งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ

งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ

ภาวะผู้นำ ทางการประกอบการธุรกิจ

งานนำเสนอที่คล้ายกัน


งานนำเสนอเรื่อง: "ภาวะผู้นำ ทางการประกอบการธุรกิจ"— ใบสำเนางานนำเสนอ:

1 ภาวะผู้นำ ทางการประกอบการธุรกิจ
ผศ.ญาลดา พรประเสริฐ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา

2 บทที่ 1 แนวคิดพื้นฐานของภาวะผู้นำ
ความหมายของผู้นำ (Leader) ผู้มีอำนาจในการสั่งการหรือมีผลในการสั่งการ ผู้ที่สามารถรวมคนให้มีน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เพื่อสามารถบรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ได้ บุคคลที่ริเริ่มหรือส่งเสริมให้มีการเปลี่ยนแปลงการกระทำของกลุ่มอย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นผู้นำที่สนับสนุนส่งเสริมให้มีความสัมพันธ์ของสมาชิกภายในกลุ่มดำเนินไปด้วยดี สรุป บุคคลที่ได้รับการยอมรับหรือยกย่องให้เป็นผู้นำ และต้องเป็นผู้ที่มีความสามารถจากตัวเอง จนเป็นที่ยอมรับหรือยกย่องของกลุ่มให้เป็นผู้นำและนำกลุ่มไปสู่ความสำเร็จตามเป้าหมาย "ผู้นำ" หมายถึง บุคคลที่สามารถชักจูงหรือชี้นำบุคคลอื่น ให้ปฏิบัติงาน สำเร็จตามวัตถุประสงค์ที่วางไว้ได้อย่างมีประสิทธิผลและประสิทธิภาพ

3 ภาวะผู้นำ (Leadership)
เป็นการสร้างอิทธิพลต่อผู้ใต้บังคับบัญชาเพื่อก่อให้เกิดความสำเร็จในวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ เป็นความพยายามของบุคคลที่จะชักจูงและกำหนดพฤติกรรม ทัศนคติความเชื่อหรือค่านิยมของบุคคลอื่นเพื่อบรรลุเป้าหมายในสถานการณ์ใดสถานการณ์หนึ่ง เป็นกระบวนการชักนำผู้ใต้บังคับบัญชาให้ปฏิบัติตามที่ต้องการ

4 ภาวะผู้นำ ประกอบด้วย 3 ส่วน
1. ภาวะผู้นำ คือ ปรากฏการณ์แบบกลุ่ม ไม่มีผู้นำที่ปราศจากผู้ตามรวมถึงการมีความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลที่มีอิทธิพลต่ออีกคนหนึ่ง หรือการที่สามารถชักจูงใจผู้อื่นได้ 2. ผู้นำใช้อำนาจหรือชี้นำกลุ่มให้เชื่อในการกระทำหรือความสำเร็จของเป้าหมายนั้นๆ ภาวะผู้นำ คือ เป้าหมายของการดำเนินงานโดยตรงและบทบาทที่แสดงในกลุ่มและองค์การ 3. การแสดงให้เห็นว่าเป็นผู้นำได้จากการแบ่งกลุ่มหรือจัดลำดับชั้นภายในกลุ่มผู้นำจะอยู่ในลำดับบนสุด สรุป หมายถึงลักษณะส่วนตัวของบุคคลที่จะแสดงพฤติกรรมออกมา เมื่อได้มีปฏิสัมพันธ์กับกลุ่ม เป็นความสามารถที่เกิดขึ้นระหว่างที่มีการทำงานร่วมกันหรือร่วมอยู่ในเหตุการณ์เดียวกันที่ทำให้กิจกรรมกลุ่มดำเนินไปสู่เป้าหมายและประสบความสำเร็จ

