ดาวน์โหลดงานนำเสนอ
งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ
ได้พิมพ์โดยKatarina Lindgren ได้เปลี่ยน 5 ปีที่แล้ว
1
บทที่6 หลักการออกแบบ 1.การกำหนดความต้องการในงานศิลปะ
บทที่6 หลักการออกแบบ 1.การกำหนดความต้องการในงานศิลปะ 2.การรวบรวมข้อมูลเพื่อใช้ในการการกำหนด แนวทางเพื่อออกแบบและผลิต 3.การกำหนดแนวคิดในการออกแบบ 4.การจัดเตรียมอุปกรณ์ในการผลิต 5.ขั้นตอนการผลิตผลงานจริง
2
1. วางกรอบแนวทางจากความคิดรวบยอด(concept)ในการสร้างสรรค์จากสิ่งที่ประทับใจ แรงบันดาลใจ(Inspiration)
2. ศึกษา ค้นคว้า ทำวิจัย(research)หรือจากผลงานของศิลปินที่สร้างสรรค์ผลงานศิลปะมาก่อนหน้านี้หรือมีความเกี่ยว ข้อง 3. ทำการทดลองเทคนิคที่จะใช้ในการสร้างสรรค์โดย ทำซ้ำ เปลี่ยนแปลงรูปแบบ เสมอๆ 4 คัดเลือกและสร้างสรรค์ผลงานที่มีลักษณะ เฉพาะตน ตามจุดประสงค์ที่วาง 5. นำวิธีการสร้างสรรค์จากข้อ 1-4 มาปฏิบัติทั้งนี้กระบวนการสร้างสรรค์นั้นจะต้องเปลี่ยนแปลงและพัฒนารูปแบบที่นำไปสู่สิ่งแปลกใหม่อยู่เสมอ
3
6.1ความต้องการในกาผลิตงานศิลปะ
ความต้องการในการออกแบบหมายถึงความต้องการของตัวศิลปินเองหรือมีผู้จ้างงานที่ความต้องและมีวัตถุประสงค์ในการผลิตผลงานศิลปะเรามักจะเรียกว่าโจทย์ในการสร้างสรรค์งาน ซึ่งอาจจะเป็นผลงานที่มีความแตกต่างกันไป แต่หากต้องการผลิตงานศิลปะโดยมีกลุ่มเป้าหมายในการออกแบบ ศิลปินอาจต้องคำนึงถึงความต้องการ เทคนิคและระยะเวลาในการผลิต ทั้งนี้สามารถแบ่งความต้องการออกเป็น2กลุ่มได้แก่ 6.1.1 ความต้องการกับนักออกแบบศิลปะ 6.1.2ความต้องการของผู้จ้างงานในการผลิตงานออกแบบศิลปะ
4
6.1.1 ความต้องการกับนักออกแบบศิลปะ
ทั้งนี้หากการผลิตงานศิลปะ มีวัตถุประสงค์เพื่อตัวศิลปินในฝึกฝนและพัฒนาเองสิ่งที่ต้องคำนึงถึงคือ การสร้างแนวคิด การกำหนดรูปแบบงานเทคนิคงานและวัสดุในผลิตงาน ที่สร้างสรรค์หาความเป็นเอกลักษณ์และสามารถผลิตงานงานซ้ำๆจนเป็นสวนหนึ่งในงานได้
5
6.1.2ความต้องการของผู้จ้างงานในการผลิตงานออกแบบศิลปะ
ปัจจุบันศิลปะและการออกแบบไม่ใช้เพียงเพื่อความสวยงามและความต้องการของศิลปินนักออกแบบเพียงเท่านั้นเพราะยังมีคนที่ชื่นชอบและเห็นคุณค่าและใช้ประโยชน์งานศิลปะที่ต้องการนักออกแบบสร้างสรรค์งานศิลปะให้ตนเองหรือองค์กรด้วยวัตถุประสงค์ที่หลากหลายดังนั้นการจ้างงานจึงเกิดขึ้นกับรูปแบบงานศิลปะ
6
6.2การรวบรวมข้อมูลเพื่อใช้ในการการกำหนดแนวทางเพื่อออกแบบและผลิต
