งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ

งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ

วิทยาลัยการแพทย์แผนไทย

งานนำเสนอที่คล้ายกัน


งานนำเสนอเรื่อง: "วิทยาลัยการแพทย์แผนไทย"— ใบสำเนางานนำเสนอ:

1 วิทยาลัยการแพทย์แผนไทย
สมุนไพรในครัวเรือน วิทยาลัยการแพทย์แผนไทย

2 ใบสดของมัน มีน้ำมันหอมระเหยอยู่
กระเพรา ชื่อวิทย์   Ocimum sanctum, Linn. ชื่อวงศ์    Fam. : MALVACEAE สรรพคุณ ใบ      ใบสดของมัน มีน้ำมันหอมระเหยอยู่ เป็นยาแก้ขับลม ท้องอืด ท้องเฟ้อ            ปวดท้อง บำรุงธาตุ ขับผายลม แก้อาการจุกเสียดในท้อง ให้ใช้ใบสด หรือยอดอ่อน สัก 1 กำมือ มาต้ม ให้เดือด แล้วกรอง            เอาน้ำดื่ม แต่ถ้าใช้กับเด็ก ทารกให้นำเอามาตำให้ละเอียดคั้นเอาน้ำนำมา ผสมกับน้ำยามหาหิงคุ์แล้วใช้ทาบริเวณ รอบ ๆ            สะดือ และทาที่ฝ่าเท้า แก้อาการปวดท้องของ เด็กได้ และน้ำที่เราเอามาคั้นออกจากใบยังใช้ ขับเสมหะ ขับเหงื่อ           

3 ใช้ทาภายนอกแก้โรค ผิวหนัง กลาก เกลื้อนได้
ใบสดยังนำมาผัด หรือนำมาแกงเป็นอาหาร ได้อีกด้วย สำหรับ            ใบแห้ง ใช้ชงกินกับน้ำ แก้ท้องขึ้น และน้ำมันที่ได้จากใบกะเพรานั้น สามารถยับยั้งการเจริญเติมโตของเชื้อโรคบางชนิด            ช่วยฆ่าเชื้อจุลินทรีย์บางอย่าง และมีฤทธิ์ฆ่ายุงได้ ซึ่งจะมีฤทธิ์ได้นาน 2 ชั่วโมง

4 ดอกเมื่อตากแห้งแล้ว เป็นสีแดงน้ำ ตาล
กานพลู ชื่อวิทย์   Eugenia caryophyllus Bullock & Harrison ชื่อวงศ์    Fam. : MYRTACEAE   ดอกเมื่อตากแห้งแล้ว  เป็นสีแดงน้ำ ตาล  นำมากลั่นใช้    กรัม  หรือ  2 - 5   กรัม   จะเป็นยาแก้ท้องขึ้นธาตุพิการ  ขับผายลมในลำไส้  เป็นยาบำรุง   และน้ำมันจาก กานพลู ซึ่งกลั่นออกมา ใช้เป็นยาแก้ปวดท้อง   ขับผายลม    และใช้สำลีชุบนำมา อุดฟันที่ปวด   

5 ข่า ชื่อวิทย์ Alpinia nigra (Gaertn. ) B. L. Burtt ชื่อวงศ์ Fam
ข่า ชื่อวิทย์   Alpinia nigra   (Gaertn.) B.L.Burtt ชื่อวงศ์    Fam. : ZINGIBERACEAE   ส่วนที่ใช้    เหง้าอ่อน  และแก่ สรรพคุณ เหง้า       เหง้าแก่  นำมาตำให้ละเอียด  ใช้ทาบริเวณที่เป็นโรคผิวหนัง    กลากเกลื้อน ใช้เป็นยารักษาภายนอก  หรือจะตำใช้ทำกระ สายเป็นเหล้าโรง    ทารักษาอาการคันในโรค ลมพิษ  ทาบ่อย ๆ จนกว่าลมพิษนั้นจะหายไป   

