งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ

งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ

ประเทศสิงคโปร์.

งานนำเสนอที่คล้ายกัน


งานนำเสนอเรื่อง: "ประเทศสิงคโปร์."— ใบสำเนางานนำเสนอ:

1 ประเทศสิงคโปร์

2 สารบัญ หน้า 1 การนับถือศาสนา วัฒนธรรมของชาวสิงคโปร์
สกุลเงินของประเทศสิงคโปร์ ประเทศสิงคโปร์ 1 สัตว์ประจำชาติ ธงชาติประเทศสิงคโปร์ คำทักทาย ตราแผ่นดินประเทศสิงคโปร์ การแต่งกาย ลักษณะภูมิประเทศ กีฬาประจำชาติ สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ ข้อมูลทางเศรษฐกิจ อาหารประจำชาติ สินค้าและการตลาด ดอกไม้ประจำชาติ จุดอ่อนและจุดแข็งของเศรษฐกิจ ภาษาราชการ อาชีพที่สำคัญ บุคคลสำคัญ ลักษณะประชากร

3 ประเทศสิงคโปร์ 1 ประเทศสิงคโปร์ มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า สาธารณรัฐสิงคโปร์ เป็นนครรัฐสมัยใหม่และประเทศเกาะที่มีขนาดเล็กที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตั้งอยู่นอกปลายทิศใต้ของคาบสมุทรมลายูและอยู่เหนือเส้นศูนย์สูตร 137 กิโลเมตร ดินแดนของประเทศประกอบด้วยเกาะหลักรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน ซึ่งมักเรียกว่าเกาะสิงคโปร์ในภาษาอังกฤษและเกาะอูจง (Pulau Ujong) ในภาษามลายู และเกาะที่เล็กกว่ามากอีกกว่า 60 เกาะ ประเทศสิงคโปร์แยกจากคาบสมุทรมลายูโดยช่องแคบยะฮอร์ทางทิศเหนือ และจากหมู่เกาะเรียวของประเทศอินโดนีเซียโดยช่องแคบสิงคโปร์ทางทิศใต้ ประเทศมีลักษณะแบบเมืองอย่างสูง และคงเหลือพืชพรรณดั้งเดิมเล็กน้อย ดินแดนของประเทศขยายอย่างต่อเนื่องโดยการแปรสภาพที่ดิน

4 ธงชาติประเทศสิงคโปร์
2 ธงชาติสิงคโปร์ เป็นธงสี่เหลี่ยมผืนผ้า กว้าง 2 ส่วน ยาว 3 ส่วน ประกอบด้วยแถบสองสีแบ่งครึ่งกลางธง แถบสีแดงอยู่ด้านบน แถบสีขาวอยู่ด้านล่าง ที่มุมธงบนด้านคันธงมีรูปพระจันทร์เสี้ยว ถัดจากรูปดังกล่าวมีรูปดาวห้าแฉก 5 ดวง เรียงเป็นรูปห้าเหลี่ยมด้านเท่า รูปเหล่านี้เป็นสีขาว ธงนี้เริ่มใช้เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม  พ.ศ.2502ซึ่งเป็นปีที่สิงค์โปร์ได้สิทธิปกครองตนเองจากจักรวรรดิอังกฤษ และถือเป็นธงชาติของรัฐเอกราชเมื่อสิงคโปร์ประกาศเอกราชในวันที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2508 (ค.ศ. 1695) ความหมายสำคัญขององค์ประกอบต่างๆ ในธง อันได้แก่ สีแดง หมายถึงภราดรภาพและความเสมอภาคของมนุษย์โดยทั่วหน้า สีขาว หมายถึงความบริสุทธิ์และความดีงามที่แพร่หลายและคงอยู่ตลอดกาล รูปพระจันทร์เสี้ยว ซึ่งเป็นจันทร์เสี้ยวข้างขึ้น หมายถึงความเป็นชาติใหม่ที่ถือกำเนิดขึ้น ดาว 5 ดวง หมายถึงอุดมคติ ประชาธิปไตย สันติภาพ ความก้าวหน้า ความยุติธรรม และความเสมอภาค ธงชาติประเทศสิงคโปร์ 3

