งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ

งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ

การทำงานเชิงวิเคราะห์

งานนำเสนอที่คล้ายกัน


งานนำเสนอเรื่อง: "การทำงานเชิงวิเคราะห์"— ใบสำเนางานนำเสนอ:

1 การทำงานเชิงวิเคราะห์
เสถียร คามีศักดิ์ บุคลากรผู้เชี่ยวชาญ

2 นิยาม ก.พ.อ. งานเชิงวิเคราะห์
ผลงานที่แสดงการแยกแยะองค์ประกอบต่างของเรื่องอย่างมีระบบ มีการศึกษาในแต่ละองค์ประกอบและความสัมพันธ์ขององค์ประกอบต่าง ๆ เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจในเรื่องนั้น ๆ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่องานของหน่วยงานหรือสถาบันอุดมศึกษา

3 การวิเคราะห์ การจำแนก แยกแยะองค์ประกอบของสิ่งหนึ่งออกเป็นส่วน ๆเพื่อค้นหาว่ามาจากอะไร เชื่อมโยงสัมพันธ์กันอย่างไร เพื่อค้นหาสาเหตุที่แท้จริงของสิ่งที่เกิดขึ้น

4 การวิเคราะห์ การแยกแยะหาต้นตอของสาเหตุ หาตัวแปรที่สำคัญ การใช้เครื่องมือทางสถิติ ใช้เครื่องมืออุปกรณ์มาทำการวิเคราะห์ หรือคิดแบบวิเคราะห์(ผังก้างปลา ผังรากไม้ กราฟ ฯลฯ) การสังเคราะห์ คือการรวม การสรุป คิดรวบยอด

5 การวิเคราะห์ การหาแนวโน้มและต้นตอของสาเหตุให้พบ ไม่ใช่เป็นการอธิบายกราฟว่าขึ้นลงอย่างไร หากเก็บข้อมูลผิด-ข้อมูลไร้สาระ ก็ทำให้ผลการวิเคราะห์ผิด ควรใช้เครื่องมือในการวิเคราะห์ ผังก้างปลาฯลฯ **อย่าเก็บข้อมูลนานเกินไป –ล่าสมัย **ถามผู้รู้**อ่านตำรา**

6 การวิเคราะห์ *การจำแนกแยกแยะ ออกมาใคร่ครวญ หาเหตุปัจจัยของสิ่งของหรือเรื่องราวต่าง ๆ สรุปการค้นหาความจริง ในทุกแง่ทุกมุมของสิ่งใดสิ่งใดสิ่งหนึ่งหรือหลายอย่างว่า ใคร อะไร ที่ไหน เมื่อไร ทำไม และอย่างไร “5W1H” WHAT WHO WHERE WHEN WHY WHICH HOW

7 Probabilistic Low of Nature
งานวิเคราะห์/ส่วนหนึ่งงานวิจัยเชิงสำรวจ วิทยาศาสตร์ Scientific Method ความรู้ความจริง Reliable Knowledge ความเชื่อถือได้ Reliable Method การคงสภาพ Stable ความน่าจะเป็น ปรากฏการณ์ตามธรรมชาติ Probabilistic Low of Nature

8 การวิจัยเชิงสำรวจ เป็นการศึกษาเพื่อหาความรู้ความจริงในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน โดยใช้วิธีสำรวจและอธิบายข้อเท็จจริงต่าง ๆ ว่ามีลักษณะอย่างไร เป็นลักษณะกว้าง ๆ ทำให้ทราบข้อเท็จจริงเป็นแนวทางในการวางแผน การปรับปรุงแก้ไข สิ่งต่าง ๆ ให้ดีขึ้น แบ่งออกเป็น 5 ประเภท

9 วิจัยเชิงสำรวจ 5 ประเภท
สำรวจโรงเรียน School Survey วิเคราะห์งาน Job Analysis วิเคราะห์เอกสาร Documentary Analysis สำรวจประชามิติ Public Opinion Survey สำรวจชุมชน Community Survey

10 ขจัดความสูญเสียในการปฏิบัติงาน หาวิธีที่ดีที่สุดในการปฏิบัติงาน
□การวิเคราะห์งาน Job Analysis ขจัดความสูญเสียในการปฏิบัติงาน หาวิธีที่ดีที่สุดในการปฏิบัติงาน ปรับปรุงงาน

11 การวิเคราะห์เอกสาร Documentary Analysis
เอกสาร หมายถึง หลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข แบบฟอร์ม พระราชกฤษฎีกา พระราชบัญญัติ กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ หนังสือเวียน มติที่ประชุม คำสั่ง ระบบไอที

12 หลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมือที่ดี 2546
หลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมือที่ดี 2546 ผู้ปฏิบัติงานที่มีหน้าที่ความรับผิดชอบ ที่เป็นผู้ใช้ หรือเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบกับกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ มติ หนังสือเวียน ต้องมีหน้าที่ สำรวจ ตรวจสอบ และทบทวน เพื่อดำเนินการปรับปรุง หรือจัดประกาศขึ้นใหม่ ให้ทันสมัยและเหมาะสมกับสภาวการณ์ หรือ สอดคล้องกับความจำเป็นในปัจจุบัน โดยคำนึง ถึงความสะดวกรวดเร็ว และลดภาระของผู้รับบริการ(ลูกค้า) เป็นสำคัญ

