ดาวน์โหลดงานนำเสนอ
งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ
1
Card Reader และ ประเภทการ์ดหน่วยความจำ
เรื่อง Card Reader และ ประเภทการ์ดหน่วยความจำ
2
เรื่อง Card Reader และ ประเภทการ์ดหน่วยความจำ จัดทำโดย
นาย กิตติพัฒน์ พึ่งแม้น สาขางาน เทคนิคคอมพิวเตอร์ ปีที่ 2/1 รหัสประจำตัวนักศึกษา Tel:
3
เรื่อง Card Reader และ ประเภทการ์ดหน่วยความจำ จัดทำโดย
นาย ชนินทร์ ประเสริฐ สาขางาน เทคนิคคอมพิวเตอร์ ปีที่2/1 รหัสประจำตัวนักศึกษา Tel:
4
การเลือกซื้อเมมโมรี่การ์ด วิธีดูแลรักษาเมมโมรี่การ์ด
สารบัญ Card Reader 6.Memory Stick 1.DV RS-MMC Card 7.Memory Stick Duo 2.RS-MMC Card 8.microSD Card 3.MMC Card 9.CompactFlash Card 4.SD Card การเลือกซื้อเมมโมรี่การ์ด 5.miniSD Card วิธีดูแลรักษาเมมโมรี่การ์ด แบบทดสอบ X
5
Card Reader Card Reader คืออุปกรณ์ที่ใช้ในการอ่านข้อมูลที่อยู่ในการ์ดหน่วยความจำ ซึ่งการ์ดหน่วยความจำก็จะมีหลายประเภทแตกต่างกันไป ทั้ง DV-Rs-mmc, Rs-mmc, MMC Card, SD Card, Mini Sd Card, Memory Stick, Memory Stick Duo ฯลฯ เหล่านี้เป็นต้น
6
ข้อดีของ Card Reader ข้อดีของ Card Reader ที่เรามักจะมองเห็นง่ายๆ ก็คือ ความสามารถในการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างหน่วยความจำแต่ละชนิดกัน เช่นการโอนข้อมูลจาก CF Card ไปยัง SD Card หากใช้เพียง Data Cable เพียงอย่างเดียว ผู้ใช้งานอาจจำเป็นจะต้องมีช่อง USB port บนเครื่องคอมพิวเตอร์หรือโน้ตบุ๊คสำหรับทำงานอย่างน้อยสองช่อง นอกจากนี้ยังอาจจะต้องพกพา Data Cable หลายเส้น
7
ประเภทการ์ดหน่วยความจำ
1. DV RS-MMC Card (Dual Voltage Reduced Size MultiMediaCard) 2. RS-MMC Card (Reduced Size MultiMediaCard) 3. MMC Card (MultiMediaCard) 4. SD Card (Secure Digital Card) 5. miniSD Card (Mini Secure Digital Card) 6. Memory Stick 7. Memory Stick Duo 8. microSD Card (Micro Secure Digital Card) หรือ TransFlashCard 9. CompactFlash Card (CF Card)
8
1.DV RS-MMC Card (Dual Voltage Reduced Size MultiMediaCard)1
DV RS-MMC Card หรือ Dual Voltage Reduced Size Multi- MediaCard นั้นถูกพัฒนาขึ้นมาจากพื้นฐานของการ์ดหน่วยความจำ แบบ RS-MMC Card และมีขนาดเท่ากันทุกประการ โดยมีวัตถุประ- สงค์หลักเพื่อ ที่จะให้ตัวการ์ดสามารถใช้แรงดันไฟได้ 2 ระดับ คือ 1.8 V และ 3.3V จึงทำให้สามารถประหยัดพลังงานได้มากขึ้นกว่าเดิม
9
ข้อมูลเชิงเทคนิคของ DV RS-MMC Card
- ขนาด 24 x 16 x 1.4 มิลลิเมตร - น้ำหนัก 1.0 กรัม - ขั้วต่อ (Pins) แบบ 7-Pins หรือ 13-Pins (MMCmobile) - รองรับการใช้งานกับแรงดันไฟ 2 ระดับ คือ1.8โวลต์ และ 3.3โวลต์ - อัตราความเร็วในการอ่านข้อมูลสูงสุด 1.75MB ต่อวินาที หรือ 8MB ต่อวินาที (MMCmobile)
10
ข้อมูลเชิงเทคนิคของ DV RS-MMC Card(ต่อ)
- อัตราความเร็วในการเขียนข้อมูลสูงสุด 1.65MB ต่อวินาที หรือ 7MB ต่อวินาที (MMCmobile) - Bandwidth ในการโอนถ่ายข้อมูล (Transfer Bandwidth : Bus Widths) 1 bit, 4 bits และ 8 bits (MMCmobile) - ในปัจจุบันมีขนาดความจุให้เลือกใช้ตั้งแต่ 128, 256 และ 512MB
11
