ประเทศฟิลิปปินส์
สารบัญ คำทักทาย เรื่อง หน้า เมืองหลวง ธงชาติประเทศฟิลิปปินส์ 5 เรื่อง หน้า เมืองหลวง 6 ธงชาติประเทศฟิลิปปินส์ 1 อาหารประจำชาติ 7 สกุลเงินประจำชาติ 2 ดอกไม้ประจำชาติ 8 ชุดประจำชาติ 3 สถานที่ท่องเที่ยว 9 การเมืองและการปกครอง 4 อุทยานธรรมชาติปะการังตุบบาตาฮา 10
อุทยานแห่งชาติแม่น้ำใต้ดินปวยร์โตปรินเซซา โบสถ์ซานอากุสติน เมืองดอนซอล 16 11 ภูเขาไฟมายอน 12 ภูเขาช็อกโกแลต 17 เกาะมาลาปาสกัว 13 เกาะโบราไกย 18 เมืองเปอร์โต กาเลรา 14 นาขั้นบันไดบานาเว 19 อุทยานแห่งชาติแม่น้ำใต้ดินปวยร์โตปรินเซซา 15 เพลงประจำชาติ 20
การละเล่น 21 โยโย่ 22 สิปา 23 บาสเกตบอล 24 อานิส 25
ธงชาติประเทศฟิลิปปินส์ 1 ธงชาติประเทศฟิลิปปินส์ มีลักษณะเป็นธงสี่เหลี่ยมผืนผ้า กว้าง 1 ส่วน ยาว 2 ส่วน ตอนต้นธงเป็นรูปสามเหลี่ยมสีขาว ภายในมีรูปดวงอาทิตย์รัศมี 8 แฉก ล้อมด้วยดาวห้าแฉก 3 ดวง ตามมุมของรูปสามเหลี่ยม รูปเหล่านี้เป็นสีทอง ส่วนทีเหลือของธงนั้นเป็นแถบแบ่งครึ่งตามด้านยาวของธง ครึ่งบนพื้นสีน้ำเงิน ครึ่งล่างพื้นสีแดง หากแถบทั้งสองสีนี้สลับตำแหน่งกัน คือ แถบสีแดงอยู่บน แถบสีน้ำเงินอยู่ตอนล่าง แสดงว่าประเทศฟิลิปปินส์อยู่ในภาวะสงคราม
2 สกุลเงินประจำชาติ เปโซ (Philippine Peso, PHP) เงินเปโซฟิลิปปินส์มีอัตราแลกเปลี่ยนราว 1.35 เปโซต่อหนึ่งบาทไทย หรือราว 44 เปโซต่อดอลลาร์สหรัฐ ธนบัตรเงินเปโซที่ผลิตออกมาใช้งานมีหลายระดับราคาคือ 20, 50, 100, 200, 500 และ 1,000 เปโซ
3 ชุดประจำชาติ ผู้ชายจะนุ่งกางเกงขายาวและสวมเสื้อที่เรียกว่า บารอง ตากาล็อก (barong Tagalog) ซึ่งตัดเย็บด้วยผ้าใยสัปปะรด มีบ่า คอตั้ง แขนยาว ที่ปลายแขนเสื้อที่ข้อมือจะปักลวดลาย ส่วนผู้หญิงนุ่งกระโปรงยาว ใส่เสื้อสีครีมแขนสั้นจับจีบยกตั้งขึ้นเหนือไหล่คล้ายปีกผีเสื้อ เรียกว่า บาลินตาวัก (balintawak)
การเมืองและการปกครอง 4 การเมืองและการปกครอง ฟิลิปปินส์มีการปกครอง ระบอบประชาธิปไตย แบบสาธารณรัฐ ตามแบบสหรัฐอเมริกา โดยมีประธานาธิปดีเป็นประมุขและเป็น หัวหน้าคณะผู้บริหารประเทศ แบ่งอำนาจอธิปไตยออกเป็น 3 ส่วน คือ อำนาจบริหาร อำนาจนิติบัญญัติ และอำนาจ ตุลาการ มีประธานาธิบดีซึ่งได้จากการ เลือกตั้งเป็นประมุขและผู้นำรัฐบาล
คำทักทาย 5 สวัสดี กูมุสตา(Kumusta) ขอบคุณ ซาลามัต (Salamat) ลาก่อน ปาอาลัม (paalam) สบายดีไหม กูมูสต้า กา (kumusta ka)