5 สรุปและเปรียบเทียบผู้นำและภาวะผู้นำ
ผู้นำ (Leader) เป็นบุคคลที่ยอมรับหรือยกย่องให้เป็นหัวหน้าจากสมาชิกในกลุ่ม เนื่องจากลักษณะใดลักษณะหนึ่งจากบุคลิกลักษณะของเขาในสถานการณ์หนึ่งซึ่งยอมรับในตัวของเขา เช่น เป็นคนกล้า มีความรู้ความสามารถ มีสติปัญญาฉลาดหลักแหลมกว่าคนอื่น ภาวะผู้นำ (Leadership) ต้องมีบุคลิกภาพพิเศษสามารถบังคับบัญชาผู้อื่นได้ โดยอาศัยอำนาจหน้าที่จากตำแหน่งอำนาจบารมีที่ได้เป็นเครื่องมือ และสามารถสร้างอิทธิพลต่อผู้ใต้บังคับบัญชาให้มีความเชื่อถือร่วมมือและยอมรับในตัวผู้นำจะเป็นบุคลิกภาพลักษณะของความเป็นผู้นำความรู้ความสามารถความคิดริเริ่ม การตัดสินใจ เพื่อให้บรรลุจุดมุ่งหมายของกลุ่มหรือองค์การได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผล

6 ความแตกต่างระหว่างผู้นำและผู้บริหาร
ลักษณะของผู้นำ ลักษณะของผู้บริหาร การใช้อำนาจ อาศัยความสัมพันธ์ส่วนตัว การกำหนดเป้าหมาย มีความสนใจวัตถุประสงค์ส่วนตัวของคนในองค์การหาการเปลี่ยนแปลงใหม่ในวัตถุประสงค์และนโยบายขององค์การตลอดเวลาจะทำให้เป้าหมายและส่วนตัวไปด้วยกันได้ ทัศนะต่อองค์การ ตัวผู้นำและคนในองค์การกับองค์การแยกออกจากกัน จากตำแหน่งหรืออำนาจทางกฎหมาย เป้าหมายขององค์การมีความสำคัญวัตถุประสงค์ส่วนตัวเป็นเพียงส่วนประกอบขององค์การเท่านั้นหากไม่จำเป็นจะไม่เปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์ขององค์การและทำทุกอย่างให้บรรลุเป้าหมายขององค์การ มีจิตสำนึกเป็นส่วนหนึ่งขององค์การไม่อาจแยกตัวเองออกจากองค์การได้ ถือว่าเป็นผู้ปกป้องความเป็นระเบียบขององค์การและดูแลให้เป็นไปตามแนวทางที่กำหนด

7 ความแตกต่างระหว่างผู้นำและผู้บริหาร
ลักษณะของผู้นำ ลักษณะของผู้บริหาร การทำหน้าที่ ทำงานโดยคำนึงถึงผลงานและเปิดโอกาสให้อิสระในขอบเขตที่ผู้ปฏิบัติงานคิดริเริ่มมองหาโอกาสใหม่เพื่อความสำเร็จของงานในวิธีของตนเองได้ บุคลิกภาพ แสวงหาความเสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงและสนใจในกิจกรรมที่เป็นพิเศษ ความสัมพันธ์กับคนอื่น มีความสัมพันธ์กับคนอื่นด้วยสัญชาตญาณละความจริงใจให้ความสำคัญต่อความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลโดยไม่คำนึงถึงตำแหน่งงาน การวางตัว วางตัวตามสบายเป็นกันเองไม่ถือตัวอยู่ในที่ต่างๆขององค์การ ทำงานโดยอาศัยความร่วมมือภายใต้นโยบายและกระบวนการขององค์การโดยผู้ปฏิบัติงานมีข้อจำกัดต้องปฏิบัติงานในข้อกำหนดขององค์การติดยึดกับขั้นตอนการทำงานขององค์การ ดำเนินงานต่างๆเพื่อการอยู่รอดและสนใจกิจกรรมที่เป็นเรื่องธรรมดา มีความสัมพันธ์กับคนอื่นตำแหน่งงานเปลี่ยนแปลงตามบทบาทหน้าที่ วางตัวตามสายการบังคับบัญชาขององค์การถือความสำคัญของตำแหน่งงาน

