งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ

งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ

กองทุนเงินทดแทน (พรบ.เงินทดแทน พ.ศ.2537) โดย ร.อ. มานพ ทุสาวุธ

งานนำเสนอที่คล้ายกัน


งานนำเสนอเรื่อง: "กองทุนเงินทดแทน (พรบ.เงินทดแทน พ.ศ.2537) โดย ร.อ. มานพ ทุสาวุธ"— ใบสำเนางานนำเสนอ:

1 กองทุนเงินทดแทน (พรบ.เงินทดแทน พ.ศ.2537) โดย ร.อ. มานพ ทุสาวุธ
กองทุนเงินทดแทน (พรบ.เงินทดแทน พ.ศ.2537) โดย ร.อ. มานพ ทุสาวุธ

2 วัตถุประสงค์ เพื่อให้ความคุ้มครองลูกจ้างที่เจ็บป่วยหรือประสบอันตราย ทุพพลภาพ สูญหาย หรือ ตาย อันเนื่องมาจากการทำงานให้แก่นายจ้างหรือป้องกันรักษาผลประโยชน์ให้นายจ้าง ซึ่งเกิดขึ้นตามลักษณะหรือสภาพของงาน (ใช้บังคับเมื่อวันที่ 1 กรกฏาคม ก่อนหน้านั้น ใช้ประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ลงวันที่ 16 มีนาคม 2515 )

3 กองทุนเงินทดแทน คืออะไร
กองทุนเงินทดแทน คือกองทุนที่จ่ายเงินทดแทนให้แก่ลูกจ้างแทนนายจ้าง เมื่อลูกจ้างประสบอันตราย เจ็บป่วย ถึงแก่ความตายหรือสูญหาย เนื่องจากการทำงานให้นายจ้าง โดยมิคำนึงถึงวัน เวลา และสถานที่ แต่จะดูสาเหตุที่ทำให้ประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย (นายจ้างเป็นผู้จ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนเงินทดแทนฝ่ายเดียว)

4 ขอบเขตการใช้บังคับ มาตรา 4
ขอบเขตการใช้บังคับ มาตรา 4 นายจ้างทุกท้องที่ทั่วราชอาณาจักรที่มีลูกจ้างตั้งแต่ 1 คนขึ้นไปยกเว้น - ราชการส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค ส่วนท้องถิ่น - รัฐวิสาหกิจ - โรงเรียนเอกชนเฉพาะครู หรือครูใหญ่ -กิจการที่มิได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไร -นายจ้างอื่นที่กำหนดในกระทรวง

5 นายจ้างอื่นที่ไม่ใช้บังคับ
1. นายจ้างที่ประกอบกิจการเพาะปลูก ประมง ป่าไม้ และ เลี้ยงสัตว์ ซึ่งมิได้ใช้ลูกจ้างตลอดปี และไม่มีงานลักษณะอื่นรวมอยู่ด้วย 2. นายจ้างที่เป็นบุคคลธรรมดา ซึ่งงานที่ลูกจ้างทำนั้น มิได้มีการประกอบธุรกิจรวมอยู่ด้วย 3. นายจ้างที่ประกอบการค้าเร่ การค้าแผงลอย

6 เมื่อใดที่ลูกจ้างมีสิทธิได้รับความคุ้มครอง
**สิทธิเกิดขึ้นทันทีนับตั้งแต่วันแรกที่เข้าทำงานให้นายจ้าง**

7 - ตายหรือสูญหาย ระยะเวลาไม่น้อยกว่า 120 วัน นับแต่วันที่เกิดเหตุ
การให้ประโยชน์ทดแทนตาม พ.ร.บ.เงินทดแทนพ.ศ.2537คุ้มครองกรณีเนื่องจากการทำงาน - ประสบอันตราย - เจ็บป่วย - ทุพพลภาพ - ตายหรือสูญหาย ระยะเวลาไม่น้อยกว่า 120 วัน นับแต่วันที่เกิดเหตุ - อันเนื่องมาจากการทำงาน