13 การวิเคราะห์งานหรือวิเคราะห์เอกสาร
เลือกงานที่มีปัญหาหรืองานที่ไม่สำเร็จตามตัวชี้วัดหรืองานที่จะพัฒนา ตั้งเป็นชื่อเรื่อง ทำโครงร่าง จัดทำสารบัญ ในการดำเนินการ แบ่งออกเป็น 5 บทลักษณะเดียวกับทำงานวิจัย

14 สารบัญงานวิเคราะห์ 5 บท
*บทที่ 1 บทนำ *บทที่ 2 เอกสารงานที่เกี่ยวข้อง *บทที่ 3 วิธีดำเนินการวิเคราะห์ *บทที 4 ผลการวิเคราะห์ข้อมูล *บทที่ 5 สรุปผลการวิเคราะห์ วิพากษ์ และข้อเสนอแนะ *บรรณานุกรม *ภาคผนวก

15 ส่วนประกอบของรูปเล่มงานเชิงวิเคราะห์
ส่วนประกอบตอนต้น 1.1ปกนอก 1.2 ปกใน 1.3คำนิยม 1.4 คำนำ 1.5สารบัญ 1.6บัญชีตาราง 1.7บัญชีภาพประกอบ

16 ส่วนประกอบของรูปเล่มงานเชิงวิเคราะห์
2. ส่วนประกอบเนื้อหา เป็นส่วนที่จัดทำสารบัญ ที่แบ่งออกเป็นบท ๆ 3. ส่วนประกอบตอนท้าย 3.1บรรณานุกรม 3.2ภาคผนวก 3.3ประวัติย่อผู้เขียน

17 การเลือกเรื่องทำงานเชิงสังเคราะห์ หลักเกณฑ์การเลือกเรื่อง
1.งานประจำที่ปฏิบัติ 2.ความสนใจและมีความเชี่ยวชาญ 3.เรื่องที่มีความสำคัญและเป็นประโยชน์ 4.มีแหล่งข้อมูลให้ค้นคว้า

18 การเลือกเรื่องทำงานเชิงสังเคราะห์ หลักเกณฑ์การเลือกเรื่อง
5.ขอบเขตของเรื่อง 6.ไม่สิ้นเปลืองเวลาและค่าใช้จ่ายเกินไป 7.เสี่ยงต่ออันตราย **รายงานประจำปี รายงานการประชุม ข้อร้องเรียน การประชุมสัมมนา การะดมสมอง ผลตรวจประกันคุณภาพ

19 บทที่ 1 บทนำ ภูมิหลัง/ความสำคัญเรื่อที่จะวิเคราะห์ วัตถุประสงค์เรื่องที่จะวิเคราะห์ ประโยชน์ของเรื่องที่จะวิเคราะห์ ของเขตของเรื่องที่จะวิเคราะห์ นิยามศัพท์เฉพาะ สมมติฐานการวิเคราะห์

20 *ทำแล้วได้อะไร อยากรู้คำตอบอะไร
ภูมิหลัง/ความสำคัญ *หา Keyword ของหัวเรื่องที่เลือกดึงเอาคำนั้นมาอธิบายถึงความสำคัญว่าเป็นอย่างไร ทำไมจึงสนใจจะวิเคราะห์ มีหลักฐานอะไร *ทำแล้วได้อะไร อยากรู้คำตอบอะไร

21 ข้อสังเกต 1. ชื่อเรื่องเป็นงานประจำที่ปฏิบัติ ข้อมูลก็มีอยู่แล้ว ขอบเขตไม่กว้าง ไม่แคบ ไม่สิ้นเปลืองเวลา ค่าใช้จ่ายมากนัก 2. Keyword ของเรื่องคือ พนักงานมหาวิทยาลัยระบบสัญญาจ้าง อธิบายความเป็นมา ทำไมต้องจ้าง จ้างใคร ที่ไหน ทำไม *ก.พ. คปร. ครม. งปม. กรมบัญชีกลาง สกอ มหาวิทยาลัย การปรับเปลี่ยนเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับเป็นเหตุสำคัญ

22 ข้อสังเกต 3.ทำแล้วได้อะไร ทำให้มีความรู้ความเข้าใจระบบการบริหารบุคลระบบสัญญาจ้างพนักงานมหาวิทยาลัยของมหาวิทยาลัยต่าง ๆ 4. อยากรู้เรื่องอะไร ระบบการบริหารงานบุคคลด้วยระบบสัญญาจ้างพนักงานของมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ใน 17 ประเด็น 5. มีหลักฐานสนับสนุนอ้างอิงได้ทุกขั้นตอนที่นำเสนอ