การใช้ฐานข้อมูล การรวบรวมข้อมูลเป็นสิ่งที่นำมาเพื่อมางานในการสร้างสรรค์ทั้งทางด้านแนวคิดการวางแผนจนถึงการปฏิบัติในการผลิตผลงานโดยที่ฐานข้อมูลอาจมีหลากหลายแนวทางแต่ทั้งนี้หากไม่ทราบในหน้าที่ของการนำมาใช้ก็อาจจะไม่เกิดประโยชน์ทั้งนี้จึงแยกกลุ่มฐานข้อมูลออกเป็น4กลุ่มได้แก่เอกสารตำรา แนวทางการตลาดสังคม การทดลองและการสร้างสรรค์ จนถึงสิ่งรอบตัว เพื่อสมารถอธิบายแนวทางในการใช้ฐานข้อมูลในการทำงานดังนี้ 1. การใช้ฐานข้อมูลจากการรวบรวมจากตำรา/เอกสาร การนำเอกสารและตำรามาใช้เป็นสิ่งที่สามารถนำมาเพื่อเรียนรู้กระบวนการ วิธีการที่ได้จาการบันทึกเพื่อนำมาใช้เป็นพื้นฐานแนวคิด จนถึงการผลิตนอกจากนั้น 2. การใช้ฐานข้อมูลจากแนวทางการตลาดและกระแสสังคม การผลิตงานศิลปะบางครั้งก็เป็นการผลิตเพื่อนำไปใช้ในการสร้างสรรค์อื่นๆเช่นด้านโฆษณาด้าน แฟชั่น ด้านวิทยุโทรทัศน์หรือด้านอื่นๆ เพื่อเป็นการสื่อสารโดยมีกลุ่มเป้าหมายทางการตลาด 3.การใช้ฐานข้อมูลจากการทดลองและงานสร้างสรรค์งาน ทั้งนี้การผลิตงานศิลปะและออกแบบของนักออกแบบหนึ่งคน อาจมีความคล้ายคลึงกันโดยไม่รู้ตัวและบางครั้งก็อยากให้งานในงานออกแบบศิลปะของตนเองเหมือนหรือใกล้เคียงกับงานศิลปินรุ่นพี่ ทั้งนี้การพยามทำความเข้าใจกับตัวงานศิลปะที่มีอยู่มี 4.การใช้ฐานข้อมูลจากสิ่งรอบตัว การรับรู้คือส่วนของตัวตนนักออกแบบงานศิลปะแต่ทั้งนี้การเก็บเกี่ยวจากสิ่งใกล้ตัวอาจแตกต่างกันไป เพราะการจดจำการสังเกต แต่ละบุคคลแตกต่างกัน สิ่งที่สำคัญคือ การคิคในการประยุกต์ใช้และพัฒนาแนวคิดจากสิ่งที่เห็นนำมาใช้ในการสร้างสรรค์งานศิลปะ
7
6.3การกำหนดแนวคิดในการออกแบบ
ความคิดสร้างสรรค์ หมายถึง การนำเสนอสิ่งแปลกใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน ในทางศิลปะสามารถกระทำโดยการนำวิธีจัดรูปแบบองค์ประกอบศิลปะโดยใช้ทัศนะธาตุ เช่น เส้น สี น้ำหนัก พื้นผิว รูปร่าง รูปทรง เป็นสื่อในการถ่ายทอด และผ่านเทคนิคต่าง ๆ ในทางจิตรกรรมอาจใช้ ดินสอสี สีน้ำมัน สีน้ำ สีอะคิลิค สีฝุ่น หรือเทคนิคผสม เป็นต้น
8
แหล่งกำเนิดการสร้างสรรค์ทางความคิด
ทั้งนี้ทีมาของความคิดสร้างสรรค์มักจะเกิดจากสถานที่ที่แตกต่างกันไปตามสภาพแวดล้อมรอบตัวของนักออกแบบเรามักจะเรียกว่าทีมาของแรงบันดาลใจในการออกแบบโดยมีสิ่งเหล่านี้ประกอบไปด้วย การอ่านหนังสือ นิตยสาร วารสาร วรรณกรรม วรรณคดี การเข้าไปหาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ต การเดินดูนิทรรศการและการแสดงงานต่างๆ การฟังดนตรี นกร้อง สัตว์ และแมลงต่าง (ศึกษาเรื่องเสียง) การเดินทางในธรรมชาติและประเพณีวัฒนธรรม การดูหนัง ดูละคล การหามุมดีๆในการนั่งพักผ่อน การออกกำลังกาย การศึกษาแนวคิดเชิงปรัชญาและศาสนา การแลกเปลี่ยนแนวคิดในการสนทนากับผู้อื่น การเรียนรู้และสังเกตสิ่งรอบตัวอย่างต่อเนื่องและทำทำการจดบันทึก
9
วิธีในการคิดสร้างสรรค์
