ดาวน์โหลดงานนำเสนอ
งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ
ได้พิมพ์โดยKaranyapat Kitjakarn ได้เปลี่ยน 9 ปีที่แล้ว
1
Mr. Boonsorn Pratomwong Measarieng Boriput Suksa School
Tense Mr. Boonsorn Pratomwong Measarieng Boriput Suksa School
2
ลักษณะของประโยค ประโยคบอกเล่า ประโยคปฏิเสธ ประโยคคำถาม
3
Tense กาลเวลา Present Tense ปัจจุบันกาล Past Tense อดีตกาล
Future Tense อนาคตกาล
4
โครงสร้าง Tense Tense structure Present Simple Tense S + V1 [ s , es ]
Continuous Tense S + is , am , are + V.ing Perfect Tense S + has , have + V3 Perfect Continuous Tense S + has , have + been + V.ing past S + V2 S + was , were + V.ing S + had + V3 S + had been + V.ing future S + will , shall + V1 S + will , shall + be + V.ing S + will , shall + have + V3 S + will , shall + have been + V.ing
5
Present Tense รูปประโยค โครงสร้างประโยค 1. Present Simple Tense
S + V1+ ……… 2. Present Continuous Tense (หรือ present Progressive) S + V. to be + V1 เติม ing + …… 3. Present perfect tense S + (has/have) + V3 + …. 4 Present perfect continuous tense S + (has/have+been) + V1 เติม ing + ….
6
The Present Simple Tense
โดยทั่วไป โดยมิได้คำนึงถึงเฉพาะสิ่งที่เกิดขึ้นในขณะนี้เท่านั้นเราใช้พูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา หรือเป็นประจำซ้ำ ๆ กัน หรือสิ่งที่พูดนั้นเป็นความจริง ไม่สำคัญว่าการกระทำนั้น ๆ กำลังเกิดขึ้นในขณะที่พูดหรือไม่
7
ใช้ Present Simple Tense นี้เมื่อไหร่
1. เมื่อเหตุการณ์นั้น ๆ เป็นความจริงเสมอไป หรืออย่างน้อยก็เป็นความจริงขณะที่พูดประโยคนั้น เช่น The earth moves round the sun. โลกหมุนรอบดวงอาทิตย์ He behaves himself well. เขาประพฤติตัวดี Honesty is the best policy. ความซื่อสัตย์เป็นนโยบายที่ดีที่สุด
8
ใช้ Present Simple Tense นี้เมื่อไหร่
2. ใช้กับการกระทำที่ทำจนเป็นนิสัย มักมีกลุ่มคำที่มีความหมายว่า เสมอ ๆ บ่อย ๆ ทุกๆ I get up at six o’clock everyday. ฉันตื่นนอนเวลา 6 โมงเช้า ทุกๆ วัน Jack plays football every evening. แจ๊คเล่นฟุตบอลทุก ๆ เย็น My sister always goes to Bangkok every weekend. พี่สาวของฉัน มักจะไปกรุงเทพ ทุก ๆ สุดสัปดาห์
9
The Present Simple Tense
สูตร = Subject+Verb1+…. S + V1+…………… ประธานของประโยค + กริยาช่อง 1 + ส่วนขยายของประโยค
10
1.ถ้าประธานของประโยคเป็นพหูพจน์ (รวมทั้ง I และ You) กริยาไม่ต้องเติม s เช่น
I sing ฉันร้องเพลง We sing พวกเราร้องเพลง You sing คุณร้องเพลง They sing เขาเหล่านั้นร้องเพลง Many girls sing เด็กหญิงหลายคนร้องเพลง Dang and Ladda sing. แดงกับลัดดาร้องเพลง My father and I sing พ่อและฉันร้องเพลง Two birds sing นกสองตัวร้องเพลง
11
1.ถ้าประธานของประโยคเป็นพหูพจน์ (รวมทั้ง I และ You) รูปกริยาไม่ต้องเติม s เช่น
I walk to the market. We speak English in class room. You eat banana. They play football in the file. Many girls stand under the tree. Dang and Ladda sit in the room. My father and I sing a song. Two birds fly in the air.
12
2.ถ้าประธานเป็นเอกพจน์ (ยกเว้น I และ You) ต้องเติมs หรือ es แล้วแต่ลักษณะของ Verb เป็นตัวๆไป เช่น
He sings เขาร้องเพลง She sings หล่อนร้องเพลง It sings มันร้องเพลง The boy sings เด็กผู้ชายร้องเพลง Ladda sings ลัดดาร้องเพลง Dang sings แดงร้องเพลง A bird sings นกร้องเพลง
13
2.ถ้าประธานเป็นเอกพจน์ (ยกเว้น I และ You) ต้องเติม s หรือ es แล้วแต่ลักษณะของ Verb เป็นตัวๆไป เช่น
A bird sings on the tree. ( to sing ร้องเพลง) She likes hiphob music ( to like ชอบ ) He goes to school ( to go ไป ) She washes the dish ( to wash ล้าง ) The boy tries Thai food. ( to try ลอง ชิม ) Dang always flies to Bangkok . ( to fly บิน )
14
หลักการเติม s ที่คำกริยา
1.กริยาที่ลงท้ายด้วย o, ss, x, ch, sh เติม es เช่น go goes = ไป pass passes = ผ่าน fix fixes = ซ่อมแซม reach reaches = ถึง wash washes = ซัก, ล้าง
15
เปลี่ยน y เป็น i เสียก่อนแล้วจึงเติม es เช่น
2.กริยาที่ลงท้ายด้วย y หน้า y เป็นพยัญชนะ เปลี่ยน y เป็น i เสียก่อนแล้วจึงเติม es เช่น try tries = พยายาม rely relies = เชื่อถือ carry carries = ถือ,แบก hurry hurries = รีบ Cry cries = ร้องไห้ Fly flies = บิน
16
แต่ถ้าหน้า y เป็นสระ( vowel) คือ a,e,i,o,u ให้เติม s ได้ทันที เช่น
enjoy enjoys = สนุก,พอใจ play plays = เล่น say says = พูด stay stays = พักอาศัย
17
3.นอกจากสองข้อข้างบนนี้ให้เติม s ได้ตามปกติ เช่น
sing - sings = ร้องเพลง come - comes =มา work - works = ทำงาน run runs = วิ่ง
18
The Present simple tense
wh ประธาน กริยา V1 บอกเล่า I eat seafood. ปฏิเสธ do not คำถาม Do seafood? Why
19
wh กริยา V1 บอกเล่า She knows about you. ปฏิเสธ does not know คำถาม
wh ประธาน กริยา V1 บอกเล่า She knows about you. ปฏิเสธ does not know คำถาม Does What
20
The Present Simple Tense
บอกเล่า This lady eats hamburger. They eat hamburger. ปฏิเสธ This lady does not eat hamburger. They do not eat hamburger. คำถาม Does this lady eat hamburger? Do they eat hamburger? What do they eat?