5 ตราแผ่นดินของสิงคโปร์
4 ตราแผ่นดินของสิงคโปร์ ประกาศใช้ครั้งแรกเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม พ.ศ พร้อมกันกับธงชาติ และ เพลงชาติ ณ ห้องสาบานตนประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐสิงคโปร์ ที่ ศาลาว่าการของเมืองสิงคโปร์ ลักษณะของตราแผ่นดิน เป็นรูปสิงโตและเสือถือโล่สีแดงซึ่งมีรูปดาวห้าแฉกสีขาว 5 ดวง และพระจันทร์เสี้ยวสีขาวซึ่งเป็นสัญลักษณ์ สำคัญที่ใช้บนธงชาติของสิงคโปร์ เสือเป็นสัญลักษณ์แสดงถึงความผูกพันทางประวัติศาสตร์กับประเทศมาเลเชีย และสิงโตเป็นสัญลักษณ์แสดงถึงสิงคโปร์ ด้านล่างของตราแผ่นดินเป็นริบบิ้นสีน้ำเงินจารึกคำขัวญประจำชาติด้วยตัวหนังสือที่ทองว่า ข้างใต้มีคำขวัญ "Majulah singapura:" ซึ่งมีความหมายว่า "สิงคโปร์จงเจริญ" ตราแผ่นดินของสิงคโปร์ 5

6 6 สาธารณรัฐสิงคโปร์ (Singapore) ตั้งอยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตรอยู่ทางทิศใต้ของประเทศไทยต่อจากประเทศมาเลเซีย   สิงคโปร์เป็นประเทศที่มีขนาดพื้นที่และจำนวนประชากรน้อยที่สุดในเอซียตะวันออกเฉียงใต้     สิงคโปร์ไม่ได้เป็นเกาะเพียงเกาะเดียว  แต่ประกอบด้วยเกาะหลักหนึ่งเกาะ และเกาะขนาดจิ๋วล้อมรอบอีก 63 เกาะ  เกาะหลักมีเนื้อที่พื้นดินรวม 682 ตารางกิโลเมตร   ตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ของที่นี่คือ 136.8 กม.  เหนือเส้นศูนย์สูตร  โดยตั้งอยู่ระหว่างเส้นแวงที่ 103 องศา 38 ลิปดาตะวันออก กับเส้นแวงที่ 104 องคศา 06 ลิปดาตะวันออก    และด้วยสภาพภูมิประเทศที่ตั้งติดฝั่งทะเลทั้ง 3 ด้าน  ซึ่งอยู่ตรงกลางสี่แยกของโลกคือ  ทิศเหนือ ติดกับช่องแคบยะโอร์  ทิศตะวันออก ติดกับทะเลจีนใต้  ทิศตะวันตก ติดกับช่องแคบมะละกา  ทิศใต้ ติดกับช่องแคบสิงคโปร์  ทำเลอันยอดเยี่ยมนี้ส่งผลความได้เปรียบมีส่วนผลักดันให้สิงคโปร์เติบโต จนกลายเป็นศูนย์กลางทางการค้า การสื่อสาร และการท่องเที่ยวที่สำคัญของโลก   ลักษณะภูมิประเทศ 7

7 สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ
เกาะเล็กๆ แห่งนี้กลายเป็นสถานที่ที่นักเดินทางทั่วโลกอยากมาเยือน  เพราะสิงคโปร์พัฒนาด้านการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง  จนกลายเป็นรายได้หลักทางหนึ่งของประเทศ  สถานที่สำคัญสำหรับการไปปักหมุดจุดหมายในสิงคโปร์มีทั้งแหล่งบันเทิงอันทันสมัยซึ่งเป็นจุดแข็งของประเทศ  พิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าความเป็นมาของชาติบ้างเมือง  รวมถึงสถานที่ศึกษาธรรมชาติด้วย      รัฐบาลสิงคโปร์กำหนดให้การพนันเป็นสิ่งถูกกฎหมาย  แล้วเปิดกาสิโนขึ้นที่เกาะเซนโตซ่าและมารีน่าเบย์แซนด์  เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวและนักเสี่ยงโชคจากทั่วโลก  จนธุรกิจประเภทนี้เจริญเติบโตขึ้นทุกปี  และนำรายได้เข้าประเทศจำนวนมหาศาล 8 9