6 ขมิ้น ชื่อวิทย์ urcuma Longa Linn. ชื่อวงศ์ Fam. : ZINGIBERACEAE
ส่วนที่ใช้  เหง้าที่แก้จัด  ใช้ทั้งสดและแห้ง เหง้าแห้งนิยมป่นเป็นผง  สรรพคุณ   ใช้ขับลม แก้ท้องอืดเฟ้อ ใช้เป็นเครื่องเทศ รักษาแผลในลำไส้ เจริญอาหาร คลายกล้ามเนื้อเรียบในลำไส้ที่เกร็งตัว บรรเทาอาการวิงเวียน ระงับเชื้อ ขับปัสสาวะ ลดไข้ ขับพยาธิ ใช้ภายนอก รักษากลาก เกลื้อน แก้ผื่นคัน หรือโรคผิวหนังอื่น ๆ

7 ตำลึง Coccinia grandis (l.) Voigt.Fam.
:CUCURBITACEAE ส่วนที่ใช้   ใบ  ราก  และเถา ใบ           ถ้านำใบสดมาจะถอนพิษหมามุ้ยแก้เจ็บ ตา  ตาฝ้า  ตาแดง  ตาแฉะ  ใช้เป็นยาเย็นดับ พิษร้อนก็ได้ ทั้งต้น      (เถา  ราก  ใบ)     นำมาเป็นยาใช้รักษา แก้โคผิวหนัง  โรคเบาหวาน  แก้หลอดลมอักเสบ  และลดระดับน้ำตาลในเลือด

8 เมล็ด รสเผ็ดร้อน แก้ลมอัมพฤกษ์ แก้ลมลั่นในท้อง บำรุงธาตุ
พริกไทย  Piper  nigrum  Linn.Fam. :PIPERACEAE  เมล็ด    รสเผ็ดร้อน แก้ลมอัมพฤกษ์ แก้ลมลั่นในท้อง บำรุงธาตุ แก้ท้องอืดเฟ้อ

9 ผล ลูกอ่อน บำรุงเนื้อหนังให้บริบูรณ์ กัดเสมหะในคอและให้เสียงเพราะ
มะขามป้อม  Phyllanthus  emblica  Linn.Fam. :EUPHORBIACEAE ผล   ลูกอ่อน  บำรุงเนื้อหนังให้บริบูรณ์ กัดเสมหะในคอและให้เสียงเพราะ ลูกแก่ แก้ไข้เจือลม แก้ไอ แก้เสมหะ ทำให้ชุ่มคอ ขับปัสสาวะ ระบายท้อง บำรุงหัวใจ ฟอกโลหิต แก้ลม และแก้โรคลักปิดลักเปิด  

10 มะพร้าว เนื้อ ขับปัสสาวะ ขับพยาธิ แก้ไข้ แก้กระหายน้ำ
Cocos nucifera Linn. Fam. :PALMAE เนื้อ            ขับปัสสาวะ ขับพยาธิ แก้ไข้ แก้กระหายน้ำ             เป็นยาระบาย แก้ท้องเสีย แก้พิษ แก้กระหายน้ำ แก้นิ่ว แก้อาเจียนเป็นโลหิต และบวมน้ำ น้ำมัน        บำรุงกำลัง แก้กลากเกลื้อน แก้โรคผิวหนัง แผลน้ำร้อนลวก น้ำ  

11 ใบ ตำให้ละเอียดคั้นเอาน้ำดื่ม เป็นยาแก้หวัด และแก้โรคทางเดินท้องร่วง
แมงลัก  Ocimum  canum  Linn. Fam. :LABIATAE แมงลัก  Ocimum  canum  Linn. Fam. :LABIATAE แมงลัก  Ocimum  canum  Linn.Fam. :LABIATAE ใบ         ตำให้ละเอียดคั้นเอาน้ำดื่ม เป็นยาแก้หวัด แก้หลอดลมอักเสบ และแก้โรคทางเดินท้องร่วง หรือใช้กากใบที่ตำทาแก้โรคผิวหนังทุกชนิด    

12 ระงับอาการอักเสบ น้ำลายเหนียว ขับปัสสาวะฟอกเลือด
สับปะรด Ananas  ccmosus  (Linn.)  Merr.Fam. :BROMELIACEAE ผล             แก้ไอ  แก้เสมหะ  ระงับอาการอักเสบ น้ำลายเหนียว  ขับปัสสาวะฟอกเลือด  แก้บวม และถ้าเป็นผลดิบจะใช้ห้ามเลือด  ขับระดู  ฆ่าพยาธิ  และถ้าผลสุกใช้ขับปัสสาวะ   ช่วยย่อยอาหาร  ขับเหงื่อ  บำรุง

