งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ

งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ

Good morning welcome to Calvary Chapel at the Bridge สวัสดีตอนเช้าขอต้อนรับสู่ โบสถ์แคล'วะรีแชพ'เพิลที่สะพาน.

งานนำเสนอที่คล้ายกัน


งานนำเสนอเรื่อง: "Good morning welcome to Calvary Chapel at the Bridge สวัสดีตอนเช้าขอต้อนรับสู่ โบสถ์แคล'วะรีแชพ'เพิลที่สะพาน."— ใบสำเนางานนำเสนอ:

1 Good morning welcome to Calvary Chapel at the Bridge สวัสดีตอนเช้าขอต้อนรับสู่ โบสถ์แคล'วะรีแชพ'เพิลที่สะพาน

2 Psalm เพลงสดุดีบทที่ 67

3 Genesis ปฐมกาล 12:1-3 1 Now the LORD said to Abram, “Go from your country and your kindred and your father's house to the land that I will show you.

4 1พระเจ้าตรัสแก่อับรามว่า “เจ้าจงออกจากเมือง จากญาติพี่น้อง จากบ้านบิดาของเจ้า ไปยังดินแดนที่เราจะบอกให้เจ้ารู้

5 2And I will make of you a great nation, and I will bless you and make your name great, so that you will be a blessing.

6 2เราจะให้เจ้าเป็นชนชาติใหญ่ เราจะอวยพรแก่เจ้า จะให้เจ้ามีชื่อเสียงใหญ่โตเลื่องลือไป แล้วเจ้าจะช่วยให้ผู้อื่นได้รับพร

7 3I will bless those who bless you, and him who dishonors you I will curse, and in you all the families of the earth shall be blessed.”

8 3เราจะอำนวยพรแก่คนที่อวยพรเจ้า เราจะสาปคนที่แช่งเจ้า บรรดาเผ่าพันธุ์ทั่วโลกจะได้พรเพราะเจ้า”  

9 To the choirmaster: with stringed instruments. A Psalm. A Song
To the choirmaster: with stringed instruments. A Psalm. A Song. 1May God be gracious to us and bless us and make His face to shine upon us, Selah.

10 1ถึงหัวหน้านักร้อง ใช้เครื่องสาย เพลงสดุดี เพลง ขอพระเจ้าทรงพระเมตตาต่อข้าพระองค์ทั้งหลาย และอำนวยพรแก่ข้าพระองค์ ขอพระองค์ทรงให้พระพักตร์ฉายสว่างแก่ข้าพระองค์

11 2that your way may be known on earth, your saving power among all nations. 2เพื่อพระมรรคาของพระองค์จะเป็นที่รู้จักในแผ่นดินโลก ความรอดของพระองค์จะเป็นที่ทราบท่ามกลางบรรดา ประชาชาติทั้งสิ้น

12 1 Corinthians โครินธ์ 6: Or do you not know that your body is a temple of the Holy Spirit within you, whom you have from God? You are not your own,

13 19ท่านไม่รู้หรือว่า ร่างกายของท่านเป็นวิหารของพระวิญญาณบริสุทธิ์ซึ่งสถิตอยู่ในท่าน ซึ่งท่านได้รับจากพระเจ้า ท่านไม่ใช่เจ้าของตัวท่านเอง

14 20for you were bought with a price. So glorify God in your body

15 Isaiah อิสยาห์ 42:6 6“I am the LORD; I have called you in righteousness; I will take you by the hand and keep you; I will give you as a covenant for the people, a light for the nations,

16 6“เราคือพระเจ้า เราได้เรียกเจ้ามาด้วยความชอบธรรม เราได้ยุดเจ้าและรักษาเจ้าไว้ เราได้ให้เจ้าเป็นตัวพันธสัญญาของมนุษยชาติ เป็นความสว่างแก่บรรดาประชาชาติ

17 3Let the peoples praise you, O God; let all the peoples praise you

18 4Let the nations be glad and sing for joy, for you judge the peoples with equity and guide the nations upon earth. Selah