8 11 12 เมอร์ไลออนพาร์ก      สวนสาธารณะแห่งนี้ตั้งอยู่ริมอ่าวมารีน่า  ทางตอนใต้ของเกาะสิงคโปร์เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ  เพราะเป็นที่ตั้งของเมอร์ไลออน  บริเวณนี้มีรูปปั้นสิงโตทะเลอยู่สองตัว  เมอร์ไลออนตัวเล็กด้านหลังตัวใหญ่คือรูปปั้นชิ้นแรก  ส่วนตัวยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวแวะเวียนมาชมไม่ขาดสาย  สร้างขึ้นเป็นตัวที่  2  สูงประมาณ  2  เมตร ยืนหันหน้าออกสู่อ่าวมารีน่า  ซึ่งเมื่อเดือนกุมภาพันธ์  พ.ศ. 2552  เมอร์ไลออนตัวนี้ถูกฟ้าผ่าจนชิ้นส่วนบนหัวแตกร่วงลงพื้น  ทางการสิงคโปร์จึงรีบดำเนินการซ่อมแซมจนรูปปั้นกลับมาสวยงามดังเดิม เมอร์ไลออน      นอกจากรูปปั้นที่เมอร์ไลออนพาร์กแล้ว  สิงคโปร์ยังมีเมอร์ไลออนอีกสามตัว  รูปปั้นที่ใหญ่ที่สุดอยู่บนเกาะเซนโตซ่า  สูงถึง  37  เมตร  เปิดให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปชมวิวได่บนชั้น  9  (บริเวณปากของเมอร์ไลออน)  อีกสองตัวสูง  3  เมตรเท่ากัน  อยู่ที่เมานต์เฟเบอร์  และศูนย์บริการนักท่องเที่ยว  ถนนออร์ชาร์ด

9 โรงละครเอสพลานาด 14 13 โรงละครเอสพลานาด
     อาคารสองหลังตั้งอยู่บนพื้นที่ขนาด  24,000  ตารางกิโลเมตร  ริมอ่าวมารีน่า  เยื้องกับรูปปั้นเมอร์ไลออนชื่อดัง  เอสพลานาดคือศูนย์ศิลปะครบวงจรเป็นทั้งโรงละคร  คอนเสิร์ตฮอลล์  แกลเลอรี่  ห้องสมุดศิลปะ  ฯลฯ  เปิดให้บริการแก่ประชาชนทั่วไปเมื่อเดือนตุลาคม  พ.ศ. 2545       หลายคนมองว่าลักษณะของตัวอาคารเหมือนตาแมลงวัน  บ้างก็บอกว่าเหมือนไมโครโฟน  แต่ส่วนใหญ่คิดว่าเหมือนทุเรียน  จึงเรียกกันติดปากว่า  ทุเรียนยักษ์  (The  Big   Durian)  หรือ  (The  Durian) โรงละครเอสพลานาด

10 มารีน่าเบย์แซนด์ 16 มารีน่าเบย์แซนด์ (Marina Bay Sands)
15 มารีน่าเบย์แซนด์ (Marina Bay Sands)      อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวริมอ่าวมารีน่า  ตั้งอยู่ใจกลางเขตธุรกิจที่สำคัญที่สุดของประเทศ  และว่ากันว่าเป็นทำเลที่ดีที่สุดในสิงคโปร์  มารีน่าเบย์แซนด์เป็นทั้งโรงแรม  (มีห้องพัก  2,561  ห้อง)  กาสิโน  โรงละคร  ห้างสรรพสินค้า  และยังมีสวนลอยฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในโลกอยู่บนดาดฟ้าชั้น  57  ของโรงแรมด้วย  โดยออกแบบมาให้มีลักษณะคล้ายเรือลำใหญ่วางพาดอยู่บนยอดอาคารทั้ง  3  หลัง  มารีน่าเบย์แซนด์เปิดให้บริการเมื่อปี  พ.ศ. 2553 มารีน่าเบย์แซนด์ 16

