งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ

งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ

SESSION 1 THE BABY-FRIENDLY HOSPITAL INITIATIVE:

งานนำเสนอที่คล้ายกัน


งานนำเสนอเรื่อง: "SESSION 1 THE BABY-FRIENDLY HOSPITAL INITIATIVE:"— ใบสำเนางานนำเสนอ:

1 SESSION 1 THE BABY-FRIENDLY HOSPITAL INITIATIVE:
SESSION 1 THE BABY-FRIENDLY HOSPITAL INITIATIVE: A PART OF THE GLOBAL STRATEGY

2 poor infant feeding practices
เด็กตาย 5500 /วัน impaired development Malnutrition เพิ่ม infectious เพิ่ม chronic illness Rising rates of obesity in children ที่ไม่ได้รับนมแม่ The World Health Assembly and UNICEFลงนามร่วมกันเรื่อง the Global Strategy on Infant and Young Child Feeding in 2002.

3 Global Strategy for Infant and Young Child Feeding
เป้าหมายของthe Global Strategy is to improve optimal feeding the nutritional status growth and development health the survival of infants and young children. UNICEF/WHO Breastfeeding Promotion and Support in a Baby-Friendly Hospital - 20 hour Course 2009

4 สนับสนุน exclusive breastfeeding for 6 months, with timely, adequate, safe and appropriate complementary feeding, while continuing breastfeeding for two years and beyond. สนับสนุนเรื่องmaternal nutrition สังคม ชุมชน The Global Strategy จึงมีส่วนร่วมในthe Baby-friendly Hospital Initiative.

5 . Baby-friendly Hospital Initiative
The BFHI is a global initiative of the WHO and UNICEFต้องการให้ทารกทุกคนได้the best start in life โดยการสร้างสภาพแวดล้อมในโรงพยาบาลให้ส่งเสริมสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ให้กลายเป็นเรื่องปกติ เป้าหมายของthe Baby-friendly Hospital Initiative คือ implement the Ten Steps to Successful Breastfeeding -ไม่รับบริจาคหรือซื้ออาหารทดแทนนมแม่ในราคาถูกกว่าปกติในสถานบริการสุขภาพ เริ่มต้นตั้งแต่ปีค.ศ.1991 จนถึงปีค.ศ มีสถานบริการสุขภาพมากกว่า 20,000 แห่งทั่วโลกจาก 152 ประเทศ ผ่านการรับรองเป็น BFHI

6 . Baby-friendly Hospital Initiative
มีเกณฑ์การประเมินสถานบริการสุขภาพรวมทั้งบุคลากร ที่ส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่รวมทั้งพัฒนา การปฏิบัติเพื่อการส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ในโรงพยาบาลที่ยังไม่ผ่านการรับรอง สร้างกรอบการทำงานที่ช่วยให้แม่มีทักษะเพื่อเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว ตั้งแต่แรกเกิด ถึง 6 เดือนหลังอายุ 6 เดือนให้นมแม่ร่วมกับอาหารเสริมตามวัยได้เหมาะสมจนกระทั่งอายุ 2 ปี ให้การดูแลเรื่องอาหารทารกที่เหมาะสมในกลุ่มทารกที่ไม่ได้กินนมแม่ แนะนำให้สอนหลักสูตรbreastfeeding แก่บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข

7 BFHIในประเทศไทยภายใต้โรงพยาบาลสายใยรักแห่งครอบครัว
ในเขตสาธารณสุขที่ 4 มีโรงพยาบาลที่ผ่านการรับรองเป็นโรงพยาบาลสายใยรักแห่งครอบครัว ตั้งแต่ปี จนถึง 2554 จำนวน 55โรงพยาบาลจากจำนวนโรงพยาบาลทั้งหมด 69โรงพยาบาลในเขต ปี2555 ในเขตสาธารณสุขที่ 4 และ5 ทุกโรงพยาบาลผ่านการรับรองเป็นโรงพยาบาลสายใยรักแห่งครอบครัว 100%

