งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ

งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ

พลุและดอกไม้ไฟ.

งานนำเสนอที่คล้ายกัน


งานนำเสนอเรื่อง: "พลุและดอกไม้ไฟ."— ใบสำเนางานนำเสนอ:

1 พลุและดอกไม้ไฟ

2 อันตรายที่เกิดขึ้น อันตรายจากการเกิดไฟไหม้และการระเบิด
อุบัติเหตุที่เกิดจากพลุและดอกไม้ไฟที่นำ มาซึ่งความสูญเสีย มากที่สุด ก็คืออุบัติเหตุที่เกิดจากการระเบิดของพลุและ ดอกไม้ไฟ โดยเฉพาะกับการระเบิดที่เกิดขึ้นภายในโรงงานที่ ผลิต นอกจากนี้สาเหตุของการระเบิดและไฟไหม้อาจ ไม่ได้ เกิดจากความไม่ได้มาตรฐานของโรงงานที่ผลิตแต่เพียงอย่าง เดียว ยังมีหลายเหตุการณ์ที่เกิดจากความประมาทของผู้ที่ซื้อ พลุไปจุดเล่นแล้วไม่ ระมัดระวัง พลุหรือดอกไม้ไฟที่จุดไปตก ยังบริเวณที่เสียงต่อการติดไฟทำให้ไฟเกิดลุกไหม้ อันตรายจากการได้รับสารเคมี ส่วนประกอบหลักของพลุและดอกไม้ไฟเกิด จากการผสมกัน ของสารเคมีหลากหลายชนิด มีผลทำให้เกิดการระคายเคือง ต่อผิวหนังและระบบทางเดินหายใจส่วนบน ตาแดง ผิวหนัง อักเสบ หายใจขัด คลื่นไส้ ท้องเสีย และกล้ามเนื้ออ่อนแรง และยังทำให้เกิดอัมพาตที่แขน ขา และบางรายอาจทำให้ เสียชีวิตได้

3 อันตรายที่เกิดขึ้น อันตรายจากความร้อน
อันตรายการได้รับเสียงดัง มีข้อมูลจากกรมอนามัย เรื่องความดังของเสียงระเบิดจากพลุ และดอกไม้ไฟมีระดับเสียงกระแทกสูงถึง 130 เดซิเบล เอ ซึ่งสูงเกินกว่ามาตรฐานที่องค์การอนามัยโลกกำหนดไว้ที่ 85 เดชิเบล เอ การที่หูของเราได้รับเสียงที่มีความดังเกินกว่า 130 เดซิเบล เอ มีผลทำให้เราเกิดอาการหูตึงชั่วคราว อันตรายจากความร้อน พลุและดอกไม้ไฟใช้การจุดระเบิดเป็นตัวทำ ปฏิกิริยา ซึ่งการ จุดไฟสิ่งที่ตามด้วยเสมอก็คือความร้อน หลายคนหลง เพลิดเพลินกับประกายสะเก็ดไฟที่สวยงาม จนลืมนึกถึงความ ร้อนของสะเก็ดไฟเหล่านั้น ซึ่งเป็นความร้อนที่มีอุณหภูมิสูง มาก ตัวอย่างพลุที่ชื่อเรียกว่า ไฟเย็น ซึ่งเป็นที่นิยมมาก หลายๆ คนน่ารู้จักกันดี แม้จะชื่อไฟเย็นแต่เวลาที่จุดจะมี อุณหภูมิความร้อนสูงสุดถึง 900 องศาเซลเซียส ซึ่งถือเป็น ความร้อนในระดับที่สามารถทำให้ผิวหนังไหม้ได้หากไป สัมผัสถูก