11 17 พิพิธภัณฑ์เพานากัน      พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ไม่ได้จัดแสดงประวัติศาสตร์ของชาวเพรานากันในสิงคโปร์เท่านั้น  แต่ยังมีเรื่องของชาวเพรานากันในประเทศอื่นด้วย  ภายในตึก  3  ชั้น  เรื่องราวต่างๆกัน  อาทิ  ประวัติของชาวเพรานากัน  ศิลปะและงานฝีมือ  อาหารสังคมและการปกครอง  เป็นต้น น้ำพุแห่งความมั่งคั่ง      น้ำพุแห่งความมั่งคั่ง  (Fountain of Wealth)  เป็นน้ำพุที่ใหญ่ที่สุดในโลก  สูง  13.8  เมตร  และเส้นรอบวงยาวถึง  66  เมตร  ออกแบบตามความเชื่อของชาวฮินดู  น้ำพุนี้ตั้งอยู่ในหมู่อาคารซันแทก  5  ตึก  สิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เป็นจำนวนมากคือการแสดงแสงสีเสียงยามค่ำคืน 18

12 พิพิธภัณฑ์แห่งชาติ      พิพิธภัณฑ์ที่เก่าแก่ที่สุดของสิงคโปร์  แต่เดิมเป็นห้องสมุดและพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ (National Museum of Singapore)  เมื่อปี พ.ศ. 2547  ภายในจัดแสดงทั้งประวัติศาสตร์ของประเทศและความเป็นอยู่ของชาวสิงคโปร์ สวนนกจูร่า      สวนนกที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อ  พ.ศ. 2514  ในเขตจูร่ง  มีนกอยู่ประมาณ  380  สายพันธุ์ จำนวน 5,000ตัว  โดยเป็นนกจากทั่งโลกทั้งแอฟริกา  ออสเตรเลีย  อเมริกาใต้  ฯลฯ  มีการจำลองที่อยู่ตามธรรมชาติของนกแต่ละชนิดไว้และปล่อยให้บินไปทั่วสวนอย่างอิสระ  นักท่องเที่ยวจึงได้เห็นนกอย่างใกล้ชิด  รวมถึงให้อาหารนกได้ด้วย 19 20

13 สวนเติ้ลอินเดีย      ชุมชนชาวอินเดียแห่งนี้อยู่ทางทิศตะวันออกของแม่น้ำสิงคโปร์  อาคารบ้านเรือนในย่านนี้มีเอกลักษณ์ตรงสีสันที่สดใสคล้ายการแต่งกายของชาวอินเดีย  และเพราะชาวอินเดียในสิงคโปร์ส่วนใหญ่รวมตัวกันอยู่ที่นี่  นักท่องเที่ยวจึงได้สัมผัสวิถีชีวิต  ศิลปวัฒนธรรม  และอาหารตามแบบฉบับของอินเดียจริงๆ เกาะเซนโตซ่า      แม้ในภาษามลายู  “เซนโตซ่า”  จะแปลว่าความสงบและสันติ  เซนโตซ่าเป็นเกาะที่คึกคักที่สุดของสิงคโปร์ก็ว่าได้      เกาะเซนโตซ่าอยู่ทางใต้ของเกาะสิงคโปร์  เป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 4  ของประเทศ  ในอดีตเคยเป็นทั้งฐานทัพของอังกฤษและหมู่บ้านประมงของชาวบ้าน  แต่เมื่อปี  พ.ศ. 2515  รัฐบาลก็ตัดสินใจทุ่มงบประมาณเปลี่ยนแปลงเกาะนี้ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ครบครัน  มีทั้งโรงแรม  สวนสนุก  ชายหาด  พิพิธภัณฑ์ทางทหาร  สวนผีเสื้อและแมลง  รวมไปถึงกาสิโน 21 22

