งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ

งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ

Present Simple Tense สื่อประกอบการเรียนการสอนวิชา ภาษาอังกฤษ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเซนต์หลุยส์ ฉะเชิงเทรา ปีการศึกษา 2553.

งานนำเสนอที่คล้ายกัน


งานนำเสนอเรื่อง: "Present Simple Tense สื่อประกอบการเรียนการสอนวิชา ภาษาอังกฤษ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเซนต์หลุยส์ ฉะเชิงเทรา ปีการศึกษา 2553."— ใบสำเนางานนำเสนอ:

1 Present Simple Tense สื่อประกอบการเรียนการสอนวิชา ภาษาอังกฤษ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเซนต์หลุยส์ ฉะเชิงเทรา ปีการศึกษา 2553

2 PRETEST: Present Simple Tense
1. I sometimes __________ to school. (walk, walked, walks) 2. My friend never __________ to school. (come, comes, came) 3. They usually ____________ basketball. (play, plays, played) 4. He often __________ tennis. (play, played, plays) 5. Sue rarely _________ coffee. (drink, drank, drinks) 6. My father and I always _______ my grandfather. (visit, visits, visited) 7. Jimmy doesn’t ________ guitar. (like, likes, liked) 8. You don’t ________ television everyday. (watches, watched, watch) 9. Joe and Jane __________ violin. (drive, drove, drives) 10. Does she _________ to the radio everyday. (listens, listen, listened)

3 การใช้ Present Simple Tense
ใช้กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน

4 หลักการใช้ A. ใช้กับเหตุการณ์ที่เป็นความจริง สัจธรรม หรือ ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ เช่น -The sun rises in the east and sets in the west. - A dog has four legs.

5 Jane always wakes up late. I sometimes walk to school.
หลักการใช้ B. ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจนเป็นนิสัยในปัจจุบัน และ Adverb of Frequency (กริยาวิเศษณ์ บอกความถี่) เช่น always, sometimes, usually, etc. อยู่ในประโยคด้วย เช่น Jane always wakes up late. I sometimes walk to school.

6 หลักการใช้ C:ใช้กับเหตุการณ์ที่เป็นกิจวัตรประจำวัน และจะมี Adverb of time (กริยาวิเศษณ์บอกเวลา) เช่น every day, every week, every ten minutes, etc. อยู่ในประโยคด้วย เช่น Moss’s father reads the newspaper every day. The bus leaves the terminal every ten minutes.

7 โครงสร้างประโยคบอกเล่า:(Affirmative Sentence)
Structure = Subject + verb 1 (s,es) Examples Sunee goes to school every weekday. Jenny always drinks milk before going to bed.

8 โครงสร้างประโยคปฏิเสธ: (Negative Sentence)
Structure = Subject + does/do + not + verb (doesn’t/ don’t) Examples Sunee doesn’t go to school every weekday. Jenny doesn’t drink milk before going to bed.

9 Tip แต่ถ้าประโยคไหนที่มี Verb to be ( is, am, are) มาเป็นกริยามาในประโยค นักเรียนไม่ต้องเอาเจ้า Verb to do (do, does) เข้ามาช่วยนะขอรับ เดี๋ยวมันจะวางมวย เอ้ย...จะผิดเอานะครับ ให้นักเรียนเพียงเติม not หลัง Verb to be (is, am, are) เท่านั้น เช่น Moss is a policeman. ถ้าจะทำเป็นประโยคปฏิเสธก็เพียงแค่เติม not เข้าไปหลัง is ก็เป็น Moss is not a policeman. แค่นี้ก็เป็นอันเรียบร้อยโรงเรียนประถมสาธิต

10 โครงสร้างประโยคคำถาม: (Interrogative Sentence)
Structure = Do / Does + Subject + Verb1? Examples Does Sunee go to school every weekday? Does Jenny drink milk before going to bed?

11 การตอบคำถามใน Present Simple Tense
Examples Does Sunee go to school every weekday? Yes, she does. No, she doesn’t.

