ดาวน์โหลดงานนำเสนอ
งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ
ได้พิมพ์โดยAnuthat Chanpakdee ได้เปลี่ยน 10 ปีที่แล้ว
1
ระบบเครือข่ายและการสื่อสารข้อมูล (Computer Network And Data Communication)
คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน
2
การสื่อสารข้อมูล การสื่อสารข้อมูล หมายถึง การรับส่งข้อมูลจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งโดยผ่านสื่อกลาง เช่น สายโทรศัพท์ สายเคเบิลไฟเบอร์ออพติก, คลื่นไมโครเวฟ, แสงอินฟราเรด, ระบบดาวเทียม. คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน
3
องค์ประกอบของการสื่อสารข้อมูล
การสื่อสารข้อมูล ประกอบด้วย 5 องค์ประกอบ คือ ข้อมูล(Message) หน่วยส่งข้อมูล (Sending unit) ช่องทางการส่งข้อมูล (Transmission unit) หน่วยรับข้อมูล (Receiving unit) ข้อตกลงหรือกติกาในการรับส่งข้อมูล (Protocol) คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน
4
องค์ประกอบการสื่อสาร
5
องค์ประกอบของการสื่อสารข้อมูล
ข้อมูล (Message) เป็นข้อมูลที่เราทำการส่งหรือรับ ซึ่ง ประกอบไปด้วย ข้อมูลตัวอักษร, รูปภาพ, เสียง, video, และอื่นๆ หน่วยส่งข้อมูล (Sending unit) ทำหน้าที่ ส่งข้อมูลออกไป เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน
6
องค์ประกอบของการสื่อสารข้อมูล
3. ช่องทางการส่งข้อมูล (Transmission unit) ทำหน้าที่ นำข้อมูลจากหน่วยส่งข้อมูลไปยังหน่วยรับข้อมูล โดยใช้ช่องทางการสื่อสาร เช่น สายโทรศัพท์, สาย LAN, สัญญาณวิทยุ เป็นต้น คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน
7
องค์ประกอบของการสื่อสารข้อมูล
4.*หน่วยรับข้อมูล (Receiving unit) ทำหน้าที่ รับข้อมูลที่ถูกส่งจากหน่วยส่งข้อมูล หน่วยรับข้อมูล เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน
8
องค์ประกอบของการสื่อสารข้อมูล
5. ข้อตกลงหรือกติกาในการรับส่งข้อมูล (Protocol) เป็นข้อตกลงหรือกติกาในการสื่อสาร สามารถเปรียบได้กับ ภาษา ในการสื่อสารถ้าเราเอาคนพูดคนละภาษามาพูดคุยกัน ก็จะไม่สามารถสื่อสารข้อมูลในแต่ละฝ่ายเข้าใจได้ เราจึง จำเป็นต้องใช้กติกาเดียวกันในการสื่อสารทำหน้าที่กำหนด รูปแบบในการส่ง/รับว่าเป็นแบบ analog หรือ digital ระดับแรงดันไฟฟ้าที่ใช้ ลักษณะกันเข้ารหัสสัญญาณ เป็นต้น คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน
9
ชนิดของสัญญาณ ชนิดของสัญญาณ ประกอบด้วยกัน 2 ชนิด คือ
การส่งสัญญาณแบบอนาล็อก (Analog) การส่งสัญญาณแบบดิจิตอล (Digital) คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน
10
04000102 คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน
11
ชนิดของสัญญาณ การส่งสัญญาณแบบอนาล็อก (Analog) หมายถึงสัญญาณข้อมูลแบบต่อเนื่อง โดยทั่วไปคือสัญญาณที่มนุษย์สามารถสัมผัสได้ เช่น แรงดันของน้ำ ค่าของอุณหภูมิ หรือความเร็วของรถยนต์ เป็นต้น การส่งสัญญาณแบบดิจิตอล (Digital) หมายถึงสัญญาณข้อมูลแบบไม่ต่อเนื่อง โดยทั่วไปคือสัญญาณที่มนุษย์ไม่สามารถสัมผัสได้ เช่น สัญญาณไฟฟ้า เป็นต้น คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน
12
วัตถุประสงค์ของการสื่อสารข้อมูล