8 การศึกษาลักษณะของภาวะผู้นำ
ตัวแปรที่มีอิทธิพลต่อลักษณะของภาวะผู้นำ ผู้นำหรือหัวหน้า(Leader or Executive) คือ บุคคลที่มีอิทธิพล อาจมีลักษณะแตกต่างกันออกไปเพราะความรู้ความสามารถแตกต่างกัน ผู้ตาม(Followers) คือ บุคคลที่อยู่ใต้อิทธิพลและจะเป็นผู้ตาม มีลักษณะแตกต่างกันออกไปเช่นกัน สถานการณ์ที่ผู้นำหรือผู้ตามได้มีต่อกัน(Situation) อาจเป็นโรงงานอุตสาหกรรม ในโบสถ์หรือห้องเรียนสถานการณ์แตกต่างกันไป ต้องมีความต้องการถึงผลตอบแทน(Desired Outcome) ผู้นำพยายามมีอิทธิพลเหนือผู้อื่น เพื่อให้บรรลุเป้าหมายบางอย่าง เช่น การทำงาน การบริจาค หรือกิจกรรมทางการเมือง

9 องค์ประกอบของผู้นำ Support มีพฤติกรรมสนับสนุนช่วยเหลือและพยายามผลักดันให้ผู้ใต้บังคับบัญชามีความก้าวหน้าในหน้าที่การงานเป็นไปด้วยดี จะมุ่งให้ความสนใจในตัวลูกน้องเป็นพิเศษ และทำให้ลูกน้องมีความรู้สึกว่าสภาพการทำงานสนับสนุน Interaction พยายามใช้พฤติกรรมไปในทางติดต่อสังสรรค์ระหว่างกลุ่มของบุคคลที่อยู่ใต้บังบัญชา พยายามพัฒนาการใช้กลุ่มและสร้างสัมพันธภาพที่ดีกับผู้ใต้บังคับบัญชา ทำให้สมาชิกกลุ่มมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันสร้างบรรยากาศที่ดีและให้ความอบอุ่นแก่ผู้ใต้บังคับบัญชา Goal Emphasis มีพฤติกรรมที่ชักจูงหรือจูงใจให้ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชากระทำและคำนึงถึงเป้าหมายขององค์การ ผลงานหรือความสำเร็จขององค์การ ผู้นำมุ่งให้ความสนใจในผลผลิตขององค์การเป็นพิเศษ พยายามกระตุ้นเร่งเร้าผู้ใต้บังคับบัญชาทุกคนมีความกระตือรือร้นที่จะให้บรรลุเป้าหมาย Work Facilitation มีพฤติกรรมที่ทำให้กลุ่มบุคคลในองค์การ ทำงานทุกอย่างเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของกลุ่มและองค์การ โดยใช้วิธีการบริหารที่มีคุณภาพ มีการวางแผนและมีการร่วมมือจากทุกฝ่ายในองค์การ เน้นผลผลิตและตัวงานประกอบกันเพื่อความสำเร็จของงาน

10 สรุป พฤติกรรมของผู้นำได้ 2 แบบ
สรุป พฤติกรรมของผู้นำได้ 2 แบบ ผู้นำที่มุ่งคน(Consideration) พฤติกรรมที่เน้นคน คือระดับที่ผู้นำให้ความสนใจต่อผู้ใต้บังคับบัญชา ผู้นำที่มีพฤติกรรมที่เน้นคนสูงจะเป็นผู้นำที่มีความเป็นมิตร พร้อมที่จะสื่อสารอย่างเปิดกว้าง พัฒนาทีมงาน และดูแลให้พนักงานให้มีความเป็นอยู่ที่ดี ผู้นำที่เป็นผู้ริเริ่ม (Initiating) พฤติกรรมที่เน้นงาน คือระดับที่ผู้นำให้ความสนใจต่องานและกำกับให้พนักงานทำงานให้บรรลุเป้าหมาย ผู้นำแบบนี้จะเน้นการออกคำสั่ง การวางแผนงาน การกำหนดเส้นตายและตารางเวลาการทำงานที่ชัดเจนให้แก่พนักงาน