ทั้งนี้นอกจากลักษณะที่ควรเป็นควรมี จนถึงแหล่งต่างที่ทำให้คนเราคิดสร้างสรรค์ได้ดีแล้วนักออกแบบศิลปะอาจควรทำความเข้าใจในกระบวนการในวิธีในการคิดสร้างสรรค์ที่ประกอบไปด้วยรูปแบบดังนี้ 1. วิวัฒนาการคือกระบวนการการพัฒนาแนวคิด1รูปแบบคือการปรับปรุงให้ดีขึ้น 2. การผสมผสาน คือการนำแนวคิดที่มีของตนเองทั้งหลายแนวคิดมาผสมผสานเข้าด้วยกันหรือนำแนวคิดของผู้อื่นมาผสมผสานกับตัวเองก็จะได้งานที่แตกต่างได้มากขึ้น 3. การเปลี่ยนแปลงใหม่หมด คือการที่เราคิดใหม่ทำใหม่ใช้แนวคิดกระบวนการใหม่ แต่ทั้งนี้อาจต้องมีความรู้เข้าใจกับสิ่งที่มีเพื่อให้เราเข้าใจว่าสิ่งที่มีคือสิ่งใหม่หรือไม่ สิ่งใหม่ในที่นี้อาจหมายถึงแนวคิด วิธีการ วัสดุ เพื่อทำให้เกิดมิติในการพัฒนางานที่แตกต่างออกไป 4. สร้างความหลากหลาย คือการใช้วิธีการหลากหลายเพื่อหาทิศทางที่ดีที่สุดในการใช้งานจากแนวคิดและกระบวนการหลากหลาย
10
การถ่ายทอดความคิดในการผลิตงาน
แนวคิดของตัวงาน(concept) เป็นสิ่งที่กำหนดแนวคิดของตัวชิ้นงานทั้งนี้แนวคิดคือสิ่งที่นักออกแบบศิลปะใช้เป็นแนวทางในการผลิตงานละเป็นแนวทางในการนำเสนอกับทั้งกลุ่มเป้าหมายและผู้ว่าจ้าง ได้ แนวคิดในการผลิตงานออกมาให้เกิดงานLayoutของมากมาย ทั้งนี้ การร่างอย่างรวดเร็วจะจะช่วยถ่ายทอดความคิดได้อย่างรวดเร็ว Nancy Duarte Slde:Ology Millennium My โดย เดย์ เกรย์ ผู้ก่อตั้งEplana ได้กล่าวถึงกระบวนการวาดรูปแบบก้านไม้ขีดในการทำSlide การวาดรูปหัวไม้ขีดจะทำให้มาองเห็นภาพหลักและกระบวนการเคลื่อนไหวโดยอาศัยการ์ตูนสร้างไม้ขีด 2.การร่างภาพขยายทั้งนี้กระบวนการนำภาพแนวคิดมาขยายขนาดและอาจวาดให้เหมือนชัดเจนในรูปร่างหน้าตาตามที่คิดไว้ Nancy Duarte Slde:Ology Millennium My 3. การต้นแบบในงานศิลปะอาจทีการทำต้นแบบออกเป็น2รูปแบบคือการผลิตแบบจำลอง หากงานนั้นเป็นชิ้นงาน2-3มิติเพื่อให้ง่ายในการมองเห็นแต่ทั้งนี้อาจต้องผ่านการร่างภาพ
11
ขั้นตอนการผลิตผลงานจริง
6.5.1เริ่มต้นการผลิต งานจริง ทั้งกระกระบวนการผลิตเป็นขั้นตอนที่ผ่านการวางแผนและทำแบบร่างการจัดเตรียมวัสดุ ทั้งคือขั้นตอนในการผลิตจริงที่ทำตามกระบวนการวางแผนไม่ว่าจะเป็นงานวาด งานปั้น งานถ่ายภาพหรือแม้แต่การผลิตงานคอมพิวเตอร์ในการสร้างสรรค์ก็ตาม 6.5.2 การทำซ้ำ กระบวนการผลิตงานทำซ้ำก็มักจะเกิดขึ้นบ่อยกับงานผลิตงานออกแบบและงานศิลปะทีมีจำนวนมากว่า1ชิ้นซึ่งขั้นตอนการทำงานซ้ำจะช่วยเพิ่มการรับรู้ในเรื่องความสมบูรณ์ของวิธีการในการผลิตทั้งเรื่องเวลาเรื่องของ 6.5.3ทดสอบการผลิตและการตรวจสอบ การทดสอบในการผลิตงานออกแบบงานศิลปะซึ่งหากไปใช้กับงานด้านพาณิชและการตลาดความคงทนก็จะเป็นสิ่งหนึ่งที่จะขาดไม่ได้เพราะงานอาจไปอยู่ในสถานที่ที่แตกต่างกันและกระบวนการการขนส่งก็มีผลต่อความคงทนหรือความทนทานกับชิ้นงานได้
12
exercise ให้นักศึกษา ทำความเข้าใจในกระบวนการขั้นตอนการผลิตงานศิลปะ
และนำมาใช้ในการออกแบบงานศิลปะในรูปแบบรูปแบบหนึ่งจนงานสำเร็จและทำการจดบันทึก สิ่งที่ต้องมีประกอบด้วย งานประเภทไหน แนวคิดงานเป็นอย่างไร ทำการร่างภาพ3ระดับ ผลิตงานต้นฉบับ1ชิ้น
13
homework ให้นำงานที่ทำกลับไปทำต่อให้เสร็จ
พร้อมเตรียมตัวในการนำเสนอในครั้งต่อไป
งานนำเสนอที่คล้ายกัน
© 2024 SlidePlayer.in.th Inc.
All rights reserved.