8 BFHI มีความสำคัญในพื้นที่ที่มีhigh HIV prevalence
บทบาทของโรงพยาบาลสายสัมพันธ์แม่-ลูก.ในพื้นที่ที่มี high prevalence of HIV infection ในแม่จะเป็นอย่างไร โรงพยาบาลสายสัมพันธ์แม่-ลูกยิ่งมีความสำคัญ โรงพยาบาลต้องมีแนวทางในการดูแลแม่กลุ่มนี้ The WHO/UNICEF/UNAIDS policy statement on HIV and infant feeding กล่าวว่า แม่กลุ่มนี้ต้องได้รับข้อมูลที่ถูกต้องเพื่อการตัดสินใจเรื่องการให้อาหารทารก [5-15% ของทารก(1 in 20 to 1 in 7) ที่เกิดจากแม่HIV-infected จะเป็นHIV-positiveจาก breastfeeding] ในกลุ่มแม่ที่ HIV negative; breastfeeding ยังคงเป็น the best choice สำหรับแม่และลูก

9 ไม่ใช่การBANผลิตภัณฑ์
เริ่มต้นดำเนินการBaby-friendly Hospital Initiative ให้รับรู้ความหมายของ the Ten Steps to Successful Breastfeeding ชี้แจงให้บุคลากรผู้ปฏิบัติเห็นความสำคัญ ทำอย่างไรจึงจะนำไปสู่การปฏิบัติจริงได้ พูดถึงการปฏิบัติที่เกี่ยวกับหลักเกณฑ์ว่าด้วยการตลาดอาหารสำหรับทารกและเด็กเล็กและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง ในโรงพยาบาล การประเมินกระบวนการ ไม่ใช่การBANผลิตภัณฑ์

10 TEN STEPS TO SUCCESSFUL BREASTFEEDING A Joint WHO/UNICEF Statement (1989)
มีนโยบายการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เป็นลายลักษณ์อักษรที่สื่อสารกับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขทุกคนได้เป็นประจำ ( Have a written breast feeding policy that is routinely communicated to all health –care staff ) ฝึกอบรมบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขทุกคนให้มีทักษะที่จะนำนโยบายนี้ไปปฏิบัติ ( Train all health-care staff in skills necessary to implement this policy ) ชี้แจงให้หญิงตั้งครรภ์ทุกคนทราบถึงประโยชน์และวิธีการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ( In form all pregnant women about benefits and management of breast-feeding )

11 TEN STEPS TO SUCCESSFUL BREASTFEEDING A Joint WHO/UNICEF Statement (1989)
4) ช่วยแม่เริ่มให้ลูกดูดนมภายในหนึ่งชั่วโมงแรกหลังคลอด (Help mothers initiate breast-feeding within a half-hour of birth ) 5) แสดงให้แม่รู้วิธีเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ และวิธีให้น้ำนมยังคงมีปริมาณพอเพียงแม้ว่าแม่และลูกจะต้องแยกจากกัน ( Show mothers how to breast-feed and how to maintain lactation, even if they should be separated from their infants ) 6) อย่าให้นมผสมน้ำ หรืออาหารอื่นแก่เด็กแรกคลอดนอกจากนมแม่ เว้นแต่จะมีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ (Give newborn infants no food or drink other than breast milk unless medically indicated )

12 สนับสนุนให้ลูกได้ดูดนมแม่ทุกครั้งที่ลูกต้องการ
TEN STEPS TO SUCCESSFUL BREASTFEEDING A Joint WHO/UNICEF Statement (1989) 7) ให้แม่และลูกอยู่ในห้องเดียวกันตลอด 24 ชั่วโมง ( Practice rooming-in- allow mothers and infants to remain together -24 hours a day ) สนับสนุนให้ลูกได้ดูดนมแม่ทุกครั้งที่ลูกต้องการ ( Encourage breast-feeding on demand ) อย่าให้ลูกดูดหัวนมยางและหัวนมหลอกหรือหัวนมปลอม ( Give no artificial teats or pacifiers (also called dummies and soothers) to breast-feeding infants ) 10) ส่งเสริมให้มีการจัดตั้งกลุ่มช่วยเหลือและสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่และส่งแม่ไปติดต่อกลุ่ม ดังกล่าวเมื่อออกจากโรงพยาบาลหรือคลินิก ( Foster the establishment of breast-feeding support groups and refer mothers to them on discharge from the hospital or clinic )