2.RS-MMC Card (Reduced Size MultiMediaCard)
RS-MMC Card นั้นเป็นการ์ดหน่วยความจำที่พัฒนาขึ้นมาด้วยพื้นฐานของ MMC Card และมีคุณสมบัติโดยรวมที่ไม่แตกต่างกัน เพียงแต่มีขนาดที่เล็กลงประมาณครึ่งหนึ่งของ MMC Card ในทางยาวนั่น คือมีความยาวลดลงเหลือ 16 มม. ในขณะที่ MMCCard มีความยาว 32 มม. แต่ก็ยังมีความ กว้างขนาด 24 มม. และความหนาขนาด 1.4 มม. เท่าเดิม ซึ่ง RS-MMC Card นั้นนำมาใช้กับ โทรศัพท์มือถือ โนเกีย 7610 เป็นรุ่นแรก
12
2.RS-MMC Card (Reduced Size MultiMediaCard)(ต่อ)
ปัจจุบัน เนื่องจาก RS-MMC Card มีการใช้งานกันอย่างแพร่หลายมากขึ้น โทรศัพท์มือถือ หลายรุ่นหลายยี่ห้อต่างก็หันมาใช้ RS-MMC Card แทนที่จะเลือกใช้ MMC Card และในอนาคตคาดว่าจะเข้ามาแทนที่ MMC Card
13
ข้อมูลเชิงเทคนิคของ RS-MMC Card
- ขนาด 24 x 16 x 1.4 มิลลิเมตร - น้ำหนัก 1.0 กรัม - ขั้วต่อ (Pins) แบบ 7-Pins (RS-MMC) หรือ 13-Pins (MMCmobile) - ระดับแรงดันไฟ 3.3โวลต์ (RS-MMC) หรือ 1.8/3.3โวลต์ (MMCmobile) - อัตราความเร็วในการอ่านข้อมูลสูงสุด 1.75MB ต่อวินาที (RS-MMC) หรือ 8MB ต่อวินาที (MMCmobile)
14
ข้อมูลเชิงเทคนิคของ RS-MMC Card(ต่อ)
- อัตราความเร็วในการเขียนข้อมูลสูงสุด 1.65MB ต่อวินาที (RS-MMC) หรือ 7MB ต่อวินาที (MMCmobile) - Bandwidth ในการโอนถ่ายข้อมูล (Transfer Bandwidth : Bus Widths) 1 bit, 4 bits และ 8 bits (MMCmobile) - ในปัจจุบันมีขนาดความจุให้เลือกใช้ตั้งแต่ 32, 64, 128, 256, 512MB และ 1GB
15
3.MMC Card (MultiMediaCard)
MMC Card หรือ MultiMediaCard นั้นถูกนำเสนอสู่สาธารณะชนครั้งแรกในปี ค.ศ.1997 โดย บริษัท Siemens AG และ SanDisk ซึ่งมีพื้นฐานการทำงานอยู่บน NAND-based Flash Memory ซึ่ง MMC Card นั้นมีขนาดที่เล็กกว่าการ์ดหน่วยความจำที่มีพื้นฐานการทำงานอยู่บน Intel NOR-based เช่น CompactFlash Card
16
3.MMC Card (MultiMediaCard)(ต่อ)
ขนาดของ MMC Card นั้นค่อนข้างใกล้เคียงกับสแตมป์ไปรษณีย์ โดยมีความยาว 32 มิลลิเมตร กว้าง 24 มิลลิเมตร และ หนา 1.4 มิลลิเมตร ในยุคแรก MMC Card นั้นใช้ Interface ในการโอนถ่ายข้อมูลแบบ 1-bit Serial แต่ต่อมาในเวอร์ชันใหม่ จะสามารถโอนถ่ายข้อมูลได้ 4 bits หรือ 8 bits ในเวลาเดียวกัน
17
ข้อมูลเชิงเทคนิคของ MMC Card
- ขนาด 24 x 32 x 1.4 มิลลิเมตร - น้ำหนัก 1.5 กรัม - ขั้วต่อ (Pins) แบบ 7-Pins (MMC) และ 13-Pins (MMCplus) - ระดับแรงดันไฟ 3.3โวลต์ - อัตราความเร็วในการอ่านข้อมูลสูงสุด 11MB ต่อวินาที (MMCplus)
18
ข้อมูลเชิงเทคนิคของ MMC Card(ต่อ)
- อัตราความเร็วในการเขียนข้อมูลสูงสุด 7MB ต่อวินาที (MMCplus) - Bandwidth ในการโอนถ่ายข้อมูล (Transfer Bandwidth : Bus Widths) 1 bit, 4 bits และ 8 bits (MMCplus) - ในปัจจุบันมีขนาดความจุให้เลือกใช้ตั้งแต่ 32, 64, 128, 256, 512MB, 1GB และ 2GB
19
4.SD Card (Secure Digital Card)
SD Card หรือเรียกชื่อเต็มๆ ว่า Secure Digital Card พัฒนาขึ้นมาอยู่บนพื้นฐานของการ์ดหน่วยความจำแบบ MMC Card โดยจะมีความกว้างและยาวเท่ากันนั่นคือมีความยาว 32 มม. กว้าง 24 มม. แต่จะมีความหนาที่มากกว่าMMC Card นั่นคือมีความหนา 2.1 มม.
