งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ

งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ

5 April 2014 E-mail:wichai@buu.ac.th.

งานนำเสนอที่คล้ายกัน


งานนำเสนอเรื่อง: "5 April 2014 E-mail:wichai@buu.ac.th."— ใบสำเนางานนำเสนอ:

1 5 April 2014

2 Decision Support Systems
13 July 2002 บทที่ 6 การจัดการองค์ความรู้ (Knowledge Management) Decision Support Systems

3 ระบบสนับสนุนการตัดสินใจ
ในการแก้ปัญหาทางด้านธุรกิจ ที่แต่ละองค์กรจะต้องเผชิญอยู่ตลอดเวลา จะต้องมีข้อมูลและข่าวสารประกอบการตัดสินใจ ข่าวสารที่ได้จากการวิเคราะห์และนำไปใช้แก้ปัญหา อาจจะแก้ปัญหาได้ไม่ประสบผลสำเร็จทุกครั้ง ดังนั้น ทุก ๆ ปัญหาที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับการดำเนินงานขององค์กร ความรู้ที่องค์กรใช้ในการแก้ปัญหา ผลลัพธ์ที่ได้หลังการแก้ปัญหา ไม่ว่าจะสำเร็จหรือล้มเหลว สิ่งเหล่านี้จัดเป็นองค์ความรู้และประสบการณ์อย่างหนึ่งขององค์กร ซึ่งแต่ละองค์กรควรมีระบบจัดเก็บความรู้ที่สามารถจัดเก็บได้อย่างถาวร เพื่อเอาไว้ใช้แก้ปัญหาครั้งต่อ ๆ ไป 5 April 2014

4 เนื้อหา องค์ความรู้ (Knowledge)
ชนิดขององค์ความรู้ (Types of Knowledge) การจัดการองค์ความรู้ (Knowledge Management) ระบบจัดการองค์ความรู้ (Knowledge Management System) วงจรการจัดการองค์ความรู้ (Knowledge Management Cycle) หัวหน้าส่วนจัดการองค์ความรู้ (Chief Knowledge Officer) การพัฒนาระบบจัดการองค์ความรู้ (Knowledge Management Development) แนวทางปฏิบัติ เทคโนโลยี และเครื่องมือที่ใช้ในการพัฒนาระบบจัดการองค์ความรู้ ความสำเร็จของระบบจัดการองค์ความรู้ องค์กรแห่งการเรียนรู้ (Learning Organization) 5 April 2014

5 องค์ความรู้ (Knowledge)
ข้อมูล (Data) คือข้อเท็จจริงต่าง ๆ ที่รวบรวม เข้าไว้ด้วยกัน โดยไม่มีการประมวลผลแต่อย่างใด เช่น ข้อมูลเวลาทำงานของพนักงาน สารสนเทศ (Information) คือ ข้อมูลที่ผ่านการประมวลผล และจัดการให้มีความถูกต้อง ทันสมัย และสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ทันที เช่น จำนวนวันที่พนักงานแต่ละคนมาทำงานในแต่ละเดือน องค์ความรู้ (Knowledge) คือ สารสนเทศที่สามารถนำไปใช้ในการแก้ปัญหา หรือตัดสินใจในการดำเนินธุรกิจให้ประสบความสำเร็จไ ดังนั้น องค์ความรู้จำเป็นต้องอาศัยประสบการณ์ ในการเรียนรู้ที่จะนำสารสนเทศมาใช้ในการแก้ปัญหา ซึ่งขึ้นกับการฝึกฝน และมุมมองในการเลือกสารสนเทศไปใช้ 5 April 2014

6 องค์ความรู้ สารสนเทศที่เกี่ยวข้องและ นำไปใช้ประโยชน์ได้
Data Process Information สารสนเทศที่เกี่ยวข้องและ นำไปใช้ประโยชน์ได้ Knowledge สารสนเทศที่เกี่ยวข้องและนำไปใช้ประโยชน์ได้ 5 April 2014

7 ชนิดขององค์ความรู้ (Type of Knowledge)
องค์ความรู้สามารถจำแนกออกได้หลายลักษณะด้วยกัน ดังนี้ จำแนกตามลักษณะที่ประกอบขึ้นเป็นระบบจัดการองค์ความรู้ จำแนกตามความได้เปรียบในการแข่งขันทางธุรกิจ จำแนกตามประโยชน์ในการใช้งานขององค์ความรู้ จำแนกตามลักษณะขององค์ความรู้ 5 April 2014

8 จำแนกตามลักษณะที่ประกอบ
องค์ความรู้จำแนกตามลักษณะที่ประกอบขึ้นเป็นระบบจัดการองค์ความรู้ แบ่งได้เป็น 6 ประเภท ได้แก่ 1. Descriptive Knowledge คือ สารสนเทศจากอดีต ปัจจุบัน และอนาคต หรือสมมติฐานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกันเพื่อใช้ตัดสินใจว่าต้องเรียนรู้อะไรบ้าง (Knowing What) 2. Procedural Knowledge คือ องค์ความรู้เกี่ยวกับขั้นตอนในการนำองค์ความรู้ไปแก้ไขปัญหา เพื่อให้สามารถทำงานได้บรรลุวัตถุประสงค์ (Knowing How) 3. Reasoning Knowledge คือ องค์ความรู้ที่ใช้วัดผลว่าการนำสารสนเทศต่าง ๆ ไปใช้ในการแก้ปัญหานั้นถูกต้องหรือไม่ เพราะเหตุใด (Knowing Why) 5 April 2014