23 วัตถุประสงค์เรื่องที่จะวิเคราะห์
1. ประเด็นที่เราอยากรู้หรือสงสัยในท้ายทบที่ 1 ต้องสัมพันธ์กันกับวัตถุประสงค์ 2.การเขียนวัตถุประสงค์ ต้องอธิบายได้ วัดได้ เป็นรูปธรรม *เพื่อศึกษากระบวนการบริหารงานบุคคลระบบสัญญาจ้างพนักงานมหาวิทยาลัยของรัฐในประเด็นสำคัญ 17 ประเด็น *เพื่อเปรียบเทียบลักษณะการวิเคราะห์จำแนกแจกแจงความเหมือและความแตกต่างของกระบวนการบริหารบุคลฯ

24 ประโยชน์ของเรื่องที่จะวิเคราะห์
* เขียนให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ หลักการ วัตถุประสงค์ทำไปทำไม ก็ได้รับอย่างนั้น *ได้มีความรู้ความเข้าใจในระบบการบริหารงานบุคคลระบบสัญญาจ้างพนักงานมหาวิทยาลัยของรัฐใน 17 ประเด็น *ไดทราบถึงความเหมือและความแตกต่างของกระบวนการบริหารบุคลฯ ใน 17 ประเด็น

25 **ทราบถึงความเหมือน/ความต่าง
ข้อสังเกต *เพื่อศึกษากระบวนการบริหารงานบุคคลระบบสัญญาจ้างพนักงานมหาวิทยาลัยของรัฐในประเด็นสำคัญ 17 ประเด็น **ประโยชน์ คือ ความรู้ความเข้าใจ *เพื่อเปรียบเทียบลักษณะการวิเคราะห์จำแนกแจกแจงความเหมือและความแตกต่างของกระบวนการบริหารบุคลฯ **ทราบถึงความเหมือน/ความต่าง

26 ขอบเขตของเรื่องที่จะวิเคราะห์
1.จำกัดโดยระยะเวลา เช่นกำหนดปีการศึกษาฯ *ศึกษาเอกสาร ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ หนังสือเวียน มติต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัยของรัฐ จำนวน 20 แห่ง ที่นำเสนอในการจัดประชุมผู้อำนวยการกองการเจ้าหน้าที่ สถาบันอุดมศึกษาของรัฐทั่วประเทศ ณ วันที่ 29 มกราคม 2547 ยกเว้นมหาวิทยาลัยรามคำแหง

27 ขอบเขตของเรื่องที่จะวิเคราะห์
2.จำกัดโดยสถานที่ ระบุสถานที่ในการวิเคราะห์ลงไปให้ชัดเจนยิ่งขึ้น เช่น พนักงานมหาวิทยาลัยของรัฐ หรือ การบริหาร 10 ส่วนงานในกำกับสังกัดมหาวิทยาลัยศรีนครินทร วิโรฒ ตามระเบียบการบริหารส่วนงานในกำกับของมหาวิทยาลัย พ.ศ. 2543

28 ขอบเขตของเรื่องที่จะวิเคราะห์
3.จำกัดขอบเขตโดยเนื้อหา เป็นการจำกัดขอบเขตให้แคบลง เช่นการเปรียบเทียบการบริหารบุคคลระบบสัญญาจ้างพนักงานมหาวิทยาลัย/สถาบันของรัฐ จำกัดขอบเขตให้แคบลง การเปรียบเทียบการจัดสวัสดิการและประโยชน์เกื้อกูลพนักงานมหาวิทยาลัย/สถาบันของรัฐ

29 *เป็นข้อตกลงเบื้อต้นกับผู้อ่านก่อน เพื่อป้องกันเอาไปอ้างอิงผิดพลาด
นิยามศัพท์เฉพาะ *เป็นคำเฉพาะใช้ในเรื่องนี้เท่านั้น มีความหมายเช่นนี้ *เป็นข้อตกลงเบื้อต้นกับผู้อ่านก่อน เพื่อป้องกันเอาไปอ้างอิงผิดพลาด *ทำให้ไม่ต้องเขียนยืดยาวในเอกสารครั้งต่อ ๆ ไป

30 สมมติฐานการวิเคราะห์ จะไม่มีการตั้งสมมติฐานการวิเคราะห์
โดยหลักการทั่ว ๆ จะไม่มีการตั้งสมมติฐานการวิเคราะห์

31 การรวบรวมเอกสารข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่จะวิเคราะห์
ส่วนที่ต้องศึกษาแนวคิด ทฤษฎี กฎ ระเบียบ ประกาศ หนังสือเวียนที่เกี่ยวข้อง นำมาอธิบายในลักษณะ ผสมผสานให้เป็นเนื้อเดียวกัน มีความสัมพันธ์กัน เรียงตามลำดับความสำคัญ หรือเวลา ควรสรุปในแต่ละเรื่องเป็นแนวคิดของผู้วิเคราะห์

32 เสถียร คามีศักดิ์ (2549:14-16)ต้น
การอ้างอิง การอ้างอิงหน้าข้อความ การอ้างอิงระหว่างข้อความ การอ้างอิงหลังข้อความ ควรอ้างอิงแหล่งปฐมภูมิ เสถียร คามีศักดิ์ (2549:14-16)ต้น (เสถียร คามีศักดิ์ : 24)ระหว่าง/ท้าย “พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือนใสถาบันอุดมศึกษา พ.ศ. 2547” ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 121 ตอน...

