Improving access to Justice & legal protection for torture victimes โครงการเข้าถึงความยุติธรรมและการคุ้มครองทางกฎหมายสำหรับ ผู้เสียหายจากการทรมาน ดำเนินการโดย มูลนิธิผสานวัฒนธรรม ร่วมด้วย องค์กรเครือข่าย กลุ่มด้วยใจ , HAP และกลุ่มผู้เสียหายจากการทรมาน supported by UNVFTV
การส่งเสริมสิทธิในการร้องเรียน เกี่ยวกับการทรมาน (1) อธิบายถึงมาตรฐานสากลเรื่องการร้องเรียนหมายถึงอะไร หากมีการร้องเรียนแล้ว ต้องมีการสืบสวนสอบสวน ส่งเสริมสิทธิในการร้องเรียนเกี่ยวกับการทรมานว่ามีความสำคัญอย่างไร เช่น ทำให้ เริ่มต้นการสืบสวนสอบสวน เริ่มต้นการหาพยานหลักฐาน เรียกคืนศักดิ์ศรี ได้รับ การเยียวยา นำคนผิดมาลงโทษ ป้องกันไม่ให้เกิดกับบุคคลอื่นอีก เป็นต้น ชี้แจ้งว่าใครควรมีสิทธิในการร้องเรียนเรื่องการทรมานและเมื่อไร ผู้เสียหาย ญาติ ทนายความ อาสาสมัคร หน่วยบังคับบัญชา องค์กรในประเทศ องค์กรระหว่าง ประเทศต่างๆ
การส่งเสริมสิทธิในการร้องเรียน เกี่ยวกับการทรมาน (2) การส่งเสริมสิทธิในการร้องเรียน เกี่ยวกับการทรมาน (2) แสวงหาช่องทางการส่งต่อเรื่องร้องเรียนเพื่อการแก้ไขเหตุการณ์ เฉพาะ การสืบสวนสอบสวน การดำเนินคดี แพ่ง อาญา ปกครอง หลักการร้องเรียน ให้ร้องเรียนกับเจ้าหน้าที่ที่ควบคุมตัว หรือ ผู้บังคับบัญชา และถ้าจำเป็นร้องเรียนต่อเจ้าหน้าที่มีส่วนในการ ตรวจสอบ หรือเจ้าหน้าที่ที่มีหน้าที่ปรับปรุงแก้ไข หรือการยื่นต่อ องค์การสหประชาชาติ ลดข้อจำกัดผู้ถูกคุมขังและบุคคลอื่นๆ มีสิทธิในการร้องเรียน เพิ่มประสิทธิภาพในการแสวงหาพยานหลักฐาน การจดบันทึก การใช้หลักการอิสตันบูล นิติวิทยาศาสตร์ จิตวิทยา ฯลฯ
การส่งเสริมการห้ามทรมานอย่างเด็ดขาด รณรงค์ให้ประเทศไทยต้องดำเนินการดังนี้ (1) ประเทศไทยต้องป้องกันไม่ให้มีการทรมาน ออกกฎหมายห้ามให้การทรมานเป็น ข้อหาอาญา มีโทษที่เหมาะสมทั้งผู้กระทำและผู้ยุยง รู้เห็นเป็นใจ เมื่อมีการทรมานเกิดขึ้น ต้องดำเนินการเพื่อให้แน่ใจว่าเรื่องร้องเรียนสิ่งที่เกิดขึ้นนั้น ผู้ถูกทรมานจะได้รับโอกาสในการร้องเรียนขอความเป็นธรรมโดยไม่ถูกทำให้ตกเป็น เหยื่อซ้ำสอง
การส่งเสริมการห้ามทรมานอย่างเด็ดขาด รณรงค์ให้ประเทศไทยต้องดำเนินการดังนี้(2) เมื่อมีการร้องเรียนเรื่องการทรมานนั้น ประเทศไทยต้องสืบสวนสอบสวนอย่างเต็มที่ โดยพลัน เป็นอิสระและอย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อมีการสืบสวนสอบสวนข้อกล่าวหาว่ามีการทรมานเกิดขึ้นแล้วนั้น รัฐภาคีจะต้องมี ส่วนรับผิดชอบทางกฎหมายในการนำคนผิดมาลงโทษอย่างเป็นธรรมตามกฎหมาย และให้เหยื่อสามารถได้รับการชดเชยเยียวยาอย่างเหมาะสม
มาตรฐานสากลเรื่องพันธกรณีที่รัฐต้องดำเนินการสืบสวนสอบสวนเรื่องการทรมาน คำว่า “โดยพลัน” หมายความว่าอย่างไร ในการสืบสวนสอบสวนเรื่องการทรมาน คำว่า “เป็นกลาง” หมายความว่าอย่างไร ในการสืบสวนสอบสวนเรื่องการทรมาน คำว่า “ที่มีประสิทธิภาพ” หมายความว่าอย่างไรในการสืบสวนสอบสวนเรื่องการ ทรมาน