4 11 ข้อห้าม!!! ป้องกันอันตรายจากพลุและดอกไม้ไฟ
1.ห้ามให้เด็กๆ เล่นพลุและดอกไม้ไฟ หรือควรต้องอยู่ในความดูแล ของผู้ใหญ่ 2.ห้ามเล่นพลุและดอกไม้ไฟ ที่ซื้อจากร้านค้าที่ไม่มีความน่าเชื่อถือ สินค้าอยู่ในสภาพไม่สมบูรณ์ เก่า และไม่มีฉลากภาษาไทยที่ถูกต้อง ชัดเจน 3.ห้ามเล่นพลุและดอกไม้ไฟ ถ้ายังไม่ได้อ่านฉลาก คำแนะนำ วิธีการใช้ คำเตือน 4. ห้ามจุดดอกไม้ไฟที่เสื่อมสภาพหรือดอกไม้ไฟที่ถูกจุดแล้วแต่ยังไม่ ระเบิด(ไม่ทำงาน) เพราะพลุและดอกไม้ไฟนั้นอาจระเบิดโดยไม่คาดคิด 5.ห้ามจุดพลุและดอกไม้ไฟ ถ้ายังไม่ได้เตรียมกระป๋องหรือถังใส่น้ำไว้ ใกล้บริเวณที่จะจุดพลุหรือดอกไม้ ไฟ เผื่อไว้ในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉิน 6.ห้ามเข้าใกล้ดอกไม้ไฟที่ถูกจุดแล้วหรือดอกไม้เพลิงที่ยังดับไม่สนิท 7.ห้ามจุดพลุหรือดอกไม้ไฟ หากไม่อยู่ในระยะที่ปลอดภัย คือ 1 เมตร หรือ 1 ช่วงแขน 8.ห้ามประกอบหรือดัดแปลงพลุหรือดอกไม้ไฟไว้เล่นเองโดยเด็ดขาด 9.ห้ามเก็บพลุและดอกไม้ไฟไว้ในบ้าน หากต้องเก็บควรเก็บในบรรจุ ภัณฑ์ที่ปิดฝามิดชิด สถานที่เก็บควรเป็นที่แห้งและมีอากาศเย็น 10.ห้ามจุดพลุหรือดอกไม้ไฟ ในพื้นที่โล่งแจ้ง บริเวณที่มีหญ้าแห้งหรือ บริเวณที่เป็นสนามหญ้า เพราะหญ้าเหล่านั้นสามารถลุกติดไฟได้ หลีกเลี่ยงบริเวณอาคารบ้านเรือน หรือแหล่งที่มีวัสดุที่ติดไฟง่าย พวก ก๊าซ น้ำมัน หรือเชื้อเพลิง 11.ห้ามเล่นพลุและดอกไม้ไฟโดยเด็ดขาด หากไม่จำเป็น

5 การจมน้ำ อุบัติเหตุจากการจมน้ำ
อุบัติเหตุจากการจมน้ำ  มักเกิดจากจากการจมน้ำในอ่างอาบน้ำ สระว่ายน้ำในบ้านหรือสระว่ายน้ำสาธารณะที่ไม่มีเจ้าหน้าที่ดูแลประจำ สระน้ำ หรือบ่อน้ำ บ่อเลี้ยงปลา หรือแหล่งน้ำธรรมชาติ แม้กระทั่งโถ ชักโครก หรือตามบ้านเรือนที่เป็นพื้นไม้และมี ร่องหรือรอยแตกขนาดใหญ่โดยพื้นล่างเป็นแหล่งน้ำ ซึ่งพบมากในกลุ่มเด็กทารก ถึงเด็กอายุ 4 ปี การพลัดตก หรือ จมน้ำโดยร่างกายขาดออกซิเจน เพียงไม่กี่วินาที ก็ทำให้สมองได้รับอันตรายอย่างถาวร หรือตายได้ ในต่างประเทศ มีจำนวนคนจมน้ำตายสูงพบว่ามีคนจมน้ำตายร้อยละ 28 ของการตาย ที่ไม่ใช่อุบัติเหตุจากการจราจร และการ จมน้ำตายเป็นสาเหตุการตายของทารกสูงถึงร้อยละ 65

