งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ

งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ

SSC 351 กฎหมายแรงงาน Labour Law หัวข้อ

งานนำเสนอที่คล้ายกัน


งานนำเสนอเรื่อง: "SSC 351 กฎหมายแรงงาน Labour Law หัวข้อ"— ใบสำเนางานนำเสนอ:

1 SSC 351 กฎหมายแรงงาน Labour Law หัวข้อ http://arts.kmutt.ac.th/sscri/
ผศ.ดร.ริเรืองรอง รัตนวิไลสกุล/กฎหมายแรงงาน กฎหมายแรงงาน Labour Law หัวข้อ การใช้แรงงานหญิงและแรงงานเด็ก

2 SSC 351 การใช้แรงงานหญิงและแรงงานเด็ก
ผศ.ดร.ริเรืองรอง รัตนวิไลสกุล/กฎหมายแรงงาน รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ มาตรา 30 บัญญัติรับรองสิทธิของประชาชนว่า “บุคคลย่อมเสมอภาคกันในกฏหมาย และได้รับความคุ้มครองตามกฏหมายเท่าเทียมกัน ชายและหญิงมีสิทธิเท่าเทียมกัน”

3 การคุ้มครองความเสมอภาคของลูกจ้างฯ
SSC 351 พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงานฯได้ให้ความรับรองและคุ้มครองสิทธิของลูกจ้างหญิงเพื่อให้ได้รับความเสมอภาคทางเพศ และป้องกันการเลือกปฏิบัติอันเนื่องมาจากเพศไว้หลายมาตรา ดังนี้ มาตรา ให้นายจ้างปฏิบัติต่อลูกจ้างชายและหญิงโดยเท่าเทียมกันในการจ้างงาน เว้นแต่ลักษณะหรือสภาพของงานไม่อาจปฏิบัติเช่นนั้นได้

4 การใช้แรงงานหญิงและแรงงานเด็ก
SSC 351 การใช้แรงงานหญิงและแรงงานเด็ก มาตรา 53 ในกรณีที่งานมีลักษณะและคุณภาพอย่างเดียวกันและปริมาณเท่ากัน ให้นายจ้างกำหนดค่าจ้าง ค่าล่วงเวลา ค่าทำงานในวันหยุด และค่าล่วงเวลาในวันหยุด ให้แก่ลูกจ้างเท่าเทียมกัน ไม่ว่าลูกจ้างนั้นจะเป็นชายหรือหญิง มาตรา ประกาศกำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำตามมาตรา 88 ให้ใช้บังคับแก่นายจ้างและลูกจ้าง ไม่ว่านายจ้างและลูกจ้างนั้นจะมีสัญชาติ ศาสนา หรือเพศใด

5 การใช้แรงงานหญิง SSC 351 กฎหมายฯ ให้การคุ้มครองลูกจ้างหญิงใน 4 เรื่องใหญ่ๆ ดังนี้ งานที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพหรือร่างกาย ตามมาตรา เวลาทำงานยามวิกาล ตามมาตรา การห้ามกระทำการล่วงเกินทางเพศ ตามมาตรา ลูกจ้างหญิงมีครรภ์ : ให้การคุ้มครองพิเศษ 4 ประการคือ เวลาต้องห้ามทำงาน ตามมาตรา สิทธิการขอเปลี่ยนงานชั่วคราว ตามมาตรา สิทธิการลาเพื่อคลอดบุตร ตามมาตรา 41 และมาตรา การเลิกจ้าง ตามมาตรา 43