14 อาหารประจำชาติ ลักซา (Laksa) อาหารยอดนิยมของสิงคโปร์ เป็นก๋วยเตี๋ยวต้มยำ (ใส่กะทิ) ลักษณะคล้ายข้าวซอยของไทย             น้ำแกงเข้มข้นด้วยรสชาติของกะทิ กุ้งแห้ง และพริก โรยหน้าด้วยกุ้งต้ม หอยแครง ลักชามีหลายประเภททั้งแบบที่            ใส่กะทิ และไม่ใส่กะทิ 23 24

15 ดอกไม้ประจำชาติ ภาษาราชการ
26 ภาษาราชการ ดอกกล้วยไม้แวนด้า 1.ภาษาอังกฤษ 2.ภาษาทมิฬ 3.ภาษามาลายู 4.แมนดาริน 25

16 ล๊กษณะประชากร  ประชากร  ประชากรหนาแน่นสุดในภูมิภาค  และเป็นประเทศเล็กที่สุดในภูมิภาค  มีจำนวนประชากรประมาณ 4.24 ล้านคน(2547) ส่วนใหญ่เป็น เชื้อชาติจีน ถึงร้อยละ (76.5 %)  เชื้อชาติมาเลเซีย (13.8 %)   เชื้อชาติอินเดีย (8.1%)  และเชื้อชาติอื่น ๆ (1.6%)  ความหนาแน่นของประชากรต่อเนื้อที่ตารางกิโลเมตร ถือว่าอยู่ในอัตราที่สูงมากกว่าประเทศไทยถึง 40 เท่า 27 28

17 การนับถือศาสนา ไม่มีศาสนาที่ประชาชนนับถือมีทั้งศาสนาพุทธ, ขงจื้อ, เต๋า, อิสลาม, คริสเตียน และฮินดู ศาสนาประจำชาติของสิงคโปร์ อย่างไรก็ตาม ผู้คนในสิงคโปร์มีอิสระในการนับถือศาสนาที่กลาวมาแล้ว ก็ยังมีศาสนาอื่นๆ ที่เป็นกลุ่มเล็กอีกด้วย ได้แก่ ซิกซ์, ยิว ในบรรดาตึกเก่า ๆ ในสิงคโปร์ก็จะรวมไปถึง สุเหล่า, โบสถ์ และวัดต่าง ๆ ด้วย ในปี 1990 มีการเก็บสถิตปรากฎว่า ประชากรที่อายุ 10 ปีขึ้นไปจะนับถือศาสนาพุทธและเต๋ามาก โดยในจำนวนนี้จะเป็นคนจีนเสียส่วนใหญ่ และอาจมีการผสมผสานในความเชื่อของศาสนา แต่ละแห่งเข้าไปด้วย มีประมาณ 15 เปอร์เซนต์นับถือศาสนาอิสลาม 13 เปอร์เซนต์นับถือศาสนาคริสต์เตียน และ 4 เปอร์เซนต์นับถือศาสนาฮินดู ซึ่งในจำนวนนี้เกือบทั้งหมดเป็นชาวอินเดีย 29 30