33 วิธีการดำเนินการศึกษาวิเคราะห์
นำวัตถุประสงค์มากล่าวอ้างอีกครั้ง ร้อยเรียงกันให้เป็นประโยค หรือข้อความย้ำให้ผู้อ่านทราบ โดยเกริ่นนำ เช่น “การวิเคราะห์ครั้งนี้ มีจุดมุ่งหมายเพื่อศึกษาเปรียบเทียบความเหมือนและความแตกต่างในแนวกว้างของกระบวนการบริหารงานบุคคลระบบสัญญาจ้างพนักงานมหาวิทยาลัยของรัฐ ซึ่งได้กำหนดวิธีการศึกษาเปรียบเทียบไว้ดังต่อไปนี้”

34 สิ่งที่ควรนำเสนอในบทนี้
มีใครเกี่ยวข้องบ้าง จะวิเคราะห์ประเด็นอะไร (ประชากร/กลุ่มตัวอย่าง/ผลงานย้อนหลัง/ขั้นตอนการทำงาน/เอกสารที่ใช้อ้างอิงในการปฏิบัติงาน) การแยกองค์ประกอบต่าง ๆ อย่างมีระบบ ใช้เครื่องมือ เกณฑ์ในการวิเคราะห์(กฎหมาย/เกณฑ์มาตรฐาน/หลักการทำงานที่มีคุณภาพ/ใช้ค่าสถิติ/เกณฑ์ของเบสต์) จะมีขั้นตอนในการสร้างเครื่องมืออย่างไร เพื่อให้มีความเชื่อมั่น ใช้เทคนิคเดลฟาย

35 สิ่งที่ควรนพเสนอ จะเก็บข้อมูลอย่างไร ต้องเขียนอธิบายให้เชื่อถือได้ จะดำเนินการวิเคราะห์อย่างไร เมื่อได้ข้อมูลแล้วจะทำอย่างไรกับข้อมูล

36 ใครเกี่ยวข้องหรือเกี่ยวข้องกับเรื่องอะไรบ้าง
ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง ถ้านำประชากรมาทั้งหมดจะมากเกินไป เสียเวลา/ค่าใช้จ่ายสูง จึงต้องนำตัวแทนของกลุ่มประชากร คือกลุ่มตัวอย่าง ใช้ Krejcie

37 ใครเกี่ยวข้องหรือเกี่ยวข้องกับเรื่องอะไรบ้าง
วิเคราะห์งาน -ไม่สำเร็จ ตามตัวชี้วัด ต้องนำภาระงานของปีที่ผ่านมาวิเคราะห์ โดยหลักการจะนำผลการปฏิบัติงานย้อนหลัง 3-5 ปีมาสร้างตารางนำเสนอ ว่าเป็นอย่างไร โดยใช้ชื่อตารางว่า “แสดงการบันทึกผลสัมฤทธิ์ตามตัวชี้วัด ของงาน ” ภาระงาน-ปริมาณ-คุณภาพ(ถูกต้อง-ทันเวลา) หมายเหตุ บอกจำนวน และเหตุไม่เป็นไปตามตัวชี้วัด

38 ใครเกี่ยวข้องหรือเกี่ยวข้องกับเรื่องอะไรบ้าง
ต้องเสนอขั้นตอนในการปฏิบัติงาน พร้อมระยะเวลาที่กำหนด เพื่อแยกแยะองค์ประกอบ หาสาเหตุ ว่าผลงานสำเร็จตามตัวชี้วัด หรือไม่สำเร็จตามตัวชี้วัด เพราะอะไร

39 การแยกแยะองค์ประกอบอย่างมีระบบ
BRAIM STORMING-ระดมสมอง กลุ่มที่สนใจ Focus Group 6-12 ภายใต้การเลือกเฉพาะเจาะจง Purposive Sampling

40 การแยกแยะองค์ประกอบอย่างมีระบบ
2. Delphi Technique ผู้เชี่ยวชาญ ไม่ควรเกิน 10 คน แดสงความคิดเห็นอย่างอิสระ กลั่นกรองความคิดอย่างรอบครอบ ปราศจากการชี้นำ อาจจะต้องสร้างเป็นแบบสอบถามปลายเปิด-ประมาณค่า

41 การแยกแยะองค์ประกอบอย่างมีระบบ
3. ใช้เทคนิค SWOT ใช้เทคนิคระดมสมองเข้าช่วยแยกแยะองค์ประกอบ วิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายนอกมองจากข้างนอกเข้าข้างใน-โอกาส(O) อุปสรรค(T)/ภายในมองข้างในไปข้างนอก-จุดแข็ง(S) จุดอ่อน(W)

42 การแยกแยะองค์ประกอบอย่างมีระบบ
S-O มีจุดแข็งมีโอกาส จะทำอะไร O-W โอกาสไปปิดจุดอ่อน ทำอย่างไร S-T มีจุดแข็งจะแก้อุปสรรค อย่างไร W-T มีจุดอ่อน มีอุปสรรค จะป้องกันอย่างไร จะเสริมสร้างจุดอ่อนอย่างไร **ทำแล้ว**