9 จำแนกตามลักษณะที่ประกอบ
4. Presentation Knowledge คือ องค์ความรู้เพื่อใช้ในการสื่อสาร และนำเสนอ 5. Linguistic Knowledge คือ องค์ความรู้ที่ใช้ในการแปลความหมายขององค์ความรู้ 6. Assimilative Knowledge คือ องค์ความรู้ที่ใช้ในการบำรุงรักษาฐานองค์ความรู้ องค์ความรู้ 3 ชนิดแรกเป็นองค์ความรู้พื้นฐานที่องค์กรจะต้องใช้ในชั้นตอนการดำเนินงานทั่วไป และ 3 ชนิดหลัง จะใช้ในการสื่อสาร การทำความเข้าใจ และการเรียนรู้เพื่อนำองค์ความรู้ไปใช้งาน 5 April 2014

10 จำแนกตามความได้เปรียบในการแข่งขันทางธุรกิจ
องค์ความรู้จำแนกตามความได้เปรียบในการแข่งขันทางธุรกิจแบ่งได้เป็น 2 ประเภท ได้แก่ Base Knowledge คือ องค์ความรู้ที่มีความสำคัญมากสำหรับองค์กร ใช้ในการวางแผนระยะสั้นเพื่อการแข่งขันทางธุรกิจ Trivial Knowledge คือ องค์ความรู้ที่มีความสำคัญไม่มาก ไม่มีผลกระทบต่อองค์กร 5 April 2014

11 จำแนกตามประโยชน์ในการใช้งานขององค์ความรู้
องค์ความรู้จำแนกตามประโยชน์ในการใช้งาน แบ่งเป็น 7 ประเภท ได้แก่ 1. องค์ความรู้เกี่ยวกับวิธีการปฏิบัติ (Knowledge of Methods) เช่น องค์ความรู้เกี่ยวกับการสร้างถนน 2. องค์ความรู้เกี่ยวกับอุปกรณ์และเครื่องมือ (Knowledge of 3. Equipment and Tools) เช่น องค์ความรู้เกี่ยวกับการใช้เครื่องมือขุดเจาะน้ำมัน 3. องค์ความรู้เชิงสถิติ (Static Knowledge) คือ องค์ความรู้ที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลง ได้แก่ ทฤษฎีและกฎต่าง ๆ เช่น กฎแรงโน้มถ่วงของโลก 4. องค์ความรู้เชิงกล (Dynamic Knowledge) คือ องค์ความรู้ที่มีการเปลี่ยนแปลงหรือพัฒนาอยู่ตลอดเวลา เช่น องค์ความรู้เกี่ยวกับความต้องการของลูกค้า 5 April 2014

12 จำแนกตามประโยชน์ในการใช้งานขององค์ความรู้
5. องค์ความรู้เชิงประกาศ (Declarative Knowledge) คือองค์ความรู้จากการประกาศ หรือกำหนดขึ้น เช่น องค์ความรู้เกี่ยวกับกฎจราจร 6. องค์ความรู้เชิงระเบียบวิธี (Procedural Knowledge) คือ องค์ความรู้ที่เกี่ยวกับขั้นตอนต่าง ๆ เช่น องค์ความรู้เกี่ยวกับกระบวนการประมวลผลโปรแกรม 7. องค์ความรู้ฮิวริสติค (Heuristic Knowledge) คือ องค์ความรู้เพื่อแก้ปัญหาที่มีความซับซ้อนมาก เกิดจากการลองผิดลองถูก (Trial and Error) ของผู้แก้ปัญหา 5 April 2014

13 จำแนกตามลักษณะขององค์ความรู้
องค์ความรู้จำแนกตามลักษณะขององค์ความรู้ได้เป็น 2 ประเภท ได้แก่ 1. องค์ความรู้ที่ไม่มีโครงสร้าง (Tacit Knowledge) เป็นองค์ความรู้ที่เกิดจากการสั่งสมประสบการณ์ ความรู้สึก มุมมอง ไหวพริบ ความเชี่ยวชาญ ทักษะ และความเข้าใจของแต่ละบุคคล เป็นองค์ความรู้ที่ไม่มีรูปแบบแน่นอน ไม่มีความชัดเจน ยากต่อการเขียนอธิบาย เช่น อธิบายการขับรถยนต์เป็นต้น 2. องค์ความรู้ที่มีโครงสร้าง (Explicit Knowledge) เป็นองค์ความรู้ที่สามารถเขียนอธิบายออกมาได้ชัดเจน มักอยู่ในรูปนโยบาย หรือ รายงาน 5 April 2014

14 การจัดการองค์ความรู้ (Knowledge Management)
องค์ความรู้ เป็นสินทรัพย์ที่มีค่าอย่างหนึ่ง ที่องค์กรในปัจจุบันต้องการครอบครองไว้ให้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะองค์ความรู้ที่เกี่ยวกับการบริหารจัดการ และองค์ความรู้ด้านปฏิบัติงานทั้งหมดทางด้านธุรกิจ มีผู้ให้ความหมายของการจัดการองค์ความรู้ไว้หลายประการด้วยกัน 5 April 2014

15 ความหมายของการจัดการองค์ความรู้
Wing, 1993: การจัดการองค์ความรู้และทรัพย์สินทางปัญญาขององค์กร เป็นการนำองค์ความรู้นั้นไปพัฒนาความสามารถในการดำเนินกิจกรรมใดๆ ทางธุรกิจได้อย่างชาญฉลาด มีประสิทธิภาพและคุณค่ามากขึ้น Gray, 1999: กระบวนการที่จะช่วยให้มีการถ่ายทอดองค์ความรู้จากบุคคลหนึ่งไปยังอีกบุคคลหนึ่ง เพื่อให้บุคคลอื่น สามารถใช้ประโยชน์องค์ความรู้นั้นได้ 5 April 2014