โดยพลัน โดยทันทีหลังได้รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทรมาน การสืบสวนสอบสวนไม่ควรจะเกิดขึ้นถ้าพบว่าเป็นข้อร้องเรียนที่ไม่มีมูล หรือไม่มีน้ำหนัก น่าเชื่อถือใดๆ ข้อกล่าวหาทั้งหมดต้องมีการสืบสวนสอบสวนและเจ้าพนักงานของรัฐที่ถูกกล่าวหาควรมีคำสั่ง ให้ออกจากหน้าที่ไว้ก่อน อย่างไรก็ดี การพักราชการไว้ก่อนควรจะเกิดขึ้นเมื่อพบว่าข้อ กล่าวหามีน้ำหนักน่าเชื่อถือพอสมควร เรื่องร้องเรียนทุกเรื่องถ้าไม่ใช่เรื่องร้องเรียนที่ตลก หรือไม่มีน้ำหนักน่าเชื่อถือใดๆ ใน หลักการฯ ได้ระบุว่า เรื่องร้องเรียนทุกเรื่องควรได้รับการตอบรับและดำเนินการโดยพลันและ ตอบกลับอย่างไม่ล่าช้า
“โดยเป็นกลาง” IMPARTIAL “ความเป็นกลาง”เป็นกุญแจสำคัญที่สำคัญที่สุดในการสืบสวนสอบสวนเรื่องการทรมาน “ความเป็นกลาง” หมายถึงปราศจากความลำเอียง ไม่ใช่ ความเป็น“อิสระ”ซึ่งหมายถึงไม่เป็นการสืบสวนสอบสวนโดยบุคคลที่ใกล้ชิดกับผู้ถูก กล่าวหาหรือมีความสัมพันธ์กับผู้ถูกกล่าวหา (อาจไม่รู้จักใกล้ชิดกัน แต่ฝักใฝ่ก็ได้) มีอคติเพราะเขาไม่ได้พิจารณาหลักฐานทั้งสองฝ่ายอย่างเป็นธรรม มีความจำเป็นที่รัฐควรจัดให้มีหน่วยงานอิสระที่ได้รับมอบหมายให้รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับ การทรมานและปฏิบัติที่ไม่เหมาะสม เพื่อทำสืบสวนสอบสวนและสร้างความยุติธรรม
“ที่มีประสิทธิภาพ” รายงานการสืบสวนสอบสวนควรจัดทำขึ้นในเวลาที่เหมาะสม โดยมีแนวทางการสืบสวนหาข้อเท็จจริง วิธีการสืบสวนสอบสวน วิธีการในการประเมินพยานหลักฐาน พร้อมกับการเขียนบทสรุปและข้อเสนอแนะ โดยอยู่บนพื้นฐานข้อเท็จจริงและวิธีการที่ได้มาตามกฎหมาย รายงานที่สมบูรณ์ควรจัดทำเผยแพร่ต่อสาธารณะ
แนวทางของศาลสิทธิมนุษยชนแห่งยุโรป การสืบสวนสอบสวนกรณีทรมาน แนวทางของศาลสิทธิมนุษยชนแห่งยุโรป การสืบสวนสอบสวนกรณีทรมาน “ความมีประสิทธิภาพของการเยียวยากรณีการทรมาน หมายถึงการปฏิบัติ ตามภาระหน้าที่ในการสืบสวนสอบสวนอย่างเต็มที่และอย่างมีประสิทธิภาพ โดยต้อง ดำเนินการให้มีการชี้ตัวผู้กระทำผิดและลงโทษผู้กระทำผิดที่มีส่วนรับผิดชอบในการ ปฏิบัติที่ไม่ถูกต้อง และต้องอนุญาตให้ผู้ร้องเรียนได้เข้าถึงข้อมูลในกระบวนการ สืบสวนสอบสวนด้วย”
เจ้าพนักงานของรัฐจะต้องปฏิบัติอย่างไรเพื่อให้การสืบสวนสอบสวนมีประสิทธิภาพได้มาตรฐานสากล เจ้าพนักงานของรัฐจะต้องปฏิบัติเพื่อให้เหยื่อที่ถูกทรมานได้รับการปกป้องและทำ อย่างไรที่พวกเขาจะได้รับสิทธิในการมีส่วนร่วมในการสืบสวนสอบสวน เจ้าพนักงานของรัฐจะต้องมีมาตรการเพื่อให้ผู้ต้องขังและผู้อื่นได้รับสิทธิร้องเรียน เกี่ยวกับการทรมานและจัดให้มีการสืบสวนสอบสวน มีนโยบายที่สั่งการหรือเป็นกฎระเบียบบังคับหรือไม่ที่ให้เจ้าพนักงานของรัฐและ เจ้าหน้าที่ระดับบริหารต้องสืบสวนสอบสวนการร้องเรียนเรื่องทรมานจากเหยื่อ