43 การนำผลที่ได้จากการแยกองค์ประกอบอย่างมีระบบมาลงผัง
1.ผังก้างปลา Fish Bone Diagram 2.ผังรากไม้ Tree Diagram 3.ตาราง SWOT

44 ผังก้างปลา *ค.ศ ศ. คาโอรุซิเกว่า ชาวญี่ปุ่น ผัง อิซิกาว่า(Ishikawa Diagram) แผนที่แสดงถึงความสัมพันธ์ระหว่างปัญหากับสาเหตุ *ผังก้างปลา (Fish Bone Diagram) สำนักงานอุตสาหกรรมแห่งญี่ปุ่น(JIS) คือแผนผังที่ใช้แสดงความสัมพันธ์อย่างเป็นระบบระหว่างสาเหตุหลาย ๆ สาเหตุที่ส่งผลกระทบให้เกิดปัญหาใดปัญหาหนึ่ง

45 ผังก้างปลา *กำหนดปัญหาที่หัวปลา *กำหนดกลุ่มปัญหาที่จะเกิดปัญหานั้น
*ระดมสมองเพื่อหาสาเหตุในแต่ละปัจจัย *หาสาเหตุหลักของปัญหา *จัดลำดับความสำคัญของสาเหตุ *สรุปแนวทางการปรับปรุงที่จำเป็น

46 ผังรากไม้ *แผนผังครอบครัว (Family Tree) และ
การจัดแผนผังองค์กร (Organization Chart) แผนภูมิต้นไม้(Tree Diagram) แผนภูมิระบบ(Systematic Diagram) *ผังรากไม้ เอาปัญหามากำหนดเป็นโคนต้นไม้ แล้วแตกเป็นรากแขนง(Primary root) มากมายแต่ละรากแขนงจะแตกออกเป็นรากฝอย(Secondary root)ย่อย ๆ ต้นตอขอสาเหตุอาจโยงไปโยงมา ปลายรากแต่ละรากคือคำตอบ

47 เทคนิคการระดมสมอง *ใช้ในทุกขั้นตอนที่ต้องการความคิด หลากหลาย และสร้างสรรค์ *เมื่อต้องการวิเคราะห์ปัญหา *เมื่อต้องการหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น *เมื่อต้องการตั้งหัวข้อปัญหาเพื่อจะทำงานเชิงวิเคราะห์

48 เป็นไปได้ในทางปฏิบัติ
*ค่าใช้จ่าย เวลา ทรัพยากร ปรัชญา/วิธีการทำงาน เชิงบวกต่อผู้บริหาร เป็นไปได้ในทางปฏิบัติ

49 แสดงความคิดอย่างอิสระ ห้ามวิพากษ์ความคิดเห็นของผู้อื่น
กฎกติกามารยาทในการระดมสมอง แสดงความคิดอย่างอิสระ ห้ามวิพากษ์ความคิดเห็นของผู้อื่น ฟังความคิดเห็นของผู้อื่น ไม่มีการอภิปรายความเห็นของผู้อื่น หลีกเลี่ยงการปะทะคารม 66,480 41,720 (28,550) 59,770 29,900 (23,230) 50,550 21,080 (18,190) 36,020 14,330 (12,530) 7,940 – 22,220 (6,800) 4,630 – 18,190

50 อนุญาตให้ออกนอกลู่นอกทางได้ ปริมาณยิ่งมากยิ่งดี สั้นกระซับ
กฎกติกามารยาทในการระดมสมอง อนุญาตให้ออกนอกลู่นอกทางได้ ปริมาณยิ่งมากยิ่งดี สั้นกระซับ สร้างสรรค์/อารมณ์ขัน ใช้เวลา 30-45 66,480 41,720 (28,550) 59,770 29,900 (23,230) 50,550 21,080 (18,190) 36,020 14,330 (12,530) 7,940 – 22,220 (6,800) 4,630 – 18,190

51 เมื่อได้ผลนำมาปรับปรุง ต้องให้ศึกษาล่วงหน้า
กฎกติกามารยาทในการระดมสมอง เมื่อได้ผลนำมาปรับปรุง ต้องให้ศึกษาล่วงหน้า ป้องกันการขัดแย้งแสดงความเห็น อย่างใช้อำนาจกดขี่ความคิด 66,480 41,720 (28,550) 59,770 29,900 (23,230) 50,550 21,080 (18,190) 36,020 14,330 (12,530) 7,940 – 22,220 (6,800) 4,630 – 18,190

52 จะใช้เครื่องมือ/ใช้เกณฑ์อะไร
1.กฎหมาย 2.เกณฑ์มาตรฐาน 3.หลักการทำงานมีคุณภาพ

53 จะใช้เครื่องมือ/ใช้เกณฑ์อะไร
1.กฎหมาย 2.เกณฑ์มาตรฐาน ใช้ค่าสถิติ/ค่าร้อยละ นำเสนอผลในรูปกราฟแบบต่าง ๆ หรือออกแบบตาราง แล้วอธิบายเป็นลายลักษณ์อักษร