19 4ขอให้ชาวประเทศทั้งหลายยินดี และร้องเพลง ด้วยความชื่นบาน เพราะพระองค์ทรงพิพากษาชนชาติ ทั้งหลาย ด้วยความเที่ยงธรรม และทรงนำชาวประเทศทั้งหลายในโลก

20 5Let the peoples praise you, O God; let all the peoples praise you

21 Isaiah อิสยาห์ 2:1-5 1The word that Isaiah the son of Amoz saw concerning Judah and Jerusalem. 1ถ้อยคำซึ่งอิสยาห์บุตรชายของอามอสเห็น เกี่ยวกับยูดาห์และเยรูซาเล็ม

22 2It shall come to pass in the latter days that the mountain of the house of the LORD shall be established as the highest of the mountains, and shall be lifted up above the hills; and all the nations shall flow to it,

23 2ในยุคหลังจะเป็นดังนี้ คือภูเขาแห่งพระนิเวศของพระเจ้า จะถูกสถาปนาขึ้นให้สูงที่สุดในจำพวกภูเขาทั้งหลาย และจะถูกยกขึ้นให้เหนือบรรดาเนินเขา และประชาชาติทั้งสิ้นจะหลั่งไหลเข้ามาหา

24 3and many peoples shall come, and say: “Come, let us go up to the mountain of the LORD, to the house of the God of Jacob, that He may teach us His ways and that we may walk in His paths.” For out of Zion shall go the law, and the word of the LORD from Jerusalem.

25 3และชนชาติทั้งหลายเป็นอันมากจะมากล่าวว่า “มาเถิด ให้เราขึ้นไปยังภูเขาของพระเจ้า ยังพระนิเวศแห่งพระเจ้าของยาโคบ เพื่อพระองค์จะทรงสอนวิถีของพระองค์แก่เรา และเพื่อเราจะเดินในมรรคาของพระองค์” เพราะว่าพระธรรมจะออกมาจากศิโยน และพระวจนะของพระเจ้าจะออกมาจากเยรูซาเล็ม

26 4He shall judge between the nations, and shall decide disputes for many peoples; and they shall beat their swords into plowshares, and their spears into pruning hooks; nation shall not lift up sword against nation, neither shall they learn war anymore.

27 4พระองค์ทรงวินิจฉัยระหว่างบรรดาประชาชาติ และจะทรงตัดสินเพื่อชนชาติทั้งหลายเป็นอันมาก และเขาทั้งหลายจะตีดาบของเขาให้เป็นผาลไถนา และหอกของเขาให้เป็นขอลิด ประชาชาติจะไม่ยกดาบต่อสู้กันอีก เขาจะไม่ศึกษายุทธศาสตร์อีกต่อไป

28 5O house of Jacob, come, let us walk in the light of the LORD

29 Revelation วิวรณ์ 11:15 15Then the seventh angel blew his trumpet, and there were loud voices in heaven, saying, “The kingdom of the world has become the kingdom of our Lord and of his Christ, and He shall reign forever and ever.”

30 15และทูตสวรรค์องค์ที่เจ็ดก็เป่าแตรขึ้น และมีเสียงหลายๆเสียงกล่าวขึ้นดังๆในสวรรค์ว่า “ราชอาณาจักรแห่งพิภพนี้ ได้กลับเป็นราชอาณาจักรขององค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา และเป็นของพระคริสต์ของพระองค์ และพระองค์จะทรงครอบครองตลอดไปเป็นนิตย์”

31 6The earth has yielded its increase; God, our God, shall bless us

32 7God shall bless us; let all the ends of the earth fear Him

33 John ยอห์น 4: Already the one who reaps is receiving wages and gathering fruit for eternal life, so that sower and reaper may rejoice together.

34 36คนเกี่ยวก็กำลังได้รับค่าจ้าง และกำลังส่ำสมพืชผลไว้สำหรับชีวิตนิรันดร์ เพื่อทั้งคนหว่านและคนเกี่ยวจะชื่นชมยินดีด้วยกัน

35 37For here the saying holds true, ‘One sows and another reaps

36 38I sent you to reap that for which you did not labor
38I sent you to reap that for which you did not labor. Others have labored, and you have entered into their labor.” 38เราใช้ท่านทั้งหลายไปเกี่ยวสิ่งที่ท่านมิได้ลงแรงทำ คนอื่นได้ลงแรงทำ และท่านได้รับประโยชน์จากแรงของเขา”

37 Psalm เพลงสดุดีบทที่ 68  

38 Ephesians เอเฟซัส 4:8 8Therefore it says, “When He ascended on high He led a host of captives, and He gave gifts to men.”