16 ความหมายของการจัดการองค์ความรู้
Gupta et al. : กระบวนการที่ช่วยให้องค์กรสามารถค้นพบ จัดการ เผยแพร่ และถ่ายโอนสารสนเทศและความเชี่ยวชาญที่สำคัญ อันจะก่อให้เกิดประโยชน์ในการแก้ไขปัญหา การเรียนรู้ การวางแผนกลยุทธ์และการตัดสินใจได้ 5 April 2014

17 ความสำคัญของการจัดการองค์ความรู้
ถ้าการเรียนรู้ขององค์กรเป็นไปอย่างสม่ำเสมอและถูกต้อง มีความหมายโดยนัยว่าองค์กรนั้นมีองค์ความรู้ และประสบการณ์เพิ่มมากขึ้น สามารถเรียกได้ว่า “องค์ความรู้เป็นสินทรัพย์ (Knowledge Assets) ชนิดหนึ่ง” โดยทั่วไปทรัพย์สินย่อมมีวันใช้หมดหรือเสื่อมค่าไปในที่สุด แต่สินทรัพย์ที่เป็นความรู้ เมื่อยิ่งใช้งานยิ่งมีค่ามากขึ้น จากประสบการณ์ที่สั่งสมลงไป 5 April 2014

18 ความสำคัญของการจัดการองค์ความรู้
ดังนั้น องค์กรต่าง ๆ ควรหันมาให้ความสำคัญของการจัดการองค์ความรู้ให้มากยิ่งขึ้น ด้วยการลงทุนในระบบจัดการองค์ความรู้ ที่จะช่วยให้สามารถจัดการกับองค์ความรู้ที่มีอยู่ได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม การลงทุนทุกโครงการย่อมหวังผลตอบแทนที่คุ้มค่าที่จะได้รับ ก่อนการลงทุน องค์กรควรมีการศึกษาถึงระบบการจัดการดังกล่าวอย่างถี่ถ้วน อีกทั้งควรกระตุ้นให้บุคลากรในองค์กรเห็นความสำคัญในส่วนนี้ด้วย อันจะทำให้ได้รับความร่วมมือในการแบ่งปันองค์ความรู้ซึ่งกันและกันเป็นอย่างดี 5 April 2014

19 ระบบจัดการองค์ความรู้ (Knowledge Management System)
กระบวนการในการแปลงองค์ความรู้แบบมีโครงสร้างให้เป็น องค์ความรู้แบบไม่มีโครงสร้างอาจทำให้เกิดองค์ความรู้ใหม่ได้ Explicit Knowledge Tactic Knowledge กระบวนการแปลงองค์ความรู้ที่ไม่มีโครงสร้าง ให้เป็นองค์ความรู้ที่มีโครงสร้าง นโยบาย การตัดสินใจ กลยุทธ์ แผนงาน สารสนเทศ ฯลฯ ความชำนาญ ประสบการณ์ ความคิด วัฒนธรรมขององค์กร ฯลฯ การบริหารงานและความ สามารถที่แท้จริงขององค์กร รูปแสดงความสัมพันธ์ของการบริหารงาน กับ Tactic และ Explicit Knowledge 5 April 2014

20 ระบบจัดการองค์ความรู้ (Knowledge Management System)
ระบบจัดการองค์ความรู้ เป็นกระบวนการจัดการรวบรวม จำแนก เลือก และทำการเผยแพร่ข้อมูลที่มีความสำคัญ และเกี่ยวข้องกับความเชี่ยวชาญ เป็นส่วนหนึ่งของความทรงจำขององค์กร (Organization Memory) ในรูปแบบที่ไม่มีโครงสร้าง (Tacit Knowledge) มาแปลงเป็นรูปแบบที่มีโครงสร้าง (Explicit Knowledge) จะช่วยในการแก้ปัญหา การวงกลยุทธ์ และการตัดสินใจอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีการทำงานแบบ Dynamic Learning ซึ่งจะทำการจำแนกองค์ความรู้ แล้วสร้างให้อยู่ในรูปที่เป็นมาตรฐานเพื่อส่งต่อไปยังผู้ใช้ 5 April 2014

21 แนวคิดในการสร้างระบบจัดการองค์ความรู้
1. มีการแบ่งปันความรู้และการฝึกฝนที่ดีเยี่ยม 2. ให้พนักงานซึมซับความรับผิดชอบในการแบ่งปันองค์ความรู้ 3. เน้นองค์ความรู้ที่เกี่ยวข้องกับองค์กร 4. ผลักดันให้มีการสร้างสรรค์องค์ความรู้ใหม่ 5. ระบบต้องสามารถติดต่อกับผู้เชี่ยวชาญได้ 6. ทำการสร้างและค้นหาฐานข้อมูลลูกค้า 7. ทำความเข้าใจและทำการวัดค่าขององค์ความรู้ที่ได้ 8. ให้ความสำคัญกับสินทรัพย์ทางปัญญา 5 April 2014

22 ระบบจัดการองค์ความรู้ (Knowledge Management System)
วิวัฒนาการ เป้าหมายและวัตถุประสงค์ แนวคิดพื้นฐาน คลังองค์ความรู้ (Knowledge Repository) หน้าที่ของระบบจัดการองค์ความรู้ 5 April 2014