54 จะใช้เครื่องมือ/ใช้เกณฑ์อะไร
สร้างเครื่องมือในการวิเคราะห์เป็นแบบสอบถาม ต้องหาค่าสถิติแบบง่าย หาค่าเฉลี่ย แล้วใช้เกณฑ์ของ Best เช่น เห็นด้วยน้อย เห็นด้วยปานกลาง เห็นด้วยมาก

55 จะใช้เครื่องมือ/ใช้เกณฑ์อะไร
เกณฑ์ของ Best ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง ไม่เห็นด้วย ไม่แน่ใจหรือเฉย ๆ เห็นด้วย เห็นด้วยอย่างยิ่งๆ

56 ใช้เกณฑ์การทำงานมีคุณภาพ
เทคนิค PDCA *ค.ศ การควบคุมกระบวนการเชิงสถิติ วงจร STEWART *ค.ศ W. Edwards Deming วงจร Deming พัฒนาด้านการบริหารคุณภาพ ความสัมพันธ์ 4 ฝ่ายในการทำธุรกิจ “คุณภาพและความพึงพอใจของลูกค้า” ฝ่ายออกแบบ ฝ่ายผลิต ฝ่ายขาย ฝ่ายวิจัย

57 เทคนิค PDCA *พัฒนาให้เข้ากับวงจรการบริหาร ขั้นการวางแผน ขั้นปฏิบัติ ขั้นตรวจสอบ ขั้นดำเนินการให้เหมาะสม(ขั้นการปรับปรุงแก้ไข) *แพร่หลายที่ ญี่ปุ่น วงจร PDCA การบริหารจัดการควบคุมคุณภาพ คือ การวางแผน( Plan) ปฏิบัติ( Do) ตรวจสอบผลลัพธ์ ( Check) กำหนดมาตรการแก้ไข ( Action)

58 มีการวางแผนปฏิบัติหรือไม่ P ทำตามแผนหรือไม่ D
วิธีการ PDCA มีการวางแผนปฏิบัติหรือไม่ P ทำตามแผนหรือไม่ D กำหนดแนวทางปรับปรุงอย่างไร ประเมิน/ตรวจสอบหรือไม่ C ประเมินแนวทางแก้ไข การแก้ไข จัดเป็นมาตรฐานหรือไม่ บันทึกผลการปฏิบัติงาน A วิเคราะห์ศึกษาใหม่ 66,480 41,720 (28,550) 59,770 29,900 (23,230) 50,550 21,080 (18,190) 36,020 14,330 (12,530) 7,940 – 22,220 (6,800) 4,630 – 18,190

59 เทคนิค Balanced Scorecard
*Professor Robert Kaplan และ Dr. Norton สำรวจตลาดหุ้นอเมริกา ส่วนใหญ่ประเมินตัวชี้วัดด้านการเงินเพียงตัวเดียว *ประเมินใน 4 ด้าน เชื่อมโยงสอดคล้องกัน และผูกโยงเข้ากับวิสัยทัศน์และกลยุทธ์ *FINACIAL PERSPECTIVEเงิน *CUSTOMER PERSPECTIVEลูกค้า *INTERNAL PROCESS PERSPECTIVEกระบวนการ *LEANING AND GROWTH PERSPECTIVEการเรียนรูและพัฒนา

60 กลวิธี Balanced Scorecard
*เก็บข้อมูลย้อนหลัง 3-5 ปี ข้อมูล Fact แยกออกเป็น 4 ด้าน การเงิน ลูกค้า กระบวนการ การเรียนรู้และพัฒนา *วิเคราะห์ว่าบรรลุผลสำเร็จหรือไม่ มีแนวโน้มอย่างไร เพิ่ม ลด คงที่ ทำเป็นรูปกราฟ *หาจุดอ่อน หาจุดแข็ง ว่ามีอะไรบ้าง *หาต้นตอของสาเหตุ ข้อแตกต่าง ปรับปรุง แก้ไข อย่างไร

61 กลวิธี Balanced Scorecard
*นำผลที่ได้เทียบกับเกณฑ์ 4 ด้าน *วิเคราะห์เสนอวิธีใหม่ *จัดทำแผนโครงการกิจกรรม เสนอดำเนินการ

62 เทคนิค SIX SIGMA *งานไม่เป็นไปตามมาตรฐานเพียง 3-4 ชิ้นในงาน 1 ล้านชิ้น
*เป็นกลยุทธ์ของฝ่ายบริหารในการพัฒนาคุณภาพ เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้า ให้เกิดความพึงพอใจสูงสุด ลดความสูญเสีย ที่ทำให้เกิดความไม่พึงพอใจน้อยที่สุด

63 *ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง *บริหารจัดการใช้ข้อมูล ใช้ข้อเท็จจริง
วิเคราะห์การปฏิบัติงานของเรา *ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง *บริหารจัดการใช้ข้อมูล ใช้ข้อเท็จจริง *มุ้งเน้นที่กระบวนการ *การจัดการเชิงรุก *แก้ปัญหาแบบไร้พรหมแดน 66,480 41,720 (28,550) 59,770 29,900 (23,230) 50,550 21,080 (18,190) 36,020 14,330 (12,530) 7,940 – 22,220 (6,800) 4,630 – 18,190