6 เมืองหลวง กรุงมะนิลา เมืองหลวงของประเทศฟิลิปปินส์ ประเทศซึ่งขึ้นชื่อในเรื่องของการร้องรำทำเพลง ประชาชนรักเสียงเพลงและความสนุกสนาน มะนิลาคือศูนย์กลางของเขตมหานครที่มีประชากรมากกว่า 10 ล้านคน ตั้งอยู่บนชายฝั่งตะวันออกของอ่าวมะนิลา (Manila Bay) บนเกาะลูซอนซึ่งเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดและตั้งอยู่ทางเหนือสุดของฟิลิปปินส์ เป็นเมืองที่มีความหลากหลายทางเชื้อชาติ และเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ วัฒนธรรม การศึกษา และอุตสาหกรรมรมของประเทศหลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก BAYVIEW PARK HOTEL 4 ดาว หรือเทียบเท่า
7 อาหารประจำชาติ อโดโบ้ เป็นอาหารยอดนิยมของประเทศฟิลิปปินส์ ทำจากเนื้อหมู หรือเนื้อไก่ ที่ผ่านการหมัก และปรุงรส โดยจะใส่น้ำส้มสายชู ซีอิ๊วขาว กระเทียมสับ ใบกระวาน พริกไทยดำ นำไปทำให้สุกโดยอบในเตาอบ หรือทอด แล้วนำมารับประทานกับข้าวสวยร้อน ๆ
8 ดอกไม้ประจำชาติ ดอกไม้ประจำชาติฟิลิปปินส์ คือ ดอกพุดแก้ว (Sampaguita Jasmine) ดอกมีสีขาวกลีบดอกเป็นรูปดาว มีกลิ่นหอม บานส่งกลิ่นในตอนกลางคืน ถือเป็นสัญลักษณ์ของความบริสุทธิ์ เรียบง่าย อ่อนน้อมถ่อมตน รวมถึงความเข้มแข็งอีกด้วย เคยถูกนำมาใช้เฉลิมฉลองในตำนานเรื่องเล่ารวมทั้งบทเพลงของฟิลิปปินส์ด้วย เช่นกัน
9 สถานที่ท่องเที่ยว ฟิลิปปินส์ ประเทศเกาะที่โดดเด่นเรื่องความสวยงามของธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นภูเขา ทะเล หรือหาดทราย มันจึงเป็นประเทศที่มีนักท่องเที่ยวทั่วโลกมาเยือนไม่ขาดสาย
1. อุทยานธรรมชาติปะการังตุบบาตาฮา (Tubbataha Reef) 10 1. อุทยานธรรมชาติปะการังตุบบาตาฮา (Tubbataha Reef) ใครที่ชื่นชอบการดำน้ำชมปะการัง อย่าลืมแวะเวียนมาที่ทะเลซูลู (Sulu Sea) เพราะมันเป็นที่ตั้งของอุทยานธรรมชาติปะการังตุบบาตาฮา ปะการังวงแหวนอันสวยงามและมีขนาดใหญ่ อีกทั้งยังคงความสมบูรณ์ รวมทั้งมีปลาทะเลมากมายหลายสายพันธุ์ โดยอุทยานแห่งชาติปะการังตุบบาตาฮาจะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาดำน้ำชมปะการังในช่วงเดือนเมษายนถึงเดือนมิถุนายน
2. โบสถ์ซานอากุสติน (San Agustin Church) 11 2. โบสถ์ซานอากุสติน (San Agustin Church) โบสถ์ซานอากุสติน ตั้งอยู่ในกรุงมะนิลา และยังเป็นโบสถ์อันเก่าแก่ซึ่งถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1589 ชาวบ้านเชื่อกันว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์มากที่สุดแห่งหนึ่ง เนื่องจากเคยเกิดแผ่นดินไหวถึงเจ็ดครั้งและไฟไหม้อีกสองครั้ง ทว่าโบสถ์ซานอากุสตินยังคงรอดพ้นมาได้และคงสภาพที่สมบูรณ์เช่นเดิม ด้านสถาปัตยกรรมนั้น ภายนอกของโบสถ์ทำจากหินส่วนภายในได้รับอิทธิพลการตกแต่งแบบเม็กซิกัน ดังจะเห็นได้จากการออกแบบไม้กางเกงและจิตรกรรมฝาผนังโดย Giovanni Dibella และ Cesare Alberoni สองศิลปินชาวอิตาเลียนที่ได้บรรจงวาดไว้เมื่อปี ค.ศ. 1800