วิธีการสืบสวนสอบสวนที่ดี ได้แก่ การสืบสวนสอบสวนข้อกล่าวหานั้นควรมีเหตุมีผลและสมควรแก่เวลา ไม่มีอคติ มีทัศนคติของเจ้าหน้าที่ที่ดีต่อเหยื่อและผู้ที่ถูกกล่าวหา การสอบถามพยานที่ทันท่วงที/โดยพลัน การค้นหาพยานหลักฐานในสถานที่เกิดเหตุ (ยกตัวอย่างเช่น การค้นสถานที่คุม ขัง ตรวจสอบบันทึกการควบคุมตัว หรือการตรวจร่างกายโดยแพทย์ที่มีการ รับรอง);
ข้อเสนอเพิ่มเติม การสืบสวนสอบสวน เป็นไปได้หรือไม่ที่ประเทศไทยจะเปิดโอกาสให้มีการสืบสวนสอบสวนโดยรัฐเองแม้ว่าจะไม่มีเรื่องร้องเรียน ถ้ามีมูลว่ามีการ ทรมานเกิดขึ้น เหตุผลหนึ่งเป็นเพราะว่าในบางกรณีผู้ถูกทรมานอาจไม่อยู่ในภาวะที่สามารถร้องเรียนได้ เช่นกรณีที่เสียชีวิต หรือได้รับ บาดเจ็บสาหัส ที่ไม่สามารถดำเนินการใดๆได้เอง หรือมีข้อจำกัดทางภาษา ไม่รู้กฎหมาย ไม่มีทนายสิทธิฯ กรณีกล่าวหาต่าง ๆ ที่ได้มาจากการทำงานขององค์กรพัฒนาเอกชนหรือบุคคลต่าง ๆ ก็น่าจะมีมูลน่าเชื่อถือเพียงพอ
เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายควรที่จะดำเนินการเพื่อคุ้มครองสิทธิของผู้ตกเป็นเหยื่อการทรมานดังนี้ แจ้งให้ทราบว่ามีการชดเชยเยียวยาและมีวิธีร้องเรียนอย่างไร ต้องจัดให้พบทนายความ แพทย์ และสมาชิกของครอบครัว และในกรณีที่เป็นชาวต่างประเทศ จัด ให้พบผู้แทนสถานทูตหรือกงสุล ให้ยื่นหนังสือร้องเรียนให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเป็นความลับ โดยไม่ล่าช้า ให้สามารถยื่นหนังสือร้องเรียนต่อหน่วยงานภายนอกได้ เช่น หน่วยงานในกระบวนการยุติธรรม และหน่วยงานที่ทำหน้าที่ตรวจเยี่ยม รวมทั้งการให้สิทธิในการติดต่อสื่อสารอย่างเสรีกับหน่วยงาน นั้นๆ บังคับสั่งการให้เจ้าหน้าที่ได้รับมอบหมายทำการสืบสวนสอบสวน มีระบบการสืบสวนสอบสวนอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งสิทธิที่จะได้รับการตรวจร่างกายอย่าง ทันท่วงที
ข้อเสนอของยูเอ็นต่อประเทศไทยกรณีทรมาน (1) ขอให้แก้ไขกฎหมายให้การทรมานเป็นความผิดอาญาโดยไม่ชักช้า ทบทวนการใช้กฎหมายพิเศษด้านความมั่นคง เช่นไม่ควรควบคุมตัวโดยไม่ตั้งข้อหา ไม่ให้ติดต่อญาติทนายความ ห้าม ไม่ให้ยกเว้นความผิดจนท. ห้ามใช้คำสารภาพที่ได้จากการทรมานเป็นหลักฐานในชั้นศาล รัฐภาคีควรใช้มาตรการที่จำเป็นทั้งหมดเพื่อป้องกันการบังคับให้สูญหาย และเพื่อการต่อสู้กับการลอยนวลพ้นผิด เนื่องจากความผิดฐานบังคับให้สูญหายยังไม่มี