6 การใช้แรงงานหญิง SSC 351 ผศ.ดร.ริเรืองรอง รัตนวิไลสกุล/กฎหมายแรงงาน 1. งานที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพหรือร่างกาย พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงานฯ มาตรา บัญญัติว่า ห้ามมิให้นายจ้างให้ลูกจ้างซึ่งเป็นหญิง ทำงานอย่างหนึ่งอย่างใด ดังต่อไปนี้ (1) งานเหมืองแร่หรืองานก่อสร้างที่ต้องทำใต้ดิน ใต้น้ำ ในถ้ำ ในอุโมงค์ หรือปล่องในภูเขา เว้นแต่ลักษณะของงานไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพหรือร่างกายของลูกจ้างนั้น (2) งานที่ต้องทำบนนั่งร้านที่สูงกว่าพื้นดินตั้งแต่ 10 เมตรขึ้นไป (3) งานผลิตหรือขนส่งวัตถุระเบิดหรือวัตถุไวไฟ (4) งานอื่นตามที่กำหนดในกฏกระทรวง

7 ผศ.ดร.ริเรืองรอง รัตนวิไลสกุล/กฎหมายแรงงาน
การใช้แรงงานหญิง SSC 351 ผศ.ดร.ริเรืองรอง รัตนวิไลสกุล/กฎหมายแรงงาน 2. เวลาทำงานยามวิกาล พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงานฯ มาตรา บัญญัติว่า กรณีที่นายจ้าง ให้ลูกจ้างซึ่งเป็นหญิงทำงานระหว่างเวลา น. ถึงเวลา น. และพนักงานตรวจแรงงานเห็นว่างานนั้นอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพและความปลอดภัยของหญิงนั้น ให้พนักงานตรวจแรงงานรายงานต่ออธิบดี หรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมาย เพื่อพิจารณาและมีคำสั่งให้นายจ้างเปลี่ยนเวลาทำงานหรือลดชั่วโมงทำงานได้ตามที่เห็นสมควร และให้นายจ้างปฏิบัติตามคำสั่งดังกล่าว

8 การใช้แรงงานหญิง SSC 351 ผศ.ดร.ริเรืองรอง รัตนวิไลสกุล/กฎหมายแรงงาน 3. การห้ามกระทำการล่วงเกินทางเพศ พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงานฯ มาตรา บัญญัติว่า ห้ามมิให้นายจ้างหรือผู้ซึ่งเป็นหัวหน้างาน ผู้ควบคุมงาน หรือผู้ตรวจงาน กระทำการล่วงเกินทางเพศต่อลูกจ้างซึ่งเป็นหญิงหรือเด็ก หมายเหตุ การล่วงเกินทางเพศ ไม่จำเป็นต้องถึงขนาดเป็นความผิดฐานอนาจารตาม ป.อ. ดังนั้นการพูดจาลามก การลวนลามด้วยคำพูดหรือสายตา การแสดงออกที่เป็นการรบกวนทางเพศ ก็ถือว่าเป็นการล่วงเกินทางเพศในความหมายนี้ได้

9 4. การให้ความคุ้มครองลูกจ้างหญิงที่ตั้งครรภ์
4. การให้ความคุ้มครองลูกจ้างหญิงที่ตั้งครรภ์ 1. ห้ามนายจ้างให้ลูกจ้างหญิงมีครรภ์ ทำงานระหว่างเวลา ถึง น. ทำงานล่วงเวลา ทำงานในวันหยุด รวมทั้งงานบางประเภท มาตรา 39 (พ.ร.บ. คุ้มครองแรงงานฯ) บัญญัติ “ห้ามมิให้นายจ้างให้ลูกจ้างซึ่งเป็นหญิงมีครรภ์ ทำงานในระหว่างเวลา น. ถึง น. ทำงานล่วงเวลา ทำงานในวันหยุด หรือทำงานอย่างหนึ่งอย่างใด ดังต่อไปนี้ (1) งานเกี่ยวกับเครื่องจักรหรือเครื่องยนต์ที่มีความสั่นสะเทือน (2) งานขับเคลื่อนหรือติดไปกับยานพาหนะ (3) งานยก แบก หาม หาบ ทูน ลากหรือเข็นของหนักเกิน 15 กิโลกรัม (4) งานที่ทำในเรือ (5) งานอื่นตามที่กำหนดในกฏกระทรวง