6 สาเหตุการจมน้ำ การป้องกันการจมน้ำ
      1. การขาดการระมัดระวัง เช่น การรื่นหกล้มของผู้สูงอายุที่อาบน้ำใน อ่าง ทำให้เกิดหมดสติและจมน้ำตาย การพลัดตกลงไปในบ่อน้ำหรือสระ ว่ายน้ำในบ้าน การปล่อยให้เด็กทารก หรือเด็กเล็กอาบน้ำ หรือเล่นน้ำตาม ลำพัง แม้เพียงเวลา 2-3 นาที ก็อาจทำให้เด็กสำลักและจมน้ำตายได้       2. การเล่นการหยอกล้อกัน ความคึกคะนองทำให้พลัดตกลงไปในบ่อ น้ำหรือสระว่ายน้ำได้ และหากว่าบ่อเล็กและว่ายน้ำไม่เป็นด้วยก็จะทำให้ จมน้ำถึงแก่ความตายได้การจมน้ำเป็นปรากฏการณ์มีเหตุปัจจัยนำ หาก เราวิเคราะห์แล้วพบว่า สามารถป้องกันได้เช่นเดียวกับอุบัติเหตุอื่นๆ       3. สิ่งแวดล้อมทางกายภาพ การมีแหล่งน้ำใกล้ตัวเด็ก เด็กสามารถ เข้าถึงได้ง่าย (มีถังน้ำ สระว่ายน้ำหนอง คลอง บึงใกล้บ้าน)ไม่มีรั้วรอบขอบ ชิดแบ่งแยกเด็กออกจากแหล่งน้ำนั้นอย่างชัดเจน       4. สิ่งแวดล้อมทางสังคม คือการดูแลเด็ก เช่นผู้ดูแลที่ไม่ใช่ผู้ดูแลหลัก ผู้ดูและขาดการรับรู้เรื่องความเสี่ยง ผู้ดูแลต้องดูแลเด็กหลายคนในเวลา เดียวกัน การจมน้ำในเด็กอายุน้อยกว่า15 ปี เกิดขึ้นในบ้าน รอบบ้าน และละแวก บ้าน เป็นแหล่งน้ำนิ่ง และแหล่งน้ำไหลและแหล่งน้ำในบ้าน 1.การป้องกันในเด็กเล็ก เข้าใจในพัฒนาการเด็ก เฝ้าดูใกล้ชิด จัด สิ่งแวดล้อมให้ปลอดภัย ไม่ควรไว้วางใจเด็กว่าจะสามารถหลีกเลี่ยงอันตรายที่ อยู่รอบตัวได้ เด็กที่ว่ายน้ำเป็นก่อนอายุ 5 ขวบทุกรายให้ถือว่าเด็กนั้นว่ายน้ำไม่ เป็น ยังต้องดูแลใกล้ชิดเหมือนเดิม ดังนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการป้องกันการ จมน้ำในเด็กวัยนี้คือ การจัดสิ่งแวดล้อมรอบตัวเด็กไม่ให้มีแหล่งน้ำที่เด็ก สามารถเข้าถึงได้ ไม่ปล่อยให้เด็กเล่นน้ำตามลำพัง        2.เด็กในวัยเรียน สอนว่ายน้ำ สอนให้เด็กหลีกเลียงความเสี่ยง และจัด สิ่งแวดล้อมให้ปลอดภัย ออกกฎข้อห้ามต่างๆให้แก่เด็กได้ ดังนั้นการชี้จุด อันตราย ยกตัวอย่างเหตุการณ์อันตราย เพื่อห้ามปรามเด็กในการเล่นน้ำใน แหล่งน้ำต่างๆหรือเล่นปีนป่าย การฝึกการใช้ชูชีพในการเล่นน้ำจะป้องกัน อันตรายจากการจมน้ำในเด็กวัยนี้ได้เช่นกัน      3.วัยรุ่น ไม่เมาแล้วว่ายน้ำ  เดินทางปลอดภัย สำหรับเด็กโต 10 – 15 ปีมักเกิดการจมน้ำขณะเล่นน้ำ เดินทางท่องเที่ยวทางน้ำ ดังนั้นในการสอน ให้เด็กว่ายน้ำเป็น เล่นน้ำโดยมีชูชีพในกรณีว่ายน้ำไม่เป็นหรือเล่นน้ำในแหล่งน้ำ ที่อาจมีอันตราย เด็กวัยรุ่นอาจเมามายกับเพื่อนขณะไปท่องเที่ยวหรือเล่นน้ำ โลดโผน จนเกินขอบเขต ดังนั้นผู้ดูแลเด็กต้องสอนให้เด็กรับรู้ความเสี่ยง ต้องไม่ ดื่มสุรา ขณะเล่นน้ำ ไม่กระโดดน้ำถ้าไม่แน่ใจความลึกของน้ำ ไม่สูดลมหายใจ เข้าออกถี่ๆและตามด้วยการดำน้ำกลั้นหายใจนานๆตามหลัง เพราะอาจจะทำ ให้หมดสติในน้ำได้ง่าย สอนให้เด็กเล่นน้ำ หากมีอาการตะคริวเกิดขึ้น