13 TEN STEPS TO SUCCESSFUL BREASTFEEDING A Joint WHO/UNICEF Statement (1989)
มีนโยบายการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เป็นลายลักษณ์อักษรที่สื่อสารกับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขทุกคนได้เป็นประจำ นโยบายช่วยให้: ● การมีนโยบาย จะทำให้เกิดมาตรฐาน วิธีปฏิบัติ แนวทางในการดูแลแม่และลูกเพื่อการส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ●สามารถติดตามประเมินผลการปฏิบัติ เกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ● การมีนโยบาย ที่ได้รับการยอมรับในทุกระดับ เป็นคำมั่นสัญญาและความรับผิดชอบของโรงพยาบาล จะทำให้เกิดการผลักดันให้มีการปฏิบัติตามมาตรฐาน

14 นโยบาย เป็นข้อตกลงร่วมกันว่าจะปฏิบัติตามมาตรฐาน ถ้าไม่สามารถปฏิบัติได้จะต้องมีการบันทึก
ในนโยบายของโรงพยาบาล อย่างน้อยจะต้องประกอบด้วยเรื่อง - บันไดสิบขั้นสู่ความสำเร็จของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ - การไม่รับการบริจาคนมผสมฟรี หรือซื้อนมผสมในราคาถูก ขวดนม และหัวนม และไม่แจกจ่าย ให้แก่แม่ - กรณีแม่ที่ติดเชื้อเอชไอวี มีแนวทางในการช่วยแม่ในการตัดสินใจเลือกใช้วิธีการให้นมลูกที่เหมาะสม

15 2) ฝึกอบรมบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขทุกคนให้มีทักษะที่จะนำนโยบายนี้ไปปฏิบัติ
จุดมุ่งหมายของการฝึกอบรมคือให้บุคลากรทางการแพทย์มีความมั่นใจในการช่วยเหลือให้ลูกได้ดูดนมแม่โดยเร็วและดูดนมแม่อย่างเดียวซึ่งนำทางไปสู่การเป็นโรงพยาบาลสายสัมพันธ์แม่-ลูก

16 เนื้อหาและการปฏิบัติที่ต้องเรียนรู้
การใช้ทักษะการสื่อสารเพื่อพูดคุยกับpregnant women, mothers and co-workers; การนำthe Ten Steps to Successful Breastfeedingไปปฏิบัติจริงร่วมกับหลักเกณฑ์ว่าด้วยการตลาดอาหารสำหรับทารกและเด็กเล็กและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง พูดถึงความสำคัญของbreastfeeding ให้หญิงตั้งครรภ์ได้รับทราบและการปฏิบัติหลังคลอดเพื่อให้ลูกได้เริ่มต้นดูดนมแม่โดยเร็ว ได้แก่การทำskin-to-skin contact และearly initiation of breastfeeding; ช่วยเหลือแม่ให้เรียนรู้ทักษะเกี่ยวกับpositioning and attaching her baby รวมถึงทักษะการทำhand expression;

17 เนื้อหาและการปฏิบัติที่ต้องเรียนรู้
คุยกับแม่เรื่องสถานที่หรือบุคคลที่สามารถไปติดต่อ รับการช่วยเหลือเมื่อมีปัญหาการให้นมแม่หลังกลับจากโรงพยาบาล คุยกับแม่ที่ไม่สามารถให้นมแม่ได้ถึงสถานที่หรือบุคคลที่สามารถไปติดต่อ รับการช่วยเหลือเรื่องการให้อาหารทารก สามารถระบุได้ว่าการปฏิบัติใดสนับสนุน breastfeeding การปฏิบัติใดขัดขวางการให้นมแม่ ทำงานร่วมกันเพื่อค้นหาอุปสรรคที่สำคัญของbreastfeedingและวางแนวทางแก้ไข

18 เมื่อจบการฝึกอบรมแล้วจะได้อะไร?
increase the level of knowledge, skill, and confidence ได้รับข้อมูลและมีการปฏิบัติในแนวทางเดียวกันทั้งโรงพยาบาล ได้แนวทางปฏิบัติพื้นฐานของโรงพยาบาลที่เป็นมิตรกับทารก The Global Strategy ได้รับการสนับสนุนโดยnational policies, laws และโครงการที่สนับสนุน ปกป้อง และส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ รวมถึงการปกป้องสิทธิการลาคลอดของหญิงให้นมบุตร

19 ขอบคุณค่ะ

20


ดาวน์โหลด ppt SESSION 1 THE BABY-FRIENDLY HOSPITAL INITIATIVE:

งานนำเสนอที่คล้ายกัน


Ads by Google