ข้อเสนอของยูเอ็นต่อประเทศไทยกรณีทรมาน (2) 4. ป้องกันไม่ให้ผู้กระทำผิดกรณีทรมานลอยนวลรัฐควรดำเนินการตามเหล่านี้โดยเร่งด่วน: (ก) ประณามต่อสาธารณะ ควบคู่ไปกับการเตือนอย่างชัดแจ้งว่าผู้กระทำการดังกล่าวหรือยินยอม รู้เห็นเป็นใจในการ กระทำทรมาน จะถูกดำเนินคดีอาญา หากมีคำพิพากษาว่ากระทำผิดจริงจะต้องรับโทษตามความสมควรแก่ความผิด (ข) ใช้มาตรการที่จะได้รับการสอบสวน ทันที อย่างละเอียด และยุติธรรม โดยหน่วยงานพลเรือนที่เป็นอิสระอย่างเต็มที่ ผู้กระทำผิดจะถูกดำเนินคดี และหากพบว่ามีความผิดจริงตามข้อกล่าวจะต้องได้รับการลงโทษตามสมควรแก่พฤติการณ์ แห่งความผิด (ค) พักการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในระหว่างการสืบสวนข้อกล่าวอ้างว่ามีการกระทำทรมานและการปฏิบัติที่ โหดร้าย (ง) ดำเนินการให้แน่ใจว่าบุคลากรทางทหารจะได้รับการพิจารณาคดีในศาล พลเรือน สำหรับข้อหาการกระทำการ ทรมานและการกระทำอื่นๆ ที่คล้ายคลึงกัน (จ) จัดทำระบบรับข้อร้องเรียนที่เป็นอิสระสำหรับทุกคนที่ถูกลิดรอนเสรีภาพ
ข้อเสนอของยูเอ็นต่อประเทศไทยกรณีทรมาน (3) 5. การคุ้มครองพยานและผู้ตกเป็นเหยื่อ รวมถึง ญาติ (ก) แก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติคุ้มครองพยานฯ เพื่อให้ครอบคลุมการดำเนินการใดๆ รวมทั้งการ ดำเนินคดีทางแพ่ง คดีปกครอง และการขยายประเภทของบุคคลที่สามารถได้รับการคุ้มครอง (ข) ให้ความมั่นใจว่าผู้กระทำผิดจะไม่มีอิทธิพลต่อกลไกการคุ้มครองพยาน และผู้กระทำผิดจะต้องรับผิด (ค) ดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อแจ้งให้ประชาชนทราบว่ามีพระราชบัญญัติคุ้มครองพยานฯ และให้พยานใน กรณีการกระทำทรมานสามารถเรียกร้องบริการคุ้มครองพยานได้ (ง) การยกเลิกการดำเนินคดีหมิ่นประมาททางอาญาหรือการให้ความคุ้มครองแก่ผู้ร้องเรียนและพยานใน กรณีที่เกี่ยวกับการกระทำทรมานจากการดำเนินคดีดังกล่าว
ข้อเสนอของยูเอ็นต่อประเทศไทยกรณีทรมาน (4) การป้องกันการทรมานและการประติบัติและการลงโทษที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือย่ำยีศักดิ์ศรี (ก) ตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีการตรวจเยี่ยมสถานที่ควบคุมตัวทั้งหมดอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งโดยการตรวจเยี่ยมปกติ และการตรวจเยี่ยมโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า โดยการตรวจสอบระดับชาติและระดับระหว่างประเทศ ที่เป็นอิสระ การตรวจสอบยังรวมถึงการตรวจสอบจากองค์กรพัฒนาเอกชน (ข) นำเสนอข้อเสนอแนะจากการตรวจเยี่ยมเผยแพร่สู่สาธารณะ และติดตามผลของระบบการตรวจสอบดังกล่าว (ค) เก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ เวลา และระยะเวลา การตรวจสอบ รวมถึงการตรวจเยี่ยมโดยไม่แจ้งล่วงหน้า ตามสถานที่ที่ควบคุมบุคคลที่สูญสิ้นเสรีภาพ ตลอดจนข้อค้นพบและการติดตามผลของการตรวจเยี่ยมดังกล่าว (ง) ให้สัตยาบันพิธีสารเลือกรับของอนุสัญญาต่อต้านการทรมานและประติบัติ หรือการลงโทษที่โหดร้าย ไร้ มนุษยธรรม หรือย่ำยีศักดิ์ศรี และจัดตั้งกลไกป้องกันการทรมานแห่งชาติ