7 จมน้ำกับตกน้ำ ต่างกันอย่างไร
การปฐมพยาบาลคนจมน้ำ จมน้ำกับตกน้ำ ต่างกันอย่างไร      จมน้ำ(Drowning) หมายถึง อุบัติเหตุจมน้ำซึ่งมี ผู้เสียชีวิต ณ จุดเกิดเหตุและเสียชีวิตภายใน 24 ชั่วโมง หลังจากการเกิดอุบัติเหตุจากภาวการณ์ขาดออกซิเจน เนื่องจากการสำลักน้ำที่จะเข้าไปในปอดทำให้เสียชีวิตได้      ตกน้ำ(Near-drowning) หมายถึงอุบัติเหตุจมน้ำ ซึ่งผู้ป่วยมีอาการตอบสนองที่ดีต่อการช่วยเหลือขั้นต้น และไม่ เสียชีวิตภายใน 24 ชั่วโมง ในกรณีที่มีการขาดออกซิเจน รุนแรงและนาน ผู้ป่วยอาจจะเสียชีวิตในระยะต่อมาจาก ภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ การรักษา การปฐมพยาบาล  1. ถ้าผู้ป่วยหยุดหายใจ ให้ทำการเป่าปาก ช่วยหายใจทันที อย่า มัวเสียเวลาในการพยายามเอาน้ำออกจากปอดของผู้ป่วย (เช่น การจับแบก พาดบ่า) หรือทำการผายปอดด้วยวิธีอื่น เพราะจะไม่ ทันกาลและไม่ได้ผล  ถ้าเป็นไปได้ ควรลงมือเป่าปาก ตั้งแต่ก่อนขึ้นฝั่ง 2. ถ้าคลำชีพจรไม่ได้ หรือหัวใจหยุดเต้น ให้ทำการนวดหัวใจทันที  3. ถ้าผู้ป่วยยังหายใจได้เอง หรือช่วยเหลือจนหายใจได้แล้ว ควร จับผู้ป่วยนอนตะแคงข้าง และศีรษะ หงายไปข้างหลัง เพื่อให้น้ำ ไหลออกทางปาก ใช้ผ้าห่มคลุมผู้ป่วยเพื่อให้เกิดความอบอุ่น อย่า ให้ผู้ป่วยกินอาหารและดื่มน้ำทางปาก 4. ควรส่งผู้ป่วยที่จมน้ำไม่ว่าจะมีอาการหนักเบาเพียงใด ไปพัก รักษาตัวที่โรงพยาบาลทุกรายในรายที่หมดสติและหยุดหายใจ ควร ผายปอด ด้วยวิธีเป่าปากไปตลอดทาง อย่าเพิ่งรู้สึกหมดหวัง  แล้ว หยุดให้การช่วยเหลือ

8

9 แนะหลักปฏิเสธ '7 ไม่' กันเสียสาววันวาเลนไทน์
1.ไม่ไปร่วมงานคนเดียว ควรมีเพื่อนที่ไว้ ใจได้ไปด้วย 2.ไม่ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ หากต้องดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ให้ ดื่มพอประมาณ เพื่อให้มีสติอยู่ตลอดเวลา 3.ไม่รับเครื่องดื่มจากคนที่ไม่รู้จักดี หรือไม่สามารถเชื่อใจได้ 4.ไม่ดื่มเครื่องดื่มแก้วเดียวกับผู้อื่น 5.ไม่ดื่มอย่างรวดเร็วเพราะหากเครื่องดื่มถูกใส่ยาลงไป จะได้มีเวลาที่จะ ระวังตัวได้ทัน 6.ไม่ดื่มเครื่องดื่มที่อยู่ในภาชนะที่มีปากกว้าง เช่น อ่างใส่น้ำพั้นซ์ เพราะ ง่ายต่อการถูกใส่ยา หรืออาจถูกใส่ยาไปแล้ว 7.ไม่ควรละสายตาจากเครื่องดื่มของตน หากต้องเข้าห้องน้ำหรือออกไป เต้นรำ กลับมาแล้วควรเปลี่ยนแก้วใหม่ทันที