39 8เหตุฉะนั้นจึงมีพระวจนะว่า ครั้นพระองค์เสด็จขึ้นไปสู่ที่สูง พระองค์ก็ทรงนำพวกเชลยไป และประทานของประทานแก่มนุษย์

40 To the choirmaster. A Psalm of David. A Song
To the choirmaster. A Psalm of David. A Song. 1God shall arise, His enemies shall be scattered; and those who hate him shall flee before Him.

41 1ถึงหัวหน้านักร้อง เพลงสดุดีของดาวิด เพลง ขอพระเจ้าทรงลุกขึ้น ให้ศัตรูของพระองค์กระจายไป ให้บรรดาผู้ที่เกลียดชังพระองค์หนีไปต่อเบื้อง พระพักตร์พระองค์

42 2As smoke is driven away, so you shall drive them away; as wax melts before fire, so the wicked shall perish before God!

43 2ควันถูกขับไปฉันใด ก็ขอทรงไล่เขาไปฉันนั้น ขี้ผึ้งละลายต่อหน้าไฟฉันใด ก็ขอให้คนอธรรมพินาศต่อเบื้องพระพักตร์พระเจ้าฉันนั้น

44 3But the righteous shall be glad; they shall exult before God; they shall be jubilant with joy! 3แต่ขอให้คนชอบธรรมชื่นบาน ให้เขาเต้นโลดต่อเบื้องพระพักตร์พระเจ้า ให้เขาลิงโลดด้วยความชื่นบาน

45 4Sing to God, sing praises to His name; lift up a song to Him who rides through the deserts; His name is the LORD; exult before Him!

46 4จงร้องเพลงถวายพระเจ้า จงร้องเพลงสรรเสริญพระนามของพระองค์ จงยกย่องพระองค์ผู้ทรงเมฆเป็นพาหนะ พระนามของพระองค์คือพระเยโฮวาห์ จงลิงโลดต่อเบื้องพระพักตร์พระองค์

47 5Father of the fatherless and protector of widows is God in his holy habitation. 5พระเจ้าในที่ประทับบริสุทธิ์ของพระองค์ ทรงเป็นพระบิดาของคนกำพร้าและทรง เป็นผู้ป้องกันหญิงม่าย

48 6God settles the solitary in a home; He leads out the prisoners to prosperity, but the rebellious dwell in a parched land. 6พระเจ้าทรงให้คนเปลี่ยวเปล่าอาศัยอยู่ตามบ้านเรือน พระองค์ทรงนำเชลยออกมาถึงความรุ่งโรจน์ แต่คนมักกบฏอาศัยในแผ่นดินที่แตกระแหง

49 7O God, when You went out before Your people, when You marched through the wilderness, Selah 7ข้าแต่พระเจ้า เมื่อพระองค์เสด็จนำ หน้าประชากรของพระองค์ เมื่อพระองค์เสด็จไปตามถิ่นทุรกันดาร

50 8the earth quaked, the heavens poured down rain, before God, the One of Sinai, before God, the God of Israel.

51 8แผ่นดินโลกก็หวั่นไหว ท้องฟ้าก็เทฝนลงมา ต่อเบื้องพระพักตร์พระเจ้า ภูเขาซีนายโน้มสั่นสะเทือนต่อเบื้อง พระพักตร์พระเจ้า คือพระเจ้าของอิสราเอล

52 9Rain in abundance, O God, You shed abroad; You restored Your inheritance as it languished; 9ข้าแต่พระเจ้า พระองค์ทรงเทฝนอุดมลง เมื่อมรดกของพระองค์อ่อนโหย พระองค์ทรงฟื้นขึ้นใหม่