10 ผศ.ดร.ริเรืองรอง รัตนวิไลสกุล/กฎหมายแรงงาน
การใช้แรงงานหญิง SSC 351 ผศ.ดร.ริเรืองรอง รัตนวิไลสกุล/กฎหมายแรงงาน ข้อยกเว้น ลูกจ้างหญิงมีครรภ์ที่ทำงานในตำแหน่งผู้บริหาร งานวิชาการ งานธุรการ รวมทั้งงานเกี่ยวกับการเงินหรือบัญชี นายจ้างอาจให้ทำงานล่วงเวลาได้หากลูกจ้างยินยอม (กฎกระทรวงฉบับที่ 7 ข้อ 5) ข้อสังเกต กฎกระทรวงฉับบที่ 7 นี้ ยกเว้นสำหรับการทำงานล่วงเวลาเท่านั้น ไม่ได้ยกเว้นการทำงานระหว่างเวลา น. การทำงานในวันหยุดและงานเสี่ยงอันตรายตามมาตรา 39 ด้วย ดังนั้นนายจ้างจะให้ลูกจ้างหญิงมีครรภ์ทำงานระหว่างเวลา น. หรือทำงานในวันหยุดไม่ได้เลย ไม่ว่าลูกจ้างหญิงมีครรภ์จะทำงานในตำแหน่งหน้าที่ใด

11 ผศ.ดร.ริเรืองรอง รัตนวิไลสกุล/กฎหมายแรงงาน
การใช้แรงงานหญิง SSC 351 ผศ.ดร.ริเรืองรอง รัตนวิไลสกุล/กฎหมายแรงงาน 2. ลูกจ้างหญิงมีสิทธิลาเพื่อการคลอดบุตร มาตรา 41 (พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงานฯ) บัญญัติให้ลูกจ้างซึ่งเป็นหญิงมีครรภ์มีสิทธิลาเพื่อการคลอดบุตร ครรภ์หนึ่งไม่เกิน 90 วัน โดยวันลาตามวรรคหนึ่งให้นับรวมวันหยุดที่มีในระหว่างวันลาด้วย มาตรา 59 ให้นายจ้างจ่ายค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างซึ่งเป็นหญิงมีครรภ์ในวันลาเพื่อคลอดบุตร เท่ากับค่าจ้างในวันทำงานปกติ ตลอดระยะเวลาที่ลา แต่ไม่เกิน 45 วัน

12 ผศ.ดร.ริเรืองรอง รัตนวิไลสกุล/กฎหมายแรงงาน
การใช้แรงงานหญิง SSC 351 ผศ.ดร.ริเรืองรอง รัตนวิไลสกุล/กฎหมายแรงงาน 3. ลูกจ้างหญิงตั้งครรภ์มีสิทธิขอเปลี่ยนงานชั่วคราว มาตรา 42 (พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงานฯ) บัญญัติว่า ในกรณีที่ลูกจ้างซึ่งเป็นหญิงมีครรภ์มีใบรับรองแพทย์แผนปัจจุบันชั้นหนึ่งมาแสดงว่า ไม่อาจทำงานในหน้าที่เดิมต่อไปได้ ลูกจ้างนั้นมีสิทธิขอให้นายจ้างเปลี่ยนงานในหน้าที่เดิม เป็นการชั่วคราวก่อนหรือหลังคลอดได้ นายจ้างจะต้องพิจารณาเปลี่ยนงานที่เหมาะสมให้แก่ลูกจ้างนั้น กรณีนายจ้างฝ่าฝืนจะได้รับโทษอาญาตามมาตรา 144