10 สิ่งที่ตามมาหลังวันวาเลนไทน์
โรคเอดส์ (AIDS) หรือกลุ่มโรคภูมิคุ้มกันเสื่อม เกิดจากการรับเชื้อ HIV (Human immunodeficiency) เข้าไปทำลายเม็ด เลือดขาว ทำให้ภูมิคุ้มกันในร่างกายบกพร่อง และเกิดโรคแทรกซ้อน ตามมาได้ง่าย   โรคหนองในแท้ (Gonorrhoea) เป็นโรคติดต่อจากเชื้อ แบคทีเรียชื่อ Neisseria gonorrhoeae จะมีอาการปัสสาวะ แสบขัด รู้สึกระคายเคืองในท่อปัสสาวะ มีหนองไหลออกมาจากท่อ ปัสสาวะ หากไม่รีบรักษาอาจเกิดการอักเสบในที่สุด  โรคหนองในเทียม (Non-gonococcal Urethritis/Non gonococcal Cervicitis)เป็นโรคที่ติดต่อทางเชื้อแบคทีเรีย เช่นเดียวกับหนองในแท้ มีอาการคล้ายกับหนองในแท้ คือ มีปัสสาวะ ขัด หนองไหล มีมูกไหลออกมาจากอวัยวะเพศ ส่วนผู้หญิงอาจมีตก ขาวมีกลิ่นเหม็น   โรคซิฟิลิส เกิดจากติดเชื้อ Treponema Pallidum เป็น โรคที่อันตรายและเป็นติดต่อแบบเรื้อรัง แบ่งออกเป็น 4 ระยะ ลักษณะ การติดเชื้อจะเริ่มจากมีก้อนแข็ง ๆ เจ็บ ๆ บริเวณอวัยวะเพศ หากไม่รีบ รักษาไปอาการจะรุนแรงขึ้นถึงขั้นลุกลามไปทำลายอวัยวะต­­­าง ๆ เช่น หัวใจและหลอดเลือด  แผลริมอ่อน เกิดจากเชื้อ Haemophilus Ducreyi ทำให้ เกิดแผลที่อวัยวะเพศ บวมและเจ็บ บางคนมีต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบ หรือที่ชาวบ้านเรียกไข่ดันบวม หากไม่รักษาหนองจะแตกออกจากต่อม น้ำเหลือง และในบางรายต่อมน้ำเหลืองจะแตกเมื่อกลายเป็นฝี  HPV (Human Papilloma virus) เป็นเชื้อไวรัสที่ติดต่อ จากการสัมผัสทางผิวหนัง แบ่งชนิดของโรคเป็น ชนิดความเสี่ยงต่ำและ ความเสี่ยงสูง ในชนิดความเสี่ยงต่ำจะมีอาการของหูดหงอนไก่ ส่วน ชนิดความเสี่ยงสูงจะเพิ่มโอกาสการเป็นมะเร็งที่องคชาติ และปาก มดลูกได้ 

