DOM Document Object Model

Slides:



Advertisements
งานนำเสนอที่คล้ายกัน
Chapter 11 Ajax.
Advertisements

Introduction with Examples HTML5
Ajax อ.วชิระ หล่อประดิษฐ์ ระบบสารสนเทศทางคอมพิวเตอร์
FORM อ.กันทิมา อ่อนละออ
: Chapter 1: Introduction 1 Montri Karnjanadecha ac.th/~montri Image Processing.
Java Script 2 Structure Flow Control Function and Method Event Handler
Location object Form object
Client-Side Scripts เอกสารประกอบการบรรยาย รายวิชา Browser-Based Application Development.
ASP [#12] ตัวอย่าง VBScript เพื่อใช้ตรวจสอบค่าบนฟอร์ม
– Web Programming and Web Database
Javascripts.
CSS.
Master Page Style Sheet
การออกแบบและ พัฒนาเว็บไซต์ WEBPAGE DESIGN AND DEVELOPMENT FOR INFORMATION SERVICES สำหรับการบริการสารสนเทศ.
Page: 1 การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์บนเว็บ อ. บุรินทร์ รุจจนพันธุ์.. ปรับปรุง 12 กรกฎาคม 2550 HTML (HyperText Markup Language)
HTML Hypertext Markup Language Updated : August 23,2012.
การจัดการกับเหตุการณ์ Event Handling
การจัดการแท็ก โดยใช้ Document Object Model : DOM ง การเขียนได นามิกเว็บเพจ ศูนย์คอมพิวเตอร์ โรงเรียนปลวกแดง พิทยาคม.
Data Form c40205 Web Site Developing in PDP style ศูนย์คอมพิวเตอร์ โรงเรียน ปลวกแดงพิทยาคม.
Software Engineering Project Presentation
การสร้าง WebPage ด้วย Java Script Wachirawut Thamviset.
Chapter 3 Simple Supervised learning
หน่วยที่ 10 Objects and Event handling
 Mr.Nitirat Tanthavech.  HTML forms are used to pass data to a server.  A form can contain input elements like text fields, checkboxes, radio-buttons,
Metamedia Technology Co.,Ltd. Longdo Map Workshop I MM Map API Metamedia Technology August 7, 2007.
Invitations Invitations ตอนที่ 3 ครูรุจิรา ทับศรีนวล
การสร้างฟอร์ม(Form) ด้วยภาษา HTML
JQUERY. jQuery คือ JavaScript Platform หรือ JavaScript Library Library ที่ถูกเขียนขึ้นจาก JavaScript เพื่อลดขั้นตอนสนองการพัฒนา เว็บไซต์ในรูปแบบใหม่ การโต้ตอบกับ.
โครงสร้างพื้นฐานของ JavaScript
Form.
โดย ส.อ.ประกาศิต วรนุช วิททยาลัยเฉลิมกาณจนา
Cascading Style Sheet (CSS). CSS การใช้งาน CSS Class และ ID Pseudo Class.
PHP. What You Should Already Know HTML CSS JavaScript.
PHP: Session. What is a PHP Session? Session variables solve this problem by storing user information to be used across multiple pages (e.g. username,
Timed Math Quiz. โปรแกรมสุ่มคำนวณเลขแข่งกับ เวลา.
4 Array ● array types ● foreach loop ● Use arrays with Web forms
Chapter 8 WWW.
HTML HyperText Markup Language
การอบรมระบบความรับผิดทางละเมิดและแพ่ง
ภาษา CSS (Cascading Style Sheets)
BootStrap Front-end framework
HTML (Hypertext Markup Language).
JavaSCript.
What is CSS? CSS (Cascading Style Sheet) ซึ่งเราจะใช้ CSS เพื่อให้แก้ไขคุณสมบัติ ของเว็บเพจ ให้มีหน้าตา สีสันหรือรูปแบบเป็นไปตามที่ต้องการ CSS มีลักษณะคล้ายหน้ากาก.
Microsoft Visual Basic 2010
JavaScript.
JavaScript.
Macromedia Flash 8 สุรีย์ นามบุตร.
เอกสารประกอบการบรรยายรายวิชา Web Technology
- HTML (1) – Web Programming and Web Database
หน่วยการเรียนรู้ การเขียนโปรแกรมภาษาขั้นพื้นฐาน เรื่อง การตกแต่ง HTML 5 ด้วย CSS รหัส รายวิชา ง23102 การงานอาชีพและเทคโนโลยี 6 กลุ่มสาระ การงานอาชีพและเทคโนโลยี
HTML (2) – Web Programming and Web Database
Computer Programming การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์
ภาษา JavaScript Webpage Design and Programming Workshop ( )
HYPER TEXT MARKUP LANGUAGE
อาจารย์ชนิดา เรืองศิริวัฒนกุล หลักสูตรสาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ
JAVASCRIPT Jquery – Web Programming and Web Database
บทที่ 1 ความรู้เบื้องต้น เกี่ยวกับระบบสารสนเทศ
โครงสร้างพื้นฐานของ HTML5
DOM Document Object Model.
การใช้ jQuery จัดการอีเวนต์
การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์
Picture Viewer.
JavaScript&CSS&DOM.
XML, JSON และ AJAX – Web Programming and Web Database
Good morning welcome to Calvary Chapel at the Bridge สวัสดีตอนเช้าขอต้อนรับสู่ โบสถ์แคล'วะรีแชพ'เพิลที่สะพาน.
2 E 2 S E M N G Requests and Replies
Ajax Asynchronous JavaScript and XML
การใช้ jQuery จัดการโหนด
บทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง ภาษาอังกฤษเพื่ออาชีพ
ใบสำเนางานนำเสนอ:

DOM Document Object Model Chapter 4 DOM Document Object Model

DOM: Document Object Model DOM คือ built-in object ที่ browser สร้างขึ้นจากโครงสร้างโค้ด HTML เมื่อมีการโหลดหน้าเว็บนั้น ๆ มีโครงสร้างแบบ Tree โค้ด html DOM ที่สร้างจากโค้ด html <!doctype html> <html> <head> <title>Basic DOM example</title> <meta charset="UTF-8"> </head> <body> <h1>Hello World!</h1> <p>While this is a <b>very basic HTML document</b>, it actually serves as a detailed example of the document object model.</p> </body> </html> โหนด Element

DOM: Document Object Model ในโค้ด JavaScript สามารถใช้ DOM จากตัวแปรชื่อว่า "document" ซึ่งเก็บ Element Object ทุกตัวในเว็บหน้านั้นอยู่ document มีเมธอดสำหรับดึง Element ที่ต้องการ เพื่อนำมาแก้ไขค่า หรือเรียก method เพื่อทำให้เกิดการ interactive กับผู้ใช้ได้ document domain title location getElementById() getElementsByTagName() getElementsByClassName() … createElement() ใช้ดึง Element ที่มีชื่อตรงกับ id ที่กำหนด ใช้ดึงรายการ Element ที่มีชื่อตรงกับแท็ก HTML ที่กำหนด ใช้ดึงรายการ Element ตามชื่อ class ที่กำหนด

Element Object Element Object เป็น object ที่เก็บข้อมูลของแต่ละ Element ในหน้าเว็บ การดึง Element ด้วยเมธอด getElementXxx( ) จะทำให้ได้ Element Object ที่นักพัฒนาต้องการออกมา p innerHTML childElementCount firstChild style classname appendChild() insertBefore() setAttribute() getAttribute() … รายการ Property โดยทั่วไป Element Object จะมี attribute ที่คล้ายคลึงกัน ขึ้นกับ attribute ของแท็กนั้นๆ รายการ Method โดยทั่วไป Element Object จะมี method ที่คล้ายคลึงกัน ศึกษาเพิ่มเติมที่ https://developer.mozilla.org/en-US/docs/Web/API/Element

การดึง Element Object ตามค่าใน id ดึงเอา Element Object ที่มี id ชื่อว่า blueplanet ออกมา document.getElementById("blueplanet"); <!DOCTYPE html> <html> <body> <p id="greenplanet">All is well</p> <p id="redplanet">Nothing to report</p> <p id="blueplanet">All systems OK</p> </body> </html> <html> document <body> <p id="greenplanet"> <p id="blueplanet"> <p id="redplanet"> "All is well" "Nothing to report" "All systems OK" DOM ที่สร้างจากโค้ด html

การเปลี่ยนแปลงเนื้อหาใน Element var planet = document.getElementById("blueplanet"); planet.innerHTML = "Red Alert"; เปลี่ยนแปลงข้อความที่อยู่ระหว่างแท็กเปิดและปิดโดยกำหนดค่าใน innerHTML document <html> <body> <p id="greenplanet"> <p id="redplanet"> <p id="blueplanet"> "All is well" "Nothing to report" "Red Alert" "All systems OK"