รเพื่อรับข้อมูลและสารสนเทศจากแหล่งกำเนิดข้อมูล รเพื่อส่งและกระจายข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว รเพื่อช่วยลดเวลาการทำงาน รเพื่อการประหยัดค่าใช้จ่ายในการส่งข่าวสาร รเพื่อช่วยการขยายการดำเนินการขององค์กร รเพื่อช่วยปรับปรุงการบริหารขององค์กร คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน
13
รูปแบบการสื่อสารข้อมูล
รูปแบบของการสื่อสารข้อมูล แบ่งเป็น 3 ประเภท คือ แบบทิศทางเดียว (Simplex) แบบกึ่งสองทิศทาง(Half duplex) แบบสองทิศทาง (Full duplex) คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน
14
แบบทิศทางเดียว (Simplex)
ผู้ส่ง ผู้รับ คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน
15
แบบกึ่งสองทิศทาง (Half duplex)
ผู้ส่ง ผู้รับ คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน
16
แบบทางคู่ (Full duplex)
ผู้ส่ง ผู้รับ คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน
17
เครือข่ายคอมพิวเตอร์
เครือข่ายคอมพิวเตอร์ แบ่งเป็น 3 ประเภท ระบบเครือข่ายระยะใกล้ (LAN: Local Area Network) ระบบเครือข่ายระหว่างเมือง (MAN: Metropolitan Area Network) ระบบเครือข่ายระยะไกล (WAN: Wide Area Network) คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน
18
ระบบเครือข่ายระยะใกล้ : LAN
เป็นการเชื่อมต่อเครือข่ายขนาดเล็กในพื้นที่ไม่ใหญ่มากนัก เช่น ภายในห้อง หรือภายในตัวอาคาร จุดประสงค์ของการเชื่อมต่อ คือ แบ่งปันทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด เช่น พรินเตอร์ สแกนเนอร์ รวมทั้งข้อมูลและโปรแกรมต่างๆ รวมถึงอำนวยความสะดวกในการติดต่อสื่อสาร คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน
19
ระบบเครือข่ายระยะใกล้ : LAN
เป็นระบบเครือข่ายขนาดเล็ก ที่เชื่อมต่อระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ในอาณาบริเวณเดียวกัน หรือ ใกล้ๆ กัน ส่วนมากมักจะเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ในหน่วยงานหรือองค์กรเดียวกัน จุดประสงค์ของการเชื่อมต่อ คือ แบ่งปันทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด เช่น พรินเตอร์ สแกนเนอร์ รวมทั้งข้อมูลและโปรแกรมต่างๆ คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน
20
ระบบเครือข่ายระหว่างเมือง : MAN
เป็นการเชื่อมต่อเครือข่ายที่มีขนาดที่ใหญ่ขึ้นกว่า LAN มักเกิดจากการเชื่อมโยงเครือข่าย LAN ในบริเวณเดียวกันเข้าด้วยกัน เช่น การเชื่อมต่อระบบระหว่างองค์กรกับองค์กร คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน
21
ระบบเครือข่ายระยะไกล : WAN
เป็นเครือข่ายบริเวณกว้าง ซึ่งอาจมีขอบเขตการเชื่อมต่อที่กว้างไกลขึ้นจาก LAN และ MAN ซึ่งเมื่อเชื่อมต่อแล้วจะก่อให้เกิดเป็นระบบเครือข่ายในระดับจังหวัด ประเทศ หรือข้ามทวีปได้ คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน
22
ระบบเครือข่ายระยะไกล : WAN
เป็นการเชื่อมต่อระหว่างเครือข่าย LAN 2 วงขึ้นไป การเชื่อมโยงแบบนี้จะเหมาะสำหรับองค์กรหรือสำนักงานขนาดใหญ่ และสาขาย่อยหลายๆ สาขาๆ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลที่สำคัญระหว่างสาขาขององค์กร คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน
23
โครงสร้างของเครือข่ายคอมพิวเตอร์
โครงสร้างของระบบเครือข่าย แบ่งเป็น 4 ประเภท โครงสร้างเครือข่ายแบบบัส (Bus Network) โครงสร้างเครือข่ายแบบดาว (Star Network) โครงสร้างเครือข่ายแบบวงแหวน (Ring Network) โครงสร้างเครือข่ายแบบผสม (Hybrid Network) คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน
24
โครงสร้างเครือข่ายแบบบัส : Bus
เครือข่ายแบบบัส คือ เป็นเครือข่ายการเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่างๆเข้าด้วยกัน ข้อดี ง่ายต่อการนำอุปกรณ์เชื่อมต่อเข้ากับระบบเครือข่าย ข้อจำกัด หากมีการส่งข้อมูลจากคอมพิวเตอร์สองเครื่องพร้อมกันจะทำให้ข้อมูลสูญหาย เนื่องจากการชนของข้อมูล ต้องทำการส่งข้อมูลใหม่ คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน
25
โครงสร้างเครือข่ายแบบบัส : BUS
รูปแบบการต่อสายคือ ต่อทุกเครื่องเข้าหาสายเมน เมื่อต้องการจะติดต่อกับเครื่องอื่นๆ ก็สามารถส่งข้อมูลออกมาบนบัส ได้โดยตรง ข้อเสีย หากมีการส่งข้อมูลจากคอมพิวเตอร์สองเครื่องพร้อมกันจะทำให้ข้อมูลสูญหาย เนื่องจากการชนของข้อมูล ต้องทำการส่งข้อมูลใหม่ คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน
26
โครงสร้างเครือข่ายแบบดาว : Star
เครือข่ายแบบดาว คือ คอมพิวเตอร์ทุกเครื่องจะต่อกับอุปกรณ์ที่อยู่ตรงกลาง HUB เพียงตัวเดียว เมื่อต้องการส่งข้อมูลจะต้องส่งผ่าน HUB ก่อน เป็นรูปแบบการต่อที่นิยมมากที่สุด ข้อดี ง่ายต่อการตรวจเช็คเมื่อคอมพิวเตอร์มีปัญหาส่งข้อมูลไม่ได้, ลดปัญหาการชนของข้อมูล ข้อจำกัด HUB เป็นตัวกลางของการส่งข้อมูล ถ้าเสียระบบก็ล่ม คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน
27
โครงสร้างเครือข่ายแบบดาว : Star
รูปแบบการต่อสายคือ คอมพิวเตอร์ทุกเครื่องจะต่อกับอุปกรณ์ที่อยู่ตรงกลาง (HUB) เพียงตัวเดียว เมื่อต้องการส่งข้อมูลจะต้องส่งผ่าน HUB ก่อน เป็นรูปแบบการต่อที่นิยมมากที่สุด ข้อดี ง่ายต่อการตรวจเช็คเมื่อคอมพิวเตอร์มีปัญหาส่งข้อมูลไม่ได้, ลดปัญหาการชนของข้อมูล ข้อเสีย HUB เป็นตัวกลางของการส่งข้อมูล ถ้าเสียระบบก็ล่ม คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน
28
โครงสร้างเครือข่ายแบบวงแหวน : Ring
เครือข่ายแบบวงแหวน คือ ต่อสายผ่านคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องเป็นวง การส่งข้อมูลจะส่งผ่านวงแหวนโดยผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องจนถึงเครื่องที่ร้องขอข้อมูล ข้อดี ไม่มีปัญหาเรื่องการชนของข้อมูล ข้อจำกัด การส่งข้อมูลจะช้ากว่าทุกระบบ เพราะต้องส่งผ่านที่ละเครื่องจนถึงเครื่องที่ร้องขอข้อมูล คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน
29
โครงสร้างเครือข่ายแบบวงแหวน : Ring
รูปแบบการต่อสายคือ ต่อสายผ่านคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องเป็นวง การส่งข้อมูลจะส่งผ่านวงแหวนโดยผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องจนถึงเครื่องที่ร้องขอข้อมูล ข้อดี ไม่มีปัญหาเรื่องการชนของข้อมูล ข้อเสีย การส่งข้อมูลจะช้ากว่าทุกระบบ เพราะต้องส่งผ่านที่ละเครื่องจนถึงเครื่องที่ร้องขอข้อมูล คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน
30
โครงสร้างเครือข่ายแบบผสม : Mesh
เครือข่ายแบบผสม เป็นระบบที่ผสมผสานการเชื่อมต่อกับระบบทั้งสามระบบข้างต้น โดยผ่านตัว HUB เป็นการขยายระบบเครือข่ายให้สามารถรองรับคอมพิวเตอร์มากขึ้น คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน
31
โครงสร้างเครือข่ายแบบผสม : Hybrid