21
ทำประโยคบอกเล่าให้สมบูรณ์ และเปลี่ยนประโยคให้เป็น ประโยคปฏิเสธ และประโยคคำถาม
1 Mary …….. dinner for his family. ( to cook) 2 My father …….. newspaper every morning. ( to read ) 3 We…… the bus to school ( to take ) 4 I…….. a cup of coffee ( to have ) 5 Nancy …… with her friend ( to stay )
22
Present continuous tense หรือ Present Progressive
23
Present continuous ปัจจุบันกาลต่อเนื่อง
หรือในช่วงเวลาที่ใกล้กัน และการกระทำนั้นยังไม่สิ้นสุด - I am doing.
24
The Present Continuous Tense present Progressive
S + V to be +V1 เติม ing + ……………
25
The Present Continuous Tense present Progressive
ประธาน กริยาช่วย กริยาหลัก บอกเล่า They She are is reading staying newspaper. in London ปฏิเสธ not คำถาม Are Is newspaper? in London? What they she you doing?
26
กฎการเติม – ing ที่คำกริยา
ยกตัวอย่างเช่น eat eating รับประทาน sleep - sleeping นอนหลับ 2. คำกริยาที่ลงท้ายด้วย e (กรณีไม่ออกเสียงตัว e) ให้ตัด e ทิ้งเสียก่อน แล้วจึงเติม ing หลังคำนั้น ยกตัวอย่างเช่น move - moving เคลื่อนย้าย write - writing เขียน ride - riding ขี่
27
กฎการเติม – ing ที่คำกริยา
3. คำกริยาที่ลงท้ายด้วย ee ให้เติม ing ได้เลย ไม่ต้องมีการตัดตัว e ทิ้งเหมือนในกรณีที่ 2ยกตัวอย่างเช่น see seeing เห็น agree agreeing เห็นด้วย 4. กริยาที่เป็นคำพยางค์เดียว มีสระ (a/e/i/o/u) เพียงตัวเดียวและท้ายคำกริยามีพยัญชนะสะกดเพียงตัวเดียว ให้เพิ่มพยัญชนะตัวสุดท้าย 1 ตัว แล้วจึงเติม ing ยกตัวอย่างเช่น run เป็น running put เป็น putting
28
กฎการเติม – ing ที่คำกริยา
5. กริยาที่เป็นคำสองพยางค์ มีสระ(a/e/i/o/u)นำหน้าพยัญชนะตัวสะกดตัวท้ายสุด ให้เพิ่มพยัญชนะตัวสุดท้าย 1 ตัว แล้วจึงเติม ing ยกตัวอย่างเช่น begin - beginning เริ่มต้น occur - occurring เกิดขึ้น swim swimming ว่ายน้ำ
29
The Present Continuouse Tense present Progressive
ประโยคตัวอย่าง
30
The Present Continuos Tense present Progressive
What are they doing? They are smoking and drinking.
31
The Present Continuos Tense present Progressive
What is happening? It is raining.
32
The Present Continuous Tense present Progressive
John is playing football at the moment. They are playing football at the moment.
33
The Present Continuous Tense present Progressive
I am talking to my teacher now.
34
The Present Continuous Tense present Progressive
Look! Mandy and Susan are watching a film on TV.
35
The Present Continuous Tense present Progressive
Now the sun is shining. Listen! The band is testing the new guitar.
36
The Present Continuous Tense present Progressive
Listen! Sandy is singing in the bathroom.
37
The Present Continuous Tense present Progressive
My mother is making breakfast now.
38
The Present Continuous Tense present Progressive
Look! The boys are coming home.
39
The Present Continuous Tense present Progressive
I am chatting with my friend at the moment.
40
The Present Continuous Tense present Progressive
Look! This lady is not eating a hamburger. She is eating a pizza.
41
The Present Continuous Tense present Progressive
Are they sending text messages at the moment?
42
The Present Continuous Tense present Progressive
What is the man doing in our garden? He is watering the flowers.
43
The Present Continuous Tense present Progressive
Is the boy swimming in the pool right now?
งานนำเสนอที่คล้ายกัน
© 2024 SlidePlayer.in.th Inc.
All rights reserved.