23 วิวัฒนาการขององค์ความรู้
ยุคแรก : ปากต่อปาก ถ่ายทอดจากรุ่นหนึ่งสู่อีกรุ่นหนึ่ง ยุคที่ 2 : มีการประดิษฐ์ตัวอักษร ตำรา หนังสือ ยุคที่ 3 : ยุคอุตสาหกรรม มีการใช้งานระบบอัตโนมัติ ยุคที่ 4 : ยุคการสื่อสาร โทรคมนาคม และเครือข่าย (1990) 5 April 2014

24 เป้าหมายของระบบจัดการองค์ความรู้
เป้าหมายของระบบจัดการองค์ความรู้คือ การปรับปรุงความสามารถในการจัดการองค์กรให้มีประสิทธิภาพ โดยมีวัตถุประสงค์ที่เป็นแนวทางในการปฏิบัติ ดังนี้ สร้างคลังเก็บองค์ความรู้ ปรับปรุงการเข้าถึงองค์ความรู้ ทำให้สามารถใช้งานองค์ความรู้ได้กว้างขวางยิ่งขึ้น จัดการกับองค์ความรู้เสมือนเป็นทรัพย์ประเภทหนึ่ง 5 April 2014

25 เป้าหมายของระบบจัดการองค์ความรู้
หัวใจสำคัญอย่างหนึ่งของระบบจัดการองค์ความรู้ คือ การนำสินทรัพย์ที่เรียกว่าองค์ความรู้มาเปลี่ยนให้เป็นผลตอบแทนที่สามารจับต้องได้ขององค์กร โดยจะมีการเตรียมการดังนี้ เปลี่ยนรูปแบบขององค์ความรู้เพื่อเพิ่มผลของขั้นตอนปฏิบัติงานทางธุรกิจให้ดีขึ้น วางกลยุทธ์ด้านองค์ความรู้เพื่อเร่งการพัฒนาและการสร้างสรรในองค์กร สร้างวัฒนธรรมการเรียนรู้ให้เกิดขึ้นทั้งองค์กร ใช้องค์ความรู้เพื่อประโยชน์ในการแข่งขันกับองค์กรอื่น ๆ 5 April 2014

26 วัตถุประสงค์ของระบบจัดการองค์ความรู้
ระบบจัดการองค์ความรู้เป็นกระบวนการที่ถูกออกแบบมาเพื่อ สามารถสร้างองค์ความรู้ได้โดยผ่านการเรียนรู้ ให้องค์ความรู้ต้องเป็นสิ่งที่จับต้องและสามารถอธิบายได้ สามารถทำการแบ่งปันและสื่อสารแลกเปลี่ยนองค์ความรู้เกี่ยวกับผู้อื่นได้ สามารถเข้าถึงองค์ความรู้ได้ สามารถนำเอาองค์ความรู้ไปใช้ และนำองค์ความรู้เก่ากลับมาใช้ได้ สามารถรับองค์ความรู้ใหม่ได้ 5 April 2014

27 แนวคิดพื้นฐานของระบบจัดการองค์ความรู้
แนวคิดของระบบจัดการองค์ความรู้ มาจากการเรียนรู้ขององค์กร (Organization Learning) และความทรงจำขององค์กร (Organization Memory) โดยสมาชิกในองค์กรต้องทำงานร่วมกัน แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ถ่ายทอดความรู้ให้แก่กัน ทำให้เกิดการเรียนรู้ ส่งผลให้ความรู้เปลี่ยนรูปแบบและส่งต่อไปยังบุคคลอื่นๆ ต่อไป 5 April 2014

28 คลังองค์ความรู้ (Knowledge Repository)
ที่เก็บหรือที่รองรับองค์ความรู้ หรือเรียกว่า “คลังองค์ความรู้” เป็นที่สำหรับเก็บรวบรวมองค์ความรู้จากภายในและภายนอก คลังองค์ความรู้ แบ่งออกเป็น 3 ประเภทใหญ่ ๆ คือ 1. องค์ความรู้จากภายนอกองค์กร เช่น องค์ความรู้เพื่อการแข่งขันทางธุรกิจ ซึ่งจำเป็นต้องมีการอธิบายและแปลความหมายที่ชัดเจน 2. องค์ความรู้แบบเป็นทางการภายในองค์กร เช่น การทำรายงานการวิจัย การนำเสนอ วัตถุดิบทางการตลาด ซึ่งส่วนใหญ่เป็นองค์ความรู้แบบมีโครงสร้าง (Explicit Knowledge) และมีบางส่วนที่ไม่มีโครงสร้าง (Tacit Knowledge) 5 April 2014

29 คลังองค์ความรู้ (Knowledge Repository)
3. องค์ความรู้แบบไม่เป็นทางการภายในองค์กร เช่น ฐานข้อมูลการอภิปราย ข้อมูลการบริการลูกค้า และข้อมูลที่เก็บสารสนเทศที่มีการสอบถามกันซึ่งกันและกันของบุคลากร เนื่องจากความรู้นั้นได้ใส่ความรู้สึกนึกคิดลงไปด้วย ทำให้ผู้ฟังต้องตีความเอง 5 April 2014

30 หน้าที่ของระบบจัดการองค์ความรู้
การรวบรวมประสบการณ์ การเรียนรู้ มุมมอง แนวคิด ทั้งภายในและภายนอกองค์กร ระบบจัดการองค์ความรู้ วัฒนธรรมขององค์กร โครงสร้างระบบ สารสนเทศขององค์กร รูปแสดงการผสมผสานการทำงานขององค์ประกอบขององค์กรผ่านระบบจัดการองค์ความรู้ 5 April 2014