3. ภูเขาไฟมายอน (MayonVolcano) 12 3. ภูเขาไฟมายอน (MayonVolcano) ภูเขาไฟมายอน ขึ้นชื่อว่าเป็นสถานที่สวยงามซึ่งแฝงไปด้วยอันตราย เพราะมันเป็นภูเขาไฟที่มีการปะทุบ่อยที่สุดในฟิลิปปินส์ โดยมีการปะทุถึง 49 ครั้งในรอบ 400 ปี แต่ครั้งร้ายแรงที่สุดเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1814 เป็นการปะทุแบบทำลายล้างและมีลาวาไหลไปทั่วซึ่งจะเห็นได้จากลาวาที่แข็งตัวจนกลายเป็นหินอยู่รอบพื้นที่ ทว่าความสวยงามของรูปทรงและจุดชมวิวบนยอดเขาทำให้นักท่องเที่ยวมักจะเสี่ยงขึ้นมาตั้งแคมป์, ปีนเขา และเดินป่าเพื่อชมความงดงามของธรรมชาติ นอกจากนี้ยังมีซากปรักหักพังของโบสถ์อันเก่าแก่ที่ถูกทำลายโดยลาวา
4. เกาะมาลาปาสกัว (Malapascua Island) 13 4. เกาะมาลาปาสกัว (Malapascua Island) เกาะมาลาปาสกัว เป็นเกาะเล็ก ๆ ที่มีบรรยากาศเงียบสงบ ส่วนใหญ่เป็นชาวประมงที่อาศัยอยู่บนเกาะแห่งนี้ นักท่องเที่ยวจึงนิยมมาพักผ่อนหย่อนใจด้วยการดำน้ำตื้นหรือดำน้ำลึกเพื่อชมปะการัง นอกจากนี้มันยังเป็นที่ซึ่งคุณจะพบกับสัตว์ประจำถิ่นอย่าง ฉลามหางยาว, ปลากระเบนแมนตา และปลาฉลามหัวค้อนได้แบบง่าย ๆ หรือใครอยากจะชิลไปกับการเดินรับลมหรือนอนอาบแดดบนชาดหายสีขาวก็เป็นไอเดียที่ดี ที่สำคัญยังมีสวนมะพร้าวมากมาย
5. เมืองเปอร์โต กาเลรา (Puerto Galera) 14 5. เมืองเปอร์โต กาเลรา (Puerto Galera) เมืองเปอร์โต กาเลรา เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ริมฝั่งทางตอนใต้ของกรุงมะนิลา และมันยังมีชายหาดที่ที่สวยงามขึ้นชื่อว่าต้องมาเยือนสักครั้ง เพราะนอกจากหาดทรายขาวที่ทอดยาวขนานกับชายฝั่งแล้ว ยังมีสัตว์น้ำทะเลหลากหลายชนิดที่จะทำให้คุณเพลิดเพลินไปกับความสวยงามของมัน และที่พลาดไม่ได้เลย คือ หาด Muelle ที่โด่งดังเรื่องการดำน้ำชมปะการังและการล่องเรือชมความสวยงามรอบเกาะ
15 6.อุทยานแห่งชาติแม่น้ำใต้ดินปวยร์โตปรินเซซา (Puerto Princesa Underground River) อุทยานแห่งชาติแม่น้ำใต้ดินปวยร์โตปรินเซซา ตั้งอยู่ทางชายฝั่งด้านเหนือของเกาะปาลาวัน และยังถือเป็นสวรรค์ของนักท่องเที่ยว เพราะนอกจากบรรยากาศดี ๆ รอบด้านแล้ว คุณยังจะได้เห็นอันซีนฟิลิปปินส์อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นแม่น้ำใต้ดินที่มีความยาวที่สุดในโลก, สัตว์ป่านานาชนิด รวมถึงค้างคาวด้วย นับเป็นความหลากหลายทางธรรมชาติที่หาดูได้ยาก
