ดาวน์โหลดงานนำเสนอ
งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ
1
www.wifimove.com & www.seek.co.th
Datasheet &
2
Contents 1 Datasheet คืออะไร? 2
Contents Datasheet คืออะไร? 1 ทำยังไงถึงจะเข้าใจเกี่ยวกับ datasheet ? 2 จุดสำคัญบน datasheet 3 Company Logo
3
Data sheet? Datasheet คือเอกสารที่รวบรวมข้อมูล คุณสมบัติต่างๆ ของอุปกรณ์ชิ้นนั้น เป็นการแสดงข้อมูลเชิงเปรียบเทียบและแจกแจงเป็นหัวข้อเพื่อให้เราพิจารณาคุณสมบัติของอุปกรณ์นั้นได้อย่างรวดเร็ว เพื่อประกอบในการตัดสินใจก่อนซื้อ หรือใช้ในการอ้างอิง เพื่อใชในการทำงานจริง Company Logo
4
ทำไมเราต้องดู Data sheet
ทำไมเราต้องดู Data sheet สำหรับนักอิเล็กทรอนิกส์-ไฟฟ้า การดู data sheet ให้เป็นถือเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะก่อนที่เราจะหยิบอุปกรณ์แต่ละอย่างมาใช้งาน เราก็ต้องดู datasheet ก่อน แล้วถามด้วย User’s manual แต่สำหรับผู้ที่ไม่ได้เรียนมาทางด้านนี้โดยตรง การดู datasheet คงเป็นเรื่องที่ยากลำบากสักหน่อย บางท่านศึกษาด้วยตนเอง แต่ก็อาจเข้าใจบ้างบางหัวข้อ ดังนั้นผมจึงจัดทำ Presentation นี้ขึ้นมาเพื่อช่วยขยายความเข้าใจเกี่ยวกับการอ่าน datasheet เพื่อช่วยในการคัดเลือกอุปกรณ์ Wireless ต่างๆ ซึ่งคงจะเป็นประโยชน์ต่อท่านผู้มากทีเดียว Company Logo
5
Specifications: ผมลองหยิบตัวรับสัญญาณ Wireless แบบ USB adapter ขึ้นมา 1 ตัว เราจะมาลองศึกษาคุณสมบัติที่จำเป็นกันดูนะครับ Company Logo
6
Specifications: ลองมาดูกันเลยครับ
Specifications: ลองมาดูกันเลยครับ Standards Wireless: IEEE b/g USB 2.0 ในความหมายก็บ่งบอกจถึงความเป็มาตราฐาน โดยแจ้งให้ทราบว่าของเขาผลิตตามมาตราฐาน IEEE และสามารถใช้ได้ทั้งแบบ B และ G ความหมายของ IEEE คือการที่ต้องการผลิตสินค้าเพื่อใช้ในทาง electronics, computer และ Network นั้นเมื่อทาง IEEE ยอมรับหรือรับรองแล้วบริษัทต่างๆ ก็จะนำเงื่อนไขที่ได้รับการอนุมัติไปผลิดเป็นยี่ห้อของตัวเองเพื่อมาแข่งขันกันในตลาด แต่ด้วยความที่ต้องทำตามเงื่อนไขของ IEEE ดังนั้นไม่ว่าสินค้านั้นๆ จะผลิตจากโรงงานไหนก็ต้องสามารถใช้งานร่วมกันได้ นี่แหละที่เป็นข้อดี เพราะถ้าไม่มี IEEE ต่างฝ่ายต่างผลิต เราคงไม่สามารถยก notebook ไปใช้กับ Wireless ที่ประเทศอื่นๆ ได้นอกจากบ้านตัวเองใช้ของก็ต้องใช้ของยี่ห้อเดียว เหมือนแท่นชาร์จแบตเตอรี่มือถือต่างยี่ห้อที่ใช้งานร่วมกันไม่ได้เพราะไม่มีมารตราฐานเข้ามาบังคับ IEEE IEEE b/g IEEE สำคัญตรงที่ว่าเขาระบุย่านความถี่ ความเร็วในการติดต่อสื่อสาร การเข้ารหัส และอื่นๆ แต่ถ้าเรามองไปในตลาดจะเห็นบางยี่ห้อแสดงความเร็วในการติดต่อสื่อสารไว้ที่ 108Mbps บ้าง 300Mbps (Draft N) บ้าง ซึ่งเหล่านี้ยังไม่ได้รับการรับรองมาตราฐาน IEEE ดังนั้นถ้าจะซื้อมาใช้ให้โปรดระลึกไว้ด้วยว่าก็ต้องใช่ตัวรับยี่ห้อเดียวกันและออกแบบมาเพื่อรองรับกับ Speed นั้นๆ ด้วย ไม่ใช่ว่าจะใช้ notebook ทั่วๆ ไปแล้วได้ speed อย่างที่อ้างอิง เพราะ Notebook ส่วนใหญ่จะผลิตและติดตั้งระบบ Wireless ตามมาตราฐาน IEEE คือ B/G (11Mbps/54Mbps) เพราะถือว่ายกไปที่ไหนก็เล่นเนตได้ Company Logo
7
Specifications: คุณภาพด้อยกว่าแบบ USB
Specifications: Data Rate b: Up to 11Mbps, g: 54Mbps ตัวนี้จะบอกให้รู้ว่าอุปกรณ์ตัวนี้สามารถใช้ได้กับ Wireless ที่เป็น แบบ B and G เนื่องจาก B มันเกิดก่อนจะทิ้งก็ทิ้งก็ไม่ได้ ดังนั้นการผลิดอุปกรณ์ตัวใหม่ขึ้นมาก็ต้องรองรับมาตราฐานเดิมด้วย จริงๆ แล้วแบบ B ดีว่า แต่จะอธิบายทีหลังว่าดีกว่ายัง OS Supported Windows 98SE, ME, 2000, XP, Linux 2.6, Mac 10.4, WinCE 5.0 อุปกรณ์นี้สามารถใช้ได้กับระบบปฏิบัติการอะไรได้บ้าง ซึ่งนั้นหมายถึงเขามี Driver ที่ใช้ได้กับ OS อะไรบ้าง Interface USB 2.0 mini USB (also compatible with USB 1.1 desktop and notebook computers) การ Interface ก็หมายถึงรูปแบบการต่อใช้งานซึ่งตรงนี้รองรับ USB ซึ่งขอแนะนำให้ซึ้อแบบ USB เพราะมันเสียบคอมพิวเตอร์ได้แทบทุกเครื่องแถมปรับย้ายตำแหน่งได้ง่าย ไม่ขอแนะนำแบบ PCI ซึ่งต้องถอดฝาก Case ทำให้ติดตั้งยาก ตำแหน่งของสายอากาศก็อยู่ในมุมอับสัญญาณซะส่วนใหญ่ (มักซ่อน Case ไว้ในมุมหรือใต้โต๊ะ) คุณภาพด้อยกว่าแบบ USB Company Logo
8
Specifications: Antenna Type 1 x 2.4Ghz SMA connector
Specifications: Antenna Type 1 x 2.4Ghz SMA connector เหนื่องจากเจ้า Wireless USB ตัวนี้มีสายอากาศติดมาด้วย(จริงๆ ตัวรับ-ส่ง wireless ต้องชนิดก็มีสายอากาศหมด เพียงแต่ต่างกันที่ขนาด ตำแหน่งการติดตั้งก็เท่านั้น) ทำให้มีข้อมูลเพิ่มเติมขึ้นมาคือลักษณะของหัว connector ซึ่งตรงนี้จะช่วยบอกเราได้ว่าถ้าจะเปลี่ยนสายอากาศให้มี Gain การขยายสัญญาณให้แรงขึ้นนั้นต้องเลือกหัว connector แบบไหนถึงจะเข้ากันได้ Chipset Realtek 8187L ตรงจุดนี้เป็นการแสดงถึงอุปกรณ์ตัวหลักที่เขาเลือกใช้คือถ้าใครอยากรู้ว่าทำได้ตามที่เขียนไว้ใน datasheet จริงหรือเปล่าก็อาจจะไปตามข้อมูลเพิ่มจาก S/N ของ Chipset นั้นอีกก็ได้ Frequency Range ~2462 MHz (US) 11 channels 2412~2472 MHz (EU) 13 channels 2412~2484 MHz (Japan) 14 channels การแสดงมาตราฐานการรับ-ส่งสัญญาณช่วงคลื่นความถี่ ซึ่งแต่ละภูมิภาคก็จะอนุญาติให้ใช้ได้ต่างกัน เพียงแต่เขาแสดงให้เราเห็นว่า ไม่ว่าจะนำไปใช้ที่ไหนใน 3 ภูมิภาคนี้ ยังไงก็ใช้ได้ สำหรับประเทศไทยมักอ้างอิง USA มากกว่า Company Logo