8 การเจ็บป่วยเนื่องจากการทำงาน หมายความว่า?
การประสบอันตรายเนื่องจากการทำงานหมายความว่าอย่างไร หมายความว่า การที่ลูกจ้างได้รับอันตรายแก่กายหรือผลกระทบแก่จิตใจหรือถึงแก่ความตายเนื่องจากการทำงานหรือป้องกันรักษาประโยชน์ให้นายจ้างหรือตามคำสั่งของนายจ้าง การเจ็บป่วยเนื่องจากการทำงาน หมายความว่า? การที่ลูกจ้างเจ็บป่วยหรือถึงแก่ความตายด้วยโรค ซึ่งเกิดขึ้นตามลักษณะหรือสภาพของงาน หรือเนื่องจากการทำงาน

9 สิทธิประโยชน์จากกองทุนทดแทน
1.ค่ารักษาพยาบาล วงเงิน 1,000,000.บาท 2.ค่าทดแทน 60% ของค่าจ้างรายเดือน -กรณีหยุดงานติดต่อกันเกิน 3 วัน แต่ไม่เกิน 1 ปี -กรณีสูญเสียอวัยวะ ได้รับค่าทดแทนไม่เกิน 10 ปี -กรณีทุพพลภาพ ได้รับค่าทดแทน ไม่เกิน 15 ปี -กรณีตาย ได้รับค่าทดแทนไม่เกิน ปี 3.ค่าทำศพ(ค่าจัดการศพ 100 เท่าของค่าจ้างขั้นต่ำ) 4.ค่าฟื้นฟูสมรรถภาพ ได้รับค่าทดแทนไม่เกิน 15 ปี (คำนวณจากฐานเงินเดือน 20,000บ.)

10 ไม่จ่ายเงินทดแทน ในกรณี -เสพเครื่องดองของเมาจนไม่สามารถครองสติได้
-จงใจให้ตนเองหรือยินยอมให้ผู้อื่นทำให้ตนประสบอันตราย

11 กรณีเข้ารักษาตัว ณ สถานพยาบาลที่ตกลงไว้
เอกสารที่นายจ้างต้องนำส่งให้โรงพยาบาลเพื่อให้โรงพยาบาลเรียกเก็บค่ารักษาพยาบาลจากกองทุนทดแทน -แบบส่งตัวลูกจ้างเข้ารับการรักษา กท.44 (กรอกข้อมูลครบถ้วน) -นายจ้างต้องนำส่งแบบแจ้งการประสบอันตรายเจ็บป่วย กท.16 และสำเนา กท.44 ไปสำนักงานประกันสังคม ที่รับผิดชอบภายใน 15 วัน -โรงพยาบาลแนบใบรับรองแพทย์ กท.16/1 ประกอบใช้สิทธิ -หากบริษัทไม่ยื่นเอกสารต้องชำระเงินแล้วยื่นเบิกกองทุน ทดแทนเองภายหลัง

12 ระยะเวลาในการแจ้งการประสบอันตราย
-ส่งเอกสารแจ้ง สปส.พื้นที่ เพื่อวินิจฉัยภายใน 15 วัน -สปส.พิจารณาวินิจฉัยแจ้งผลต่อรพ.ใช้เวลาประมาณ 30 วัน(กรณีข้อมูลของบริษัทสมบูรณ์) -ส่งเอกสารเรียกเก็บค่ารักษาพยาบาลภายใน 90 วัน หลังจากได้รับผลวินิจฉัยจาก สปส.