11 20 เรื่องที่ควรจะรู้ไว้เกี่ยวกับวันวาเลนไทน์
1. วันวาเลนไทน์เกิดขึ้นระลึกถึงนักบุญเซนต์วาเลนไทน์ (Saint Valentine) ผู้รับโทษประหารในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 270 เพราะใน ยุคนั้นมีกฎหมายห้ามไม่ให้มีแต่งงานของพวกคริสเตียน แต่เซนต์วาเลนไทน์ยัง แอบจัดงานแต่งงานให้กับคู่รักคริสเตียนจนถูกจับขังและรับโทษ ในขณะที่ถูกคุม ขังนั้น เขาก็พบรักกับสาวตาบอดซึ่งเป็นลูกสาวของผู้คุม ด้วยความรักและคำ อธิษฐานของเขา พระเจ้าได้ทรงโปรดให้ตาของสาวคนรักหายเป็นปกติ แต่เมื่อ ความนี้ล่วงรู้ถึงหูกษัตริย์ เซนต์วาเลนไทน์จึงถูกประหารชีวิตด้วยการตัดศรีษะ ต่อมาเมื่อคนทั่วไปทราบเรื่องราวจึงเกิดความประทับใจและยึดถือเอาวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ของทุกปีเป็น วันแห่งความรัก นั่นเอง 2. คนที่ฟ้าส่งมาให้รักเรามากที่สุดคือ พ่อแม่ เป็นรักไม่มีเงื่อนไข เพราะต่อให้ เราอ้วน น่าเกลียด พิการ ทำตัวงี่เง่ายังไง พ่อแม่ก็ยังรักและพร้อมจะเสียสละเพื่อ เราเสมอ ดังนั้นในวันวาเลนไทน์ จึงอยากให้คุณๆ ทำดีต่อคุณพ่อคุณแม่ให้มากๆ นะคะ 3. คนที่ไม่มีแฟน เพราะคนโสดก็มีความรักได้ และคนที่น่าสงสารที่สุดก็คือคน ที่ไม่มีความรักในหัวใจต่างหากล่ะ อีกอย่าง...คนที่มีแฟน แต่แฟนห่วยแตก ชีวิต เหมือนถูกขังให้ทรมานไปวันๆ น่าสงสารกว่าคนโสดเป็นไหนๆ 4. จากการสำรวจพบว่าในวัยเรียน เด็กคอซอง คนที่ให้ของขวัญบอกรักกัน มากที่สุดในวันวาเลนไทน์ ไม่ใช่ คู่รัก แต่เป็น เพื่อน ดังนั้นอย่าเครียดไปเลยที่ แม้ว่าจะยังไม่มีแฟนมาควงแขนอวดใครในวันวาเลนไทน์ เพราะถึงยังไง เราก็ยัง มีเพื่อนมากมายที่มอบความรักต่อกันได้อยู่นะ 5. กุหลาบราคาแพงไม่ได้แสดงว่าเค้ารักเรามากจริงๆ ดังนั้นอย่าไปเชื่อคำพูดของ ใครว่า รักเรามาก เพียงเพราะเค้าให้ดอกกุหลาบราคาแพงหูฉี่ เรื่องแบบนี้อยู่ที่ใจ ล้วนๆ 6. ครูที่ปรึกษาหลายท่านร้องไห้ด้วยความทราบซึ้ง เมื่อลูกศิษย์ประจำห้องมอบ ดอกกุหลาบวันวาเลนไทน์ให้ท่านคนละดอก 7. เมื่อเธอมองรอบตัว จะพบสิ่งมีชีวิตเป็นผู้ให้ความรักแก่พวกเขา มีเมตตาแก่พวก เขาดู แล้วเธอจะเต็มอิ่มไปด้วยรักในหัวใจ 8. คนที่ได้ดอกกุหลาบมากที่สุด ไม่ได้หมายความว่าคนๆ นั้นจะมีความรักที่น่า อิจฉาที่สุด ตรงกันข้าม คนที่ไม่ได้ของขวัญวาเลนไทน์ซักชิ้น อาจจะมีรักที่น่าอิจฉา ที่สุดเลยก็เป็นได้ 9. ของขวัญวาเลนไทน์ที่มีค่าที่สุด อาจลงทุนน้อยที่สุด เช่น การ์ดที่ตั้งใจทำกับมือ ดาวกระดาษที่พับมาเป็นเดือนๆ หรือของราคาถูกแต่ตั้งใจหาซื้อมาด้วยใจ เพราะฉะนั้น อย่าตีค่าความรักของใครด้วยราคาของขวัญที่เค้าให้ เราดูที่การกระทำ ดีกว่านะ ก็มีค่ายิ่งใหญ่สุดๆ แล้ว เดือนกุมภาพันธ์ซึ่งเป็นเดือนแห่งความรัก กลับเป็นเดือนที่มีวันน้อยที่สุดของปี บอกให้เรารู้ว่า ความรักจะสั้นหรือยาวไม่ได้อยู่ที่วันเวลาที่คบกันมา แต่อยู่ที่การทำ ทุกนาทีให้มีค่าร่วมกันนะจ๊ะ