13 ผศ.ดร.ริเรืองรอง รัตนวิไลสกุล/กฎหมายแรงงาน
การใช้แรงงานหญิง SSC 351 ผศ.ดร.ริเรืองรอง รัตนวิไลสกุล/กฎหมายแรงงาน 4. ห้ามนายจ้างเลิกจ้างลูกจ้างหญิงเพราะเหตุตั้งครรภ์ มาตรา (พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงานฯ) ได้กำหนดหลักประกันแก่ลูกจ้างหญิงที่ตั้งครรภ์ว่า “ห้ามไม่ให้นายจ้างเลิกจ้าง ลูกจ้างหญิงเพราะเหตุตั้งครรภ์” หมายเหตุ กรณีนายจ้างเลิกจ้างลูกจ้างหญิงเพราะเหตุตั้งครรภ์ (ฝ่าฝืนมาตรา 43) คำสั่งเลิกจ้างของนายจ้างจึงเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฏหมาย ดังนั้นต้องถือว่าลูกจ้างยังมีสถานะเป็นลูกจ้างอยู่ จึงมีสิทธิฟ้องคดีต่อศาลแรงงานเพื่อยกเลิกคำสั่งนั้นและสามารถเรียกค่าเสียหายได้

14 การใช้แรงงานเด็ก SSC 351 พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงานฯ ให้ความคุ้มครองลูกจ้างเด็ก ปรากฏอยู่ในมาตรา โดยแบ่งการคุ้มครองเป็น 8 เรื่องใหญ่ๆ ดังนี้ อายุต้องห้าม ตามาตรา หน้าที่ของนายจ้างเกี่ยวกับการจ้างแรงงานเด็ก ตามมาตรา ช่วงนอกเวลาทำงานปกติ ตามมาตรา งานที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพหรือร่างกาย ตามมาตรา สถานที่ต้องห้ามทำงาน ตามมาตรา 50

15 ห้ามมิให้นายจ้าง จ้างเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปีเป็นลูกจ้าง
การใช้แรงงานเด็ก SSC 351 6. ค่าจ้างและเงินประกัน ตามมาตรา 51 วรรค 1, 2 และวรรคท้าย สิทธิการลาเพื่อการฝึกอบรม ตามมาตรา การห้ามกระทำการล่วงเกินทางเพศ ตามาตรา 16 มาตรา 44 ห้ามมิให้นายจ้าง จ้างเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปีเป็นลูกจ้าง

16 การคุ้มครองแรงงานเด็กตามมาตรา 45-52
SSC 351 มาตรา 45 ในกรณีที่มีการจ้างเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี เป็นลูกจ้าง ให้นายจ้างปฏิบัติตังนี้ (1) ให้แจ้งการจ้างลูกจ้างเด็กต่อพนักงานตรวจแรงงาน ภายใน 15 วันนับแต่วันที่เด็กเข้าทำงาน (2) จัดทำบันทึกสภาพการจ้างกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เก็บไว้ ณ สถานประกอบกิจการหรือสำนักงานของนายจ้าง พร้อมที่จะให้พนักงานตรวจแรงงานตรวจได้ในเวลาทำงาน (3) ต้องแจ้งการสิ้นสุดการจ้างฯ ต่อพนักงานตรวจแรงงานภายใน 7 วันนับแต่วันที่เด็กออกจากงาน การแจ้งหรือการจัดทำบันทึกตามวรรคหนึ่งให้เป็นตามแบบที่อธิบดีกำหนด

17 ผศ.ดร.ริเรืองรอง รัตนวิไลสกุล/กฎหมายแรงงาน
การใช้แรงงานเด็ก SSC 351 ผศ.ดร.ริเรืองรอง รัตนวิไลสกุล/กฎหมายแรงงาน มาตรา ให้นายจ้างจัดให้ลูกจ้างซึ่งเป็นเด็ก มีเวลาพักวันหนึ่งไม่น้อยกว่า 1 ชั่วโมงติดต่อกันหลังจากที่ลูกจ้างทำงานมาแล้ว ไม่เกิน 4 ชั่วโมง แต่ใน 4 ชั่วโมงนั้นให้ลูกจ้างซึ่งเป็นเด็กได้มีเวลาพักตามที่นายจ้างกำหนด มาตรา ห้ามมิให้นายจ้างให้ลูกจ้างซึ่งเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ทำงานในระหว่างเวลา น. ถึงเวลา น เว้นแต่จะได้รับอนุญาติเป็นหนังสือจากอธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมาย

18 ผศ.ดร.ริเรืองรอง รัตนวิไลสกุล/กฎหมายแรงงาน
การใช้แรงงานเด็ก SSC 351 ผศ.ดร.ริเรืองรอง รัตนวิไลสกุล/กฎหมายแรงงาน นายจ้างอาจให้ลูกจ้างฯ อายุต่ำว่า 18 ปี และเป็นผู้แสดงภาพยนตร์ ละคร หรือการแสดงอย่างอื่นที่คล้ายคลึงกัน ทำงานในระหว่างเวลาดังกล่าวได้ (ระหว่างเวลา ถึงเวลา น) ทั้งนี้นายจ้างต้องจัดให้ลูกจ้างฯ นั้นได้พักผ่อนตามสมควร มาตรา ห้ามมิให้นายจ้าง ให้ลูกจ้างซึ่งเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ทำงานล่วงเวลา หรือทำงานในวันหยุด

19 ผศ.ดร.ริเรืองรอง รัตนวิไลสกุล/กฎหมายแรงงาน
การใช้แรงงานเด็ก SSC 351 ผศ.ดร.ริเรืองรอง รัตนวิไลสกุล/กฎหมายแรงงาน มาตรา ห้ามมิให้นายจ้างให้ลูกจ้างซึ่งเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ทำงานอย่างหนึ่งอย่างใด ดังต่อไปนี้ (1) งานหลอม เป่า หล่อ หรือรีดโลหะ (2) งานปั้มโลหะ (3) งานเกี่ยวกับความร้อน ความเย็น ความสั่นสะเทือน เสียง และ แสงที่มีระดับแตกต่างจากปกติอันอาจเป็นอันตรายตามที่กำหนดในกฏกระทรวง (4) งานเกี่ยวกับสารเคมีที่เป็นอันตรายตามที่กำหนดในกฏกระทรวง (5) งานเกี่ยวกับจุลชีวันเป็นพิษ ซึ่งอาจเป็นเชื้อไวรัส แบคทีเรีย รา หรือเชื้ออื่นตามที่กำหนดในกฏกระทรวง

20 ผศ.ดร.ริเรืองรอง รัตนวิไลสกุล/กฎหมายแรงงาน
การใช้แรงงานเด็ก SSC 351 ผศ.ดร.ริเรืองรอง รัตนวิไลสกุล/กฎหมายแรงงาน (6) งานเกี่ยวกับวัตถุมีพิษ วัตถุระเบิด หรือวัตถุไวไฟ เว้นแต่งานในสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงตามที่กำหนดในกฏกระทรวง (7) งานขับหรือบังคับรถยกหรือปั้นจั่นตามที่กำหนดในกฏกระทรวง (8) งานใช้เลื่อยเดินด้วยพลังไฟฟ้าหรือเครื่องยนต์ (9) งานที่ต้องทำใต้ดิน ใต้น้ำ ในถ้า อุโมงค์ หรือปล่องในภูเขา (10) งานเกี่ยวกับกัมมันตภาพรังสีตามที่กำหนดในกฏกระทรวง (11) งานทำความสะอาดเครื่องจักรหรือเครื่องยนต์ขณะที่เครื่องจักรหรือเครื่องยนต์กำลังทำงาน (12) งานที่ต้องทำบนนั่งร้านที่สูงกว่าพื้นดินตั้งแต่ 10 เมตรขึ้นไป (13) งานอื่นตามที่กำหนดในกฏกระทรวง