11 ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อประสิทธิภาพของภาวะผู้นำ
อิทธิพลในการบังคับบัญชา ต้องมีอิทธิพลที่สามารถโน้มน้าวจูงใจผู้ใต้บังคับบัญชายินยอมปฏิบัติตามคำสั่งสร้างความสามัคคีร่วมร่วมใจให้มีความพร้อมเพรียงในการทำงานของกลุ่ม กระบวนการติดต่อสื่อสารประสานงาน ต้องเป็นคนที่มี มนุษยสัมพันธ์ที่ดีทั้งในด้านงานและด้านสังคม รู้จักใช้เครื่องมือในการติดต่อสื่อสารประสานงานเป็นสื่อกลางให้ลูกน้องเข้าใจคำสั่งรับรู้และสามารถนำไปปฏิบัติได้ ใช้แรงจูงใจบุคคลทุกระดับและทุกสถานการณ์ การบรรลุจุดประสงค์ ต้องเป็นผู้ใช้อิทธิพลโน้มน้าวชักจูงหรือจูงใจให้ทำงานให้สำเร็จตามจุดประสงค์ หรือเป้าหมายที่ผู้นำได้ได้ตั้งใจ

12 องค์ประกอบที่มีอิทธิพลต่อแบบภาวะผู้นำ
ลักษณะของผู้นำ(Trait of Leader) ผู้นำต้องมีบุคลิกภาพที่ดี มีลักษณะท่าทาง มีความตื่นตัวมีสติปัญญามีความทะเยอทะยานมีความคิดริเริ่ม รู้จักการเข้าสังคม เป็นแบบอย่างผู้ใต้บังคับบัญชา เกิดการยอมรับ ลักษณะของผู้ตาม (Trait of Followers) พิจารณาถึงองค์ประกอบพื้นฐานด้านการศึกษา เชื้อชาติ เพศ อายุ ทัศนคติ เจตคติ ค่านิยม อารมณ์ของผู้ตาม สามารถพิจารณาว่าผู้ตามเป็นแบบไหนอย่างไร เพื่อจะวางตัวผู้นำให้สอดคล้องเหมาะสมกับองค์กรหรือหน่วยงาน ลักษณะของตัวงานหรือเนื้อหาของงาน(Characteristic of Task) ตัวงานหรือเนื้อหาของงานมีรายละเอียดแตกต่างกัน จึงต้องการผู้นำที่มีความสามารถพิเศษเฉพาะอย่างเหมาะสมกับเนื้อหาของงานนั้นๆ ลักษณะขององค์การ (Characteristic of Organization) ต้องพิจารณาศึกษาถึงปรัชญา ค่านิยมขององค์การ จะทำให้เกิดแบบอย่างของการบริหาร เช่น ต้องการควบคุมมากใช้ผู้นำตามทฤษฎี X ถ้าไม่ต้องควบคุมมากให้อิสระบ้างใช้ผู้นำตามทฤษฎี Y สิ่งแวดล้อมภายนอก(External Environment) สิ่งแวดล้อมภายนอกของผู้นำแต่ละกรณีแตกต่างกันไปเป็นกรณีไป สถานการณ์อย่างหนึ่งเหมาะสมหรือสอดคล้องกับความต้องการผู้นำแบบหนึ่ง

13 ประเภทของผู้นำ Edwin B. Flippo แบ่งผู้นำได้ 2 ประเภท
ผู้นำประเภทนิเสธ(Negative Leadership) หมายถึง ผู้นำที่มีลักษณะเผด็จการ ใช้วิธีบริหารแบบรวมอำนาจ ศูนย์รวมอำนาจอยู่ที่ตัวผู้นำ ใช้อำนาจในลักษณะที่ทำให้ผู้ร่วมงานเกิดความเกรงกลัว จำเป็นต้องปฏิบัติตามแนวทางที่ผู้นำต้องการ โดยอาศัยอำนาจหน้าที่เป็นเครื่องมือ ผู้นำประเภทปฏิฐาน(Positive Leadership) หมายถึง ผู้นำที่มีลักษณะประชาธิปไตยใช้วิธีบริหารแบบกระจายอำนาจ ให้อิสรเสรีภาพแก่ผู้ร่วมงานในการแสดงความคิดเห็น การใช้อำนาจในลักษณะที่มุ่งก่อให้เกิดความเลื่อมใสศรัทธาในการปฏิบัติงาน ผู้ใต้บังคับบัญชาเห็นชอบด้วยเหตุผลโดยอาศัยอำนาจบารมี