53 10Your flock found a dwelling in it; in Your goodness, O God, You provided for the needy. 10ประชากรของพระองค์ก็มาอาศัยในนั้น ข้าแต่พระเจ้า โดยความดีของพระองค์ พระองค์ทรงจัดเตรียมไว้ให้แก่คนขัดสน

54 11The Lord gives the word; the women who announce the news are a great host: 11องค์พระผู้เป็นเจ้าประทานพระวจนะ พวกผู้หญิงที่นำข่าวดี ก็เป็นพวก ใหญ่โต

55 12“The kings of the armies—they flee, they flee
12“The kings of the armies—they flee, they flee!” The women at home divide the spoil— 12ประกาศว่า “บรรดาพระราชาของกองทัพทั้งหลาย เขาหนีไป เขาหนีไป” ผู้หญิงที่อยู่บ้านก็เอาข้าวของที่ริบมาได้แบ่งกัน

56 13though you men lie among the sheepfolds—the wings of a dove covered with silver, its pinions with shimmering gold. 13เมื่อท่านทั้งหลายนอนอยู่ท่ามกลางคอกแกะ ปีกนกพิราบก็อาบเงิน และขนก็แวววาวไปด้วยทอง

57 14When the Almighty scatters kings there, let snow fall on Zalmon

58 15O mountain of God, mountain of Bashan; O many-peaked mountain, mountain of Bashan! 15ภูเขาทรงมหิทธิฤทธิ์เอ๋ย ภูเขาเมืองบาชาน ภูเขาหลายยอดเอ๋ย ภูเขาเมืองบาชาน

59 16Why do you look with hatred, O many-peaked mountain, at the mount that God desired for His abode, yes, where the LORD will dwell forever?

60 16ภูเขาหลายยอดเอ๋ย ทำไมมองด้วยความริษยา ณ ที่ภูเขาซึ่งพระเจ้าทรงประสงค์ ให้เป็นที่พำนักของพระองค์ เออ ที่ที่พระเจ้าจะประทับเป็นนิตย์

61 17The chariots of God are twice ten thousand thousands upon thousands; the Lord is among them; Sinai is now in the sanctuary. 17องค์พระผู้เป็นเจ้าเสด็จจากซีนายเข้าไปในสถานนมัสการ พร้อมรถรบของพระเจ้าอเนกอนันต์ นับเป็นพันๆ

62 18You ascended on high, leading a host of captives in your train and receiving gifts among men, even among the rebellious, that the LORD God may dwell there.

63 18พระองค์เสด็จขึ้นสู่เบื้องสูง นำเชลยไปด้วย และรับของขวัญท่ามกลางมนุษย์ ข้าแต่พระเจ้า แม้จากผู้ที่ขัดขวาง ที่พระองค์ประทับที่นั่น

64 19Blessed be the Lord, who daily bears us up; God is our salvation
19Blessed be the Lord, who daily bears us up; God is our salvation. Selah 19สาธุการแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า ผู้ทรงค้ำชูเราทั้งหลายอยู่ทุกวัน พระเจ้าผู้ทรงเป็นความรอดของเรา

65 20Our God is a God of salvation, and to GOD, the Lord, belong deliverances from death. 20พระเจ้าของเรา เป็นพระเจ้าแห่งความรอด ซึ่งได้พ้นความตายนั้นก็อยู่ที่พระเจ้า

66 21But God will strike the heads of His enemies, the hairy crown of him who walks in his guilty ways. 21แต่พระเจ้าจะทรงตีศีรษะของศัตรูของพระองค์ให้แตก คือกระหม่อมมีผมของผู้ที่ขืนดำเนินในทางกรรมชั่ว ของเขา

67 22The Lord said, “I will bring them back from Bashan, I will bring them back from the depths of the sea, 22องค์พระผู้เป็นเจ้า ตรัสว่า “เราจะนำเขาทั้งหลายกลับมาจากบาชาน เราจะนำเขาทั้งหลายกลับมาจากที่ลึกของทะเล

68 23that you may strike your feet in their blood, that the tongues of your dogs may have their portion from the foe.” 23พื่อเจ้าจะเอาเท้าอาบเลือด เพื่อลิ้นสุนัขของเจ้าจะมีส่วนจากคู่อริของเจ้า”

