ดาวน์โหลดงานนำเสนอ
งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ
2
พื้นฐานอันแข็งแกร่งของความเชื่อ Faith’s Strong Foundation
โรม 4:16-23 Faith’s Strong Foundation Romans 4:16-23
3
1. ความเชื่อของอับราฮัมมีพื้นฐานอยู่บน
พระวจนะ ของพระเจ้า 1. Abraham’s faith was based on God’s Word.
4
โรม 4:16-19 16 เหตุฉะนั้นพระสัญญาจึงมาทางความเชื่อ เพื่อพระ
สัญญาจะไปเป็นไปโดยพระคุณ และเพื่อพงศ์พันธุ์ทุกคนของอับราฮัมจะได้รับตาม พระสัญญาอย่างแน่นอน ไม่เพียงผู้ที่ถือบทบัญญัติเท่านั้น แต่ผู้ที่มีความเชื่อแบบเดียวกับอับราฮัมด้วย เขาเป็นบิดาของพวกเราทั้งหมด 17 ตามที่มีเขียนไว้ว่า “เราได้ให้เจ้าเป็นบิดาของหลายชนชาติ เขาเป็นบิดาของเราในสายพระเนตรพระเจ้าผู้ที่เขาเชื่อ คือพระเจ้าผู้ประทานชีวิตแก่คนที่ตายแล้วและทรงเรียกสิ่งที่ไม่มีเสมือนว่าสิ่งนั้นมีอยู่แล้ว 18ทั้งๆ ที่ไม่น่าจะมีความหวังใดๆ อับราฮัมก็ยังเชื่อ เพราะเขามีความหวัง เขาจึงได้เป็นบิดาของหลายชนชาติ เหมือนที่ได้ตรัสกับเขาไว้แล้วว่า “พงศ์พันธุ์ของเจ้าจะเป็นเช่นนั้นแหละ 19 ความเชื่อของเขาไม่ได้ถดถอยเลยเมื่อเขาเผชิญกับความจริงที่ว่าร่างกายของเขาเหมือนได้ตายไปแล้ว เพราะเขามีอายุราวร้อยปีแล้ว และความจริงที่ว่าซาราห์ก็ไม่สามารถมีบุตร a. Romans 4: 16-19
5
สดุดี 119:89 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า พระวจนะของพระองค์คงอยู่ตลอดไป มั่นคงนิรันดร์ในสวรรค์
Psalm 119:89 - Forever, O Lord, Your word is settled in heaven.
6
อิสยาห์ 40:8 ต้นหญ้าเหี่ยวเฉาและดอกไม้ร่วงโรยไป
อิสยาห์ 40:8 ต้นหญ้าเหี่ยวเฉาและดอกไม้ร่วงโรยไป แต่พระวจนะของพระเจ้าของเรายืนยงนิรันดร์ Isaiah 40:8 - 8 The grass withers, the flower fades, But the word of our God stands forever.
7
ข. ความเชื่อจำเป็นต้องมีพื้นฐานอยู่บนพระวจนะ ของพระเจ้า ไม่ใช่…
ไม่ใช่บนประสบการณ์ของคนอื่น ไม่ใช่บนสถานการณ์ต่างๆ ดูโน๊ตของศูนย์อบรมฯ ไม่ใช่บนความรู้สึก b. Faith must be based on the Word of God – Not… Not people’s experiences. Not on natural circumstances. See RBTCT notes. Not on feelings.
8
2. ความเชื่อของอับราฮัมมีพื้นฐานอยู่บน
พระลักษณะ ของพระเจ้า 2. Abraham’s faith was based on the character of God.
9
โรม 4:19-21 19 ความเชื่อของเขาไม่ได้ถดถอยเลยเมื่อเขาเผชิญกับ
โรม 4: ความเชื่อของเขาไม่ได้ถดถอยเลยเมื่อเขาเผชิญกับ ความจริงที่ว่าร่างกายของเขาเหมือนได้ตายไปแล้ว เพราะเขามีอายุราวร้อยปีแล้ว และความจริงที่ว่าซาราห์ก็ไม่สามารถมีบุตร 20 กระนั้นเขาก็ไม่ได้หวั่นไหวคลางแคลงใจในพระสัญญาของพระเจ้า แต่มั่นคงในความเชื่อและถวายพระเกียรติสิริแด่พระเจ้า 21เพราะเชื่อมั่นเต็มที่ว่าพระเจ้าทรงมีฤทธิ์อำนาจที่จะทำสิ่งที่พระองค์ได้ทรงสัญญาไว้ Romans 4: And not being weak in faith, he did not consider his own body, already dead (since he was about a hundred years old), and the deadness of Sarah's womb. 20 He did not waver at the promise of God through unbelief, but was strengthened in faith, giving glory to God, 21 and being fully convinced that what He had promised He was also able to perform.
10
ก. พระเจ้าทรงสามารถ โรม 4:21
a. God is able. Romans 4:21
11
ข. พระเจ้าไม่มุสา กันดารวิถี 23:19
19 พระเจ้าไม่ใช่มนุษย์ จะได้พูดมุสา พระองค์ไม่ได้ทรงเปลี่ยนใจ อย่างมนุษย์ มีหรือที่ทรงลั่นวาจาไว้แล้วไม่ทรงกระทำ? หรือทรง สัญญาไว้แล้วไม่ทรงกระทำให้เป็นไปตามนั้น? b. God does not lie. Numbers 23:19 “God is not a man, that He should lie, Nor a son of man, that He should repent. Has He said, and will He not do? Or has He spoken, and will He not make it good?
12
ค. พระเจ้าทรงสัตย์ซื่อ ฮีบรู 10:23
ให้เรายึดมั่นอย่างไม่คลอนแคลนในความหวังใจซึ่งเราประกาศ รับไว้เพราะพระองค์ผู้ทรงสัญญานั้นทรงสัตย์ซื่อ c. God is faithful. Hebrews 10:23 Let us hold fast the confession of our hope without wavering, for He who promised is faithful.
13
3. ให้ใคร่ครวญความจริงแห่งพระวจนะของพระเจ้า
และความเชื่อของท่านจะมีพื้นฐานอยู่บนพระวจนะของพระเจ้า และพระลักษณะของพระเจ้า และจะไม่อยู่บนความรู้สึก สถานการณ์ หรือความคิดเห็นของมนุษย์ 3. Meditate on the truth of God’s Word and your faith will be based on God’s Word and not feeling, circumstance, or man’s opinions.
14
พื้นฐานอันแข็งแกร่งของความเชื่อ Faith’s Strong Foundation
โรม 4:16-23 Faith’s Strong Foundation Romans 4:16-23
งานนำเสนอที่คล้ายกัน