13 กลีบเลี้ยง ทำให้สดชื่น ขับปัสสาวะ
กรเจี๊ยบแดง ชื่อวิทย์   Hibiscus  sabdariffa Linn. ชื่อวงศ์    Fam. : MALVACEAE กลีบเลี้ยง   ทำให้สดชื่น  ขับปัสสาวะ  ขับน้ำดี  ลดไข้  แก้ไอ  แก้นิ่ว  แก้กระหายน้ำ  วิธีใช้ โดยใช้ชงน้ำร้อนหรือต้มน้ำกิน                   ใช้ที่ตากแห้งแล้วประมาณ กรัม

14 กระเทียมมีรสร้อนสามารถ ลดปริมาณโคเลสเตอรอลในเลือดได้
กระเทียม ชื่อวิทย์   llium sativum Linn. ชื่อวงศ์    Fam. : ALLIACEAE กระเทียมมีรสร้อนสามารถ ลดปริมาณโคเลสเตอรอลในเลือดได้  ทำให้ลด การอุดตันของเส้นเลือด

15 เหง้า ขับปัสสาวะ ขับลม รักษาอาการท้องอืดแน่น
ขิง ชื่อวิทย์   Zingiber  officinals   Roscoe.  ชื่อวงศ์    Fam. : ZINGIBERACEAE เหง้า ขับปัสสาวะ ขับลม รักษาอาการท้องอืดแน่น 

16 ต้น ใช้เป็นยาแก้ขับลม แก้เบื่ออาหาร แก้โรคทางเดินปัสสาวะ
ตะไคร้ Cymbopogon  citratus  (DC.ex  Nees)  Stapf.Fam : GRAMINAE ต้น ใช้เป็นยาแก้ขับลม   แก้เบื่ออาหาร แก้โรคทางเดินปัสสาวะ     นิ่ว  เป็นยาบำรุงไฟธาตุให้เจริญ     

17 บัวบก ทั้งต้น ใช้รักษาอาการช้ำใน เป็นยาบำรุง หัวใจและบำรุงกำลัง
Centella  asiatica  Urban.Fam. : UMBELLIFERAE ทั้งต้น          ใช้รักษาอาการช้ำใน เป็นยาบำรุง หัวใจและบำรุงกำลัง   รักษาอาการอ่อนเพลีย เมื่อยล้า  ขับปัสสาวะ 

18 ใบ ขับลมในลำไส้ แก้ท้องอืด แก้ปวดท้อง แก้ท้องเสีย
พลู  Piper  betle  Linn.Fam. :  PIPERACEAE ใบ ขับลมในลำไส้ แก้ท้องอืด แก้ปวดท้อง แก้ท้องเสีย กระตุ้นให้กระปรี้กระเปร่า ใช้ภายนอก แก้ปวด บวกฟกช้ำ

19 ฟักทอง เนื้อในของผลฝักทองนั้นจะมีสาร พวก carotenes อยู่
ฟักทอง  Cucurbita  maxima  Duchesne.Fam. : CUCURBITACEAE เนื้อในของผลฝักทองนั้นจะมีสาร พวก   carotenes  อยู่  ซึ่งสารนี้เมื่อเข้าไปใน ร่างกายแล้วจะเปลี่ยนเป็นวิตามินเอ  ไม่ว่า จะอยู่ในรูปของคาวหรือของหวาน เป็นอาหาร เสริมสุขภาพได้เป็นอย่างดี

20 มะขาม ใบ ขับเสมหะ ฟอกโลหิต ขับเลือดและลมในลำไส้ แก้บิด แก้ไอ
มะขาม  Tamarindus  indica  Linn.Fam. : CAESALPINIACEAE ใบ             ขับเสมหะ ฟอกโลหิต ขับเลือดและลมในลำไส้ แก้บิด แก้ไอ เนื้อในฝัก     กัดเสมหะ แก้ท้องผูกและแก้กระหายน้ำ