ข้อเสนอของยูเอ็นต่อประเทศไทยกรณีทรมาน (5) รัฐภาคีควรให้แน่ใจว่า กสม. สามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพตามอาณัติของตน ให้สอดคล้องกับ หลักการปารีส (มติสมัชชาแห่งสหประชาชาติ ที่ 48/134, โปรดพิจารณา ภาคผนวก ) โดยเฉพาะ อย่างยิ่งโดยการเสริมสร้างบทบาทของกสม. ในการดำเนินการตรวจเยี่ยมโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า เพื่อ อำนวยความสะดวกในการรับฟังถ้อยคำจากผู้ถูกควบคุมตัวเป็นการลับ รัฐภาคีควรนำข้อเสนอแนะของ กสม. มาปฏิบัติ และให้หลักประกันความเป็นอิสระและการมีตัวแทนจาก องค์ประกอบที่มีความหลากหลายของกสม. คณะกรรมการฯแนะนำให้รัฐภาคีพิจารณาทบทวนขั้นตอนการเลือกสรรคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน แห่งชาติ(กสม.) ที่เคยเป็นมา ให้มีมุมมองที่จะเพิ่มจำนวนของคณะกรรมาธิการ และเพื่อเปิดโอกาสให้ ผู้แทนองค์กรพัฒนาเอกชนด้านสิทธิมนุษยชนมีส่วนร่วม
ข้อเสนอของยูเอ็นต่อประเทศไทยกรณีทรมาน (6) การอบรมเจ้าหน้าที่รัฐ (ก) จัดให้มีโครงการฝึกอบรมโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์มีความตระหนักถึง บทบัญญัติของอนุสัญญา และเข้าใจว่าจะไม่ยินยอมให้มีการละเมิดโดยเด็ดขาด แต่จะมีการตรวจสอบและนำ ผู้กระทำผิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม (ข) จัดให้มีการฝึกอบรมเฉพาะทางด้านวิธีตรวจสอบว่ามีการทรมานและการประติบัติที่โหดร้ายหรือไม่ รวมทั้ง การฝึกอบรมการใช้ คู่มือการสืบสวนและการบันทึกการกระทำทรมานและการประติบัติ หรือการลงโทษอื่นๆ ที่ โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือย่ำยีศักดิ์ศรีอย่างมีประสิทธิภาพ (พิธีสารอิสตันบูล) สำหรับบุคลากรที่เกี่ยวข้องทุก คน รวมทั้งบุคลากรการแพทย์ (ค) เสริมสร้างความพยายามที่จะใช้วิธีการที่มีความอ่อนไหวทางเพศในการฝึกอบรมผู้ที่เกี่ยวข้องในการดูแลการ สอบสวน หรือการปฏิบัติต่อสตรี ที่อยู่ภายใต้การจับกุมคุมขังหรือจองจำในทุกรูปแบบ (ง) ประเมินประสิทธิภาพและผลกระทบของโครงการการฝึกอบรมและการให้ศึกษาต่อเหตุการณ์การทรมานและ การปฏิบัติที่โหดร้าย
ข้อเสนอของยูเอ็นต่อประเทศไทยกรณีทรมาน (7) ประเทศไทยควรรวบรวมข้อมูลสถิติที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบการปฏิบัติตามอนุสัญญาในระดับชาติ รวมถึง (1)ข้อมูลเกี่ยวกับการร้องเรียน การสอบสวน การดำเนินคดี และการตัดสินลงโทษกรณีการกระทำทรมานและการ ประติบัติที่โหดร้าย (2)การเสียชีวิตระหว่างถูกควบคุมตัว การวิสามัญฆาตกรรม การบังคับให้บุคคลสูญหาย ความ รุนแรงอันมีทางเพศ การค้ามนุษย์ (3)และข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการชดเชย การชดใช้และการฟื้นฟูเยียวยาให้กับผู้ประสบการกระทำทรมาน เมื่อรวบรวม แล้วพึงส่งข้อมูลดังกล่าวไปยังคณะกรรมการ CAT