การแทรกโค้ด JavaScript <html> <body> <p id="greenplanet">All is well</p> <p id="redplanet">Nothing to report</p> <p id="blueplanet">All systems OK</p> </body> </html> Browser จะสร้าง DOM หลังจากโหลดเว็บทั้งหน้าเสร็จแล้ว ดังนั้นการการเขียนโค้ดเพื่อดึง Element จาก DOM จึงต้องทำหลังสุด <script> alert("DOM Loaded Success"); var planet = document.getElementById("blueplanet"); planet.innerHTML = "Red Alert"; </script> <!DOCTYPE html> <html> <body> <p id="greenplanet">All is well</p> <p id="redplanet">Nothing to report</p> <p id="blueplanet">All systems OK</p> <script> alert("DOM Loaded Success"); var planet = document.getElementById("blueplanet"); planet.innerHTML = "Red Alert"; </script> </body> </html>

กิจกรรม จากรายการแบบ unordered list 3 รายการ ซึ่งไม่มีชื่อเพลง จงใช้เติมคำสั่งในช่องว่างให้ครบ เพื่อดึงโหนดบน DOM ออกมา และใส่ชื่อเพลงให้กับแต่ละแท็ก <li> ดังตัวอย่าง <html> <head><meta charset="utf-8"></head> <body> <h1>Top Chart</h1> <ul id="playlist"> <li id="song1"></li> <li id="song2"></li> <li id="song3"></li> </ul> <script> var s1 = document.getElementById("song1"); var s2 = document.getElementById("_______"); var s3 = document.getElementById("_______"); s1._________ = "เรือเล็กควรออกจากฝั่ง - bodyslam"; s2._________ = "คำถามซึ่งไร้คนตอบ - Getsunova"; ____.innerHTML = "โปรดเถิดรัก - Cocktail"; </script> </body> </html> <html> <head> <meta charset="utf-8"> </head> <body> <h1>Top Chart</h1> <ul id="playlist"> <li id="song1"></li> <li id="song2"></li> <li id="song3"></li> </ul> <script> var song1 = document.getElementById("song1"); var song2 = document.getElementById("song2"); var song3 = document.getElementById("song3"); song1.innerHTML = "เรือเล็กควรออกจากฝั่ง - bodyslam"; song2.innerHTML = "คำถามซึ่งไร้คนตอบ - Getsunova"; song3.innerHTML = "โปรดเถิดรัก - Cocktail"; </script> </body> </html>

Event Event หมายถึง เหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขณะที่ผู้ใช้กำลังดูเว็บหน้านั้นๆ อยู่ เช่น กำลังโหลดหน้าเว็บ นำเมาส์วางบนภาพหรือตัวอักษร กดปุ่มใดๆบนคีย์บอร์ด กรอกแบบฟอร์ม การเพิ่ม attribute ที่ขึ้นต้นด้วย onXXX ภายในแท็ก HTML เช่น onclick, onload และระบุชื่อฟังก์ชัน JavaScript จะเกิดการเรียกฟังก์ชันที่กำหนดไว้แบบอัตโนมัติ ตามเกิดเหตุการณ์ที่กำหนดไว้

ประเภทของ Event Windows Event Mouse Event Keyboard Event Form Event เหตุการณ์ที่เกิดกับหน้าต่างเว็บบราวเซอร์ Mouse Event เหตุการณ์การใช้เมาส์กับส่วนต่างๆในหน้าเว็บ Keyboard Event เหตุการณ์การใช้คีย์บอร์ดกับส่วนต่างๆในหน้าเว็บ Form Event เหตุการณ์ที่เกิดกับส่วนต่างของฟอร์ม HTML

Windows Event ชื่อ Event คำอธิบาย onload ทำงานเมื่อหน้าเว็บนั้นโหลดเสร็จแล้ว onunload ทำงานเมื่อหน้าเว็บกำลังจะออกไปจากหน้าเว็บนั้น onresize ทำงานเมื่อหน้าเว็บนั้นถูกปรับขนาด onscroll ทำงานเมื่อหน้าเว็บนั้นมีการเลื่อนหน้า