เป็นระบบที่ผสมผสานการเชื่อมต่อกับระบบทั้งสามระบบข้างต้น โดยผ่านตัว HUB เป็นการขยายระบบเครือข่ายให้สามารถรองรับคอมพิวเตอร์มากขึ้น คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน
32
สื่อกลางนำส่งข้อมูล (Transmission Media)
สื่อกลางนำส่งข้อมูล แบ่งเป็น 2 ประเภท ชนิดใช้สาย (Wire) ชนิดไร้สาย (Wireless) คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน
33
สายคู่ตีเกลียว (Twisted pairs cable)
เป็นสายส่งสัญญาณที่ประกอบด้วยสายทองแดง 4 หรือ 8 เส้นขึ้นไปบิดเป็นเกลียวเพื่อลดสัญญาณรบกวน และหุ้มด้วยฉนวน ความเร็วในการรับส่งข้อมูล 150 เมกกะบิทต่อวินาที (Mbps) คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน
34
สายคู่ตีเกลียว (Twisted pair cable)
สายคู่บิดเกลียวที่พบเห็นโดยทั่วไป คือ สายโทรศัพท์ มีฉนวนหุ้มจับคู่พันเป็นเกลียว เพื่อลดสัญญาณรบกวน ประกอบด้วยสายทองแดง 2 เส้น (สายคู่ตีเกลียว 1 คู่ จะแทนการสื่อสารได้ 1 ช่องทางสื่อสาร (Channel) คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน
35
สายคู่ตีเกลียว (Twisted pair cable)
สายคู่บิดเกลียวที่ใช้กับคอมพิวเตอร์ เป็นสายทองแดง 8 เส้น 4 คู่ และเชื่อมต่อด้วย คอนเน็กเตอร์ RJ-45 คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน
36
สายคู่ตีเกลียว (Twisted pair cable)
สายคู่บิดเกลียว แบ่งออกเป็น 2 ชนิด สายคู่บิดเกลียวไม่หุ้มฉนวน (Unshield Twisted Pair : UTP) สายคู่บิดเกลียวแบบมีฉนวนหุ้ม (Shielded Twisted pair : STP) คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน
37
สายคู่ตีเกลียวไม่หุ้มฉนวน (Unshield Twisted Pair : UTP)
สายแบบ UTP เป็นสายที่มีราคาถูกและหาง่ายแต่ป้องกันสัญญาณรบกวนจากอำนาจแม่เหล็กได้ไม่ดีเท่าสายแบบ STP คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน
38
สายคู่ตีเกลียวแบบมีฉนวนหุ้ม (Shielded Twisted pair : STP)
สายแบบ STP เป็นสายแบบมีฉนวนป้องกัน (ฉนวนโลหะ) สัญญาณรบกวนที่ความถี่สูงได้ ราคาจะแพงกว่าสาย UTP มาก สามารถเดินสายได้ยาวกว่าสาย UTP คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน
39
สายโคแอกเชียล (Coaxial cable)
ประกอบด้วยแกนทองแดงหุ้มด้วยฉนวน ภายนอกฉนวนจะถูกหุ้มด้วยโลหะอีกชั้นหนึ่งเพื่อป้องกันสนามไฟฟ้ารบกวนจากภายนอก และสายดิน (ลักษณะเป็นฝอย) แล้วหุ้มด้วยฉนวนบางอีกหนึ่งชั้น คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน
40
สายโคแอกเชียล (Coaxial cable)
เหมือนกับสายอากาศทีวี ประกอบด้วยแกนทองแดงหุ้มด้วยฉนวนและสายดินแล้วหุ้มด้วยฉนวนบางอีกชั้นหนึ่ง ความเร็วในการรับส่งข้อมูล 10 เมกกะบิทต่อวินาที (Mbps) คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน
41
สายโคแอกเชียล (Coaxial cable)
รองรับความเร็วสูงสุดในการรับ-ส่งข้อมูลที่ 10 Mbps สายนำสัญญาณแบบนี้จะใช้ Connector เฉพาะในการเชื่อมต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์ และจุดต่างๆ ภายในเครือข่าย ปัจจุบันได้เปลี่ยนสายดินจากลวดทองแดงเป็นลวดเงิน ทั้งนี้เพื่อ ป้องกันอาการรบกวนที่เกิดจากสายสัญญาณข้างเคียง คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน
42
สายใยแก้วนำแสง (Fiber Optic Cable)