64 *ฝ่ายบริหารมีส่วนร่วม/เป็นผู้นำ *ใช้นวัตกรรม *ความคิดสร้างสรรค์
วิเคราะห์การปฏิบัติงานของเรา *ฝ่ายบริหารมีส่วนร่วม/เป็นผู้นำ *ใช้นวัตกรรม *ความคิดสร้างสรรค์ *มุ่งความเป็นเลิศ *พัฒนาแบบไม่หยุดยั้ง 66,480 41,720 (28,550) 59,770 29,900 (23,230) 50,550 21,080 (18,190) 36,020 14,330 (12,530) 7,940 – 22,220 (6,800) 4,630 – 18,190

65 เทคนิค COMPARATIVE แบ่งเป็น 2 ลักษณะ 1.เปรียบเทียบลักษณะวิเคราะห์
ก.กำหนดเป้าหมาย ข.กำหนดเกณฑ์/กรอบ การเปรียบเทียบ ค.นำข้อมูลมาเทียบเคียงกัน ง.วิเคราะห์ประเมินผลการเปรียบเทียบ

66 เทคนิค COMPARATIVE แบ่งเป็น 2 ลักษณะ 2. เปรียบเทียบลักษณะสร้างสรรค์
ก.กำหนดกรอบแนวคิดที่ต้องการ ข.ดึงลักษณะเด่นออกมาเปรียบเทียบ ค.พิจารณาความเหมาะสมที่จะเอามาแทนที่ ง.ประยุกต์ให้เหมาะสมกับเป้าหมายในการนำมาใช้

67 ประยุกต์Benchmarking มาเปรียบเทียบ
นอกจากจะเปรียบเทียบ ความเหมือน ความต่าง วิเคราะห์เปรียบเทียบของเขา-ของเรา 1. กระบวนการทำงาน 2.การจัดองค์กร 3.กลยุทธ์ 4. ปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนการผลิตและบริการ

68 ประโยชน์ COMPARATIVE 1.เข้าใจเรื่องที่ยาก และซับซ้อนได้ง่ายขึ้น
2.เข้าใจตรงกันในมาตรฐานที่แตกต่างกัน 3.ช่วยลดเวลาในการอธิบาย 4.จูงใจให้เกิดการคล้อยตาม 5.จุดประกายความคิดสร้างสรรค์สิ่งใหม่

69 วิธีการ COMPARATIVE 1.กำหนดกรอบแนวคิดการเปรียบเทียบ
2.ออกแบบตารางการเปรียบเทียบ 3.กำหนดเกณฑ์การเปรียบเทียบ เด่น-ด้อย-ข้อจำกัด ตามข้อกำหนด วัตถุประสงค์ ฯลฯ 4.สรุป ประยุกต์ ผลการเปรียบเทียบ พร้อมข้อวิจารณ์ ข้อเสนอแนะ

70 ขั้นตอนการสร้างเครื่องมือ
ให้มีความเชื่อมั่น ต้องเขียนอธิบายว่าศึกษามาอย่างไร จากที่ไหนบ้าง เมื่อสร้างแล้วต้องหาความเที่ยงตรง ส่วนใหญ่ก็ให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบก่อนนำไป ทดลองTry-Out

71 การเก็บข้อมูลมาวิเคราะห์
ต้องเขียนอธิบายให้มีหลักฐานที่น่าเชื่อถือได้ว่าเก็บข้อมูลมาอย่างไร เจ้าตัวเก็บเอง หรือให้คนอื่นเก็บให้ -เก็บเอง –ผู้เกี่ยวข้องช่วยเก็บ ตัวอย่าง..

72 จะดำเนินการวิเคราะห์อย่างไร
เมื่อได้ข้อมูลมาแล้วทำอย่างไร ต้องเขียนอธิบายให้ชัดเจนว่าแยะแยะองค์ประกอบอย่างไร แต่ละองค์ประกอบจำทำการวิเคราะห์อย่างไร ตัวอย่าง....

73 การเสนอผลการวิเคราะห์
ในส่วนนี้ต้องเขียนอธิบายว่ามีขั้นตอนในการทำการวิเคราะห์อย่างไร ให้ละเอียด ใช้เกณฑ์อะไรในการวิเคราะห์ ในประเด็นไหนบ้าง เป็นส่วนออกแบบตารางเสนอผลการวิเคราะห์/ออกแบบรูปกราฟ-เส้น-แท่ง-วงกลม ตัวอย่าง

74 การสรุป วิพากษ์ ให้ข้อเสนอแนะ
1.จะนำวัตถุประสงค์มากล่าวย้ำอีกครั้ง 2.จะอธิบายว่ามีวิธีการดำเนินการวิเคราะห์อย่างไร ตอนไหนทำอะไร 3.เขียนชี้แจงว่าได้ข้อมูลมาแล้วมีวิธีการวิเคราะห์ข้อมูลอย่างไร ใช้เกณฑ์อะไร 4.สรุปผลการวิเคราะห์และวิพากษ์