16 7. เมืองดอนซอล (Donsol) เมืองดอนซอล มีชายหาดที่สวยงามและขึ้นชื่อเรื่องจำนวนฝูงฉลามวาฬที่มองเห็นได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนมิถุนายน แต่ช่วงพีคสุดนั้นอยู่ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์และเดือนพฤษภาคม นอกจากนี้ยังมีป่าชายเลนที่มีความอุดมสมบูรณ์มาก นักท่องเที่ยวจึงนิยมมาล่องเรือมาสัมผัสกับความสดชื่นบริเวณแม่น้ำดอนซอล และในตอนค่ำคืนยังมีหิ่งห้อยนับล้านที่เปล่งแสงออกมาจากเงาไม้ ก่อให้เกิดภาพที่สวยงามมากทีเดียว ที่สำคัญยังหาดูได้ยากในที่อื่น ๆ
8. ภูเขาช็อกโกแลต (Chocolate Hills) 17 8. ภูเขาช็อกโกแลต (Chocolate Hills) ภูเขาช็อกโกแลต ถือเป็นไฮไลท์เด็ดของฟิลิปปินส์ ด้วยภูเขาที่มีลักษณะรูปร่างที่ใกล้เคียงกันเรียงรายอยู่ทั่วเกาะโบฮอลกว่า 1,268 ลูก ทำให้มันเป็นภาพที่งดงามและตระการตาไม่น้อย และความงดงามของแต่ละฤดูกาลยังไม่ซ้ำกัน โดยเฉพาะช่วงที่ภูเขาเปลี่ยนจากสีเขียวสดเป็นสีส้มและสีเหลือง จึงถือเป็นอันซีนฟิลิปปินส์ที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจอย่างมาก
9. เกาะโบราไกย (Boracay Island) 18 9. เกาะโบราไกย (Boracay Island) เกาะโบราไกย เป็นเกาะที่เต็มไปด้วยสีสันของฟิลิปปินส์ ซึ่งมีนักท่องเที่ยวมาเยือนอย่างเนืองแน่นในทุกปี เพราะไม่ใช่แค่วิวทิวทัศน์อันสวยงาม แต่การเดินทางก็ค่อนข้างสะดวก เนื่องจากมีบริการรับ-ส่งจากสนามบินมายังท่าเรือ จากนั้นจึงนั่งเรือต่อมายังเกาะ อีกทั้งยังมีที่พักบนเกาะมากมายให้คุณได้ค้างคืนชิล ๆ พร้อมทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้อย่างเต็มที่ ทั้งดำนำ, ล่องเรือ และในยามราตรียังมีคาเฟ่เล็ก ๆ ให้คุณสนุกกับแสงสียามค่ำคืนด้วย
10. นาขั้นบันไดบานาเว (Banaue Rice Terraces) 19 10. นาขั้นบันไดบานาเว (Banaue Rice Terraces) อาจพูดได้ไม่เต็มปากว่ามาเยือนฟิลิปปินส์หากไม่ได้แวะมาที่นาขั้นบันไดบานาเว ซึ่งเกิดจากการแกะสลักภูเขาของชนเผ่า Ifugao เมื่อสองพันปีก่อนเพื่อใช้ในการทำฟาร์ม ซึ่งเป็นที่น่าทึ่งว่าในสองพันกว่าปีก่อนนั้นยังไม่มีเครื่องไม้เครื่องมือที่ทันสมัย ทว่าชนเผ่าเหล่านี้กลับแกะสลักภูเขาทั้งใบได้อย่างสวยงาม และปัจจุบันมันได้กลายเป็นที่ปลูกข้าวของชาวนาที่มีลักษณะเป็นขั้นบันได ก่อให้เกิดภาพที่สวยงามและยังเหมาะแก่การมาพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติสีเขียวอีกด้วย