69 24Your procession is seen, O God, the procession of my God, my King, into the sanctuary 24ข้าแต่พระเจ้า ขบวนแห่ของพระองค์ปรากฏแล้ว ขบวนแห่ของพระเจ้าของข้าพเจ้า พระมหากษัตริย์ของข้าพเจ้าเข้าในสถานนมัสการ

70 25the singers in front, the musicians last, between them virgins playing tambourines: 25นักร้องนำหน้า นักดนตรีคัดท้าย ระหว่างนั้นมีสตรีเล่นรำมะนา

71 26“Bless God in the great congregation, the LORD, O you who are of Israel's fountain!” 26“ท่านทั้งหลายผู้เป็นเชื้อสายของอิสราเอล จงสรรเสริญพระเจ้าคือพระเยโฮวาห์ ในที่ชุมนุมใหญ่”

72 27There is Benjamin, the least of them, in the lead, the princes of Judah in their throng, the princes of Zebulun, the princes of Naphtali. 27นั่นมีเบนยามินผู้น้อยที่สุดนำหน้า บรรดาเจ้านายยูดาห์อยู่เป็นหมู่ใหญ่ เจ้านายแห่งเศบูลุน เจ้านายแห่งนัฟทาลี

73 28Summon your power, O God, the power, O God, by which you have worked for us. 28ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงเรียกอานุภาพของพระองค์มา ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงสำแดงพระกำลังของพระองค์ พระองค์ผู้ได้ทรงกระทำเพื่อข้าพระองค์ทั้งหลาย

74 29Because of your temple at Jerusalem kings shall bear gifts to you

75 30Rebuke the beasts that dwell among the reeds, the herd of bulls with the calves of the peoples. Trample underfoot those who lust after tribute; scatter the peoples who delight in war.

76 30ขอทรงขนาบสัตว์ป่าที่อยู่ในกอแขม ฝูงวัวกับลูกวัว คือชนชาติทั้งหลาย ผู้ยินยอมด้วยถวายเงินแผ่น ขอให้ชนชาติทั้งหลายผู้ปีติยินดีในสงครามได้ กระจัดพลัดพรากไป

77 31Nobles shall come from Egypt; Cush shall hasten to stretch out her hands to God. 31ขอให้เขานำพัสดุ ทองสัมฤทธิ์มาจากอียิปต์ ขอให้เอธิโอเปียรีบยื่นมือของเขาออกทูลพระเจ้า

78 32O kingdoms of the earth, sing to God; sing praises to the Lord, Selah 32บรรดาอาณาจักรแห่งแผ่นดินโลกเอ๋ย จงร้องเพลงถวายพระเจ้า จงสดุดีองค์พระผู้เป็นเจ้า

79 33to Him who rides in the heavens, the ancient heavens; behold, He sends out His voice, His mighty voice.

80 33ต่อพระองค์ผู้ทรงเนรมิตฟ้าสวรรค์ ฟ้าสวรรค์ดึกดำบรรพ์ นี่แน่ะ พระองค์ทรงเปล่งพระสุรเสียงของพระองค์ คือพระสุรเสียงทรงมหิทธิฤทธิ์

81 34Ascribe power to God, whose majesty is over Israel, and whose power is in the skies. 34จงถวายฤทธานุภาพแด่พระเจ้า ซึ่งความสูงส่งของพระองค์อยู่เหนืออิสราเอล และฤทธานุภาพของพระองค์อยู่ในท้องฟ้า

82 35Awesome is God from His sanctuary; the God of Israel—He is the one who gives power and strength to His people. Blessed be God!

83 35พระเจ้าในสถานนมัสการน่าครั่นคร้ามนัก คือพระเจ้าของอิสราเอล พระองค์นั้นประทานฤทธิ์ และกำลังแก่ประชากรของพระองค์ สาธุการแด่พระเจ้า


ดาวน์โหลด ppt Good morning welcome to Calvary Chapel at the Bridge สวัสดีตอนเช้าขอต้อนรับสู่ โบสถ์แคล'วะรีแชพ'เพิลที่สะพาน.

งานนำเสนอที่คล้ายกัน


Ads by Google