21 นำมาตำให้ ละเอียดแล้ว คั้นเอาน้ำกิน เป็นยาแก้จุกเสียด
มะระขี้นก  Momordica  charantia  Linn.Fam. : CUCURBITACEAE ใบและผล    ใช้ใบและผลสด  นำมาตำให้ ละเอียดแล้ว คั้นเอาน้ำกิน เป็นยาแก้จุกเสียด แน่นท้อง  ขับลม  บำรุงธาตุ  ขับลม  และเป็น ยาช่วยถ่ายพยาธิ   

22 ยอ ใบ กินแก้กษัย คั้นเอาน้ำสระผมแก้เหา
 Morinda  citrifolia  Linn.Fam. :RUBIACEAE ใบ      กินแก้กษัย คั้นเอาน้ำสระผมแก้เหา ทาแก้โรคเก๊าท์ และปวดตามข้อของนิ้วมือนิ้ว ผล     รสเผ็ดร้อน ช่วยขับลม บำรุงธาตุ เจริญอาหาร ผสมยาแก้สะอึก อมแก้เหงือกเปื่อย ระดูเสีย ฟอกเลือด ขับน้ำคาวปลา แก้เสียงแหบแห้ง แก้ตัวเย็น แก้ร้อนในอก แก้อาเจียน และนำมาหมกหรือต้มกินน้ำรับประทานก็ได้

23 ใบอ่อน แก้โรคผิวหนัง แก้น้ำเหลืองเสีย และแก้พุพอง
สะเดา Azadirachta indica A. Juss. var. siamensis Valeton.Fam. : MELIACEAE ใบ               ใบอ่อน แก้โรคผิวหนัง แก้น้ำเหลืองเสีย และแก้พุพอง ใบแก่ ช่วยย่อยอาหาร ฆ่าแมลงศัตรูพืช ก้าน      

24 เป็นยาบำรุงหัวใจบำรุงกำลัง แก้ใจสั่นหวิว ขับปัสสาวะพิการ
กระชาย ชื่อวิทย์   Boesecnergia  pandurata (Roxb.)Schltr. ชื่อวงศ์    Fam. : ZINGIBERACEAE เป็นยาบำรุงหัวใจบำรุงกำลัง  แก้ใจสั่นหวิว    ขับปัสสาวะพิการ     แก้บิดมูก เลือด  แก้ปวดมวนในท้อง  ท้องเดินให้ใช้หัว หรือเหง้า ปิ้งไฟให้สุกกินกับน้ำปูนใส     

25 ผล (เมล็ด) ในเมล็ดจะมีน้ำมันหอมระเหย ประมาณ 3 - 6 %
กระวาน ชื่อวิทย์   momun krevanh Pierre ชื่อวงศ์    Fam. : ZINGIBERACEAE ผล (เมล็ด)    ในเมล็ดจะมีน้ำมันหอมระเหย ประมาณ 3 - 6 %  ใช้เป็นยาบำรุงธาตุ  กระจายโลหิต กระจายเสมหะ                 ขับลมผาย  ขับลมและใช้ปรุงแต่งกลิ่นอาหาร

26 ขี้เหล็ก ชื่อวิทย์ assia siamea Britt. ชื่อวงศ์ Fam. : CAESALPINIACEAE
ใบอ่อน ฝัก          ภายในจะมียาฝาดสมาน   (Tannin) ใช้รักษาโรคท้องร่วงและยังมีสารพวกอัลคอลอลอยด์  ที่ช่วยระบายอ่อน ๆ                ดังนั้นเราจึงใช้ฝักขี้เหล็ก ผสมในยาระบายดี  เพราะช่วยระบายรู้จักปิด ดอก        ในดอกมีสารอัลคลอลอย์มีคุณสมบัติ ช่วยเป็นยาระบายในตัว

