ดาวน์โหลดงานนำเสนอ
งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ
1
ผศ.(พิเศษ)นพ.นภดล สุชาติ พ.บ. M.P.H.
Error ในการวิจัย ผศ.(พิเศษ)นพ.นภดล สุชาติ พ.บ. M.P.H.
2
ผลวิจัย =Truth + Errors
3
ชนิดของความคลาดเคลื่อน (Errors)
ความคลาดเคลื่อนเชิงระบบ(Systematic Errors) หรืออคติ (Biases) ความคลาดเคลื่อนแบบสุ่ม(Random Errors)
4
ชนิดของอคติ (Biases) Information Bias Selection Bias
Performance Bias Measurement Bias Confounding Bias
5
Selection Bias Flaw in study design Choice of sampling frame
Choice of comparison group Loss of follow up Non respond Selective survivals
6
Information Bias Invalid Measurement Incorrect diagnostic criteria
Omission/Imprecision of recorded data Unequal diagnostic surveillance
7
Confounding Bias Confounder effects both cause and consequence of the study Age is confounder for contraceptive and myocardial infarction study. Major Confounder e.g. Age, Sex, Race, Occupation
8
Bias & Random Error Bias แก้ไขโดยออกแบบงานวิจัยให้ไม่มี Bias ในการซักประวัติและรักษา เช่นใช้วิธี Double Blind แพทย์ไม่รู้ว่าใครเป็นกลุ่ม 1 หรือ 2 ยาที่ใช้รักษาก็รูปร่างเหมือนกันทั้ง 2 กลุ่ม Random Errors แก้ไขโดยเพิ่ม Sample size
9
สาเหตุความคลาดเคลื่อนเชิงระบบ
สำรวจประชากรวิจัยไม่ใช่กลุ่มเป้าหมาย สุ่มประชากรเฉพาะบางกลุ่ม ให้ข้อมูลลำเอียง ถ้ารู้ว่าสูบบุหรี่จะซักประวัติโรคมากกว่า วัดผลลำเอียง สนใจเฉพาะการรักษาแบบใหม่จึงซักถามมากกว่า
10
สาเหตุความคลาดเคลื่อนแบบสุ่ม
จำนวนตัวอย่างน้อยเกินไป
11
ลดความคลาดเคลื่อนเชิงระบบ
Good Sampling technique: Sampling Frame Criteria for selection cases and controls Reduce recall bias, compliance bias Reduce confounding factors: randomized Blind study: single, double, triple blinded
12
Type of Errors * b Error a Error The truth Conclusion from Analysis
A=B A<>B Correct b Error a Error Type I = a error ประมาณ 5% Type II = b error ประมาณ 20% Power of test =1- b ประมาณ 80%
13
3 Phase of Study Efficacy ทำได้สำเร็จในห้องทดลอง
Effectiveness ทำได้ผลในสถานการณ์จริง (มีประสิทธิผล) Efficiency ผลได้เทียบกับต้นทุนได้ผลคุ้มค่า (มีประสิทธิภาพ)
14
Random error, Systematic error
ความคลาดเคลื่อนอย่างมีระบบ (Systematic error) หรือ Bias นั้น เป็นความคลาดเคลื่อนที่เกิดจาก เครื่องมือที่ใช้วัดตัวแปร
15
+ คำภามวิจัย Research Question ดำเนินการวิจัย เพื่อค้นหาความจริง
ค่าความเท็จ (Error) ผลการวิจัย (ข้อเท็จจริง) ค่าความจริง (True Value) + แบบสุ่ม (Random Error) แบบเป็นระบบ (Systematic Error หรือ Bias)
16
Random Error แก้ไขโดยเพิ่ม Sample size ให้พอเพียง
17
Systematic Error = Bias
แก้ไขโดยการออกแบบระบบ แก้ไขง่ายกว่า เช่น ถ้าติดแถบวัดส่วนสูงผิดพลาดโดยติดไว้สูงกว่าปกติ 1 ซม. แก้ไขให้ถูกต้องโดยปรับแก้ส่วนสูงที่วัดได้ทุกๆคน
18
Bias Selection Bias Performance Bias
Measurement Bias แก้ไขโดย blinding Confounding Bias
19
Co-intervention ส่วนใหญ่เกิดกับ Study Group โดยดูแลอย่างพิถีพิถัน
Co-intervention เพิ่มการรักษาในกลุ่มทดลองหรือกลุ่มควบคุมเพียงกลุ่มเดียว เช่น เมื่อให้ยาใหม่ก็ทดสอบ EKG บ่อยๆ เพียงกลุ่มเดียว ส่วนอีกกลุ่มที่ได้ยามาตรฐานก็ไม่ทดสอบ แก้ไขด้วยวิธี Double Blind ผู้ป่วยจะไม่ทราบว่าได้ยาชนิด 1 หรือ 2 แพทย์ก็จะไม่ทราบเช่นกันว่าได้จ่ายยาชนิด 1 หรือ 2
20
Contamination Control group ได้รับ intervention ไปด้วย
แก้ไขด้วยวิธี Double Blind ผู้ป่วยจะไม่ทราบว่าได้ยาชนิด 1 หรือ 2 แพทย์ก็จะไม่ทราบเช่นกันว่าได้จ่ายยาชนิด 1 หรือ 2
21
Howthorn Effect ตั้งแต่ปี 1920 เมื่อ 80 กว่าปีมาแล้วที่โรงงาน GE มีการทดลองในรูปแบบต่างๆ เพื่ออยากจะเห็นผลผลิตของโรงงาน GE สูงขึ้น แบบที่หนึ่งให้ทำงาน 4 วัน วันละ 10 ชั่วโมง หรือแบบที่ 2 ทำงาน 5 วันๆ ละ 8 ชั่วโมง ผลปรากฏว่าผลผลิตสูงขึ้นทั้งสองอย่าง
22
Howthorn Effect คำถามคือ เกิดอะไรขึ้น ทำไมเมื่อปรับวิธีการทำงานเป็น 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ไม่ว่าจะปรับแบบที่หนึ่งหรือแบบที่สอง ผลผลิตสูงขึ้นทั้งคู่ สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือคนทำงานรู้ว่าถูกเฝ้ามองจากฝ่ายบริหาร ผู้บริหารกำลังให้ความสนใจ คนงานจึงขยันมากขึ้น ผู้ควบคุมก็ขยันมากขึ้น ปรับอย่างไรผลผลิตก็สูงขึ้นตลอดเวลา
23
Blinding Single Blind Double Blind Triple Blind
24
ตัวอย่าง Bias Recall Bias ซักย้อนหลังไปนานจึงจำไม่ได้
Exposure Suspicion Bias ผู้สัมผัสสิ่งคุกคามจะถูกซักถามมากกว่า
25
Detect Bias in Research
There are a variety of ways that research might be biased in design, data analysis, and interpretation.
งานนำเสนอที่คล้ายกัน
© 2024 SlidePlayer.in.th Inc.
All rights reserved.