20
4.SD Card (Secure Digital Card)(ต่อ)
โดยทางบริษัท Toshiba ได้เพิ่มความสามารถทางด้านฮาร์ดแวร์ ที่ทำหน้าที่เข้ารหัสข้อมูลเข้าไปในเทคโนโลยีเดิมของ MMC Card และยังใส่เทคนิคพิเศษที่เรียกว่า DRM ซึ่งเป็นตัวจัดการเกี่ยวกับเรื่องของลิขสิทธิ์ของข้อมูลมาให้ นอกจากนั้นที่ด้านข้างของ SD Card ยังมีสวิตช์ล็อคสำหรับป้องกันการเขียนข้อมูลทับเอาไว้ให้อีกด้วย
21
ข้อมูลเชิงเทคนิคของ SD Card
- ขนาด 24 x 32 x 2.1 มิลลิเมตร - น้ำหนัก 2 กรัม - จำนวนขาขั้วต่อ (Pins) 9Pins - ความเร็วสูงสุดในการโอนถ่ายข้อมูล Mbyte/s - ระดับแรงดันไฟที่สามารถใช้งานได้ 2.7 ถึง 3.6 โวลต์) - มีขนาดความจุให้เลือกตั้งแต่ 64, 128, 256, 512MB และ 1, 2GB - ฟังก์ชัน DRM (Digital Rights Management) ช่วยจัดการเกี่ยวกับเรื่องของลิขสิทธิ์ของข้อมูล
22
5.miniSD Card (Mini Secure Digital Card)
MiniSD Card นั้นถูกพัฒนาขึ้นมาครั้งแรกโดย บริษัท SanDisk และเปิดตัวสู่สาธารณะชนครั้งแรก ณ งาน CeBIT ในปี ค.ศ.2003 ซึ่งเป็นงานแสดงเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยที่ miniSD Card นี้ถือว่าเป็นการ์ดหน่วยความจำอีกชนิดหนึ่งที่ถูกพัฒนาต่อจากการ์ดหน่วยความจำต้นแบบของตนเองคือ SD Card ให้มีขนาดที่เล็กลง
23
5.miniSD Card (Mini Secure Digital Card)(ต่อ)
จะต่างกันก็เพียงแต่ miniSD Card นั้นมีขนาดลดลงจากขนาดของ SD Card ปกติถึงประมาณ 60% เลยทีเดียว และไม่มีสวิตช์ที่ใช้สำหรับป้องกันการเขียนข้อมูลทับอยู่ในตัว สิ่งที่ miniSD Card แตกต่างจาก SD Card อีกเรื่องก็คือจำนวนของขาขั้วต่อ (Pins) ที่ miniSD Card มีจำนวนทั้งหมด 11Pins แต่ SD Card มีเพียง 9Pins
24
ข้อมูลเชิงเทคนิคของ miniSD Card
- ขนาด 21.5 x 20 x 1.4 มิลลิเมตร (0.84 x 0.78 x 0.05 นิ้ว : 40% ของ SD Card) - น้ำหนัก 1 กรัม - จำนวนขาขั้วต่อ (Pins) 11Pins - ระดับแรงดันไฟที่สามารถใช้งานได้ 2.7 ถึง 3.6โวลต์ - ระดับความเร็วในการเขียนข้อมูล 1 ถึง 5.5MByte ต่อวินาที - ระดับความเร็วในการอ่านข้อมูล 4.5 ถึง 7.85MByte ต่อวินาที - มีระบบการรักษาความปลอดภัยแบบ SDMI (Security Digital Music Initiative) - มีขนาดความจุให้เลือกตั้งแต่ 64, 128, 256, 512MB และ 1GB
25
6.Memory Stick Memory Stick เป็นการ์ดหน่วยความจำที่ถูกพัฒนาขึ้นมาครั้งแรกใน เดือนตุลาคม ปี ค.ศ.1998 โดย บริษัท Sony ซึ่งเน้นสำหรับการนำไปใช้งานกับอุปกรณ์ยี่ห้อ Sony โดยเฉพาะอุปกรณ์ที่ต้องพึ่งพาการ์ดหน่วยความจำ เช่น กล้องดิจิตอล, โทรศัพท์มือถือ เครื่องเล่นเพลง อื่นๆ