75 การเขียนสรุป 1.เขียนเฉพาะสาระสำคัญของเรื่องราวทั้งหมดทำให้ผู้อ่านทราบความเป็นมา ความสำคัญ วัตถุประสงค์ ขอบเขต วิธีการดำเนินการ ผลของการดำเนินการ รวมทั้งข้อสรุป วิธีเขียนต้องเขียนลักษณะบทความ

76 การเขียนสรุป 1.1 ตอบปัญหาที่กำหนดไว้ 1.2อยู่ภายใต้ขอบเขตที่กำหนด 1.3ตามข้อเท็จจริงไม่ลำเอียง 1.4เป็นประโยชน์ต่อการนำไปใช้ 1.5ทบทวนอย่างรอบครอบแล้ว

77 การเขียนวิพากษ์ 2.การเขียนวิพากษ์/อภิปราย เพื่อยืนยันให้ผู้อ่านเห็นว่า ผลการวิเคราะห์ที่ได้น่าเชื่อถือ ถูกต้อง หรือมีข้อขัดแย้ง ต้องอธิบายเหตุผลและหาข้อมูลชี้แจง

78 3.การจำทำเรื่องคล้ายกัน ควรวิเคราะห์ในประเด็นไหนอีก
การเขียนข้อเสนอแนะ 1.การนำไปใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง 2.การทำงานเรื่องคล้ายกัน ต้องระวังอะไรบ้าง เรามีปัญหาอย่างไร ต้องเสนอแนะให้ชัดเจน 3.การจำทำเรื่องคล้ายกัน ควรวิเคราะห์ในประเด็นไหนอีก

79 การเขียนข้อเสนอแนะยึดหลัก
1.ไม่ใช่เกิดจากข้อคิดเห็น 2.ควรคำนึงข้อจำกัด เงิน เวลา ความจำเป็น 3.ข้อเสนอแนะทุกประเด็นต้องมีราละเอียดให้มากพอสมควร พอที่สามารถนำไปปฏิบัติได้

80 ส่วนประกอบของรูปเล่มงานเชิงวิเคราะห์
ส่วนประกอบตอนต้น *ปกนอก *ปกใน *คำนิยม *คำนำ *สารบัญ *บัญชีตาราง/บัญชีภาพประกอบ

81 ส่วนประกอบของรูปเล่มงานเชิงวิเคราะห์
ส่วนประกอบเนื้อหา *ส่วนที่จัดทำสารบัญเป็นบท ๆ ส่วนประกอบตอนท้าย *บรรณานุกรม *ภาคผนวก *ประวัติผู้เขียน

82 ส่วนประกอบของรูปเล่มงานเชิงวิเคราะห์
คำนิยม *รับรองจากผู้บังคับบัญชา ผู้เชี่ยวชาญ ผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับในช่วงนั้น เพื่อให้ผลงานเป็นที่น่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น คำนำ *บอกขอบข่ายของเรื่อง *สาเหตุที่สนใจ *จุดมุ่งหมาย *ขอบคุผู้ช่วยเหลือ

83 ส่วนประกอบของรูปเล่มงานเชิงวิเคราะห์ บัญชีตาราง/ภาพประกอบ
สารบัญ เป็นบัญชีบอกแต่ละบท หัวข้อสำคัญที่เรียงลำดับ ปรากฏอยู่หน้าใดในเล่ม บัญชีตาราง/ภาพประกอบ *แยกตารางและภาพประกอบ ว่ามีอะไรบ้างอยู่หน้าใด *ต้องกล่าวนำตาราง/ภาพประกอบก่อนว่าจะแสดงอะไร และต้องมีเลขกำกับ

84 ส่วนประกอบของรูปเล่มงานเชิงวิเคราะห์
บรรณานุกรม *จะอยู่ต่อจากบทสุดท้าย เป็นการบอกว่าผู้เขียนได้ศึกษาค้นคว้ามาจากที่ได้บ้าง ของใคร เมื่อไร *อ้างอิง นาม - ปี เอามาจากการอ้างอิงในเนื้อหา * ให้เอาภาษาไทยขึ้นก่อน และตามด้วยภาษาตางประเทศ

85 ส่วนประกอบของรูปเล่มงานเชิงวิเคราะห์
ภาคผนวก เป็นสิ่งที่ช่วยให้ผู้ค้นคว้าไดเข้าใจชัดเจนยิ่งขึ้น ไม่ใช้เนื้อหาของงาน จะมีหรือไม่ แล้วแต่ความจำเป็น สิ่งสำคัญอยู่ที่เนื้อหา

86 ส่วนประกอบของรูปเล่มงานเชิงวิเคราะห์
ประวัติผู้เขียน เขียนประวัติอย่าย่อ ว่ามีความรู้ความชำนาญเชี่ยวชาญอย่างไร ทำให้ผลงานเป็นที่น่าเชื่อถือ ให้ผู้ศึกษาค้นคว้าติดต่อสอบถามเรื่องราวเพิ่มเติมได้

87


ดาวน์โหลด ppt การทำงานเชิงวิเคราะห์

งานนำเสนอที่คล้ายกัน


Ads by Google