การกำหนด Event ในแท็ก HTML <body> <p id="greenplanet">All is well</p> <p id="redplanet">Nothing to report</p> <p id="blueplanet">All systems OK</p> </body> </html> 1. สร้างฟังก์ชันที่รองรับเหตุการณ์ <head> <script> </script> </head> function init() { } var planet = document.getElementById("blueplanet"); planet.innerHTML = "Red Alert"; 2. ระบุ Event และชื่อฟังก์ชันที่จะทำงานเมื่อหน้าเว็บนี้โหลดเสร็จ <body onload="init()"> <!DOCTYPE html> <html> <head> <script> function init() { alert("DOM Loaded Success"); var planet = document.getElementById("blueplanet"); planet.innerHTML = "Red Alert"; } </script> </head> <body onload="init()"> <p id="greenplanet">All is well</p> <p id="redplanet">Nothing to report</p> <p id="blueplanet">All systems OK</p> </body> </html> การย้ายโค้ดส่วนดึง Element Object ไปไว้ในแท็ก <head> จะต้องให้โค้ดนั้นถูกทำหลังจากโหลดเอกสาร HTML เสร็จแล้ว ซึ่งระบุด้วย Window Event onload

การกำหนด Event ในโค้ด JavaScript <html> <body onload="init()"> <p id="greenplanet">All is well</p> <p id="redplanet">Nothing to report</p> <p id="blueplanet">All systems OK</p> </body> </html> 1. ระบุ Event 2. สร้าง Anonymous Function รองรับการทำงานกับ event <head> <script> </script> </head> window.onload = function() { } var planet = document.getElementById("blueplanet"); planet.innerHTML = "Red Alert"; ไม่ต้องระบุ Event ภายในแท็ก HTML <body> <!DOCTYPE html> <html> <head> <script> function init() { alert("DOM Loaded Success"); var planet = document.getElementById("blueplanet"); planet.innerHTML = "Red Alert"; } </script> </head> <body onload="init()"> <p id="greenplanet">All is well</p> <p id="redplanet">Nothing to report</p> <p id="blueplanet">All systems OK</p> </body> </html>

กิจกรรม จากกิจกรรมก่อนหน้านี้ จงย้ายส่วนของโค้ด JavaScript ไปสร้างเป็นฟังก์ชันในส่วน <head> และกำหนดเหตุการณ์ 2 แบบ กำหนด Event ในแท็ก HTML กำหนด Event ในโค้ด JavaScript

Mouse Events ชื่อ Event คำอธิบาย onclick ทำงานเมื่อคลิกที่ Element ondblclick ทำงานเมื่อ double คลิกที่ Element onmousedown ทำงานเมื่อกดปุ่มเมาส์ที่ Element onmouseup ทำงานเมื่อปล่อยปุ่มเมาส์ที่ Element onmousemove ทำงานเมื่อตัวชี้เคลื่อนผ่าน Element onmouseover ทำงานเมื่อนำตัวชี้วางบน Element onmouseout ทำงานเมื่อนำตัวชี้ออกจาก Element

การเพิ่ม Mouse Event ในแท็ก HTML <head> <meta charset="UTF-8"> <script> function showMessage() { alert("ใกล้สอบแล้ว อ่านหนังสือกันยัง"); } </script> </head> <body> <img src="sunny.jpg"> </body> </html> onmouseover="showMessage()">

การกำหนด Mouse Event ในโค้ด JavaScript <html> <head> <meta charset="UTF-8"> <script> function showMessage() { alert("ใกล้สอบแล้ว อ่านหนังสือกันยัง"); } </script> </head> <body> <img src="sunny.jpg"> </body> </html> window.onload = function() { var img1 = document.getElementById("img1"); img1.onmouseover = showMessage; } คำสั่งนี้อยู่ใน window.onload เพราะต้อง get element หลังจากโหลดเว็บเสร็จแล้ว การระบุชื่อ function ให้กับ Event ไม่ต้องใส่วงเล็บ ( ) id="img1"> กำหนด id ให้แท็ก เพื่อใช้ดึงใน JavaScript

การกำหนด Mouse Event ทั้ง 2 วิธี <html><head> <script> function showMessage() { alert("ใกล้สอบแล้ว อ่านหนังสือกันยัง"); } </script> </head> <body> <img src="sunny.jpg" onmouseover="showMessage()"> </body></html> การกำหนด Mouse Event ในแท็ก HTML <html><head> <script> function showMessage() { alert("ใกล้สอบแล้ว อ่านหนังสือกันยัง"); } window.onload = function() { // การดึง Element ในส่วน <head> ต้องสร้างฟังก์ชันที่ทำงานหลังจากโหลดเว็บเสร็จแล้ว var img1 = document.getElementById("img1"); // ดึงเอา Element ที่มี id=img1 ออกมาเพื่อใช้กำหนดเหตุการณ์ img1.onmouseover = showMessage; // กำหนดให้เรียก function showMessage เมื่อเกิดเหตุการณ์ onmouseover </script> </head> <body> <img src="sunny.jpg" id="img1"> </body></html> การกำหนด Mouse Event ในโค้ด JavaScript การระบุชื่อ function ให้กับ Event ไม่ต้องใส่วงเล็บ ( )