เป็นสายนำสัญญาณที่ใช้รูปแบบของแสงในการรับ-ส่งข้อมูล อุปกรณ์ทั้งสองตัวมีหน้าที่แปลงสัญญาณแสงให้เป็นสัญญาณที่เครื่องคอมพิวเตอร์รู้จัก (ดิจิตอล) สายใยแก้วนำแสงมีประสิทธิภาพ ในการรับส่งข้อมูลที่เร็วที่สุดเมื่อเทียบกับสายนำสัญญาณชนิดอื่น รองรับความเร็ว ในการรับ-ส่งข้อมูลสูง Mbps คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน
43
สายใยแก้วนำแสง (Fiber optic Cable)
สายเคเบิลประเภทนี้จะทำการส่งลำแสงแทนการส่งสัญญาณทางไฟฟ้า ความเร็วในการรับส่งข้อมูล เมกกะบิทต่อวินาที (Mbps) ข้อดี สายใยแก้วนำแสงสามารถป้องกันสัญญาณรบกวนทางไฟฟ้าได้ดีมาก ข้อเสีย ราคาแพงกว่าสายชนิดอื่น และติดตั้งยากเพราะไม่สามารถโค้งงอสายได้ คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน
44
ข้อดีของสายใยแก้วนำแสง
ทนทานต่อคลื่นรบกวนด้วยฉนวนชั้นนอก สัญญาณคงที่ในการส่งข้อมูลแม้ในระยะทางไกลๆ ไม่ต้อง อาศัยอุปกรณ์ เพิ่มสัญญาณหรือทวนสัญญาณ แบนด์วิดท์สูง รองรับความเร็วในการส่งข้อมูลประมาณ 500 Mbps ขึ้นไป คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน
45
ข้อจำกัดของสายใยแก้วนำแสง
มีราคาแพงเนื่องจากต้นทุนการผลิต การติดตั้งและการบำรุงรักษา ความเปราะและแตกหักง่าย คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน
46
ระบบไมโครเวฟ (Microwave System)
คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน
47
ระบบไมโครเวฟ (Microwave System)
ไมโครเวฟ คือ ช่วงสัญญาณคลื่นวิทยุ นำมาใช้ในการรับส่งข้อมูลด้วยความเร็วสูงทั้งสัญญาณเสียงและข้อมูล มีจานส่งและรับข้อมูลตั้งอยู่บนเสาสูง ยอดตึก หรือภูเขา ส่งสัญญาณเป็นเส้นตรง และจะไม่มีอะไรมาขวางกั้น (แต่มีการลดทอนของสัญญาณ) ระยะทางของจานรับ/ส่งประมาณ กม. คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน
48
ระบบไมโครเวฟ (Microwave System)
คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน
49
ระบบดาวเทียม (Satellite System)
คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน
50
ระบบดาวเทียม (Satellite System)
ดาวเทียม มีหน้าที่ขยายและทบทวนสัญญาณข้อมูล, รับและส่งสัญญาณข้อมูลกับสถานีดาวเทียมภาคพื้นโลก ดาวเทียมอยู่ห่างจากพื้นโลกประมาณ 36,000 ก.ม. การส่งสัญญาณข้อมูลขึ้นไปยังดาวเทียมเรียกว่า “สัญญาณอัป-ลิงค์” (Uplink) การส่งสัญญาณข้อมูลกลับมายังพื้นโลกเรียกว่า “สัญญาณดาวน์-ลิงค์” (Downlink) คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน
51
ระบบดาวเทียม (Satellite System)
36,000 km คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน
52
ฮาร์ดแวร์ของเครือข่าย (อุปกรณ์พื้นฐาน)
การ์ดเชื่อมโยงเครือข่าย (Network interface card) ฮับ/สวิทซ์ (Hub/Switch) เราเตอร์ (Router) โมเด็ม (Modem) Access Point Wireless Card คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน
53
การ์ดเชื่อมโยงเครือข่าย (Network interface card)
คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน
54
การ์ดเชื่อมโยงเครือข่าย (Network interface card)
การ์ดเชื่อมโยงเครือข่าย (Network interface card) เป็นอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่ เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์เข้ากับสายเคเบิลของเครือข่าย และควบคุมการรับส่งข้อมูลระหว่างคอมพิวเตอร์กับเครือข่าย บางครั้งเรียกว่า Lan Card คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน
55
ฮับ/สวิทซ์ (Hub/Switch)
คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน
56
ฮับ/สวิทซ์ (Hub/Switch)
ฮับ/สวิทซ์ (Hub/Switch) เป็นอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่ เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์หลายๆ เครื่องเข้าด้วยกัน และเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยในการกระจายสัญญาณ โดยที่ฮับจะมีการแบ่งช่องสัญญาณตามจำนวนผู้ใช้ แต่ Switch ไม่มีการแบ่ง คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน
57
การทำงานของ Hub คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน
58
ความแตกต่างระหว่าง Hub และ Switch
หากมีการส่งสัญญาณพร้อมๆกัน ความเร็วจะลดลง ไม่เหมาะที่จะนำมาใช้กับเครือข่ายขนาดใหญ่ คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน
59
ความแตกต่างระหว่าง Hub และ Switch
การรับ-ส่งข้อมูลจากพอร์ทหนึ่งของอุปกรณ์ ไปยังพอร์ทปลายทางที่เชื่อมอยู่กับอีกเครื่องที่ต้องการส่งข้อมูลเท่านั้น ส่งข้อมูลได้พร้อมกันในเวลาเดียวกัน เป็นที่นิยมใช้งานในระบบเครือข่ายมากกว่าฮับ คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน
60
เราเตอร์ (Router) คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน
61
เราเตอร์ (Router) เราเตอร์ (Router) เป็นอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่ เชื่อมต่อเครือข่ายแต่ละประเภทเข้าด้วยกัน โดยค้นหาเส้นทางที่ดีที่สุดในการส่งผ่านข้อมูล คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน
62
โมเด็ม (Modem) เป็นอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่แปลงสัญญาณจากอนาลอกเป็นดิจิตอล และดิจิตอลเป็นอนาลอก มี 2 ชนิด คือแบบติดตั้งภายใน และแบบติดตั้งภายนอก คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน
63
โมเด็ม (Modem) โมเด็ม (Modem) เป็นอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่ แปลงสัญญาณดิจิตอลของคอมพิวเตอร์ให้สามารถวิ่งบนสายโทรศัพท์ (สัญญาณอนาลอก) เพื่อทำการติดต่อสื่อสารได้ มี 2 ชนิด คือแบบติดตั้งภายใน และแบบติดตั้งภายนอก คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน
64
โมเด็ม (Modem) Internal Modem External Modem
คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน
65
ลักษณะการเชื่อมต่อโมเด็ม
The analog signal (audible) is sent through telephone lines. MODEM MODEM Digital signal Digital signal This modem converts analog to digital. This modem converts digital to analog. คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน
66
Access Point ใช้ในการเชื่อมต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์กับระบบเครือข่ายแบบไร้สาย (wireless) Access Point หรือเรียกกันสั้นๆ ว่า AP (เอ-พี) ซึ่งจะทำหน้าที่เป็น “จุดกระจายและเชื่อมต่อสัญญาณ ไร้สาย เพื่อเชื่อมต่ออุปกรณ์ไร้สายทุกชนิด เข้า คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน
67
Wireless Card PCMCIA PCI for PC USB ติดตั้งบนเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อเชื่อมต่อกับระบบเครือข่ายแบบไร้สาย คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน
68