31 หน้าที่ของระบบจัดการองค์ความรู้
ระบบจัดการองค์ความรู้ประกอบไปด้วยหน้าที่พื้นฐาน 4 ประการ 1. Externalization คือ หน้าที่ในการจัดรูปแบบขององค์ความรู้ภายนอกองค์กร และมีการจัดการให้สามารถค้นหาองค์ความรู้ที่คล้ายคลึงกันได้ 2. Internalization คือ หน้าที่ในการจำแนกองค์ความรู้ที่มีโครงสร้าง (Explicit Knowledge) ซึ่งตรงกับความต้องการของผู้ใช้ แล้วทำการจับคู่ ปัญหา สถานการณ์ หรือจุดที่น่าสนใจ เข้ากับองค์ความรู้ที่ผ่านการ Externalization มาแล้ว 5 April 2014

32 หน้าที่ของระบบจัดการองค์ความรู้
3. Intermediation คือ ทำหน้าที่เป็นสื่อกลางในการจัดหาแหล่งองค์ความรู้ที่ดีที่สุด ให้กับผู้ค้นหาองค์ความรู้ โดยอาศัยประสบการณ์และความสนใจของบุคคล หรือกลุ่มบุคคล โดยเกี่ยวข้องกับ Groupware, Intranets และ Workflow 4.Cognition คือ หน้าที่ในการประยุกต์การแลกเปลี่ยนองค์ความรู้โดยผ่านกระบวนการ 3 อย่างข้างต้นโดยอัตโนมัติ ซึ่งเป็นหน้าที่ที่กระทำได้ยาก เนื่องจากกระบวนการรับรู้ที่จะจำแนกว่าองค์ความรู้ที่ต้องการอยู่ที่ใด และมีการใช้งานอย่างไร ซึ่งยังมีเทคโนโลยีที่ใช้ในการสนับสนุนการทำงานดังกล่าวน้อยมาก 5 April 2014

33 สัมฤทธิ์ผลในระบบจัดการองค์ความรู้
ระบบจัดการองค์ความรู้จะต้องสัมฤทธิ์ผลในด่านต่างๆต่อไปนี้ 1. การสร้างวัตนธรรมองค์ความรู้ (Creating a Knowledge Culture) คือจะต้องสามารถสร้างความเชื่อถือในวัฒนธรรมองค์ความรู้ของบุคลากรในองค์กรได้ 2. การได้มาซึ่งความรู้ (Capturing Knowledge) ระบบจัดการองค์ความรู้จะต้องสามารถค้นหา หรือนำองค์ความรู้มาใช้ในกิจกรรมต่างๆ เช่น การตัดสินใจ การสร้างนโยบาย 3. การสร้างองค์ความรู้ (Knowledge Generation) การสร้างองค์ความรู้ใหม่ๆ ให้กับผู้ตัดสินใจ 5 April 2014

34 สัมฤทธิ์ผลในระบบจัดการองค์ความรู้
4. การสร้างความชัดเจนให้กับองค์ความรู้ (Knowledge Explication) การทำให้องค์ความรู้มีความชัดเจนขึ้น เพื่อให้บุคคลอื่นสามารถนำไปใช้งานได้ 5. การแบ่งปันและนำองค์ความรู้กลับมาใช้ใหม่ (Knowledge Sharing and Reuse) 6. การฟื้นฟูองค์ความรู้ (Knowledge Renewal) การนำองค์ความรู้มาปรับเปลี่ยนเนื้อความใหม่ เพื่อให้สามารถนำไปใช้กับงานในลักษณะอื่นได้ 5 April 2014

35 วงจรการจัดการองค์ความรู้ (Knowledge Management Cycle)
กำหนดรูปแบบองค์ความรู้ 2 ปรับปรุงองค์ความรู้ 3 สร้างองค์ความรู้ 1 จัดเก็บองค์ความรู้ 4 เผยแพร่องค์ความรู้ 6 จัดการองค์ความรู้ 5 รูปแสดงวงจรการจัดการองค์ความรู้ (Knowledge Management Cycle) 5 April 2014

36 วงจรการจัดการองค์ความรู้ (Knowledge Management Cycle)
1. การสร้างองค์ความรู้ (Create Knowledge) เป็นขั้นตอนคล้ายกับการสั่งสมประสบการณ์ 2. กำหนดรูปแบบองค์ความรู้ (Capture Knowledge) เป็นขั้นตอนในการจำแนกองค์ความรู้ใหม่ๆ ตามประโยชน์ขององค์ความรู้ และนำเสนอในรูปแบบที่เหมาะสม 3. การปรับปรุงองค์ความรู้ (Refine Knowledge) เป็นขั้นตอนการปรับปรุงองค์ความรู้ ให้มีโครงสร้าง และความหมายชัดเจนขึ้น (Explicit Knowledge) สามารถนำไปใช้งานได้ 5 April 2014

37 วงจรการจัดการองค์ความรู้ (Knowledge Management Cycle)
4. การจัดเก็บองค์ความรู้ (Store Knowledge) เป็นขั้นตอนการจัดเก็บองค์ความรู้ไว้ในคลังองค์ความรู้ เพื่อการนำไปใช้งานของบุคลากรในองค์กรต่อไป 5. การจัดการองค์ความรู้ (Manage Knowledge) เป็น ขั้นตอนในการทบทวน ตรวจสอบความสัมพันธ์และความถูกต้องขององค์ความรู้ และจัดเก็บองค์ความรู้ที่เป็นปัจจุบัน 6. การเผยแพร่องค์ความรู้ (Disseminate Knowledge) เป็นขั้นตอนการเผยแพร่องค์ความรู้ไปยังผู้ใช้ในองค์กร ในทุกที่ และทุกเวลาที่ผู้ใช้ต้องการ 5 April 2014

