การจัดการขยะอินทรีย์โดยการทำน้ำสกัดชีวภาพ นายนพชัย ส่งเสียง นักวิชาการสิ่งแวดล้อมชำนาญการ ส่วนสิ่งแวดล้อม สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดกาญจนบุรี
ความหมาย สารสกัดชีวภาพหรือน้ำสกัดชีวภาพหรือน้ำหมักชีวภาพ คือ การนำวัตถุดิบที่เป็นสารอินทรีย์ จากพืชและสัตว์ ที่หาได้ในท้องถิ่นมาผ่านกระบวนการหมักแบบไร้อากาศ ในระยะเวลาที่เหมาะสม ด้วยจุลินทรีย์ที่มีอยู่ตามธรรมชาติ ทำให้ได้ของเหลวที่มีทั้งจุลินทรีย์ และสารอินทรีย์ ชื่อเรียกอื่นๆ - EM (Effective Microorganism) คิดค้นโดย ศ.ดร.เทอรูโอะ ฮิหงะ - ปุ๋ยน้ำชีวภาพ - ปุ๋ยอินทรีย์น้ำ
วัตถุดิบที่ใช้ผลิตสารสกัดชีวภาพ วัตถุดิบที่ใช้ผลิตสารสกัดชีวภาพ คือ อาหารที่ใช้เร่งการเพิ่มจำนวนของจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ให้เจริญเติบโตและเพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็ว สามารถใช้ได้ทั้งพืช สัตว์ หรือพืชและสัตว์รวมกัน 1) วัตถุดิบจากพืช ได้แก่ เศษผัก เศษผลไม้ และพืชสมุนไพรต่างๆ
วัตถุดิบที่ใช้ผลิตสารสกัดชีวภาพ (ต่อ) 2) วัตถุดิบจากสัตว์ ได้แก่ เศษปลา เศษกุ้ง หอยเชอร์รี่ ซากสัตว์ต่างๆ 3) วัตถุดิบจากพืชและสัตว์ ได้แก่ เศษอาหารจากครัวเรือน โรงเรียน ร้านอาหาร เป็นต้น
การทำสารสกัดชีวภาพสูตรที่ 1 1) ขยะอินทรีย์ 2) กากน้ำตาลหรือน้ำตาลทรายแดงหรือน้ำตาลทรายขาว 3 กิโลกรัม 1 กิโลกรัม
การทำสารสกัดชีวภาพสูตรที่ 1 3) ถังหมัก 4) ถุงปุ๋ย 5) อื่นๆ เช่น มีด เขียง ถุงมือ ถาด ตาชั่ง ขนาด 20 ลิตร
การทำสารกัดชีวภาพสูตรที่ 1 วิธีทำ นำขยะอินทรีย์ 3 กิโลกรัม มาผสมกับกากน้ำตาลหรือน้ำตาลทรายแดง หรือน้ำตาลทรายขาว 1 กิโลกรัม คลุกเคล้าให้เข้ากัน จากนั้นเทใส่ถุงปุ๋ย มัดปากถุง แล้วนำไปใส่ในถังหมัก ปิดฝาทิ้งไว้ 15 วัน จะได้ของเหลวมีสีดำหรือสีน้ำตาลแดง (ในกรณีที่ใช้กากน้ำตาลหรือน้ำตาลทรายแดง) หรือได้ของเหลวมีสีขาวขุ่น (ในกรณีที่ใช้น้ำตาลทรายขาว) ซึ่งเป็นหัวเชื้อจุลินทรีย์นั้นเอง
