_SelectedIndexChanged(ByVal sender As System.Object, ByVal e As System.EventArgs) Handles ComboCategory.SelectedIndexChanged '-- ตรวจสอบลำดับรายการหมวดสินค้าที่ถูกเลือก '-- มาเป็นลำดับในการอ่านข้อมูลจากอาร์เรย์ยี่ห้อสินค้า Dim idx As Integer = ComboCategory.SelectedIndex ComboBrand.Items.Clear() ComboBrand.Items.AddRange(brands(idx)) ComboBrand.SelectedIndex = 0 End Class

คอนโทรลชนิดตัวเลือก คำสั่งนับและเรียงลำดับ Items.count = นับจำนวน Items.sorted = เรียงลำดับจากน้อยไปหามาก ----------------------------------------------------------------------------------------------------- listbox1.Items.count listbox1.Items.sorted=true Public Class Form1 Private cats() As String = {"Notebook", "Digital Camera", "Mobile Phone"} Private brands()() As String = {New String() {"Acer", "Asus", "Dell", "HP"}, _ New String() {"Canon", "Sony", "Fuji", "Olympus", "Nikon"}, _ New String() {"Nokia", "Samsung", "IPhone"}} Private Sub Form1_Load(ByVal sender As System.Object, ByVal e As System.EventArgs) Handles MyBase.Load ComboCategory.Items.AddRange(cats) ComboCategory.SelectedIndex = 0 End Sub Private Sub ComboCategory_SelectedIndexChanged(ByVal sender As System.Object, ByVal e As System.EventArgs) Handles ComboCategory.SelectedIndexChanged '-- ตรวจสอบลำดับรายการหมวดสินค้าที่ถูกเลือก '-- มาเป็นลำดับในการอ่านข้อมูลจากอาร์เรย์ยี่ห้อสินค้า Dim idx As Integer = ComboCategory.SelectedIndex ComboBrand.Items.Clear() ComboBrand.Items.AddRange(brands(idx)) ComboBrand.SelectedIndex = 0 End Class

คอนโทรลชนิดตัวเลือก คำสั่งนับและเรียงลำดับ Items.count = นับจำนวน Items.sorted = เรียงลำดับจากน้อยไปหามาก ----------------------------------------------------------------------------------------------------- listbox1.Items.count listbox1.Items.sorted=true Public Class Form1 Private cats() As String = {"Notebook", "Digital Camera", "Mobile Phone"} Private brands()() As String = {New String() {"Acer", "Asus", "Dell", "HP"}, _ New String() {"Canon", "Sony", "Fuji", "Olympus", "Nikon"}, _ New String() {"Nokia", "Samsung", "IPhone"}} Private Sub Form1_Load(ByVal sender As System.Object, ByVal e As System.EventArgs) Handles MyBase.Load ComboCategory.Items.AddRange(cats) ComboCategory.SelectedIndex = 0 End Sub Private Sub ComboCategory_SelectedIndexChanged(ByVal sender As System.Object, ByVal e As System.EventArgs) Handles ComboCategory.SelectedIndexChanged '-- ตรวจสอบลำดับรายการหมวดสินค้าที่ถูกเลือก '-- มาเป็นลำดับในการอ่านข้อมูลจากอาร์เรย์ยี่ห้อสินค้า Dim idx As Integer = ComboCategory.SelectedIndex ComboBrand.Items.Clear() ComboBrand.Items.AddRange(brands(idx)) ComboBrand.SelectedIndex = 0 End Class

คอนโทรลชนิดตัวเลือก คอนโทรล Combobox Dropdownstyle Dropdownlist = แสดงรายการให้เลือกแต่พิมพ์ไม่ได้ Dropdow = แสดงรายการให้เลือกแต่พิมพ์ได้ Public Class Form1 Private cats() As String = {"Notebook", "Digital Camera", "Mobile Phone"} Private brands()() As String = {New String() {"Acer", "Asus", "Dell", "HP"}, _ New String() {"Canon", "Sony", "Fuji", "Olympus", "Nikon"}, _ New String() {"Nokia", "Samsung", "IPhone"}} Private Sub Form1_Load(ByVal sender As System.Object, ByVal e As System.EventArgs) Handles MyBase.Load ComboCategory.Items.AddRange(cats) ComboCategory.SelectedIndex = 0 End Sub Private Sub ComboCategory_SelectedIndexChanged(ByVal sender As System.Object, ByVal e As System.EventArgs) Handles ComboCategory.SelectedIndexChanged '-- ตรวจสอบลำดับรายการหมวดสินค้าที่ถูกเลือก '-- มาเป็นลำดับในการอ่านข้อมูลจากอาร์เรย์ยี่ห้อสินค้า Dim idx As Integer = ComboCategory.SelectedIndex ComboBrand.Items.Clear() ComboBrand.Items.AddRange(brands(idx)) ComboBrand.SelectedIndex = 0 End Class

คอนโทรลชนิดตัวเลือก คำสั่งเพิ่มเติม selecteditem = ตรวจสอบรายการที่ถูกเลือก selectedindex = ตรวจสอบลำดับรายการที่ถูกเลือกถ้าไม่มีคืนค่า -1 ----------------------------------------------------------------------------------------------------- combobox1.selectedinem= “red” combobox1. selectedindex = 3 Public Class Form1 Private cats() As String = {"Notebook", "Digital Camera", "Mobile Phone"} Private brands()() As String = {New String() {"Acer", "Asus", "Dell", "HP"}, _ New String() {"Canon", "Sony", "Fuji", "Olympus", "Nikon"}, _ New String() {"Nokia", "Samsung", "IPhone"}} Private Sub Form1_Load(ByVal sender As System.Object, ByVal e As System.EventArgs) Handles MyBase.Load ComboCategory.Items.AddRange(cats) ComboCategory.SelectedIndex = 0 End Sub Private Sub ComboCategory_SelectedIndexChanged(ByVal sender As System.Object, ByVal e As System.EventArgs) Handles ComboCategory.SelectedIndexChanged '-- ตรวจสอบลำดับรายการหมวดสินค้าที่ถูกเลือก '-- มาเป็นลำดับในการอ่านข้อมูลจากอาร์เรย์ยี่ห้อสินค้า Dim idx As Integer = ComboCategory.SelectedIndex ComboBrand.Items.Clear() ComboBrand.Items.AddRange(brands(idx)) ComboBrand.SelectedIndex = 0 End Class

คอนโทรลชนิดตัวเลือก คอนโทรล Combobox ตัวอย่าง Public Class Form1 Private cats() As String = {"Notebook", "Digital Camera", "Mobile Phone"} Private brands()() As String = {New String() {"Acer", "Asus", "Dell", "HP"}, _ New String() {"Canon", "Sony", "Fuji", "Olympus", "Nikon"}, _ New String() {"Nokia", "Samsung", "IPhone"}} Private Sub Form1_Load(ByVal sender As System.Object, ByVal e As System.EventArgs) Handles MyBase.Load ComboCategory.Items.AddRange(cats) ComboCategory.SelectedIndex = 0 End Sub Private Sub ComboCategory_SelectedIndexChanged(ByVal sender As System.Object, ByVal e As System.EventArgs) Handles ComboCategory.SelectedIndexChanged '-- ตรวจสอบลำดับรายการหมวดสินค้าที่ถูกเลือก '-- มาเป็นลำดับในการอ่านข้อมูลจากอาร์เรย์ยี่ห้อสินค้า Dim idx As Integer = ComboCategory.SelectedIndex ComboBrand.Items.Clear() ComboBrand.Items.AddRange(brands(idx)) ComboBrand.SelectedIndex = 0 End Class