14 ประเภทของผู้นำ Robert Kreitner แบ่งผู้นำได้ 2 ประเภท
ผู้นำที่เป็นทางการ(Formal Leadership) หมายถึง ผู้นำที่ได้รับการแต่งตั้งหรือเลือกตั้ง ได้รับการประกาศให้รับรู้ทั่วไปอย่างเป็นทางการ ได้รับการมอบหมายอำนาจหน้าที่เป็นทางการ สามารถใช้อำนาจที่ติดมาจากตำแหน่ง ทำให้สมาชิกของกลุ่มยอมรับได้ สามารถโน้มน้าวชักจูงให้เกิดความเชื่อถือมีความเต็มใจปฏิบัติงานตามคำสั่ง ผู้นำที่ไม่เป็นทางการ(Informal Leadership) หมายถึง บุคคลที่ปฏิบัติการเป็นผู้นำของกลุ่ม โดยไมได้รับการแต่งตั้งหรือเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ เป็นผู้ที่ไม่มีอำนาจหน้าที่หรือมีฐานะเป็นผู้บังคับบัญชาในองค์การ แต่มีความเหมาะสมกับสถานการณ์นั้นและได้รับการยอมรับนับถือของบุคคลอื่นให้เป็นผู้นำที่ไม่เป็นทางการ เป็นผู้มีอิทธิพลที่จะชักจูงให้คนอื่นๆเชื่อถือเชื่อฟังความคิดเห็น ตลอดจนเต็มใจปฏิบัติตามได้

15 ประเภทของผู้นำ Lippitt and White แบ่งผู้นำได้ 3 ประเภท
ผู้นำแบบเผด็จการ (Autocratic Style) หมายถึง ผู้นำจะรวมอำนาจหน้าที่ทั้งหมดไว้ที่ตัวผู้นำ ผู้นำกำหนดนโยบาย เป้าหมาย เทคนิควิธีการและออกคำสั่งเกี่ยวกับการปฏิบัติงานทั้งหมด แล้วแจ้งผู้ใต้บังคับบัญชาทราบและนำไปปฏิบัติตาม การมอบหมายงานมีน้อยขนาดการควบคุมแคบ การควบคุมผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างใกล้ชิด ให้ความสำคัญเรื่องการออกคำสั่งเป็นสำคัญ ผู้นำแบบประชาธิปไตย(Democratic Style) หมายถึง ผู้นำที่ให้กลุ่มผู้ใต้บังคับบัญชาได้มีส่วนร่วมในกระบวนการกำหนดนโยบาย เป้าหมาย และวิธีการ ที่นำมาถึงเป้าหมายที่ต้องการ และยังเปิดโอกาสให้มีส่วนร่วมในการตัดสินใจและแสดงความคิดเห็นในปัญหาต่างๆ ผู้นำแบบเสรีนิยม(Laissez -Faire Style) หมายถึง ผู้นำที่ให้คำแนะนำโดยทั่วไปปล่อยให้ผู้ใต้บังคับบัญชาอิสระที่จะทำหน้าที่มีบทบาทในการกำหนดแนวทางที่จะนำมาใช้ในการปฏิบัติงานด้วยตนเองตามความต้องการ ปัญหาสำคัญ คือ การขาดผู้นำที่มีความแข็งแกร่ง กลุ่มผู้ใต้บังคับบัญชาจะไม่มีการควบคุมและสั่งการ

16 ประเภทของผู้นำ Getzels and Guba แบ่งผู้นำได้ 3 ประเภท
ผู้นำที่ยึดกฎหลักเกณฑ์ เป็นหลัก(The Nomothetic Leader) หมายถึง ผู้นำที่เน้นให้ความสำคัญกับตัวสถาบัน ยึดวัตถุประสงค์ ระเบียบกฎเกณฑ์ ข้อบังคับ และผลประโยชน์ ของสถาบันเป็นหลัก ใช้อำนาจและระเบียบกฎเกณฑ์ ข้อบังคับของสถาบันเป็นเครื่องมือในการดำเนินงาน ให้บุคลากรมีบทบาทตามสถาบันกำหนด โดยไม่คำนึงถึงความรู้สึกของบุคคลอื่น ผู้นำที่ยึดอุคมการณ์เป็นหลัก(The Ideographs Leader) หมายถึง ผู้นำที่ยึดแนวคิดของตน หรือคนที่ให้ความเคารพนับถือเป็นพิเศษยึดเป็นหลักและแนวทางในการตัดสินใจ ใช้การแก้ปัญหาเป็นรายบุคคล โดยพิจารณาตัวบุคคลที่เกี่ยวข้องกับปัญหาเป็นรายๆไป ผู้นำที่ยึดการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์(The Transactional Leader) หมายถึง ผู้นำที่ยึดทั้งประโยชน์ของสถาบันและของบุคคลทั้งสองอย่างไปพร้อมๆกัน ใช้ความอะลุ้มอล่วยถึงผลได้ผลเสีย ระหว่างประโยชน์ของสถาบันและของบุคคล เป็นผู้นำที่นิยมใช้การประนีประนอมในทุกเรื่องเป็นแนวยุติปัญหากรณี