12 16. ผู้ชาย 55 เปอร์เซ็นต์มองว่าการให้ดอกไม้วาเลนไทน์เป็นเรื่องไร้สาระ บางคนถือว่าการให้ดอกไม้ผู้หญิงเป็นพวกเชยระเบิด ถ้าจะต้องทำเซอร์ไพร้ส์ ให้เราวันวาเลนไทน์ เพราะความรักของเค้าอาจจะไม่ได้โฟกัสที่ตรงจุดนั้น สิ่งที่จะทำให้ผู้ชายซึ้งใจและรักเรามากคือความเข้าใจ ไม่ใช่ของขวัญวา เลนไทน์ราคาแพง เพราะฉะนั้นไม่จำเป็นเลยที่เราจะต้องอดข้าว อดน้ำเพื่อซื้อ ของราคาแพงเกินตัวให้เค้า ถ้าเค้ารักเราจริง เค้าคงไม่สบายใจที่เห็นเราต้อง ทรมานตัวเองแบบนั้นหรอกนะ ความเข้าใจในตัวของเค้าและอยู่กับเค้าโดย สร้างความสุขให้กันได้ทุกวัน สำคัญสุดแล้ว โลกของเราก็อยากได้ของขวัญวาเลนไทน์จากเธอ ลองหันมารักโลก ทำ สิ่งดีๆ ให้โลกกันดูไหม เช่น ปลูกต้นไม้ สัญญากับตัวเองว่าจะลดการใช้ ถุงพลาสติก ประหยัดไฟ ประหนัดน้ำ ฯลฯ แบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะ ความสำคัญของการมีแฟนไม่ได้อยู่ที่มีคนเดินด้วยในวันวาเลนไทน์ เท่านั้น ฉะนั้นอย่าคิดโง่ๆ แค่ว่า อยากมีแฟนเพราะจะได้มีคนมาเดินข้างๆ ใน วันวาเลนไทน์ จนต้องรีบควานหาเอาใครก็ได้มาเคียงคู่ เพียงเพราะว้อนท์ อยากมีแฟนใจจะขาด แบบนั้นเธอเสี่ยงจะเจอรักคุดหรือรักสุดอะเฟดได้ เราสามารถมีวันวาเลนไทน์ได้ทุกวัน แค่เพียงทำทุกวันให้เป็นวันแห่ง ความรัก ดูแลกันและกันทุกวัน ใส่ใจกันทุกวัน แล้วเธอก็จะพบว่า ไม่ว่าวันไหน โลกก็เป็นสีชมพูได้ แค่เพียงยังมีกันและกันอยู่เสมอ 11. วันวาเลนไทน์ไม่ใช่วันเสียตัวแห่งชาติ เรื่องนี้สำคัญมาก เพราะกลายเป็น แฟชั่นแปลกๆ ไปแล้วว่าวาเลนไทน์โรงแรมม่านรูดจะต้องเต็ม! ไม่เวิร์คเลย เพราะ ที่สุดแล้ว คนที่จะต้องมานั่งเสียใจในภายหลังก็คือเราคนเดียวเท่านั้น การมีอะไร กันไม่ได้บ่งบอกว่ารักกันเสมอไป ควรมีเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมเท่านั้น วันวาเลนไทน์ แม้จะตื่นเต้นยังไง ก็ยังต้องเรียนหนังสือ ไม่ใช่เอาแต่เหม่อ มองรอคอยใครมาให้ดอกไม้ หรือร่าเริงโดดเรียนไปเที่ยวซะงั้น บางคนพอถึง วันวา เลนไทน์ สติแตก เอาแต่วางแผนว่าจะเซอร์ไพร้ส์แฟนยังไง ทำอะไรบ้าง สรุป วันนี้ สอบตกเพราะไร้สติโดยสิ้นเชิงล่ะ คนโสดก็มีวาเลนไทน์ที่อบอุ่นได้แค่เพียงรักตัวเอง ขอให้จำไว้เลยว่า แค่ เพียงเราใช้วันวาเลนไทน์เป็นวันที่เราดูแลสุขภาพร่างกาย มอบความรัดให้ตัวเอง เราก็จะเป็นผู้หญิงที่น่าอิจฉาที่สุดได้อยู่แล้ว อย่าเสียเงินไปซื้อดอกไม้หรือตุ๊กตามาเดินถือ เพียงเพราะกลัวขายหน้าที่ยัง ไม่มีใครให้ของขวัญวาเลนไทน์ มันเป็นอะไรที่ไร้สาระมากๆ เพราะการเดินมือเปล่า ในวันวาเลนไทน์ไม่ใช่เรื่องน่าอายซักกะหน่อย ถ้ารวยนักละก็ เอาเงินไปบริจาคให้ เด็กยากจนดีกว่านะ15. ถ้าอยากให้ของขวัญวาเลนไทน์ที่อยู่นานๆ ต้นไม้ใน กระถางก็น่ารักดี ดีกว่าดอกไม้ราคาแพงหูฉี่ แต่สามวันเน่า ลองไปหาซื้อไม้ใบ ไม้ ดอกสวยๆ เอามามอบให้กัน ราคาถูกกว่า แถมอยู่ได้นานกว่าด้วย อีกอย่างมันก็มี ความหมายเป็นนัยๆ ว่า รักของเราจะมั่นคงยาวนาน เหมือนต้นไม้ที่เติบโตและไม่ เหี่ยวเฉาง่ายๆ ถ้าได้รับการดูแลอย่างดีนะจ๊ะ