กิจกรรม จากกิจกรรมก่อนหน้านี้ จงเพิ่ม Mouse Event ให้กับ Element <h1>Top Chart</h1> โดยเมื่อนำเมาส์ไปคลิกที่ข้อความให้แสดงรายชื่อเพลง หลังคลิก ก่อนคลิก

การดึงค่าจากแท็ก <input> <html> <head> <script> function showText() { var inputObject = document.getElementById("b1"); alert(inputObject.value); } </script> </head> <body> <input type="text" id="b1"> <b onclick="showText()">คลิกฉันที</b> </body> </html>

กิจกรรม จงสร้าง Textfield 3 ช่อง และปุ่ม 1 ปุ่ม เมื่อมีการคลิกที่ปุ่มให้นำค่าจากช่องที่ 1 บวกช่องที่ 2 แล้วแสดงผลลัพธ์ช่องที่ 3 <!DOCTYPE html> <html> <head> <meta charset="UTF-8"> <script> function add() { var t1 = document.getElementById("t1"); var t2 = document.getElementById("t2"); var t3 = document.getElementById("t3"); t3.value = Number.parseInt(t1.value) + Number.parseInt(t2.value); } </script></head> <body> <input type="text" id="t1" size="5"> + <input type="text" id="t2" size="5"> = <input type="text" id="t3" size="5"> <input type="button" onClick="add()" value="Go Go"> </body> </html>

กิจกรรม จากแบบฟอร์มลงทะเบียน เมื่อมีการกดปุ่ม submit ให้เชคว่า password ในช่องทั้งสองตรงกันหรือไม่ <html> <head> <script> function checkPassword() { // เพิ่มการทำงานที่นี่ } </script> </head> <body> <h1>Register</h1> Username: <input type="text"><br> Password: <input type="text" id="pass1"><br> Re-type Password: <input type="text" id="pass2"><br> <input type="submit" onclick="checkPassword()"> <div id="errormsg"></div> </body> </html> <html> <head> <script> function checkPassword() { var pass1 = document.getElementById("pass1").value; var pass2 = document.getElementById("pass2").value; var errormsg = document.getElementById("errormsg"); if (pass1===pass2) { errormsg.innerHTML = "Correct"; errormsg.style.color = "green"; } else { errormsg.innerHTML = "Incorrect"; errormsg.style.color = "red"; } </script> </head> <body> <h1>Register</h1> Username: <input type="text"><br> Password: <input type="text" id="pass1"><br> Re-type Password: <input type="text" id="pass2"><br> <input type="submit" onclick="checkPassword()"> <div id="errormsg"></div> </body> </html>

Property ทั่วไปของโหนด Element คำอธิบาย innerHTML เนื้อหาที่อยู่ภายในแท็ก style เข้าถึงคุณสมบัติของ CSS className ชื่อคลาสที่ใช้จัดรูปแบบใน CSS

การเปลี่ยนแปลงค่า CSS Property รูปแบบ: document.getElementById(id).style.attribute = "ค่า css property" <html> <head> <script> function changeColor() { var planet = document.getElementById("blueplanet"); planet.style.color = "red"; } </script> </head> <body> <p id="greenplanet">All is well</p> <p id="redplanet">Nothing to report</p> <p id="blueplanet" onclick="changeColor()">All systems OK</p> </body> </html> กำหนด CSS property ให้เป็นสีแดง

การเปลี่ยนแปลงค่า CSS Property <html> <head> <meta charset="UTF-8"> <script> function over() { var titleObject = document.getElementById("pageTitle"); titleObject.style.fontSize = "20px"; } function out() { titleObject.style.fontSize = "16px"; </script> </head> <body> <div id="pageTitle" onmouseover="over()" onmouseout="out()">Welcome</div> </body> </html> onmouseout onmouseover ดึง Element pageTitle ออกมา กำหนด Event ให้กับ Element โดยให้เรียก ฟังก์ชัน over เมื่อมีเมาส์มาวาง ฟังก์ชัน out เมื่อนำเมาส์ออก