26
6.Memory Stick(ต่อ) Memory Stick เป็นการ์ดหน่วยความจำที่ยังมีราคาสูงกว่าการ์ดหน่วยความจำชนิดอื่น แต่ก็มีจุดเด่นคือมีความเร็วในการโอนถ่ายข้อมูลที่สูง และในเวลาไม่นานนัก ก็มีการพัฒนา Memory Stick แบบใหม่ ขึ้นมาให้ใช้งานอีก Memory StickDuo ที่พัฒนาให้มีขนาดเล็กลงเป็นต้น
27
ข้อมูลเชิงเทคนิคของ Memory Stick
- ขนาด 50 x 21.5 x 2.8 มิลลิเมตร (1.97 x 0.85 x 0.11 นิ้ว) - น้ำหนัก 4 กรัม - จำนวนขาขั้วต่อ (Pins) 10Pins - ระดับแรงดันไฟที่ใช้ โวลต์ - ความเร็วสูงสุดในการเขียนข้อมูล 1.8Mbyte ต่อวินาที (14.4Mbit ต่อวินาที) - ความเร็วสูงสุดในการอ่านข้อมูล 2.5Mbyte ต่อวินาที (19.6Mbit ต่อวินาที) - ขนาดความจุ มีตั้งแต่ 16, 32, 64, 128 และ 256MB - เทคโนโลยี MagicGate ช่วยป้องกันการคัดลอกข้อมูล - สวิตช์สำหรับการป้องกันการเขียนทับข้อมูล
28
7.Memory Stick Duo Memory Stick Duo เป็นการ์ดหน่วยความจำที่มีขนาดเล็กลงกว่า Memory Stick ปกติ และมีขนาดที่เล็กกว่า SD Card เล็กน้อย จุดประสงค์ที่ทาง บริษัท Sony พัฒนา Memory Stick Duo นี้ขึ้นมาก็เพราะต้องการการ์ดหน่วยความจำที่มีขนาดเล็กลงกว่า Memory Stick ปกติ เพื่อนำไปใช้กับอุปกรณ์พกพาต่างๆ ที่นับวันจะยิ่งมีขนาดเล็กมากขึ้น
29
7.Memory Stick Duo(ต่อ) Memory Stick ปกติ ดูจะมีขนาดที่ใหญ่เกินไปสำหรับอุปกรณ์เหล่านั้น เช่น กล้องดิจิตอลขนาดพกพา หรือ โทรศัพท์มือถือ เป็นต้น และยังรวมถึงเครื่องเล่นเกมส์ Sony อย่างเครื่อง PSP (PlayStation Portable) อีกด้วยที่จำเป็นต้องใช้การ์ดหน่วยความจำชนิดนี้
30
ข้อมูลเชิงเทคนิคของ Memory Stick Duo
- ขนาด 31 x 20 x 1.6 มิลลิเมตร (1.22 x 0.79 x 0.6 นิ้ว) - น้ำหนัก 2 กรัม (ไม่ใส่ Adapter) - น้ำหนัก 4 กรัม (ใส่ Adapter) - จำนวนขาขั้วต่อ (Pins) 10Pins - ระดับแรงดันไฟที่ใช้ โวลต์
31
ข้อมูลเชิงเทคนิคของ Memory Stick Duo(ต่อ)
- ความเร็วสูงสุดในการเขียนข้อมูล 1.8Mbyteต่อวินาที (14.4Mbit ต่อวินาที) - ความเร็วสูงสุดในการอ่านข้อมูล 2.5Mbyte ต่อวินาที (19.6Mbit ต่อวินาที) - ขนาดความจุ มีตั้งแต่ 32, 64 และ 128MB - เทคโนโลยี MagicGate ช่วยป้องกันการคัดลอกข้อมูล - สวิตช์สำหรับการป้องกันการเขียนทับข้อมูล
32
8.microSD Card (Micro Secure Digital Card) Card