27 คั้นเอาน้ำกินเป็นยาแก้กระหายน้ำ แก้ร้อนใน บำรุงธาตุ เจริญอาหาร
มะนาว Citrus  aurantifolia  Swing.Fam. :RUTACEAE คั้นเอาน้ำกินเป็นยาแก้กระหายน้ำ แก้ร้อนใน บำรุงธาตุ เจริญอาหาร แก้เลือดออกตามไรฟันและถ่ายพยาธิ หรือใช้ผลดองเกลือ จนเป็นสีน้ำตาล ใช้เป็นยาขับเสมหะ และทำให้ชุ่มคอ    

28 ดอก ดอกดีปลีมีรสเผ็ดร้อนและขม นำมา ปรุงเป็นยาธาตุแก้ตับพิการ
Piper chaba HuntFam. :PIPERACEAE ดอก   ดอกดีปลีมีรสเผ็ดร้อนและขม  นำมา ปรุงเป็นยาธาตุแก้ตับพิการ  แก้ท้องร่วง ขับลม

29 ไฟโตเอสโตรเจน PHYTOESTROGEN

30 ไฟโตเอสโตรเจน คืออะไร
ไฟโตเอสโตรเจน คือ ส่วนประกอบตามธรรมชาติที่พบได้ในพืช แต่มีคุณสมบัติคล้ายกับฮอร์โมนเพศหญิง ที่เรียกว่า เอสโตรเจน(Estrogen) และจากที่ไฟโตเอสโตรเจนในธรรมชาติเป็นส่วนประกอบอยู่ในอาหารที่มนุษย์เรารับประทานเข้าไปตามปกติ

31 แหล่งของไฟโตเอสโตรเจนในอาหาร
ไฟโตเอสโตรเจน มี 3 ชนิดหลัก ไอโซฟลาโวน – พบมากในไม้จำพวกที่มีฝัก ถั่ว (ถั่ว ชนิดเมล็ดแบน เช่น ถั่วเหลือง ถั่วเล็กรูปกลมคล้ายไต ถั่วแขกชนิดเมล็ดแดง และเหลือง ) และในผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง (รวมทั้งนม เต้าหู้) ลิกแนน - พบในผลไม้ ผัก ถั่ว และ เมล็ดข้าว แต่พบมากที่สุดใน oilseeds โดยเฉพาะอย่างยิ่ง linseed (เมล็ดต้นFlax ที่ปอใช้ทำผ้าลินิน). คิวเมสแทน- พบได้ในอาหารจำพวกเดียวกับลิกแนน แต่พบมากที่สุดในเมล็ดอ่อน (sprouting seeds) ถั่วเหลือง และผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง พบว่าเป็นแหล่งที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดของไฟโตเอสโตรเจน

32 ปริมาณไฟโตรเอสโตรเจนที่ควรได้รับจากอาหาร
ปริมาณที่ควรได้รับ ปริมาณไฟโตรเอสโตรเจนที่ควรได้รับจากอาหาร คือ 30 – 50 มิลลิกรัม - นมถั่วเหลือง 250 ซีซี – มิลลิกรัม - เต้าหู้ 1 ก้อน (115 กรัม) – มิลลิกรัม - โยเกิรต์เต้าหู้ (200 กรัม) – 26 มิลลิกรัม

33 ธัญพืชเพื่อสุขภาพ

34 ถั่วเหลือง คุณค่า มีโปรตีน เลซิทิน และกรดแอมิโน รวมทั้งมีแคลเซียม ฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก ไนอะซิน วิตามินบี1 และบี2 วิตามินเอและอี ซึ่งสามารถกระตุ้นการเจริญเติบโตของกระดูก ป้องกันการขาดแคลเซียมในกระดูก และบำรุงระบบประสาทในสมอง

35 ถั่วเขียว เป็นพืชตระกูลถั่ว ที่ให้เมล็ดที่มีเปลือกสีเขียว
แต่ เนื้อเมล็ดสีเหลือง คุณค่า ช่วยกระตุ้นประสาท เจริญอาหาร มีแคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก และแคโรทีน

36 ถั่วลิสง ( peanut) คุณค่า มีน้ำมันถั่ว โปรตีน วิตามิน
ชะลอความเสื่อมสภาพของร่างกาย บำรุงสมอง เสริมความจำ


ดาวน์โหลด ppt วิทยาลัยการแพทย์แผนไทย

งานนำเสนอที่คล้ายกัน


Ads by Google