13 เทคนิคการปฏิเสธง่ายๆเพื่อหลีกเลี่ยงเสียตัวฟรีในวันวาเลนไทน์ มี 5 ประการ
1.ต้องรู้ก่อนว่าการปฏิเสธเป็นสิทธิส่วนบุคคล 2.บอกความรู้สึกประกอบเหตุผลเช่น “ฉันไม่สบายใจเลยที่เธอขอมีอะไรกันกับฉัน ถ้าแม่รู้ แม่เราคงเสียใจมาก” 3.ขอปฏิเสธ ไม่เปิดโอกาสให้เป็นใจ เช่น “ฉันขอไม่ไปต่อกับเธอ และคิดว่าจะหยุดเพียงแค่นี้เพื่ออนาคตของเราทั้ง 2 คน” 4. ปฏิเสธซ้ำและบอกลา เช่น “ฉันจะไม่ทำสิ่งที่ไม่เหมาะสมแบบนี้อีก ขอตัวก่อนนะคะ” และ 5.ต่อรอง ผัดผ่อนเพื่อยืดเวลา เช่น “เราแยกย้ายกันกลับดีกว่า…วันหลังค่อยไปดูหนังกันใหม่”

14 สำหรับในวันวาเลนไทน์นี้ มีคำแนะนำให้วัยรุ่นยึดเทคนิค 5 ไม่ เป็นคติย้ำเตือนใจ ผู้ชาย
1.ไม่หวังเผด็จศึก คือ ไม่ควรคิดจะต้องมีเพศสัมพันธ์ให้ได้ 2. ไม่ทิ้งศีลธรรม คือ ต้องมีจิตใจที่คิดถึงความถูกผิดด้วย 3.ไม่ลืมคิดถึงผลที่ตามมา เช่น เราสองคนอาจติดโรคเอดส์ แฟนสาวอาจจะท้องจนต้องทำแท้งหรือออกจากโรงเรียน ตนเอง อาจต้องมีลูกขณะที่ไม่พร้อม ครอบครัวต้องเสียใจ 4.ไม่เที่ยวกลางคืน ไม่ค้างคืน ไม่กลับดึก ไม่ดื่มสุรา ไม่ดูหนังหรือคลิปโป๊ 5.ไม่ลืมใช้ถุงยางอนามัย หากไม่สามารถหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ได้

15 คำแนะนำให้วัยรุ่นยึดเทคนิค 5 ไม่ เป็นคติย้ำเตือนใจผู้หญิง
1.ระมัดระวังเรื่องการแสดงออก ทำให้เข้าใจผิดได้ 2.ไม่ควรเชื่อคำพูดเพื่อนชายง่ายเกินไป และไม่ควรกลัวคำขู่ว่าจะขอเลิก 3.ไม่เที่ยวกลางคืน ไม่ค้างคืน ไม่กลับดึกถึงบ้านเกินสี่ทุ่ม ไม่ไปด้วยกันลำพังสองต่อสองหรือที่ ลับตาคน 4.ไม่ดื่มสุรา ไม่ดูหนังหรือคลิปโป๊ และ 5.ไม่ให้ความสำคัญกับวันวาเลนไทน์แบบผิดทางคือ คิดว่าการมีเพศสัมพันธ์เพื่อพิสูจน์ความรัก


ดาวน์โหลด ppt พลุและดอกไม้ไฟ.

งานนำเสนอที่คล้ายกัน


Ads by Google