การทำสารสกัดชีวภาพสูตรที่ 1 วิธีทำ เติมน้ำ 5 กิโลกรัม ลงไปในถังหมัก นำขยะอินทรีย์มาใส่ในถุงปุ๋ยที่อยู่ในถังหมักได้ทุกวัน เมื่อเต็มก็หมักไว้ 30 – 75 วัน ก็นำน้ำหมักไปใช้ได้ ข้อสังเกต ควรกดถุงปุ๋ยที่มีขยะอินทรีย์ให้จมน้ำตลอดเวลา เพื่อให้เกิดการหมัก โดยอาจนำก้อนหินหรือก้อนอิฐที่สามารถกดทับให้ถุงปุ๋ยจมน้ำได้ มาวางทับไว้
การทำสารสกัดชีวภาพสูตรที่ 2 1) หัวเชื้อจุลินทรีย์ 2) ขยะอินทรีย์ 3) กากน้ำตาลหรือน้ำตาลทรายแดง 1 ลิตร ใส่จนเต็มถัง 1 กิโลกรัม
การทำสารสกัดชีวภาพสูตรที่ 2 4) ถังหมัก 5) ถุงปุ๋ย 6) อื่นๆ เช่น มีด เขียง ถุงมือ ถาด ตาชั่ง ขนาด 20 ลิตร
การทำสารสกัดชีวภาพสูตรที่ 2 วิธีทำ นำหัวเชื้อจุลินทรีย์ 1 ลิตร กากน้ำตาลหรือน้ำตาลทรายแดง 1 กิโลกรัม น้ำ 10 ลิตร ผสมให้เข้ากันในถังหมัก จากนั้นนำขยะอินทรีย์ใส่ในถุงปุ๋ยและใส่ลงในถังหมัก ปิดฝาถังหมัก เติมขยะอินทรีย์ลงในถุงปุ๋ยได้ทุกวัน เมื่อเต็มถัง ก็หมักไว้ 15 วัน นำน้ำหมักไปใช้ได้
การนำไปใช้ประโยชน์
การนำไปใช้ประโยชน์ในด้านการเกษตร ใช้ฉีดพ่นพืช ผัก ไม้ผล ไม้ยืนต้น เพื่อเพิ่มความสมบูรณ์ ใช้น้ำหมักชีวภาพ ผสมกับน้ำในอัตรา 1 ส่วน ต่อน้ำ 500 - 1000 ส่วน หรือใช้น้ำหมักชีวภาพ 1 ช้อนโต๊ะ (15 มิลลิลิตร) ผสมน้ำ 7 – 10 ลิตร อาจฉีดพ่นทุก 7 วัน ถ้าต้นไม้ พืช ผัก ยังไม่งอกงามเท่าที่ควร หลังจากใช้ไปสักระยะหนึ่ง อาจจะต้องใส่ธาตุอาหารพืช หรือปุ๋ยอื่นๆ เสริมด้วย จึงจะช่วยให้ผลผลิตสูงขึ้น
การนำไปใช้ประโยชน์ในด้านการเกษตร ใช้ราดที่โคนต้นพืชผัก ไม้ผล ไม้ยืนต้น ใช้น้ำหมักชีวภาพ ผสมกับน้ำในอัตรา 1 ส่วน ต่อน้ำ 500 ส่วน หรือใช้น้ำหมักชีวภาพ 1 ช้อนโต๊ะ (15 มิลลิลิตร) ผสมน้ำ 7 ลิตร ราดที่โคนพืชทุก 7 วัน แต่ถ้าต้นไม้ พืช ผัก ยังไม่งอกงามเท่าที่ควร จะต้องใส่ธาตุอาหารพืชหรือปุ๋ยอื่นๆ เสริมด้วย จึงจะช่วยให้ผลผลิตสูงขึ้น
การนำไปใช้ประโยชน์ในด้านการเกษตร การปศุสัตว์ การเลี้ยงสุกร ผสมน้ำหมักพืช 1 ลิตร กากน้ำตาล 1 ลิตร น้ำสะอาด 100 ลิตร ในภาชนะแล้วปิดฝาให้สนิท หมักทิ้งไว้ 3 วัน จึงนำไปใช้ประโยชน์ได้ - ทำความสะอาด ให้นำไปฉีดล้างคอกให้ทั่ว จะกำจัดกลิ่นมูลเก่าได้ภายใน 24 ช.