17 เกณฑ์ที่ใช้แบ่งแบบของผู้นำ แบบของผู้นำ
แบบของผู้นำตามลักษณะหรือวิธีการใช้อำนาจ แบบของผู้นำตามการได้มาซึ่งอำนาจ แบบของผู้นำตามลักษณะละวิธีการทำงาน แบบของผู้นำแบ่งตามจุดมุ่งหมายของผู้นำ 1.1 ผู้นำแบบอัตตาธิปไตย(Autocratic Leaders) 1.2 ผู้นำแบบประชาธิปไตย(Democratic Leaders) 1.3 ผู้นำแบบเสรีนิยม(Laissez -Faire Leaders) 2.1 ผู้นำที่มีคุณลักษณะพิเศษ(Charismatic Leaders) 2.2 ผู้นำตามกฎหมาย(Legal Leaders) 2.3 ผู้นำที่เป็นสัญลักษณ์(Symbolic Leaders) 3.1 ผู้นำแบบเจ้าระเบียบ(Regulative Leaders) 3.2 ผู้นำแบบบงการ(Directive Leaders) 3.3 ผู้นำแบบจูงใจ(Persuasive Leaders) 3.4 ผู้นำแบบร่วมใจ(Participative Leaders) 4.1 ผู้นำที่มุ่งงาน(Task motived Leaders or Task Oriented Leaders ) 4.2 ผู้นำที่มุ่งความสัมพันธ์(Relationship motived Leaders or 4.1 ผู้นำที่มุ่งงาน(Task motived Leaders or Task Oriented Leaders ) Oriented Leaders )

18 ตารางแสดงเปรียบเทียบพฤติกรรมของผู้นำ
อัตตาธิปไตย ประชาธิปไตย เสรีนิยม นโยบายและการตัดสินใจทุกอย่างขึ้นอยู่กับผู้นำแต่เพียงผู้เดียว ผู้นำมักออกคำสั่งให้ดำเนินงานทีละขั้นตอนจึงไม่อาจทราบแผนงานที่จะทำต่อไปในอนาคต ผู้นำจะเป็นผู้สั่งให้สมาชิกแต่ละคนทำงานร่วมกัน การชมเชยการวิพากษ์วิจารณ์งานของสมาชิกแต่ละคนเป็นไปโดยส่วนตัวของผู้นำมักไม่เข้าไปร่วมงานต่างๆของกลุ่มด้วย นอกจากสาธิตให้ดู นโยบายทุกอย่างได้มาจากการอภิปรายและลงมติของกลุ่มโดยผู้นำเป็นผู้ช่วยเหลือสนับสนุนทุกอย่าง การวางแผนและขั้นตอนของการดำเนินงานได้มาจากการอภิปรายของกลุ่มผู้นำเพียงแต่คอยให้กำลังใจและให้คำปรึกษาแนะนำ สมาชิกในกลุ่มต่างมีอิสรเสรีที่จะเลือกทำงานกับใครก็ได้การแบ่งงานขึ้นอยู่กับกลุ่มที่จะพิจารณาร่วมกัน ผู้นำจะชมเชยหรือวิพากษ์วิจารณ์งานอย่างเที่ยงตรงจริงใจและทำตัวเป็นสมาชิกคนหนึ่งของกลุ่ม การตัดสินใจของกลุ่มหรือของแต่ละบุคคลเป็นอย่างเสรี ผู้นำมีส่วนในการตัดสินใจน้อยมาก ผู้นำเพียงแต่เป็นผู้จัดหาอุปกรณ์เครื่องมือให้ตามกลุ่มเรียกร้องต้องการแต่ไม่มีส่วนอภิปรายเกี่ยวกับงานกลุ่ม การทำงานหรือใครทำงานกับใคร ผู้ทำไม่มีส่วนร่วมเลย การแสดงความคิดเห็นต่างๆมีน้อยมากนอกจากสมาชิกถามไม่สามารถประเมินผลหรือกำหนดนโยบายวางกฎเกณฑ์ในการดำเนินงานของกลุ่มได้