การกำหนดคลาส CSS ให้ Element <html><head> <style> .style1 { font-size: 20px; color: blue; } .style2 { font-size: 16px; color: black; </style> <script> function over() { var titleObject = document.getElementById("pageTitle"); titleObject.className = "style1"; function out() { titleObject.className = "style2"; </script> </head> <body> <div id="pageTitle" onmouseover="over()" onmouseout="out()">Welcome</div> </body></html> onmouseout onmouseover ระบุชื่อคลาส CSS ที่สร้างไว้แล้ว เข้าถึงชื่อคลาสของ Element

กิจกรรม จงเขียนเว็บที่มีสัญลักษณ์ + และ - เพื่อใช้ปรับขนาดของตัวอักษรเมื่อมีการคลิก <html> <head> <script> var size = 14; // ประกาศตัวแปรไว้ใช้ร่วมกัน ใช้เก็บขนาดที่เพิ่มหรือลด function decrease() { // เพิ่มโค้ดที่นี่ } function increase() { </script> </head> <body> <h1> <span onclick="decrease()">-</span> | <span onclick="increase()">+</span> </h1> <p id="p1"> If you're leavin', will you take me with you? I'm tired of talkin' on my phone There is one thing I can never give you My heart will never be your home </p> </body></html> <!DOCTYPE html> <html> <head> <meta charset="UTF-8"> <script> var size = 14; function decrease() { var titleObject = document.getElementById("p1"); size--; titleObject.style.fontSize = size + "px"; } function increase() { size++; </script> </head> <body> <h1><span onclick="decrease()">-</span> | <span onclick="increase()">+</span></h1> <p id="p1">If you're leavin', will you take me with you? I'm tired of talkin' on my phone There is one thing I can never give you My heart will never be your home</p> </body> </html>

Property และ Method ของ HTML Element https://developer.mozilla.org/en-US/docs/Web/API/Document_Object_Model ดู property และ method ของแท็ก input

Property src ของ <img> <html><head> <script> function go() { var imgObject = document.getElementById("dayImage"); alert(imgObject.src); imgObject.src = "cloudy.jpg"; } </script> </head> <body> <img id="dayImage" src="sunny.jpg" ondblclick="go()" > </body> </html> แสดง path และชื่อไฟล์ภาพเก่าออกมาดูก่อน กำหนดชื่อไฟล์ภาพใหม่ ondblclick

Property src ของ <img> <html> <head> <script> function swapImage() { var imgObject = document.getElementById("switch"); if (imgObject.src.indexOf("power_on.png") > 0) { imgObject.src = "power_off.png"; } else if (imgObject.src.indexOf("power_off.png") > 0) { imgObject.src = "power_on.png"; } </script> </head> <body> <img id="switch" src="power_on.png" onclick="swapImage()"> </body> </html> 3. ค้นหา Element ที่มี id เป็น switch 4. เปลี่ยนแปลงชื่อไฟล์ภาพใน Attribute src 1. ระบุ id ให้กับ Element ที่ต้องการเปลี่ยนแปลง 2. ระบุ Event เมื่อมีการคลิกที่ภาพให้เรียกฟังก์ชัน swapImage() onclick

Keyboard Events ชื่อ Event คำอธิบาย onkeydown ทำงานเมื่อกดแป้นพิมพ์ใดๆบนคีย์บอร์ด onkeypress ทำงานเมื่อยังไม่ปล่อยแป้นพิมพ์จากการกด onkeyup ทำงานเมื่อปล่อยแป้นพิมพ์ใดๆบนคีย์บอร์ด *หมายเหตุ Keyboard Events มีลำดับการเกิดเหตุการณ์ดังนี้ 1. onkeydown 2. onkeypress 3. onkeyup

ตัวอย่าง <html> <head> <script> function showText() { var inputObject = document.getElementById("b1"); alert(inputObject.value); } </script> </head> <body> <input type="text" id="b1" onkeyup="showText()"> </body> </html>

Form Events ชื่อ Event คำอธิบาย onblur ทำงานเมื่อผู้ใช้ย้าย cursor ไปยัง input ตัวอื่น (loses focus) onchange ทำงานเมื่อเนื้อหา หรือตัวเลือกเปลี่ยนแปลงไป (ใช้สำหรับ <input>, <select>, and <textarea>) onfocus ทำงานเมื่อผู้ใช้นำ cursor มาวางบน input นั้นๆ (ใช้สำหรับ <label>, <input>, <select>, <textarea>, และ <button>) onreset ทำงานเมื่อมีการ reset form onselect ทำงานเมื่อผู้ใช้เลือกข้อความ (ใช้สำหรับ <input> และ <textarea>) onsubmit ทำงานเมื่อผู้ใช้ส่งข้อมูลฟอร์ม