9
Specifications: Emission Type DSSS/OFDM
Specifications: Emission Type DSSS/OFDM Data Modulation Type b: BPSK,QPSK, CCK 802.11g: OFDM แสดงถึงเทคนิคการมอดูเลตสัญญาณ ซึ่งจริงๆ แล้วมีมากๆ มายกว่าที่เห็นเช่น 1Mbps 5.5 & 11Mbps 6 and 9 Mbps 12 and 18 Mbps 24 and 36 Mbps 48 and 54 Mbps ไม่ต้องคิดมากนะครับ ขอแค่เข้ามาตราฐาน IEEE เป็นใช้ได้ Output Power 27dBm/500mW ยี่ห้อนี้ต้องการแสดงความโดดเด่นของอุปกรณ์ด้วยการแสดงถึงกำลังส่งด้วย ซึ่งเมื่อรับสัญญาณได้ก็ต้องส่งกลับได้เช่นกันเพราะโดยปกติอุปกรณ์ Wireless access points มักมีกำลังส่งที่ดีว่าตัวรับอย่างแบบที่ติดตั้งไว้ใน Notebook, แบบ PCI หรือ USB บางชนิดที่ไม่มีสายอากาศภายนอก ทำให้การติดต่อสื่อสารทำระยะทางได้ไม่ไกลหรือไม่ดีพอ Company Logo
10
-91dBm ดีกว่า -76dBm ตั้ง 15dB
Specifications: Sensitivity b: 802.11g: Sensitivity คือความไวในการรับสัญญาณ บางท่านอาจสงสัยว่าดูยังไง คำว่าไวคืออะไร ผมขอขยายความแบบง่ายๆ นะครับ อย่างวิทยุ FM/AM เครื่องใหนมีความไวมากกว่ากันก็แสดงให้เห็นว่าสามารถรับสัญญาณได้ดีกว่าและสามารถรับสัญญาณได้ไกลกว่า สามารถรับสัญญาณอ่อนๆ ได้ดี ลองดูที่ค่าติดลบนะครับ ยิ่งติดลบมากก็แสดงถึงความไวในการรับสัญญาณ แต่สิ่งที่ต้องแลกกันคือความเร็วในการ รับ-ส่ง ข้อมูล ซึ่งจะเห็นว่ายิ่งถ้าต้องการความไวในการรับสัญญาณสูง speed ที่ได้ก็จะต่ำ แต่ถ้ามองให้ดีจะเห็นว่า ADSL บ้านเรา Speedไม่น่าเกิน 4Mbps หรือถ้าเป็นมาตรฐานขณะนี้ก็ 1-2Mbps ดังนั้นถ้าเป็นไปได้ตั้ง Speed ต่ำๆ เอาแค่พอใช้งาน ก็จะได้ความไวที่ดีขึ้นทำระยะทางได้ไกลขึ้นด้วย ต่างกัน 3dB เท่ากับ 2 เท่าตัวนะครับ -91dBm ดีกว่า -76dBm ตั้ง 15dB เสริม: MB = Mega bytes และ Mb = Mega bits นะครับ Company Logo
11
Specifications: Power Voltage: 5V+5%
Specifications: Power Voltage: 5V+5% เป็นการบงบอกถึงแรงดันไปเลี้ยง ซึ่งปกติ USB ก็จ่ายไฟเลี้ยง Port ละ 5Vdc 200mA อยู่แล้ว และยิ่งกำลังส่งมากๆ แบบตัวอาจต้องใช้ไฟเลี้ยงจาก 2 port (400mA) ถึงจะได้ Power 27dBm Security WEP 64/128, 802.1X support, Wi-Fi Protected Access (WPA), WPA-PSK, WPA II เป็นการแสดงถึงการรองการเข้ารหัสแบบต่างๆ ซึ่งมาตราฐานโดยทั่วไปแค่ WEP และ WPA ก็น่าจะเพียงพอ Company Logo
12
Thank You ! More info. http://www.air-stream.org.au/eirp
งานนำเสนอที่คล้ายกัน