38 หัวหน้าส่วนจัดการองค์ความรู้ (Chief Knowledge Officer: CKO)
การใช้องค์ความรู้ ทำให้เกิดความพยายามสร้างวัฒนธรรม (Culture) ในการเปลี่ยนแปลงนิสัยการทำงานในองค์กร โดยอาศัยการสนับสนุนและมีส่วนร่วมของผู้บริหารระดับสูง การพัฒนาระบบการจัดการองค์ความรู้ ในหลายองค์กรจะมีการแต่งตั้งเจ้าหน้าที่จัดการองค์ความรู้ (Knowledge Officer) และมีหัวหน้าทีมคือ “หัวหน้าส่วนจัดการองค์ความรู้” (Chief Knowledge Officer: CKO) ซึ่งเป็นผู้ที่มีหน้าที่ เพิ่มสินทรัพย์ที่เรียกว่าองค์ความรู้ขององค์กร ออกแบบและสร้างกลยุทธ์ในการจัดการองค์ความรู้ รวมถึงการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ทั้งภายในและนอกองค์กรอย่างมีประสิทธิภาพ และส่งเสริมการใช้งานองค์ความรู้ในองค์กรอย่างเต็มที่ 5 April 2014

39 การพัฒนาระบบจัดการองค์ความรู้ (Knowledge Management Development) (1/2)
สิ่งแรกในการการวางกลยุทธ์ขององค์ความรู้ คือ ต้องทำเพื่อพัฒนามุมมองเกี่ยวกับการแข่งขัน ทั้งในปัจจุบันและอนาคต โดยมีการนำกลยุทธ์การวิเคราะห์จุดแข็งและจุดอ่อนขององค์กร (SWOT=Strengths, Weakness, Opportunities and Threats Analysis) มาใช้ในการวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างองค์ความรู้และการสนับสนุนกลยุทธ์ทางธุรกิจ ทำให้เห็นความสำคัญของกลยุทธ์ด้านการจัดการองค์ความรู้ และทำการจำแนกองค์ความรู้ที่สำคัญขององค์กร 5 April 2014

40 การพัฒนาระบบจัดการองค์ความรู้ (Knowledge Management Development)
การพัฒนาระบบจัดการองค์ความรู้ แบ่งออกเป็น 7 ขั้นตอน 1. ค้นหาปัญหา คือ ขั้นตอนในการค้นหาองค์กรขาดองค์ความรู้ใดบ้าง และองค์ความรู้ใดบ้างที่ยังไม่ได้เผยแพร่ 2. เตรียมการเปลี่ยนแปลง คือ เมื่อพบองค์ความรู้ที่จะพัฒนาแล้ว จะต้องวางแผนว่าจะดำเนินงานต่อไปอย่างไร 3. จัดตั้งทีม คือ ควรมีการจัดตั้งทีมงานส่วนของการจัดการองค์ความรู้ และควรมีหัวหน้าทีมด้วย 5 April 2014

41 การพัฒนาระบบจัดการองค์ความรู้ (Knowledge Management Development)
4. กำหนดองค์ความรู้ คือ ทำการกำหนดและจัดลำดับลักษณะการทำงานและเทคโนโลยี เพื่อพัฒนาองค์ความรู้ 5. สร้างกลไกการตอบสนอง คือ ขั้นตอนของการระบุว่าจะมีการใช้ระบบอย่างไร และแสดงรายงานปัญหาที่เกิดขึ้น 6. กำหนดกรอบแนวคิด คือ กำหนดกรอบแนวคิดให้กับระบบองค์ความรู้ที่จะพัฒนา 7. ผสมผสานระบบสารสนเทศที่มีอยู่แล้วในองค์กร คือ จัดหาระบบสารสนเทศมาสนับสนุนการจัดหา และจัดการรูปแบบให้ง่ายขึ้น 5 April 2014

42 แนวทางปฏิบัติ เทคโนโลยี และเครื่องมือ
แนวทางปฏิบัติ เทคโนโลยี และเครื่องมือที่ใช้ในการพัฒนาระบบจัดการองค์ความรู้ การผสมผสานการทำงานระหว่างเครื่องมือและเทคโนโลยี เพื่อที่จะทำให้การจัดการองค์ความรู้นั้นมีประสิทธิภาพมากที่สุด ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับชนิดขององค์ความรู้ที่องค์กรต้องการ การเข้าถึง และการแบ่งปัน ลักษณะการทำงานอย่างหนึ่งที่จะช่วยให้โครงการพัฒนาระบบการจัดการองค์ความรู้ประสบความสำเร็จได้ คือ การใช้คำที่ง่ายต่อการอ่านและทำความเข้าใจ 5 April 2014

43 ส่วนประกอบในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ของระบบจัดการองค์ความรู้
1. เครือข่ายการสื่อสาร 2. เครื่องมือสนับสนุนการทำงานร่วมกันในองค์กร เช่น Lotus Notes, Group Systems 3. การประชุมผ่านกล้องวิดีโอ 4. 5. ระบบจัดการเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ 6. A.I. Tools 7. การสืบค้นสารสนเทศ 8. ระบบปฏิบัติการ 5 April 2014

