การดำเนินการบนเมทริกซ์

Slides:



Advertisements
งานนำเสนอที่คล้ายกัน
สาระที่ 1 จานวนและการดาเนินการ
Advertisements

ค33212 คณิตศาสตร์คอมพิวเตอร์ 6
ระบบจำนวนจริง(Real Number)
กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง จำนวนเชิงซ้อน
ลิมิตและความต่อเนื่อง
อินทิกรัลตามเส้น เป็นการหาปริพันธ์ของฟังก์ชันบน [a,b] จะศึกษาเรื่อง
ลำดับลู่เข้า และลำดับลู่ออก
บทที่ 3 ลำดับและอนุกรม (Sequences and Series)
คณิตศาสตร์เพิ่มเติ่ม ค เรื่อง วงกลม โดย ครูนาตยา บุญเรือง
คอมพลีเมนต์ นิยาม คอมพลีเมนต์ของเซต A เขียนแทนด้วย หมายถึง เซตที่ประกอบด้วยสมาชิก ซึ่งเป็นสมาชิกของเซต แต่ไม่เป็นสมาชิกของเซต A.
บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน (CAI)
จงหาระยะห่างของจุดต่อไปนี้ 1. จุด 0 ไปยัง จุด 0 ไปยัง 2
สับเซต ( Subset ) นิยาม กำหนดให้ A และ B เป็นเซตใด ๆ เรากล่าวว่า A เป็นสับเซต B ก็ต่อเมื่อ สมาชิกทุกตัวของ A เป็นสมาชิกของ B ใช้สัญลักษณ์
การแปลงลาปลาซ (Laplace transform) เป็นวิธีการหนึ่งที่สามารถใช้หาผลเฉลยของปัญหาค่าตั้งต้นของสมการเชิงอนุพันธ์ “เราจะใช้การแปลงลาปลาซ แปลงจากปัญหาค่าตั้งต้นของสมการเชิงอนุพันธ์
บทที่ 8 เมตริกซ์และตัวกำหนด.
เทคนิคทางคณิตศาสตร์ในการวิเคราะห์เชิงปริมาณ
หน่วยที่ 3 อินทิกรัลและการประยุกต์
หน่วยที่ 8 อนุพันธ์ย่อย (partial derivative).
มิสกมลฉัตร อู่ศริกุลพานิชย์ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
มิสกมลฉัตร อู่ศิริกุลพานิชย์ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
การหาปริพันธ์ (Integration)
เมื่อนักคณิตศาสตร์เขียน 4! เครื่องหมายตกใจ
โรงเรียนบรรหารแจ่มใสวิทยา ๖
Matrix and Determinant
การสร้างเกี่ยวกับส่วนของเส้นตรง
แฟกทอเรียล (Factortial)
ครูฉัตร์มงคล สนพลาย. เมตริกซ์ (Matrices) เมตริกซ์ คือ การจัดเรียง จำนวนให้อยู่ในรูป สี่เหลี่ยมผืนผ้า ซึ่งประกอบด้วย แถว (Row) และ หลัก (Column)
ค33212 คณิตศาสตร์คอมพิวเตอร์ 6
ความสัมพันธ์และความสัมพันธ์ทวิภาค
นิยาม, ทฤษฎี สับเซตและพาวเวอร์เซต
ค33212 คณิตศาสตร์คอมพิวเตอร์ 6
ตัวผกผันการคูณของเมทริกซ์
ค33212 คณิตศาสตร์คอมพิวเตอร์ 6
คุณสมบัติการหารลงตัว
ค33211 คณิตศาสตร์สำหรับ คอมพิวเตอร์ 5
ค33211 คณิตศาสตร์สำหรับ คอมพิวเตอร์ 5
ค33211 คณิตศาสตร์สำหรับ คอมพิวเตอร์ 5
ค33212 คณิตศาสตร์คอมพิวเตอร์ 6
จำนวนเต็มกับการหารลงตัว
ค33211 คณิตศาสตร์สำหรับ คอมพิวเตอร์ 5
ค33212 คณิตศาสตร์คอมพิวเตอร์ 6
ค31211 คณิตศาสตร์สำหรับ คอมพิวเตอร์ 1
ค31212 คณิตศาสตร์สำหรับ คอมพิวเตอร์ 2
ค คณิตศาสตร์ สำหรับคอมพิวเตอร์ 1 ผลคูณคาร์ทีเชียน.
อินเวอร์สของความสัมพันธ์
ค31211 คณิตศาสตร์สำหรับ คอมพิวเตอร์ 1
การดำเนินการบนความสัมพันธ์
โดย : อาจารย์พงศกร ละฟู่ สังกัดระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
บทเรียนสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โดยใช้โปรแกรม Microsoft Multipoint
บทเรียนสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โดยใช้โปรแกรม Microsoft Multipoint
การหาผลคูณและผลหารของเลขยกกำลัง
ตัวแปรชุด Arrays.
นางสาวอารมณ์ อินทร์ภูเมศร์
นางสาวอารมณ์ อินทร์ภูเมศร์
ทรานสโพสเมตริกซ์ (Transpose of Matrix)
ฟังก์ชันเอ็กซ์โพเนนเชียล โรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย เชียงราย
วงรี ( Ellipse).
นางสาวสุพรรษา ธรรมสโรช
ความสัมพันธ์และฟังก์ชัน
ค32213 คณิตศาสตร์สำหรับคอมพิวเตอร์ อ.วีระ คงกระจ่าง
อนุพันธ์ของฟังก์ชันที่น่าสนใจ
เรื่องการประยุกต์ของสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว
เมทริกซ์ (Matrix) Pisit Nakjai.
สื่อการสอนด้วยโปรมแกรม “Microsoft Multipoint”
บทที่ 1 จำนวนเชิงซ้อน.
ยูเนี่ยนและอินเตอร์เซคชันของเหตุการณ์
Summations and Mathematical Induction Benchaporn Jantarakongkul
ทบทวนการแก้สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว
โดเมนเละเรนจ์ของความสัมพันธ์
ค31212 คณิตศาสตร์สำหรับ คอมพิวเตอร์ 2
ใบสำเนางานนำเสนอ:

การดำเนินการบนเมทริกซ์ ค33212 คณิตศาสตร์คอมพิวเตอร์ 6

บทนิยาม ให้ A = [aij]m x n และ c เป็นค่าคงตัว บทนิยาม ให้ A = [aij]m x n และ B = [bij]m x n เมทริกซ์ A บวกกับเมทริกซ์ B คือ เมทริกซ์ [cij]m x n เมื่อ cij = aij + bij สำหรับ i = 1, 2, ... , m และ j = 1, 2, ... , n และเขียนแทน A บวกกับ B ด้วย A + B บทนิยาม ให้ A = [aij]m x n และ c เป็นค่าคงตัว ผลคูณของ c กับเมทริกซ์ A คือ เมทริกซ์ [bij]m x n เมื่อ bij = caij สำหรับ i = 1, 2, ... , m และ j = 1, 2, ... , n และเขียนแทนผลคูณของ c กับเมทริกซ์ A ด้วย cA

เช่น

วิธีทำ x – 2y = 2 .......(1) –x + y = 3 .......(2) (1) + (2) ; – y = 5

ตัวอย่างที่ 2 จงหาค่าของ x , y ที่ทำให้ (1) x 2 ; 2x + 4y = 6 .......(3) จะเห็นว่า สมการ (2) = (3) จาก (1) จะได้ x = 3 – 2y ดังนั้น (x , y) = (3 – 2y , y)

จากนิยาม จะเห็นว่า A - B = A + (-)B และ A – B = A + (-1)B บทนิยาม ให้ A = [aij]m x n , B = [bij]m x n และ ,  เป็น ค่าคงตัว A - B = [cij]m x n เมื่อ cij = aij - bij สำหรับ i = 1, 2, ... , m และ j = 1, 2, ... , n จากนิยาม จะเห็นว่า A - B = A + (-)B และ A – B = A + (-1)B ตัวอย่าง จงหาเมทริกซ์ A + 2B และ 3A – 4B เมื่อกำหนด

วิธีทำ

เมทริกซ์ที่มีมิติ m x n และสมาชิกทุกตำแหน่งเป็นศูนย์ เช่น ให้ A, B, C, 0 เป็นเมทริกซ์ที่มีมิติ m x n มีสมบัติ ดังนี้ 1. A + B มีมิติ m x n 2. A + B = B + A 3. A + (B + C) = (A + B) + C

6. c(A + B) = cA + cB เมื่อ c เป็นค่าคงตัว 4. A + 0 = 0 + A = A 5. A + (-A) = (-A) + A = 0 6. c(A + B) = cA + cB เมื่อ c เป็นค่าคงตัว 7. (c + d)A = cA + dA เมื่อ c , d เป็นค่าคงตัว 8. (cd)A = c(dA) เมื่อ c , d เป็นค่าคงตัว 9. 1A = A , 0A = 0 สมบัติข้อที่ 4 เรียก 0 ว่าเป็นเอกลักษณ์การบวก และ สมบัติข้อที่ 5 เรียก –A ว่าเป็นตัวผกผันการบวกของ A