ดาวน์โหลดงานนำเสนอ
งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ
1
การทอและเครื่องทอผ้า
ผ้าทอด้วยด้าย 2 เส้นหรือมากกว่าขัดเป็นมุมฉากซึ่งกันและกัน ด้ายยืนเรียกว่าwarp yarnหรือend ด้ายพุ่งเรียกว่าfilling ,weft,pick ชื่อของผ้าขึ้นอยู่กับประโยชน์ใช้สอย เมืองที่ทอ บุคคลที่ทอ ตามลักษณะของผ้าเช่นผ้าโทแบคโค เป็นผ้าใช้บังแดดให้ต้นยาสูบ ผ้าชีสโคลท เป็นผ้าห่อเนย
2
เครื่องทอผ้า ประกอบด้วย
แกนม้วนด้าย2อัน ตะกอ(headles) ฟันหวีหรือฟืม(reed or botten) กระสวย
3
ขั้นตอนในการทอ 1. ทำให้เป็นช่องว่าง 2. สอดใส่เส้นด้ายพุ่ง
3. กระทบด้ายพุ่ง 4. ม้วนผ้าเก็บ
4
เครื่องทอผ้าแบบไร้กระสวย
เครื่องทอแบบพ่นน้ำ ใช้เครื่องพ่นน้ำที่มีความดันสูงนำด้ายพุ่งข้ามเส้นยืน ผ้าที่ทอต้องนำไปทำให้แห้ง แก้โดยการลงแป้งทนน้ำ สอดใส่ด้ายพุ่ง ครั้ง/นาที เร็วกว่าเครื่องธรรมดา2-3เท่า เครื่องทอผ้าแบบพ่นอากาศ ใช้กระแสลมนำเส้นด้ายพุ่ง ความกว้างของหน้าผ้ามีจำกัด แรงลมน้อยลง เครื่องทอชนิดเรเบียร์(rapier type loom)ตัวนำเส้นด้ายพุ่งมีลักษณะเป็นแกนโลหะ อยู่2ข้างของเครื่องทอ จะวิ่งมารับเส้นพุ่งตรงกลาง Triaxial loomใช้ด้ายยืน2ชุดด้ายพุ่ง1ชุดขัดเป็นรูปสามเหลี่ยมทำมุม60องศา
5
เครื่องประกอบที่ใช้กับเครื่องทอผ้า
Dobby attachment Doup attachment Swivel attachment Jaquard loom
6
ลักษณะของผ้าทอ 1.ด้าย ด้ายยืนและด้ายพุ่ง ด้ายยืนแข็งแรงกว่า จำนวนเกลียวสูงกว่า ขนานกับริมผ้า เล็กกว่าด้ายพุ่ง ด้ายตกแต่งมักเป็นด้ายพุ่ง 2.ทิศทางด้ายไม่ตรง(off-grain) 3.จำนวนเส้นด้ายต่อตารางนิ้ว:จำนวนเส้นด้ายยืนและด้ายพุ่งของผ้าที่ยังไม่ผ่านการตกแต่งต่อ1ตารางนิ้ว การเขียนเช่น80x76.156 4.ความสมดุลย์ของผ้าที่ดีควรเป็น1:1หรือแตกต่างกันไม่เกิน10 5.ริมผ้า(selvages) แบบธรรมดา แบบเทป แบบตัดแยก แบบเชื่อมติด 6.ความกว้างของผ้า
7
การทอเบื้องต้น 1. ทอลายขัด(Plain weave) 2.ทอลายสอง(Twill weave)
3.ทอลายต่วน(Satin weave)
8
ทอลายขัด มีลักษณะเรียบเหมือนกันทั้ง2หน้าแต่ทำให้ดูน่าสนใจโดย ใช้ด้ายยืน ด้ายพุ่งมีจำนวนเกลียวต่างกัน ไม่เท่ากัน ใช้ด้ายต่างชนิด ด้ายพิเศษ ด้ายผิวสัมผัส ด้ายต่างสี ระยะการทอถี่ห่างไม่เท่ากัน ตกแต่งผิวหน้า การทอลายขัดมี 3 ประเภทคือ 1.ทอลายขัดแบบสมดุลย์ 2.ทอลายขัดแบบไม่สมดุลย์หรือลูกฟูก 3.ทอแบบสานตะกร้า