ตัวอย่าง <html> <head> <meta charset="UTF-8"> <script> function changeText() { var btnObject = document.getElementById("btn1"); var textObject = document.getElementById("txt1"); textObject.style.color = btnObject.value; } </script> </head> <body> <input type="color" id="btn1" onchange="changeText()"> <br><br><div id="txt1">สวัสดี</div> </body> </html> กำหนดรูปแบบสีใหม่ ให้ Element txt1 ขอค่าสีจาก Element btn1 ระบุ id ให้กับ Element ระบุฟังก์ชันให้ทำงานเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงค่าสี ระบุ id ให้กับ Element

กิจกรรม จงเขียนฟอร์มรับข้อมูล เมื่อผู้ใช้กรอกเสร็จ และไปที่ช่องอื่นแล้วให้เปลี่ยนสีตัวหนังสือในกล่องข้อความที่กรอกแล้วเป็นสีเขียว <!DOCTYPE html> <html> <head> <meta charset="UTF-8"> <script> function change(obj) { obj.style.color = "green"; } </script></head> <body> Name: <input type="text" size="25" onBlur="change(this)"><br> Age: <input type="text" size="5" onBlur="change(this)"><br> Birthdate: <input type="text" size="15" onBlur="change(this)"> </body> </html>

การจัดการ Element บน DOM เว็บเพ็จที่แสดงผลไปแล้วสามารถสร้าง Element ใหม่เพิ่มเติม แล้วนำไปต่อท้าย Element เก่าได้ด้วยคำสั่งใน JavaScript คำสั่งที่ใช้ในการสร้าง Element ใหม่ document.createElement("ชื่อแท็ก"); คำสั่งที่ใช้ในการต่อท้าย Element เก่า appendChild();

ตัวอย่างการสร้างฟอร์มเพิ่มรายการเพลง รับชื่อเพลง นำชื่อเพลงไปเพิ่มในรายการ

สร้างฟอร์มรับชื่อเพลง และสร้างลิสต์เปล่า <html> <head> <meta charset="utf-8"> </head> <body> <form> <input type="text" id="songTextInput" > <input type="button" id="addButton" value="Add Song"> </form> <ul id="playlist"> </ul> </body> </html>

กำหนด Event และสร้างฟังก์ชัน <html> <head> <meta charset="utf-8"> <script> function addSong() { var textInput = document.getElementById("songTextInput"); var songName = textInput.value; alert("Adding " + songName); } </script> </head> <body> <form> <input type="text" id="songTextInput"> <input type="button" id="addButton" value="Add Song" onclick="addSong()"> </form> <ul id="playlist"> </ul> </body> </html> ดึง Element songTextInput ออกมา ดึงค่าที่ผู้ใช้กรอกในช่อง Textfield ออกมา ทดสอบแสดงค่า กำหนด Event เมื่อมีการคลิกที่ปุ่มให้เรียกฟังก์ชัน addSong

สร้าง Element ใหม่ 1. สร้าง Element <li> ขึ้นมาใหม่ <html> <head> <meta charset="utf-8"> <script> function addSong() { var textInput = document.getElementById("songTextInput"); var songName = textInput.value; var li = document.createElement("li"); li.innerHTML = songName; } </script> </head> <body> <form> <input type="text" id="songTextInput"> <input type="button" id="addButton" value="Add Song" onclick="addSong()"> </form> <ul id="playlist"> </ul> </body> </html> 1. สร้าง Element <li> ขึ้นมาใหม่ 2. นำค่าไปเก็บไว้ใน Element <li>

สร้าง Element ใหม่ 3. ดึง Element <ul> จากหน้าเว็บออกมา <html> <head> <meta charset="utf-8"> <script> function addSong() { var textInput = document.getElementById("songTextInput"); var songName = textInput.value; var li = document.createElement("li"); li.innerHTML = songName; var ul = document.getElementById("playlist"); ul.appendChild(li); } </script> 3. ดึง Element <ul> จากหน้าเว็บออกมา 4. นำ Element <li> ที่สร้างขึ้นไปเป็น Element ลูก