18 วัฒนธรรมของชาวสิงคโปร์
เทศกาลสำคัญของสิงคโปร์ ส่วนมากมีความเกี่ยวข้องกับความเชื่อทางศาสนา เริ่มตั้งแต่เทศกาลตรุษจีน (Chinese New Year) ในเดือนกุมภาพันธ์ ชาวสิงคโปร์เชื้อสายจีนจะจัดงานเซ่นไหว้เทพเจ้าและงานรื่นเริงสนุกสนานอื่นๆ โดยรัฐบาล ห้างร้าน และบริษัทต่างๆ จะหยุดทำการเป็นเวลา 2 วัน แต่บางแห่งอาจหยุดนานถึง 15 วัน เทศกาล Good Friday ของชาวคริสต์ในเดือนเมษายน จัดขึ้นเพื่อระลึกถึงการสละชีวิตของพระเยซูบนไม้กางเขน เทศกาลวิสาขบูชา (Vesak Day) ของ ชาวพุทธจัดขึ้นในเดือนพฤษภาคม เพื่อระลึกถึงการประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพานของพระพุทธเจ้า เทศกาล Hari Raya Puasa ในเดือนตุลาคม เป็นการเฉลิมฉลองของชาวมุสลิมหลังการสิ้นสุดพิธีถือศีลอดหรือรอมฏอน (Ramadan) และเทศกาล Deepavali ในเดือนพฤศจิกายน เป็นเทศกาลแห่งแสงสว่างและเป็นงานขึ้นปีใหม่ของชาวฮินดูในสิงคโปร์ วัฒนธรรมของชาวสิงคโปร์ ประชากรสิงคโปร์มีความหลากหลายทางเชื้อชาติ อีกทั้งส่วนใหญ่ยังยึดถือธรรมเนียมปฏิบัติดั้งเดิม ทำให้สิงคโปร์มีวัฒนธรรมหลากหลาย ทั้งทางด้านอาหาร การแต่งกาย ตลอดจนการเซ่นไหว้วิญญาณบรรพบุรุษ และความเชื่อในเรื่องเทพเจ้าที่แตกต่างกันไป ชาวจีนส่วนมากบูชาเจ้าแม่กวนอิมธิดาแห่งความสุข กวนอูเทพเจ้าแห่งความยุติธรรม รวมถึงเทพเจ้าจีนองค์อื่นๆ ขณะที่ชาวฮินดูบูชา เทพเจ้าแห่งดวงอาทิตย์ เป็นต้น 31 32

19 สกุลเงินของประเทศสิงค์โปร
ดอลลาร์สิงคโปร์ 33 34

20 ประเทศสิงคโปร์ เดิมมีชื่อว่าเมืองสิงหปุระ (Singapura) ซึ่งหมายถึงเมืองแห่งสิงโต แต่ไม่มีรายงานการพบสิงโตอยู่ตามธรรมชาติในประเทศสิงคโปร์เลย เนื่องจากเป็นประเทศที่ไม่มีป่าไม้หรือทุ่งหญ้าซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของสิงโต มีแต่เรื่องเล่าที่ว่ามีผู้เคยพบเห็นสัตว์ที่มีรูปร่างคล้ายสิงโตอยู่บนดินแดนแห่งนี้เท่านั้น แต่กระนั้นสิงโตก็ยังได้รับเลือกให้เป็นสัตว์ประจำชาติสิงคโปร์ สัตว์ประจำชาติ 36 35

21 37 38 คำทักทาย ประเทศสิงคโปร์ (Singapore) คำทักทาย : หนีห่าว(Ni Hao)

22 การแต่งกาย 39 40 กีฬาประจำชาติ
กีฬาประจำชาติของสาธารณรัฐสิงคโปร์ (The Republic of Singapore) คือ ฟุตบอล กีฬาในประเทศสิงคโปร์ ชาวสิงคโปร์เล่นกีฬาฟุตบอล คริกเก็ต แบดมินตัน บาสเก็ตบอล รักบี้ ปิงปอง และวอลเลย์บอล ปกติแล้วในแถบย่านที่อยู่อาศัยของประชากรจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกด้านสันทนาการจัดไว้ให้แล้ว กีฬาทางน้ำ เช่น ดำน้ำ สกีน้ำ เรือคายัก และว่ายน้ำ เป็นที่นิยมกันบนเกาะนี้ สนามกีฬาแห่งชาติของสิงคโปร์เปิดให้บริการเมื่อปี 1973 และถูกใช้เป็นสถานที่แสดงทาง วัฒนธรรม การกีฬา และความบันเทิงต่างๆ และถูกปิดลงในปี 2007 หลังจากศูนย์กลางการกีฬาของสิงคโปร์ถูกสร้างขึ้นในพื้นที่เดียวกัน นั้นในปี 2011 ชาวสิงคโปร์สร้างผลงานได้ดีในด้านการกีฬาและสันทนาการจนได้รับชื่อเสียงไปทั่วโลก ด้วยการผสมผสานของวัฒนธรรมและ ความทันสมัย สิงคโปร์ได้มอบโครงสร้างทางศิลปะที่ดีที่สุดให้กับประชากรและนักท่องเที่ยว หญิง เสื้อและผ้าถุง ตัดเย็บด้วยผ้าพิมพ์ลายปาเต๊ะสีสันสดใส คอกลมกว้าง แขนเสื้อยาวสามส่วน ชาย สวมเสื้อแขนยาว คอจีน เสื้อผ้าหน้าซ่อนกระดุม สวมกางเกงขายาว โดยเสื้อจะใช้ผ้าสีเรียบหรือผ้าแพรจีนก็ได้