9
ผ้าทอลายขัดแบบสมดุลย์ มีทั้งผ้าเนื้อบางและเนื้อหนา
ผ้าทอลายขัดแบบสมดุลย์ มีทั้งผ้าเนื้อบางและเนื้อหนา 1.ผ้าบาง(sheer fabrics) ผ้าบางเนื้อน้อย มีจำนวนเส้นด้ายต่อตารางนิ้วต่ำ ช่องว่างมีมาก ผ้ารวนง่าย ไม่ทนทานเช่น guaze crinoline ผ้าบางเนื้อมาก เนื้อบางเบา โปร่งแสง ด้ายเส้นเล็กเข้าเกลียวค่อนข้างสูงเช่น ผ้าorgandy lown batiste ด้ายยืนขนาด 70sด้ายพุ่งขนาด100s 88x80 ผ้าคุณภาพดีทำจากcombed cotton หรือ cotton ผสม polyester
10
Organdy (ผ้าแก้ว)ใช้เป็นผ้ารองในปก สาบ คอเสื้อ
Lawn [ผ้าสาลู] ใช้ตัดเสื้อเด็ก ผ้าเช็ดหน้า Batiste(ผ้าสาลู)ใช้ทำเสื้อเด็กอ่อน ผ้าอ้อม ผ้าซับใน Voile(ผ้าป่าน)บางเบา เนื้อละเอียด ทำจากฝ้าย ฝ้ายผสมโพลิเอสเตอร์ เย็นสบาย จับจีบได้ดี Chiffon ด้ายเส้นเล็ก เข้าเกลียวสูง ผลิตจากใยยาว ผ้าเนื้อบางมีปัญหาด้านการตัดเย็บ ตะเข็บย่นง่าย เห็นตะเข็บด้านใน ควรทำตะเข็บเล็ก พับชายให้เล็ก
11
ผ้าเนื้อบางปานกลาง เป็นผ้ากลุ่มใหญ่ที่สุด ใช้ในชีวิตประจำวันมากที่สุด ใช้เส้นด้ายขนาดกลาง Chintz ทอด้วยcombed cotton เรยองหรือฝ้ายผสมโพลิเอสเตอร์ Percale ผ้าเนื้อละเอียด แน่น เข้าเกลียวสูง ทั่วไปทำจากcarded 80x80 ถ้าเป็นผ้าตัดเสื้อ ผ้าปูที่นอน ปลอกหมอนชนิดดีทำจากฝ้ายcombed Muslin เป็นผ้ากลุ่มใหญ่ที่สุด มีตั้งแต่เนื้อบางถึงหนามาก เนื้อละเอียดจนถึงแน่น หนา
12
Linen เหมือนpercaleแต่ด้ายใหญ่กว่า เข้าเกลียวน้อยกว่า
Gingham ทอจากด้ายย้อมสีเป็นรูปสี่เหลี่ยมเล็ก ตาใหญ่ ทางยาว Chambray ด้ายยืนด้ายพุ่งต่างสีกัน มักใช้ด้ายยืนสีเข้ม Ratine ใช้ด้ายnoveltyเป็นปุ่มปมหรือห่วง ทอลายขัดหลวมๆ Lame ทอด้วยโลหะเงิน ทอง Tweed ทอจากด้ายที่นำมาปั่นผสมสี อาจทำจากขนสัตว์หรือเส้นใยเลียนแบบ
13
ผ้าเนื้อหนา Crash เนื้อหยาบ ทอจากด้ายที่มีขนาดในเส้นไม่เท่ากัน
Duck,Canvas ใช้ด้ายคู่เข้าเกลียวสูง เนื้อแน่นมาก ทำผ้าใบ Butcher rayon เป็นมัน ด้ายเส้นใหญ่ ใช้เรยองผสมอาซิเตด เรยองผสมโพลิเอสเตอร์
งานนำเสนอที่คล้ายกัน
© 2024 SlidePlayer.in.th Inc.
All rights reserved.