ม. หากทำซ้ำทุกสัปดาห์ น้ำล้างคอกนี้จะช่วยบำบัดน้ำเสียตามท่อและบ่อพักให้สะอาดขึ้นด้วย หรือถ้าผสมน้ำหมักพืช 1 ลิตร ต่อน้ำสะอาด 100 ลิตร ฉีดพ่นตามบ่อน้ำ เพื่อกำจัดหนอนแมลงวัน จะเห็นผลใน 1 - 2 สัปดาห์ - ผสมอาหาร ให้ผสมน้ำหมักพืช 1 ลิตร ต่อน้ำสะอาด 5 - 20 ถังแดง (โดยประมาณ) ให้สุกรกินทุกวันจะช่วยให้แข็งแรงมีความต้านทานโรค และป้องกันกลิ่นเหม็นจากมูลสุกรที่เกิดขึ้นใหม่ด้วย กรณีลูกสุกรที่ท้องเสียให้ใช้น้ำหมักพืช (หัวเชื้อ) 5 ซี.ซี. หยอดเข้าปากจะรักษาอาการได้ หมายเหตุ : กรณีที่เลี้ยงวัว ควาย ก็สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้โดยผสมน้ำหมักพืช กากน้ำตาล และน้ำแล้วรดฟางหรือหัวอาหารให้กิน รวมทั้งใช้ผสมในน้ำให้กินทุกวัน การเลี้ยงไก่ และสัตว์ปีกอื่นๆ ใช้น้ำหมักพืชผสมน้ำสะอาดให้กินทุกวันจะช่วยให้แข็งแรง ไข่ดก น้ำหนักดีอัตราการตายต่ำและมูลสัตว์ไม่มีกลิ่นเหม็น หากใช้น้ำหมักพืชผสมน้ำฉีดพ่นตามพื้นที่กำจัด กลิ่นแก๊ส และกลิ่นเหม็นจากมูลทุก ๆ 4 วัน และยังช่วยกำจัด การขยายพันธุ์ของแมลงวันทางอ้อมด้วย
การทำน้ำยาเอนกประสงค์ชีวภาพ น้ำยาเอนกประสงค์ชีวภาพเป็นน้ำยาที่ผลิตจากวัตถุดิบจากธรรมชาติ ไม่ก่อให้เกิดมลภาวะ เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง และเป็นผลิตภัณฑ์ที่สร้าง รายได้ มีประโยชน์ในการซักล้าง ทำความสะอาด ได้หลายอย่าง เช่น ใช้ล้างจาน ซักผ้า ล้างห้องน้ำ และล้างรถ เป็นต้น
การทำน้ำยาเอนกประสงค์ชีวภาพ จากสารสกัดชีวภาพผัก ผลไม้รสเปรี้ยว ส่วนผสมและอุปกรณ์ 1. ถังพลาสติก 2. ไม้พาย 3. สารให้ฟอง N 70 จำนวน 1 ขีด 4. เกลือป่น จำนวน 2 ขีด 5. น้ำด่างธรรมชาติ (นำขี้เถ้า 2 ก.ก. ผสมกับน้ำ 5 ลิตร ทิ้งไว้ 7 วัน ตักน้ำที่ไม่ปนกับขี้เถ้ามาใช้) 1 ลิตร 6. สารสกัดชีวภาพ (จากผัก ผลไม้รสเปรี้ยว) จำนวน 1 ลิตร วิธีทำ 1. นำ N 70 ใส่ภาชนะสำหรับผสม แล้วเติมเกลือลงไปเล็กน้อย กวนให้เข้ากัน 2. ค่อยๆ เติมน้ำด่างทีละน้อยๆ กวนในทิศทางเดียวกัน ให้เข้ากันจนเป็นเนื้อเดียวกัน 3. เติมสกัดชีวภาพ ทีละน้อยๆ กวนในทิศทางเดียวกัน จนเป็นเนื้อเดียวกัน 4. สังเกตว่าส่วนผสมไม่ข้น ให้เติมเกลือทีละน้อยๆ สลับกับการเติมน้ำด่างธรรมชาติ สารสกัดชีวภาพ จะช่วยให้ส่วนผสมข้นขึ้น เมื่อเสร็จทิ้งไว้ให้ฟองยุบตัว ก่อนนำไปใช้
