บ่อยครั้ง ตั้งแต่ยังเล็กอยู่ เธอได้แสดงความรู้สึกของเธอ โดยทางจดหมาย ซึ่งจะเห็นถึงดวงใจของเธอ ที่เปี่ยมไปด้วย ความรักอันอ่อนหวาน
โจเซฟีนา วีลีนี มารดาของเทเรซา วัลเซ่ มารดาซึ่งรู้จักนิสัยของเธอดี ว่าเธอมีลักษณะที่เข้มแข็ง เธอจึงอบรมบุตรด้วยวิธีที่เด็ดขาด ซึ่งเทเรซาเองก็เข้าใจ
ในปี1885 พระเป็นเจ้าได้ประทานน้องสาวคนหนึ่ง ชื่อว่า โจเซฟปีนา อิตาโล และ เทเรซา เทเรซารักพี่ชายของเธอมากซึ่งภายหลังเขาได้กลับเป็นทนายความ พัฒนาตนในด้านอักษรศาสตร์และศิลปะ เมื่อแต่งงานแล้ว อิตาโลมีบุตรที่ดีเยี่ยม ในปี1885 พระเป็นเจ้าได้ประทานน้องสาวคนหนึ่ง ชื่อว่า โจเซฟปีนา
เทเรซา ช่วงวัยเด็ก ช่วงวัยเด็กที่เมืองไคยโร และที่ อเล็กซานเดรีย ประเทศอียิปต์ เทเรซาได้รับการดูแลอย่างอบอุ่นจากบิดามารดาของเธอ
เทเรซา ช่วงวัยรุ่น เธอได้เดินทางไปที่โดโลมิติ ประเทศสวิตเซอร์แลน ออสเตรีย และเยอรมัน ซึ่งเป็นการเพิ่มพูนความรู้และประสบการณ์ชีวิตให้แก่เธอ
ในปี 1884 ครอบครัววัลเซ่ ปันเตลลินี ได้ไปอาศัยอยู่ที่ฟิเรนเซ ที่บ้านพักฟีเอโซเล
เมื่ออายุ 12 ปี เธอได้ศึกษาที่คอลเลจ “คอนแซร์วาโตรีโอ เดลลา ซันตา อันนุนซีอาตา” หรืออีกชื่อหนึ่งว่า “ปอจโจ อิมเปรีอาเล” และของคณะซิสเตอร์ “ดาเม เดล ซันโต คูโอเร”
ในวัดที่คอลเลจ เธอได้เรียนรู้ถึงการวางรากลึกในความเชื่อโดยอาศัยการภาวนาที่ลึกซึ้ง ซึ่งหล่อเลี้ยงชีวิตแห่งความเชื่อและความหวังของเธอ เธอได้รับศีลมหาสนิทเป็น ครั้งแรก ในวันที่ 29มีนาคม 1891 ณ วัดน้อยแห่งนี้
เธอใช้ช่วงวันหยุดภาคฤดูร้อนที่รุฟีนา ใน “วิลลา ดิ ปอจโจ เรอาเล” เป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงมาก เพราะเป็นสุดยอดในด้านศิลปะของศตวรรษที่16
ห้องทำงาน วิลล่า ดิ ปอจโจ เรอาเล ช่วงวันหยุด เธอมักจะอ่าน ตัดเย็บและ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเธอชอบที่จะเลือก จัดเตรียมเสื้อผ้าต่างๆสำหรับคนยากจนมากกว่า
ทุกๆเย็น เธอจะไปที่ครัว เพื่อแบ่งปันและให้ความช่วยเหลือ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในเรื่องของการสวดสายประคำ
ภายใต้บันไดแห่งนี้ เป็นห้องเก็บฟืน ซึ่งเป็นสถานที่ที่ เทเรซาใช้เก็บของไว้เพื่อแจกจ่ายให้แก่คนยากจนในหมู่บ้าน