ตัวอย่างการทำงาน songName <ul> <li> <html> <head> <meta charset="utf-8"> <script> function addSong() { var textInput = document.getElementById("songTextInput"); var songName = textInput.value; var li = document.createElement("li"); li.innerHTML = songName; var ul = document.getElementById("playlist"); ul.appendChild(li); } </script> </head> <body> <form> <input type="text" id="songTextInput"> <input type="button" id="addButton" value="Add Song" onclick="addSong()"> </form> <ul id="playlist"> </ul> </body> </html> <li>

ตัวอย่างการทำงาน songName <ul> <li> <li> <html> <head> <meta charset="utf-8"> <script> function addSong() { var textInput = document.getElementById("songTextInput"); var songName = textInput.value; var li = document.createElement("li"); li.innerHTML = songName; var ul = document.getElementById("playlist"); ul.appendChild(li); } </script> </head> <body> <form> <input type="text" id="songTextInput"> <input type="button" id="addButton" value="Add Song" onclick="addSong()"> </form> <ul id="playlist"> </ul> </body> </html> <li> <li>

กิจกรรม จงสร้างแบบฟอร์มสำหรับกรอกข้อมูลลูกค้า เมื่อคลิกที่ปุ่มเพิ่มแล้วให้นำข้อมูลทั้งหมดใส่ลงในตาราง <!DOCTYPE html> <html> <head> <meta charset="UTF-8"> <script type="text/javascript"> function add() { var table = document.getElementById("tb"); var tr = document.createElement("tr"); var tdName = document.createElement("td"); var tdAdd = document.createElement("td"); var tdTel = document.createElement("td"); tdName.innerHTML = document.getElementById("name").value; tdAdd.innerHTML = document.getElementById("address").value; tdTel.innerHTML = document.getElementById("phone").value; tr.appendChild(tdName); tr.appendChild(tdAdd); tr.appendChild(tdTel); table.appendChild(tr); } </script> </head> <body> ชื่อลูกค้า : <input type="text" id="name"><br> ที่อยู่ : <input type="text" id="address"><br> โทรศัพท์: <input type="text" id="phone"><br> <input type="button" value="เพิ่ม" onclick="add()"><br><br> <table border="1" id="tb"> <th>ชื่อลูกค้า</th> <th>ที่อยู่</th> <th>โทรศัพท์</th> </table> </body> </html>

Homework#5 ทำแบบฝึกหัดท้ายบทที่ 4 ข้อ 3 และข้อ 4

การใช้ this <html> <head> <meta charset="UTF-8"> <script> function dog( t1 ) { t1.value = "ผู้ใหญ่ภาคคอมคณะอะไรซักอย่าง"; } function cat( t1 ) { t1.value = "เด็กภาคคอมคณะอะไรซักอย่าง"; </script> </head> <body> <input type="text" onblur="dog(this)" onfocus="cat(this)" > </body> </html> ส่ง this ไป หมายถึง Element Object ของตนเองไป ทำให้ไม่ต้องใช้ getElementById()

การสร้าง 1. สร้างฟังก์ชันที่ทำงานเมื่อเกิดเหตุการณ์ <html> <head> <script> function init() { alert("DOM Loaded Success"); } </script> </head> <body onload="init()"> Hello </body> </html> 1. สร้างฟังก์ชันที่ทำงานเมื่อเกิดเหตุการณ์ 2. ระบุชื่อ Event และเรียกใช้ฟังก์ชัน

การใช้ Mouse Event กับแท็ก <a> เพื่อแทนปุ่ม submit <html> <body> <form id="my_form" action="test.html"> <input type="text" name="firstname"><br> <a href="#"onclick="document.getElementById('my_form').submit()">OK</a> </form> </body> </html>

การเปลี่ยนแปลงค่า CSS Property <html><head> <link rel="stylesheet" href="https://cdnjs.cloudflare.com/ajax/libs/bulma/0.3.1/css/bulma.css"> <link rel="stylesheet" href="https://maxcdn.bootstrapcdn.com/font-awesome/4.6.3/css/font-awesome.min.css"> <script> function start() { var icon = document.getElementById("icon"); icon.style.display = "block"; } function stop() { icon.style.display = "none"; </script> </head> <body> <div class="button is-error" onclick="start()">Start</div> <div class="button is-error" onclick="stop()">Stop</div> <div id="icon" class="fa fa-spinner fa-pulse fa-3x fa-fw" style="display:none"></div> </body> </html>