20 เพลงประจำชาติ ลูปังฮีนีรัง (ฟิลิปีโน: Lupang Hinirang) คือชื่อของเพลงชาติฟิลิปปินส์ ทำนองประพันธ์ขึ้นเมื่อ ค.ศ. 1898 โดย จูเลียน เฟลิเป (Julián Felipe) เนื้อร้องฉบับปัจจุบันได้ปรับมาจากบทกวีภาษาสเปนชื่อ "ฟีลีปีนัส" ("Filipinas") ซึ่งประพันธ์โดยโฆเซ ปาลมา (José Palma) เมื่อ ค.ศ. 1899 เดิมทีแล้วเพลงลูปังฮีนีรังเป็นเพลงที่เกิดขึ้นเฉพาะเหตุการณ์ เพราะเพลงนี้เมื่อใช้เป็นเพลงชาติในช่วงที่ฟิลิปปินส์เป็นอิสระจากสเปนในระยะเวลาสั้น ๆ ก็ไม่ปรากฏว่ามีเนื้อร้องแต่อย่างใด และได้บรรเลงเฉพาะในพิธีประกาศเอกราชเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน ค.ศ. 1898 เท่านั้น เมื่อสหรัฐอเมริกาเข้าครอบครองฟิลิปปินส์ต่อจากสเปน รัฐบาลอาณานิคมของสหรัฐฯ ได้บัญญัติออกกฎหมายเรื่องธงชาติซึ่งได้สั่งห้ามมีการบรรเลงเพลงนี้[1] กระทั่งถึงปี ค.ศ. 1919 กฎหมายดังกล่าวจึงถูกยกเลิก เพลงนี้จึงได้รับการแปลเนื้อร้องเป็นภาษาอังกฤษ และได้รับรองจากกฎหมายใอย่างเป็นทางการในชื่อเพลง "Philippine Hymn" (เพลงสรรเสริญฟิลิปปิน) บทเพลงนี้ต่อมาได้มีการแปลออกเป็นภาษาตากาล็อกในช่วงคริสต์ทศวรรษที่ 1940 หลายสำนวน ต่อมาในปี ค.ศ. 1956 จึงได้เริ่มใช้บทร้องฉบับภาษาฟิลิปิโนหรือภาษาตากาล็อกแบบมาตรฐาน (มีการปรับแก้ใน ค.ศ. 1960) เป็นบทร้องเพลงชาติสืบมาจนถึงปัจจุบัน
21 การละเล่น พบกับการละเล่นประเทศอาเซียน เรื่อง "การละเล่นประเทศฟิลิปปินส์" ซึ่งเป็นกิจกรรมสร้างสรรค์ เพื่อให้เด็กๆ มีพัฒนาการทางสังคม นำไปสู่การเรียนรู้วัฒนธรรม เชื้อชาติ เเละวิถีชีวิต ที่สื่อผ่านการละเล่นพื้นบ้านของเเต่ละประเทศ ถ่ายทอดด้วยสำนวนชวนอ่าน พร้อมภาพประกอบสี่สี น่ารัก ชวนติดตาม อีกทั้งยังช่วยสร้างสายใยแห่งความผูกพันและความสุขในครอบครัวได้เป็นอย่างดี
22 โยโย่ (Yo – Yo) เป็นของเล่นพื้นบ้านซึ่งเป็นที่นิยมมากในหมู่เด็ก คาดว่าชื่อโยโย่อาจมาจากภาษาอิโลกาโนที่แปลว่า “กลับมา” มีลักษณะเป็นลูกล้อหรือจานหมุน 2 ชิ้น ประกบเข้าด้วยกันโดยมีแกนยึดตรงกลาง มีเชือก 1 เส้นคล้องแกนกลางนั้น วิธีการเล่นคือ จับปลายเชือกด้านที่อิสระแล้วพันเชือกส่วนที่เหลือรอบแกนหมุน จากนั้นสะบัดปลายเชือกและเลี้ยงโยโย้ให้หมุนต่อเนื่อง
23 สิปา (Sipa) เป็นการละเล่นพื้นบ้านประเภทเกมเตะ โดยใช้เศษหวายหรือวัสดุอื่นๆทำเป็นลูกบอลนุ่ม เรียกว่า สิปา นิยมเล่นกันทั้งเด็กชายและเด็กหญิง โดยโยนลูกสิปาไว่ได้ ต่อมาพัฒนามาเป็นกีฬาเซปักตะกร้อโดยใช้ลูกตะกร้อที่ทำจากหวาย
24 บาสเกตบอล (Basketball) เป็นกีฬายอดนิยมของชาวฟิลิปปินส์ มีการจัดการแข่งขันบาสเกตบอลอาชีพ และองค์กรต่างๆ ให้การสนับสนุน
25 อานิส (Arnis) กีฬาประจำชาติฟิลิปปินส์ เป็นศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวที่มีอาวุธคือ ไม้หรือหวาย
26
ด.ญ.ปิยธิดา ศรีชนะ ชั้น ม.2/2 เลขที่ 6 จัดทำโดย ด.ญ.ปิยธิดา ศรีชนะ ชั้น ม.2/2 เลขที่ 6 เสนอ ครู สายฝน ส่องศรี