21 ผศ.ดร.ริเรืองรอง รัตนวิไลสกุล/กฎหมายแรงงาน
การใช้แรงงานเด็ก SSC 351 ผศ.ดร.ริเรืองรอง รัตนวิไลสกุล/กฎหมายแรงงาน มาตรา ห้ามมิให้นายจ้างให้ลูกจ้างซึ่งเป็นเด็กอายุ ต่ำกว่า 18 ปี ทำงานในสถานที่ดังต่อไปนี้ (1) โรงฆ่าสัตว์ (2) สถานที่เล่นการพนัน (3) สถานเต้นรำ รำวง หรือรองเง็ง (4) สถานที่มีอาหาร สุรา น้ำชา หรือเครื่องดื่มอย่างอื่นจำหน่ายและบริการ โดยมีผู้บำเรอสำหรับปรนนิบัติลูกค้า หรือโดยมีที่สำหรับพักผ่อนหลับนอน หรือมีบริการนวดให้แก่ลูกค้า (5) สถานที่อื่นตามที่กำหนดในกฏกระทรวง

22 ผศ.ดร.ริเรืองรอง รัตนวิไลสกุล/กฎหมายแรงงาน
การใช้แรงงานเด็ก SSC 351 ผศ.ดร.ริเรืองรอง รัตนวิไลสกุล/กฎหมายแรงงาน มาตรา ห้ามมิให้นายจ้างจ่ายค่าจ้างของลูกจ้างซึ่งเป็นเด็ก ให้แก่บุคคลอื่น ห้ามมิให้นายจ้างเรียกหรือรับเงินประกันเพื่อการใดๆ จากฝ่าย ลูกจ้างซึ่งเป็นเด็ก ในกรณีที่นายจ้างของลูกจ้างซึ่งเป็นเด็ก บิดามารดา หรือผู้ปกครองของลูกจ้างฯ จ่ายหรือรับเงินหรือประโยชน์ตอบแทนใดๆ เป็นการล่วงหน้าก่อนมีการจ้าง ขณะแรกจ้าง หรือก่อนถึงงวดการจ่ายค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างซึ่งเป็นเด็กในแต่ละคราว มิให้ถือว่าเป็นการจ่ายหรือรับค่าจ้างสำหรับลูกจ้างเด็กนั้น และห้ามมิให้นายจ้างนำเงินหรือประโยชน์ตอบแทนดังกล่าวมาหักจากค่าจ้างซึ่งต้องจ่ายให้แก่ลูกจ้างซึ่งเป็นเด็กตามกำหนดเวลา

23 ผศ.ดร.ริเรืองรอง รัตนวิไลสกุล/กฎหมายแรงงาน
การใช้แรงงานเด็ก SSC 351 ผศ.ดร.ริเรืองรอง รัตนวิไลสกุล/กฎหมายแรงงาน มาตรา เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาและส่งเสริมคุณภาพชีวิตและการทำงานของเด็ก ให้ลูกจ้างซึ่งเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีมีสิทธิลาเพื่อเข้าประชุม สัมมนา รับการอบรม รับการฝึก หรือลาเพื่อการอื่น ซึ่งจัดโดยสถานศึกษาหรือหน่วยงานของรัฐหรือเอกชนที่อธิบดีเห็นชอบ โดยให้ลูกจ้างซึ่งเป็นเด็กแจ้งให้นายจ้างทราบล่วงหน้าถึงเหตุที่ลาโดยชัดแจ้ง พร้อมทั้งแสดงหลักฐานที่เกี่ยวข้อง (ถ้ามี) และให้นายจ้างจ่ายค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างซึ่งเป็นเด็กเท่ากับค่าจ้างในวันทำงานปกติ ตลอดเวลาที่ลา แต่ 1 ปีต้องไม่เกิน 30 วัน


ดาวน์โหลด ppt SSC 351 กฎหมายแรงงาน Labour Law หัวข้อ

งานนำเสนอที่คล้ายกัน


Ads by Google