44 ส่วนประกอบในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ของระบบจัดการองค์ความรู้
9. เครื่องเมือในการจัดทำคลังข้อมูลและเหมืองข้อมูล 10. เครื่องมือวิเคราะห์การสร้างองค์ความรู้ 11. เครื่องมือจัดการเนื้อหาบนเว็บ 12. ฐานข้อมูล 13. ตัวแทนปัญญา (Intelligent Agent) 14. ซอฟต์แวร์ในการพัฒนาองค์ความรู้ 15. ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการจัดการองค์ความรู้ เช่น (Solution Builder, Dataware, KnowledgeX และ Decision Suite) 5 April 2014

45 ความสำเร็จของการพัฒนาระบบจัดการองค์ความรู้
1. โครงการพื้นฐานภายในองค์กร การทำงาน สารสนเทศ 2. มาตรฐาน 3. ตัวบ่งชี้ให้เห็นถึงความสำเร็จ คือ การเพิ่มขึ้นของการใช้งาน และจำนวนขององค์ความรู้ที่ เพิ่มขึ้น และสามารถทำงานได้ โดยไม่จำเป็นต้องอาศัยความสามารถ ของบุคลากร ภายนอกองค์กร 4. การเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ คือ การสร้างความคุ้นเคยให้กับพนักงานในวัฒนธรรมองค์ความรู้ ตามวัตถุประสงค์ขององค์ความรู้ และการใช้ภาษาที่ง่ายต่อการเข้าใจ 5 April 2014

46 เหตุผลในการวัดความสำเร็จ
1. เพื่อเป็นพื้นฐานในการประเมินค่าสินทรัพย์ใด ๆ ขององค์กร ทั้งด้านราคา และผลกำไรที่จะได้รับ 2. เพื่อให้มีการดำเนินงาน หรือ การตัดสินใจที่ถูกต้อง และเน้นการบริหารให้ตรงจุดกับปัญหา 3. เพื่อการตัดสินใจเกี่ยวกับการลงทุนในระบบจัดการองค์ความรู้ 5 April 2014

47 สาเหตุของความล้มเหลว
1. การไม่ให้ความสำคัญกับองค์ความรู้ 2. การให้ความสำคัญกับการจัดเก็บองค์ความรู้มากกว่าถ่ายทอดองค์ความรู้ 3. การให้ความสำคัญกับองค์ความรู้ที่มีโครงสร้างเท่านั้น 4. ความล้มเหลวในการให้ความสำคัญกับการแบ่งปันองค์ความรู้ในองค์กรมากเกินไป 5. ความล้มเหลวจากการจัดการองค์ความรู้ที่ไม่มีโครงสร้าง 6. การให้ความสนใจอดีตและปัจจุบันมากกว่าอนาคต 7. การใช้เทคโนโลยีแทนที่การติดต่อโดยมนุษย์ ทำให้ไม่เกิดการวิเคราะห์และขาดในเรื่องความนึกคิด 8. ให้ความสำคัญในการพยายามประเมินองค์ความรู้โดยตรงแทนที่จะประเมินผลลัพธ์ 5 April 2014

48 องค์กรแห่งการเรียนรู้ (Learning Organization)
ความหมายขององค์กรแห่งการเรียนรู้ คือ ความสามารถขององค์กรในการเรียนรู้ประสบการณ์จากอดีต เพื่อนำมาใช้ในการปรับปรุงความสามารถในการดำเนินการ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ประกอบด้วย 3 พื้นฐาน คือ 1. การให้ความหมาย (Meaning) คือ การพิจารณาว่าองค์กรแห่งการเรียนรู้นั้นจะมุ่งเน้นการเรียนรู้เรื่องใด 2. การจัดการ (Management) คือ การพิจารณาว่าจะต้องทำอย่างไรให้องค์กรสามารถดำเนินงานไปได้ด้วยดี 3 การวัดผล (Measurement) คือ การประเมินอัตรา หรือวัดระดับการเรียนรู้ 5 April 2014

49 องค์กรแห่งการเรียนรู้ : ข้อดี
สามารถแก้ปัญหาได้อย่างมีระบบ มีการทดลองสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ มีการเรียนรู้จากประสบการณ์ที่ผ่านมา มีการเรียนรู้จากการกระทำที่ดีที่สุดของบุคคลอื่น มีการส่งผ่านองค์ความรู้ไปยังส่วนต่าง ๆ ขององค์กรได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ องค์กรแห่งการเรียนรู้ จะเกี่ยวข้องกับ “การเรียนรู้ขององค์กร” และ “ความทรงจำขององค์กร” 5 April 2014

50 องค์กรแห่งการเรียนรู้ : การเรียนรู้
การเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ จากภายนอกองค์กรภายนอกมี 3 วิธี Passive Learning : การฝึกอบรม สัมมนา หรือ การอ่าน เป็นต้น Active Learning : การสอน การทดสอบ และวิเคราะห์คู่แข่งขันในตลาด Interactive Learning : เป็นการเรียนรู้แบบตัวต่อตัว มีถ่ายทอดองค์ความรู้แบบไม่มีโครงสร้าง (Tacit Knowledge) ถือว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับถ่ายทอดองค์ความรู้ระหว่างองค์กร 5 April 2014