23 ข้อมูลทางเศรษฐกิจของประเทศสิงคโปร์
41 สิงคโปร์เป็นประเทศที่ประสบความสำเร็จจากการเปิดเสรีทางการค้า มีความมั่นคงทาง เศรษฐกิจ และมีรายได้ประชาชาติต่อหัวสูงเท่าๆ กับประเทศใหญ่ 4 ประเทศในกลุ่ม EU สิงคโปร์ เป็นประเทศที่พึ่งพาการส่งออกสูง มีสัดส่วนของมูลค่าการค้าต่อ GDP สูงที่สุดในโลกคือ 3:1 ในช่วงปี ซึ่งเป็นช่วงที่เศรษฐกิจโลกถดถอย เกิดปัญหาความไม่สงบในตะวันออกกลาง การก่อการร้าย และปัญหาการระบาดโรคซาร์ ทำให้เศรษฐกิจสิงโปร์เติบโตเพียงเล็กน้อยคือ 2.2 และ 1.1 เปอร์เซ็นต์ตามลำดับ สิงคโปร์เป็นประเทศที่มีพื้นที่จำกัด และมีแหล่งทรัพยากรธรรมชาติอยู่น้อย แต่ด้วยความที่ได้เปรียบในด้านตำแหน่งที่ตั้งของประเทศ ทำให้สิงคโปร์เป็นผู้กลั่นน้ำมันรายใหญ่อันดับ 2 รองจากสหรัฐอเมริกา รายได้หลักของสิงคโปร์มาจากการส่งออกน้ำมันและผลิตภัณฑ์ คิดเป็นสัดส่วนมูลค่าถึง 26% ของมูลค่าสินค้าส่งออกที่ผลิตในประเทศ รองลงมาคือเคมีภัณฑ์ ประมาณ 19.6% และ เครื่องใช้ไฟฟ้า 19.20% 42

24 สินค้าและการตลาด อย่างไรก็ดีตั้งแต่ปี 2547 จนกระทั่งปัจจุบัน เศรษฐกิจสิงคโปร์ เติบโตอย่างเกินเป้าหมาย ทั้งนี้เป็นผลมาจากการกระตุ้นเศรษฐกิจ ดอกเบี้ยต่ำ และการส่งออกที่ เพิ่มขึ้นเนื่องจากการขยายตัวของอุปสงค์โดยรวม (ทั้งภายในและภายนอกประเทศ) ซึ่งขยายตัวในอัตรา ระดับสูง และส่วนหนึ่งเกิดจากโครงการใหญ่ๆ ที่เกิดขึ้นในสิงคโปร์ เช่น โครงการ Integrated Resort at Marina South ซึ่งเป็นโครงการมูลค่าหลายพันล้านสิงคโปร์ดอลล่าร์ด้านปิโตรเคมีของบริษัทเชลล์ สินค้านำเข้าที่สำคัญ : เครื่องจักรกล ชิ้นส่วนอุปกรณ์ไฟฟ้า น้ำมันดิบ เคมีภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์ อาหาร สินค้าส่งออกที่สำคัญ : เครื่องจักรกล เครื่องใช้ไฟฟ้า เคมีภัณฑ์ เสื้อผ้า ตลาดนำเข้าที่สำคัญ : มาเลเซีย สหรัฐอเมริกา ฮ่องกง จีน ญี่ปุ่น ไต้หวันไทย ตลาดส่งออกที่สำคัญ : มาเลเซีย สหรัฐอเมริกา ฮ่องกง จีน อินโดนีเซีย 43 44