13 ค่ารักษาพยาบาล ได้รับเงินเท่าใด
ค่ารักษาพยาบาล ได้รับเงินเท่าใด ค่ารักษาพยาบาลจ่ายได้ตามกฎกระทรวง พ.ศ.2558 ลงวันที่ 30 มกราคม2558 1) กรณีลูกจ้างประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยจากการทำงาน จ่าย 50,000 บ. 2) กรณีค่ารักษา 50,000บ.ไม่เพียงพอ จ่ายตามจริงได้อีกไม่เกิน100,000 บ. สำหรับการประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยของลูกจ้างที่มีลักษณะ ดังนี้ 2.1 บาดเจ็บรุนแรงของอวัยวะภายในหลายส่วนต้องผ่าตัดแก้ไข 2.2)บาดเจ็บรุนแรงกระดูกหลายแห่งต้องผ่าตัดแก้ไข 2.3)บาดเจ็บรุนแรงของศีรษะต้องผ่าตัดเปิดกะโหลก 2.4)บาดเจ็บรุนแรงกระดูกสันหลัง ไขสันหลัง หรือรากประสาท 2.5) ภาวะต้องผ่าตัดอวัยวะที่ยุ่งยากใช้วิธีจุลศัลยกรรม 2.6)แผลไฟไหม้น้ำร้อนลวกสูญเสียผิวหนัง ตั้งแต่25%ของผิวร่างกาย 2.7)ประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยรุนแรง เรื้อรัง ตามประกาศกระทรวงกำหนด

14 3)กรณีค่ารักษาพยาบาลจ่ายเพิ่มอีกตามข้อ2 ไม่เพียงพอ ให้จ่ายเพิ่มจริงตามความ จำเป็น โดยรวมทั้งข้อ1 และข้อ 2 ต้องไม่เกิน 300,000บ. ภาวะเจ็บป่วยต้องมีลักษณะ ดังนี้ 3.1) ประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย ตามข้อ1 ถึง 6 ตั้งแต่ 2 รายการขึ้นไป 3.2) จำเป็นต้องใช้เครื่องช่วยหายใจหรือพักรักษาในห้องผู้ป่วยวิกฤต หรือห้องผู้ป่วยไฟไหม้ตั้งแต่ 20 วันขึ้นไป 3.3)บาดเจ็บรุนแรงของระบบสมองและไขสันหลังต้องรักษาตัว 30 วัน 4) กรณีค่ารักษาพยาบาลตามข้อ1-3ไม่เพียงพอให้จ่ายเพิ่มตามความจำเป็นได้ไม่เกิน 500,000บ. 5) กรณีค่ารักษาพยาบาลทุกกรณีไม่เพียงพอ จ่ายเพิ่มได้ตามความจำเป็นและคณะกรรมการแพทย์พิจารณาและคณะกรรมการกองทุนเงินทดแทนเห็นชอบรวมทั้งสิ้นต้องไม่เกิน 1,000,000 บ. 6) ค่าห้อง ค่าอาหาร ค่าบริการทางการพยาบาล จ่ายตามจริงไม่เกินวันละ1,300บ.

15

16

17

18 ความแตกต่างระหว่าง กองทุนเงินทดแทน กองทุนประกันสังคม 1.วัตถุประสงค์
เพื่อเป็นทุนให้มีการจ่ายเงินทดแทนแก่ลูกจ้างแทนนายจ้าง 1.วัตถุประสงค์ เพื่อสร้างหลักประกันให้แก่ลูกจ้างผู้ประกันตน

19 กองทุนเงินทดแทน กองทุนประกันสังคม 3.1 เจ็บป่วย
2. หน้าที่การจ่ายเงินสมทบ ลูกจ้าง, นายจ้าง รัฐบาล 2. หน้าที่การจ่ายเงินสมทบ นายจ้างมีหน้าที่จ่าย 3.อัตราเงินสมทบ ตามความเสี่ยงภัย ของกิจการนายจ้าง 3.1 อัตราเงินสมทบหลัก 0.2 – 1% 3.2 อัตราเงินสมทบค่าประสบการณ์ 3.อัตราเงินสมทบ 3.1 เจ็บป่วย 3.2 ตาย 3.3 ทุพพลภาพ 3.4 คลอดบุตร 3.5 สงเคราะห์บุตร 3.6 ชราภาพ 3.7 ว่างงาน 1.5% 3% 5%

