สาเหตุของโรคอ้วนและการแก้ไขปัญหา เสนอ จัดทำโดย 1. นางสาววิภา บุพาที 560220 2. นางสาวณัฐนา บุตรศรี 560209 3. นางสาวสุวนันท์ ผากิม 560360
โรคอ้วน โรคอ้วน (Obesity) หรือความอ้วนเป็นจุดเริ่มของโรคอันตรายร้ายแรงอื่นๆอีกหลายโรค การที่ร่างกายมีน้ำหนักมากเกินเกณฑ์ปกติเนื่องจากการกินอาหารเข้าไปแล้วร่างกายใช้ไม่หมดจึงต้องสะสมเป็นไขมันส่วนเกินตามส่วนต่างๆ ของร่างกายโดยเฉพาะบริเวณหน้าท้อง เมื่อไขมันสะสมเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆจนกลายเป็นสาเหตุของโรคร้ายอื่นๆ เช่น โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน ฯลฯ
สาเหตุของโรคอ้วน 1.ได้พลังงานจากอาหารมากเกินความต้องการของร่างกาย คือ การกินเข้าไปมากแต่ใช้น้อย อาหารที่ให้พลังงานคือ อาหารพวกแป้งและน้ำตาล เนื้อสัตว์ต่าง ๆ ไขมัน กะทิ และเหล้าเบียร์ ฉะนั้น หากใครกินอาหารประเภทของหวาน ของมัน หรอดื่มเหล้าเบียร์มากก็อ้วนได้ทั้งนั้น 2.อ้วนเพราะออกกำลังกายน้อยไป เช่นคนที่ใช้เวลานั่งโต๊ะทำงาน เป็นส่วนใหญ่
3.กรรมพันธุ์ ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้คนอ้วน แต่พบได้น้อย คนอ้วนมักจะชอบโทษว่ากรรมพันธุ์เป็นสาเหตุที่ทำให้ตนอ้วน ซึ่งความจริงแล้วโรคอ้วนมักมาจากปัญหาของพฤติกรรมการชอบกินมากกว่า 4.ความอ้วนเกิดจากโรคบางชนิด เช่น ความผิดปกติของฮอร์โมน ความผิดปกติของสมอง แต่ความอ้วนจากสาเหตุนี้พบน้อยมาก
9 สัญญาณเตือนภัย! 1. เสื้อผ้าคับ 2. มีคนเริ่มทัก 3. คุณหมอแนะนำให้ลดน้ำหนัก 4. ค่า BMI (ดัชนีมวลกาย)มากกว่า25 5. ขนาดเฟอร์นิเจอร์เปลี่ยนไป 6. ร่ายกายส่งสัญญาณเตือน 7. ไม่รู้ว่าแต่ละวันทานอะไรเข้าไปบ้าง 8. ไม่อยากส่องกระจก 9. รู้สึกหมดเรี่ยวแรง
6 นิสัยทำให้อ้วน
ตัวอย่างอาหารที่บริโภคทั่วไปจำแนกตามกลุ่มอาหารและพลังงาน
การแก้ไขปัญหาโรคอ้วน
1.การออกกำลังกาย การลดพลังงานจากอาหารจะทำให้น้ำหนักลดลง การออกกำลังกายจะช่วยป้องกันไม่ให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น การออกกำลังกายสามารถทำได้ทันที สำหรับผู้ที่อ้วนมาก และไม่เคยออกกำลังกายอาจจะเริ่มออกกำลังกายโดยการทำตัวให้กระฉับกระเฉง การออกกำลังสามารถออกวันละครั้งหรืออาจจะออกกำลังกายเป็นช่วงๆ เริ่มแรกอาจจะเดินวันละ 30 นาทีสัปดาห์ละ 3 วัน และค่อยๆเพิ่มเป็น 45 นาที การออกกำลังกายต้องการให้ร่างกายใช้พลังงานวันละ 100-200 กิโลแคลอรี
การเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคอาหาร พยายามรับประทานอาหารเฉพาะในมื้ออาหารโดยเฉพาะที่โต๊ะอาหาร และลุกขึ้นจากโต๊ะทันทีที่อิ่ม รับประทานวันละ 3 มื้อ รับประทานอาหารเช้าทุกวัน อย่าอดอาหารมื้อใดมื้อหนึ่ง รับประทานผัก ผลไม้ ธัญพืชที่ไม่ขัดสี ดื่มน้ำมากๆทั้งในมื้ออาหารและระหว่างมื้ออาหาร ดื่มน้ำ 1 แก้วก่อนอาหาร
การรักษาโรคอ้วนด้วยยา ผู้ที่อ้วนและจำเป็นต้องได้ยาช่วยในการรักษาจะมี เกณฑ์ในการให้ยาลดน้ำหนักคือ 1. ดัชนีมวลกาย BMI มากกว่า 30 กก/ตารางเมตร 2. หรือดัชนีมวลกาย 27 และมีปัจจัยเสี่ยงร่วมด้วย 3. ผู้ป่วยรับประทานมากและเป็นสาเหตุของโรคอ้วน 4. มีโรคที่เกิดจากความอ้วน เช่นโรคเบาหวาน ไขมันในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง 5. มีอาการจากโรคอ้วน เช่น sleep apnea syndrome เข่าเสื่อม เป็นต้น
ดังนั้นการลดความอ้วนจึงไม่จำเป็นต้องเป็นการอดอาหารหรือควบคุมรสชาติอาหารเสียจนจืดชืดน่าเบื่อ แต่การลดน้ำหนักที่ประสบความสำเร็จและได้ผลแน่นอนจะต้องทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป ข้อสำคัญจะต้องมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสาเหตุของความอ้วน และ วิธีการปฏิบัติที่ถูกต้อง และสามารถปฏิบัติตามได้ตลอดไป น้ำหนักจะได้ไม่กลับมาเพิ่มอีก
เอกสารอ้างอิง 1. Oranee Tangphao. Orlistat : A new antiobesity drug.Thai Joumal of Pharmacology. 2000; 22(1); 57-65. 2. James H. Zavoral. Treatment with orlistat reduces cardiovascular risk in obese patients. Journal of Hypertension 1998; 16(2): 2013-2017. 3. วิมล พันธุ์เวทย์. Orlistat ทางเลือกใหม่ในการลดน้ำหนัก ศรีนครินทร วิโรฒเภสัชสาร 2542; 4(1): 74-91.