51 องค์กรแห่งการเรียนรู้ : การเรียนรู้ขององค์กร
การเรียนรู้ขององค์กร คือการพัฒนาองค์ความรู้ใหม่และทำความเข้าใจ เพื่อที่จะดึงเอาจุดเด่นออกมาใช้งาน โดยที่ระบบจะประสบความสำเร็จได้นั้น เกิดจากการที่สมาชิกในองค์กร มีการแบ่งปัน ร่วมมือในการรับรู้และจดจำอย่างเป็นระบบ และการจัดการที่มีประสิทธิภาพ ประกอบด้วย การค้นหาองค์ความรู้ (Knowledge Acquisition) การแบ่งปันองค์ความรู้ (Knowledge Sharing) การนำองค์ความรู้ไปใช้ประโยชน์ (Knowledge Utilization) 5 April 2014

52 องค์กรแห่งการเรียนรู้ : วัฒนธรรมขององค์กร
วัฒนธรรมขององค์กร คือการแบ่งปันองค์ความรู้ของบุคลากรในองค์กรเพื่อให้ทราบถึงธรรมเนียมในการปฏิบัติงาน ซึ่งจะช่วยให้องค์กรมีการเรียนรู้และจำที่ดีขึ้น ตลอดเวลาที่องค์กรเปิดดำเนินการ บุคลากรจะมีการเรียนรู้ซึ่งกันและกันว่าสิ่งใดที่จะต้องทำและสิ่งใดไม่ต้องทำ ทำให้กลายเป็นวัฒนธรรมหรือวิธีปฏิบัติสำหรับบุคลากรใหม่นั้นเอง ดังนั้น การเรียนรู้และความทรงจำขององค์กร จะขึ้นอยู่กับวิธีปฏิบัติที่มีอยู่แล้วขององค์กร เพื่อให้เกิดความคุ้นเคยในการเรียนรู้มากที่สุด 5 April 2014

53 สรุป องค์ความรู้ (Knowledge) เป็นสิ่งที่มีมานานแล้ว เพียงแต่ยังไม่มีการจัดเก็บเป็นฐานความรู้อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่ง Knowledge มีความหมายและคุณค่ามากกว่า Data และ Information การจัดการองค์ความรู้ (Knowledge Management : KM) เป็นแนวทางที่ฉลาดในการที่จะค้นพบองค์ความรู้ 5 April 2014

54 สรุป องค์กรที่ชาญฉลาด จะมีการพัฒนาองค์ความรู้ของตนเอง เนื่องจากมันเป็นทรัพย์สินทางปัญญา บางทีองค์ความรู้อาจจะเป็นเพียงสิ่งเดียวซึ่งเจริญเติบโตได้ทุก ๆ เวลา และเมื่อไรที่เรามีการควบคุมมันอย่างมีประสิทธิภาพ มันก็จะสามารถสนับสนุนการทำงานให้ประสบผลสำเร็จ และทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง 5 April 2014

55 สรุป สามารถจำแนกประเภทขององค์ความรู้ได้ 2 ประเภทหลัก ๆ ที่จะต้องมีการจัดเก็บลงในฐานองค์ความรู้ ได้แก่ 1) องค์ความรู้ที่ไม่มีโครง (Tacit knowledge) เป็นความรู้ที่ไม่ชัดเจน คลุมเครือ เช่น ประสบการณ์ส่วนบุคคล ไหวพริบเฉพาะบุคคล เป็นต้น 2) องค์ความรู้ที่มีโครงสร้าง (Explicit knowledge) เป็นความรู้ที่มีความชัดเจน เช่น นโยบายหรือมาตรฐานการดำเนินงานขององค์กรที่อยู่ในรูปแบบเอกสารและรายงานประเภทต่าง ๆ 5 April 2014

56 สรุป ในการพัฒนาระบบองค์ความรู้ จะต้องแปลงองค์ความรู้แบบไม่มีโครงสร้าง (Tacit knowledge) ให้อยู่ในรูปแบบขององค์ความรู้แบบมีโครงสร้าง (Explicit knowledge) การพัฒนาองค์ความรู้นี้ วัฒนธรรมองค์กร (Organization Culture) ก็ถือเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง ที่จะทำให้การพัฒนาองค์ความรู้นั้นประสบผลสำเร็จ และความสำเร็จของการพัฒนาองค์ความรู้ จะเน้นที่การนำไปใช้ ไม่ได้เน้นที่การจัดเก็บไว้แต่เพียงอย่างเดียว 5 April 2014

57 5 April 2014

58 คำถามท้ายบทที่ 7 1. จงบอกความหมายขององค์ความรู้และยกตัวอย่างการใช้องค์ความรู้ในการแก้ไขปัญหา 2. บอกความแตกต่างของ Data, Information และ Knowledge 4. จงยกตัวอย่างขององค์ความรู้แบบมีโครงสร้างและไม่มีโครงสร้างมาอย่างละ 3 ตัวอย่าง 5. ท่านคิดว่าวัฒนธรรมองค์กรเช่นไรจะทำให้ง่ายต่อการสร้าง KM เพราะเหตุใด และวัฒนธรรมแบบไหนที่ยากและเสี่ยงต่อการนำ KM ไปใช้ให้ประสบความสำเร็จ จงอธิบายและยกตัวอย่าง 6. อธิบายขั้นตอนในการจัดการ KM และนักศึกษาคิดว่าขั้นตอนใดสำคัญที่สุด เพราะเหตุใด 5 April 2014

59 ส วั ส ดี 5 April 2014 E-mail:wichai@buu.ac.th 27 March 2001


ดาวน์โหลด ppt 5 April 2014 E-mail:wichai@buu.ac.th.

งานนำเสนอที่คล้ายกัน


Ads by Google