20 กองทุนเงินทดแทน กองทุนประกันสังคม 4. วิธีจ่าย รายปี รายงวด 4. วิธีจ่าย จ่ายเป็นรายเดือนทุกเดือน 5. เงินเพิ่มตามกฎหมาย ร้อยละ 3 ต่อเดือน 5. เงินเพิ่มตามกฎหมาย ร้อยละ 2 ต่อเดือน

21 กองทุนเงินทดแทน กองทุนประกันสังคม 6. สิทธิประโยชน์ ค่ารักษาพยาบาล ค่าทดแทน 6.1 กรณีหยุดงาน 6.2 กรณีสูญเสียอวัยวะ 6.3 กรณีทุพพลภาพ 6.4 กรณีเสียชีวิต ค่าทำศพ ค่าฟื้นฟู 6. สิทธิประโยชน์ กรณีเจ็บป่วย กรณีทุพพลภาพ กรณีตาย กรณีคลอดบุตร กรณีสงเคราะห์บุตร กรณีชราภาพ กรณีว่างงาน

22 กองทุนเงินทดแทน กองทุนประกันสังคม 7. ข้อยกเว้น ลูกจ้างเสพของมึนเมา หรือสิ่งเสพติดอื่น จนไม่ สามารถครองสติได้ ลูกจ้างจงใจให้ตนเอง ประสบอันตราย หรือยอม ให้ผู้อื่นทำให้ตนประสบอันตราย (ม. 22) 7. ข้อยกเว้น ตาม พรบ. ประกันสังคม ข้อ

23 กฎกระทรวง (ใช้บังคับตั้งแต่ 1 มกราคม พ.ศ.2559)
กฎกระทรวง    (ใช้บังคับตั้งแต่ 1 มกราคม พ.ศ.2559) กำหนดอัตราค่ารักษาพยาบาลที่ให้นายจ้างจ่าย พ.ศ.2560       ก.แรงงาน ออกกฎกระทรวงฉบับใหม่ “กำหนดอัตราค่ารักษาพยาบาลที่ให้นายจ้างจ่ายแทนลูกจ้าง” เข้ารับการรักษาพยาบาลในสถานพยาบาลของรัฐ ตั้งแต่เริ่มแรกจนสิ้นสุดการรักษาไม่เกิน 2 ล้านบาท                วันนี้ (24 ก.ค.) มีรายงานว่า ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่กฎกระทรวงกำหนดอัตราค่ารักษาพยาบาลที่ให้นายจ้างจ่าย (ฉบับที่ 2) พ.ศ ลงนาม โดย พลเอก ศิริชัย ดิษฐกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ให้ไว้ ณ วันที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ.2560 โดยที่การกำหนดอัตราค่ารักษาพยาบาล ที่ให้นายจ้างจ่ายตามกฎกระทรวงกำหนดอัตราค่ารักษาพยาบาลที่ให้นายจ้างจ่าย พ.ศ ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไป                ทั้งนี้ เป็นการกำหนดอัตราค่ารักษาพยาบาลให้แก่ลูกจ้าง กรณีเข้ารับการรักษาในสถานพยาบาลของรัฐ ให้สอดคล้องกับลักษณะของการประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยของลูกจ้างที่จะได้รับค่ารักษาพยาบาลตามความจำเป็นจนสิ้นสุดการรักษา แต่ไม่เกินสองล้านบาท เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพความเป็นจริง และสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไป                      