12 Tip มีข้อสำคัญอีกประการหนึ่งที่นักเรียนควรใส่ใจในการเรียนรู้เรื่อง Present Simple Tense คือ การใช้กริยา ให้สอดคล้องกับประธาน เพราะใน Present Simple Tense นั้นจะมีการเติม s, es ที่กริยาของประโยค นั้น ๆ ซึ่งจะต้องขึ้นอยู่กับประธานของประโยคด้วย

13 Tip เขามีหลักการอยู่ว่า “ใน Present Simple Tense ถ้าประธานเป็นเอกพจน์ (Singular) บุรุษที่ 3 (Third Person) กริยาต้องเติม s หรือ es แฮ่ ๆๆๆ นักเรียนอาจจะเริ่มมีมี ง. งู สองตัวซ้อน ( งง ) ในสมองกันแล้วล่ะซิ....เอ...อะไรคือบุรุษที่ 3???? เอาล่ะ..มาลองอ่านคำอธิบายกันต่อสักนิด เดี๋ยวจะเข้าใจ

14 Tip Persons (บุรุษ) Singular (เอกพจน์) Plural (พหูพจน์)
First Person (บุรุษที่ 1) I We Second Person (บุรุษที่ 2) You Third Person (บุรุษที่ 3) He She It They

15 Tip เมื่อดูจากตารางดังกล่าว นักเรียนจะเห็นว่าเจ้าบุรุษที่ 3 ที่ครูกล่าวถึงนั้นมีอยู่ 4 ตัวด้วยกัน คือ He, She, It และ They แต่ตามหลักของการเติม s, es ที่กริยามีอยู่ว่า “ถ้าประธานเป็นเอกพจน์ บุรุษที่ 3 กริยาต้องเติม s, หรือ es” ดังนั้นเราจะเห็นว่า กฎเน้นที่ ประธานเอกพจน์ บุรุษที่ 3 เท่านั้น เราจึงเหลือตัวเลือกเพียง He, She, It เท่านั้น คงจะเข้าใจบ้างแล้วนะครับ มาสรุปง่าย คือ

16 I, We, You, They Verb 1 He, She, It Verb 1 เติม s, หรือ es
Tip I, We, You, They Verb 1 He, She, It Verb 1 เติม s, หรือ es

17 หลักในการเติม s และ es ที่กริยา
A. กริยาธรรมดา ให้เติม s ที่กริยาได้เลย เช่น walk walks ring rings

18 หลักในการเติม s และ es ที่กริยา
B: กริยาที่ลงท้ายด้วย ss, sh, ch, x, o ให้เติม es ที่กริยา เช่น pass passes wash washes watch watches box boxes go goes

19 หลักในการเติม s และ es ที่กริยา
C: กริยาที่ลงท้ายด้วย y และหน้า y เป็นพยัญชนะให้เปลี่ยน y เป็น i แล้วเติม es เช่น cry cries try tries fly flies

20 หลักในการเติม s และ es ที่กริยา
D: คำกริยาที่ลงท้ายด้วย y และหน้า y เป็น สระ (a, e, i, o, u) ให้เติม s ที่ท้ายกริยาตัวนั้นได้เลย เช่น stay stays play plays lay lays

21 Adverb of Frequency (กริยาวิเศษณ์บอกความถี่)
always เสมอ ๆ usually ตามปกติ sometimes บางครั้ง. บางเวลา often บ่อย ๆ generally โดยทั่วไป seldom นาน ๆ ครั้ง, ไม่ค่อยจะ never ไม่เคย

22 Adverb of Time กริยาวิเศษณ์บอกเวลา
every day (week, month, year) ทุก ๆ วัน (สัปดาห์, เดือน, ปี) every hour ทุกชั่วโมง once a day (week, month, year) หนึ่งครั้งต่อวัน (สัปดาห์, เดือน, ปี) now and again ซ้ำแล้วซ้ำเล่า

23 POST TEST: Present Simple Tense
1. I sometimes __________ to school. (walk, walked, walks) 2. My friend never __________ to school. (come, comes, came) 3. They usually ____________ basketball. (play, plays, played) 4. He often __________ tennis. (play, played, plays) 5. Sue rarely _________ coffee. (drink, drank, drinks) 6. My father and I always _______ my grandfather. (visit, visits, visited) 7. Jimmy doesn’t ________ guitar. (like, likes, liked) 8. You don’t ________ television everyday. (watches, watched, watch) 9. Joe and Jane __________ violin. (drive, drove, drives) 10. Does she _________ to the radio everyday. (listens, listen, listened)


ดาวน์โหลด ppt Present Simple Tense สื่อประกอบการเรียนการสอนวิชา ภาษาอังกฤษ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเซนต์หลุยส์ ฉะเชิงเทรา ปีการศึกษา 2553.

งานนำเสนอที่คล้ายกัน


Ads by Google