25 จุดแข็งจุดอ่อนทางเศรษฐกิจของประเทศสิงคโปร์
อาชีพที่สำคัญ อาชีพหลักที่ทำรายได้ให้กับสิงคโปร์คือ ธุรกิจการค้าและอุตสาหกรรม สิงคโปร์เป็นเมืองท่าใหญ่อันดับ 4 ของโลก ในแต่ละปีจะมีเรือสินค้าผ่าน เข้า - ออกท่าเรือไม่ต่ำกว่า 4,000 ลำ สิงคโปร์มีโรงงานอุตสาหกรรมประมาณ 2400 แห่ง โรงงานอุตสาหกรรมกลั่นน้ำมันเป็นโรงงานที่ทันสมัย และทันสมัยและใหญ่ที่สุดในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผลิตผลจากโรงงานอุตสาหกรรม ได้แก่ อะลูมิเนียม มะพร้าว ยาง เครื่องใช้ภายในบ้าน เครื่องไฟฟ้า เป็นต้น สิงคโปร์เป็นเมืองท่าปลอดภาษี คือไม่มีการเก็บภาษีสินค้าฟุ่มเฟือย จึงทำให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยว ทำรายได้ให้กับประเทศ อีกทางหนึ่ง สำหรับผลผลิตทางเกษตรนั้นไม่พอเพียงกับความต้องการของประชากรในประเทศ จึงต้องสั่งซื้อ อาหารจำพวก ข้าว ผัก ผลไม้ เครื่องเทศ จากต่างประเทศเป็นจำนวนมากโดยเฉพาะจากประเทศไทย จุดแข็ง : รายได้เฉลี่ยต่อคนต่อปีสูงสุดในอาเซียน และติดอันดับ 15 ของโลก : การเมืองมีเสถียรภาพ : เป็นศูนย์กลางทางการเงินระหว่างประเทศ : แรงงานมีทักษะสูง : ชำนาญด้านการจัดการทรัพยากรบุคคลและธุรกิจ : มีที่ตั้งเอื้อต่อการเป็นศูนย์กลางเดินเรือ จุดอ่อน : พึ่งพาการนำเข้าวัตถุดิบและขาดแคลนแรงงานระดับล่าง : ค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจสูง 45 46

26 47 บุคคลสำคัญ เป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกของสิงคโปร และเป็นผู้นำพรรค People's Action Party (PAP) ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนานถึง 31 ปี ลีกวนยูเป็นผู้เปิดประเทศ ทำให้สิงคโปร์มีความทัดเทียม กับนานาอารยปรเทศ ด้วยเหตุนี้ ลี กวนยู จึงเป็นบุคคลที่มีอิทธิพลอย่างมากต่อประเทศ และเป็นหนึ่งใน บุคคลที่ทรงอิทธิพลที่สุดของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ลี กวนยู (Lee Kuan Yew) 48

27 โทมัส สแตมฟอร์ด แรฟเพิลล์ (Thomas Stamford Bingley Raffles)
ผู้บริหารอาณานิคม เป็นผู้ก่อตั้งเมืองสิงคโปร์ และเป็นคนแรกที่ร่างรัฐธรรมนูญฉบับแรกของสิงคโปร์เมื่อ พ.ศ นอกจากนี้เขายังนำบริษัท บริติชอินเดีย เข้ามาตั้งด่านสินค้า ทำให้สิงคโปร์กลายเป็นศูนย์กลางทางการค้า 49 50

28 เพลงประจำชาติ ด.ญ.พรพิมล คำแก้ว ม.2/4 เลขที่18


ดาวน์โหลด ppt ประเทศสิงคโปร์.

งานนำเสนอที่คล้ายกัน


Ads by Google