24     ทั้งนี้ กฎกระทรวงฉบับนี้ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 6 วรรคหนึ่ง และมาตรา 13 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติเงินทดแทน พ.ศ ตามที่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ออกกฎกระทรวงไว้ โดยให้ยกเลิกความในข้อ 6 แห่งกฎกระทรวงกำหนดอัตราค่ารักษาพยาบาลที่ให้นายจ้างจ่าย พ.ศ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน               “ข้อ 6 ในกรณีค่ารักษาพยาบาลที่จ่ายตามข้อ 5 สำหรับลูกจ้างรายใดไม่เพียงพอ ให้นายจ้างจ่ายค่ารักษาพยาบาลเท่าที่จ่ายจริงตามความจำเป็นเพิ่มขึ้น โดยเมื่อรวมกับค่ารักษาพยาบาล ตามข้อ 2 ข้อ 3 ข้อ 4 และข้อ 5 แล้ว ต้องไม่เกินหนึ่งล้านบาท เว้นแต่ในกรณีดังต่อไปนี้ ให้นายจ้างจ่ายค่ารักษาพยาบาลเท่าที่จ่ายจริงตามความจำเป็นที่เพิ่มขึ้นจนสิ้นสุดการรักษา แต่ไม่เกินสองล้านบาท (1) ลูกจ้างเข้ารับการรักษาพยาบาลในสถานพยาบาลของรัฐตั้งแต่เริ่มแรกจนสิ้นสุดการรักษา (2) ลูกจ้างมีความจำเป็นหรือมีเหตุสมควรที่ไม่สามารถเข้ารับการรักษาพยาบาลในสถานพยาบาลของรัฐตั้งแต่เริ่มแรก แต่ภายหลังได้เข้ารับการรักษาพยาบาลในสถานพยาบาลของรัฐ การจ่ายค่ารักษาพยาบาลตามวรรคหนึ่งให้เป็นไปตามความเห็นของคณะกรรมการการแพทย์ โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ”              ท้ายกฎกระทรวงฉบับนี้ ระบุด้วยว่า ให้ใช้บังคับรวมถึงลูกจ้างที่ประสบอันตราย หรือเจ็บป่วยอยู่ก่อนวันที่กฎกระทรวงนี้ใช้บังคับ และยังคงรักษาพยาบาลอยู่จนถึงวันที่กฎกระทรวงนี้ใช้บังคับ                          

25 มีรายงานจากสำนักงานประกันสังคม (สปส
   มีรายงานจากสำนักงานประกันสังคม (สปส.) ว่า กฎกระทรวงดังกล่าวจะปลดล็อกปัญหา เรื่อง อัตราค่ารักษาพยาบาลกรณีลูกจ้างประสบอุบัติเหตุในระหว่างทำงาน ซึ่งหลายรายได้รับบาดเจ็บรุนแรงและประสบปัญหาค่ารักษาพยาบาล เนื่องจากเดิมทีกำหนดให้นายจ้างจ่ายค่ารักษาตามความเป็นจริง แต่ไม่เกิน 1 ล้านบาท แต่ในรายที่อาการรุนแรงมากๆ วงเงิน 1 ล้านบาทไม่เพียงพอ ยิ่งรักษาในโรงพยาบาลเอกชน ยิ่งมีราคาแพง จึงเห็นชอบในหลักการให้เพิ่มขึ้นเกิน 1 ล้านบาท กฎกระทรวงดังกล่าวจะช่วยกรณีลูกจ้างที่มีอาการรุนแรงมากๆ และจำเป็นต้องรักษาเพิ่มเติมด้วยวงเงินเกิน 1 ล้านบาทนั้น หากนายจ้างที่เป็นบริษัทใหญ่ๆ ก็จะสามารถดูแลต่อเนื่องได้ แต่หากนายจ้างที่เป็นบริษัทเล็กๆ จะไม่สามารถดูแลได้ตรงจุดนี้ สปส. ก็จะเข้าไปดูแลโดยให้รักษาต่อในสถานพยาบาลของรัฐเท่านั้น โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานได้มอบหมายว่า ควรปรับเพิ่มขึ้นเกิน 2 ล้านบาทด้วย เพื่อให้ลูกจ้างที่ได้รับผลกระทบรุนแรงได้รับการรักษาพยาบาลอย่างเต็มที่” 

26 สวัสดี


ดาวน์โหลด ppt กองทุนเงินทดแทน (พรบ.เงินทดแทน พ.ศ.2537) โดย ร.อ. มานพ ทุสาวุธ

งานนำเสนอที่คล้ายกัน


Ads by Google