19 2.4 ตาข่ายพฤติกรรมการบริหาร (ต่อ) Robert R. Blake & Jane S. Mouton
สูง ผู้นำที่เน้นความสนใจที่คน 1,9 (ผู้นำสโมสร) ผู้นำที่เอาใจใส่ทั้งคนและงาน (ผู้นำในอุดมคติ) 9,9 ผู้นำที่เดินสายกลาง (พบกันครึ่งทาง) 5,5 มุ่งเน้นผู้ร่วมงาน ผู้นำที่ไม่สนใจทั้งงานและคน 1,1 (ปล่อยปละละเลย) ผู้นำที่เน้นความสนใจที่งาน (ผู้นำแบบเผด็จการ) 9,1 ต่ำ ต่ำ มุ่งเน้นผลผลิต / งาน สูง 19

20 หน้าที่ของผู้นำ Urwick หน้าที่ของผู้นำมี 4 ประเภท
เป็นตัวแทนขององค์การ เป็นผู้ชักนำความมีชีวิตชีวามาสู่กลุ่ม เป็นผู้บริหาร หมายถึง การวางแผน การจัดองค์การ การประสานงาน การอำนวยการ การควบคุมดูแลงาน การรับผิดชอบ การคาดคะเน จนถึงการรักษาวินัย สร้างความกระจ่างแจ้งของเหตุผลในการดำเนินงานทุกอย่างแก่ทุกคน Haskell ผู้นำมีหน้าที่ 4 ประการ ทำให้ผู้ร่วมงานมีความสนใจ มีจิตใจจดจ่อกับวัตถุประสงค์ขององค์การ ทำให้การติดต่อสื่อสารภายในองค์การกระจ่างชัดแจ้ง ขจัดข้อคับข้องใจ ให้ความเป็นธรรมต่อการร้องทุกข์ของผู้ใต้บังคับบัญชา ทำให้ผู้ร่วมงานตื่นตัว มีความกระตือรือร้นที่จะทำงาน

21 หน้าที่ของผู้นำ Krech, Crutchfield และ Ballachey หน้าที่ของผู้นำมี 2 ประเภท หน้าที่เบื้องต้น ผู้บริหาร ผู้วางแผน ผู้วางนโยบาย ผู้เชี่ยวชาญ ตัวแทนของกลุ่ม ผู้ควบคุมความสัมพันธ์ ผู้ให้รางวัลและทำโทษ อนุญาโตตุลาการและผู้ไกล่เกลี่ย หน้าที่ประกอบ ผู้เป็นตัวอย่าง ผู้เป็นสัญลักษณ์ของกลุ่ม ผู้เป็นตัวแทนความรับผิดชอบของแต่ละคน ผู้นำทางความคิด ผู้เป็นเสมือนบิดา ผู้รับผิดแทน สรุป ผู้นำมีหน้าที่สำคัญ 2 ประการที่ต้องทำก่อน คือ เกี่ยวกับเรื่องตัวงานและการแก้ปัญหาในงาน เกี่ยวกับเรื่องของตัวคนเป็นหน้าที่ทางด้านสังคม ถ้าผู้นำคนใดสามารถปฏิบัติหน้าที่ครบทั้ง 2 อย่างได้สำเร็จแล้ว จะทำให้เป็นผู้นำที่มีประสิทธิภาพ การปฏิบัติงานในกลุ่มหรือในองค์การสามารถลุล่วงประสบความสำเร็จเป็นไปด้วยดี

22 จบบทที่ 1 แล้วจ้า ขอขอบคุณที่สนใจฟัง...


ดาวน์โหลด ppt ภาวะผู้นำ ทางการประกอบการธุรกิจ

งานนำเสนอที่คล้ายกัน


Ads by Google