การทำน้ำยาเอนกประสงค์ชีวภาพ จากสารสกัดชีวภาพมะกรูด ส่วนผสมและอุปกรณ์ 1. ถังพลาสติก 2. ไม้พาย 3. สารให้ฟอง N 70 จำนวน 0.5 กิโลกรัม 4. น้ำเกลือ (0.7 กิโลกรัม ต้มด้วยน้ำ 1.5 ลิตร) จำนวน 1.5 ลิตร 5. สารสกัดชีวภาพมะกรูด (หมักย่างน้อย 3 เดือน) จำนวน 1 ลิตร 6. น้ำสะอาด จำนวน 10 ลิตร (สารสกัดชีวภาพมะกรูด ใช้มะกรูด 3 ก.ก. หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ คลุกเคล้ากับน้ำตาลทราย 1 ก.ก. ผสมน้ำ 10 ลิตร หมักไว้ 3 เดือน) วิธีทำ 1. นำสารสกัดชีวภาพมะกรูด ผสมน้ำสะอาด 10 ลิตร แล้วพักไว้ 2. นำ N 70 ใส่ภาชนะสำหรับผสม แล้วเติมน้ำเกลือลงไปเล็กน้อย กวนให้เข้ากัน ทำแบบนี้จนน้ำเกลือหมด 3. ค่อยๆ เติมน้ำสารสกัดชีวภาพมะกรูดผสมน้ำ (จากข้อ 1) กวนให้เข้ากัน ความหนืด จะค่อยๆ เพิ่มขึ้น 4. เมื่อเสร็จแล้วทิ้งไว้ 1 คืน ให้ฟองยุบตัวก่อนจึงนำไปใช้
ประโยชน์ของน้ำยาเอนกประสงค์ชีวภาพ เมื่อนำมาซักผ้าจะไม่มีกลิ่นเหม็นอับ แม้ซักผ้าตอนกลางคืนแล้วนำไปตาก หรือฤดูฝน ผ้าจะไม่มีกลิ่นเหม็นอับ ช่วยกำจัดแบคทีเรียต้นเหตุของกลิ่นอับได้ ใช้แทนน้ำยาซักผ้าขาวโดยแช่ค้างคืนไว้ 1 – 2 คืน จะทำให้ผ้าสีสดใสและไม่เหม็นเหมือนผงซักฟอกทั่วไป ใช้อาบน้ำชำระล้างร่างกาย (แทนสบู่เหลว) ผู้ที่ใช้ประจำ ผด ผื่น กลากเกลื้อน จะหาย โดยการฟอกที่ผิวทิ้งไว้ 5 – 10 นาที แล้วจึงล้างออก ใช้สระผม (แทนแชมพู) ขจัดรังแค ผมจะนิ่มสวย (สูตรดอกอัญชัน) ใช้ล้างจาน (แทนน้ำยาล้างจาน) ช่วยขจัดคราบไขมันได้ดี หากมีคราบไขมันเยอะให้ผสมน้ำ 1:5 แช่ไว้ 1 – 2 ชั่วโมง ใช้เช็ดกระจก ผสมน้ำยาเอนกประสงค์ 1-2 ช้อนโต๊ะลงในขวดพลาสติกขนาด 1.25 ลิตร ปิดฝาเขย่าให้เข้ากัน หรือเทลงหม้อน้ำฉีดกระจกสำหรับรถยนต์ จำทำให้ขจัดคราบต่างๆ ที่ติดเกาะกระจกรถยนต์ให้หลุดไปโดยง่าย ลดเสียงยางปัดน้ำฝน และยังไม่เป็นอันตรายกับสีรถอีกด้วย ใช้งานซักล้างอื่นๆ ได้หลากหลาย เช่น ล้างรถ ล้างห้องน้ำ ผสมในน้ำซักผ้าถูพื้น ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม และประหยัดรายจ่ายของครอบครัว เมื่อใช้น้ำยาเอนกประสงค์ ไม่ทำให้แพ้หรือมือลอก