การนำเครือข่ายไปใช้ในด้านต่างๆ
การตลาดและการขาย ในธุรกิจที่ประกอบการค้าประเภทขายสินค้าที่มีสาขา หรือเครือข่ายทางธุรกิจระบบเครือข่าย คอมพิวเตอร์ จะมีประโยชน์อย่างมากในการช่วยวิเคราะห์การตลาดโดยนำข้อมูลเกิดจากการขายที่สาขาต่างๆ มาประมวลผล ตลอดจนสาขาต่างๆ สามารถสั่งซื้อสินค้าได้ผ่านระบบเครือข่าย ได้ทันทีที่ต้องการ คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน
69
การนำเครือข่ายไปใช้ในด้านต่างๆ
งานการเงินและธนาคาร ระบบการเงินการธนาคาร ต้องอาศัยระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์อย่างมากไม่ว่าจะเป็น การบริการฝาก - ถอนผ่านตู้เอทีเอ็ม หรือการโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน
70
การนำเครือข่ายไปใช้ในด้านต่างๆ
จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ จดหมายอิเล็กทรอนิกส์เป็นบริการที่ได้รับความนิยมสูงสุด นับตั้งแต่เครือข่ายอินเตอร์เน็ต ได้มีบทบาทในชีวิตประจำวัน คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน
71
การนำเครือข่ายไปใช้ในด้านต่างๆ
การบริการข้อมูลข่าวสาร บริการนี้คือการนำเสนอข่าวสารต่างๆ ของหน่วยงาน องค์กรและบุคคลต่างๆ ที่ต้องการจะ เผยแพร่ ข่าวสารไปยังบุคคลอื่นๆ ทั้งเพื่อหวังผลประโยชน์ทางธุรกิจและไม่ผลประโยชน์ มาเกี่ยวข้อง บริการนี้ได้รับความนิยมและเป็นที่รู้จักดีในชื่อของ WWW (World Wide Web) คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน
72
การนำเครือข่ายไปใช้ในด้านต่างๆ
งานการบริการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ งานการบริการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์เป็นการบริการผ่านระบบเครือข่ายบริษัทที่ทำธุรกิจร่วมกัน สามารถส่งใบสั่งซื้อสิ้นค้า ใบเสร็จรับเงิน และเอกสารอื่นๆ ผ่านระบบเครือข่ายได้ คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน
73
การนำเครือข่ายไปใช้ในด้านต่างๆ
การประชุมทางไกล การประชุมทางไกลเป็นการประชุมที่ผู้ร่วมเข้าประชุมไม่จำเป็นต้องอยู่ในสถานที่เดียวกันแต่สามารถ พิมพ์ข้อความส่งไปยังผู้เข้าร่วมประชุมคนอื่นๆ และยังสามารถสนทนารวมทั้งเห็นภาพ ผู้ร่วมเข้าประชุมผ่านทางจอภาพที่เรียกว่าการประชุมวีดิทัศน์ คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน
74
การประชุมทางไกล (Videoconferencing)
75
THE END คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน
76
แบบฝึกหัดบทที่ 6 จงอธิบายองค์ประกอบของการสื่อสารข้อมูล
จงอธิบายรูปแบบของสัญญาณแบบอนาล็อก และดิจิตอล จงบอกประโยชน์ของระบบเครือข่ายมา 6 ข้อ จงอธิบายระบบเครือข่ายระยะใกล้ และจุดประสงค์ของการติดตั้ง จงอธิบายลักษณะโครงสร้างเครือข่ายแบบดาว, แบบผสม พร้อมระบุข้อดี และข้อเสีย คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน
77
แบบฝึกหัดบทที่ 6 (ต่อ) จงบอกข้อดีของสายใยแก้วนำแสง
สื่อที่ใช้ในการสื่อสารข้อมูลประเภทไร้สายมีอะไรบ้าง แต่ละชนิดมีข้อแตกต่างกันอย่างไร จงอธิบาย จงบอกอุปกรณ์เครือข่ายมา 4 ชนิด พร้อมอธิบายหน้าที่การทำงานของแต่ละชนิด จงอธิบายลักษณะการเชื่อมต่อและการสื่อสารแบบโมเด็ม จงบอกและอธิบายการนำเครือข่ายไปใช้ในด้านต่างๆ มา 5 ตัวอย่างงาน คอมพิวเตอร์สารสนเทศขั้นพื้นฐาน
งานนำเสนอที่คล้ายกัน
© 2024 SlidePlayer.in.th Inc.
All rights reserved.