MicroSD Card มีชื่อเรียกเดิมว่า TransFlash Card ซึ่งจริงๆ แล้วเป็นการ์ดหน่วยความจำแบบเดียวกัน โดยมีขนาดที่เล็กมากเป็นพิเศษ คือมีความยาว 15 มม. ความกว้าง 11 มม. ความหนา 1 มม. และมีน้ำหนักเพียง 0.4 กรัม จึงถือว่า microSD Card เป็นการ์ดหน่วยความจำประเภทหนึ่งที่มีขนาดที่เล็กมากที่สุดในปัจจุบัน
33
8.microSD Card (Micro Secure Digital Card) (ต่อ)
หากให้เปรียบเทียบง่ายๆ ก็คือมีขนาดประมาณปลายนิ้วมือของคนเราเท่านั้น ซึ่ง microSD Card นั้นพัฒนาออกมาเพื่อให้เหมาะสมสำหรับการนำไปใช้กับอุปกรณ์พกพาที่มีขนาดเล็กหลายประเภท เช่น โทรศัพท์มือถือ หรือ เครื่องเล่นเพลง microSD Card นั้นพัฒนาขึ้นมาด้วยความร่วมมือของ บริษัท โมโตโรลา และ SanDisk
34
ข้อมูลเชิงเทคนิคของ microSD Card
- ขนาด 11 x 15 x 1 มิลลิเมตร - น้ำหนัก 0.4 กรัม - จำนวนขาขั้วต่อ (Pins) 8Pins - ระดับแรงดันไฟที่สามารถใช้งานได้ 2.7 ถึง 3.6โวลต์ - อัตราความสิ้นเปลืองพลังงานขณะอ่านข้อมูล น้อยกว่า 45mA - อัตราความสิ้นเปลืองพลังงานขณะเขียนข้อมูล น้อยกว่า 50mA - มีขนาดความจุให้เลือกตั้งแต่ 16, 32, 64, 128, 256 ,512 และ 1,2,4GB
35
9.CompactFlash Card (CF Card)
CompactFlash Card หรือ CF Card ถูกพัฒนาและผลิตขึ้นครั้งแรกโดย บริษัท SanDisk ในปี ค.ศ.1994 ซึ่งสามารถแบ่งได้ 2 แบบหลักคือ Type I และ Type II โดย Type I จะมีความหนาน้อยกว่า Type II เล็กน้อย และอีกไม่นานก็จะมี Type III ผลิตออกมาด้วย สำหรับความเร็วในการทำงานนั้น ก็มีตั้งแต่ความเร็วมาตรฐานเริ่มแรก
36
9.CompactFlash Card (CF Card)(ต่อ)
ความเร็วแบบ High Speed (CF+ หรือ CF2.0) และความเร็วตามมาตรฐาน CF3.0 ซึ่งถูกนำมาใช้ในปี ค.ศ และสำหรับสล็อตแบบ CF Type II นั้นสามารถนำหน่วยความจำแบบ Microdrive หรืออุปกรณ์อื่นๆ บางอย่างมาใส่ได้ด้วย
37
ข้อมูลเชิงเทคนิคของ CompactFlash Card
- ขนาด 36.4 x 42.8 x 3.3 มิลลิเมตร (1.43 x 1.68 x 0.13 นิ้ว : Type I) - ขนาด 36.4 x 42.8 x 5 มิลลิเมตร (Type II) - น้ำหนัก 11.4 กรัม - ระดับแรงดันไฟ 3.3โวลต์ และ 5โวลต์ - เทคโนโลยี Defect Management และ Error Correction ในตัว - ความเร็วในการโอนถ่ายข้อมูล 6Mbyte ต่อวินาที
38
ข้อมูลเชิงเทคนิคของ CompactFlash Card(ต่อ)
- สล็อตแบบ CompactFlash Type II สามารถรองรับการใช้งานกับ MicroDrive ได้ (Hard Disk ขนาดเล็ก) - โหมดการทำงานแบบ Autosleep Mode ช่วยประหยัดพลังงานของแบตเตอรี่ - สามารถเก็บบันทึกข้อมูลไว้ได้นาน 10 ปี
39
การเลือกซื้อเมมโมรี่การ์ด (Memory Card)
ขั้นตอนที่ 1 : ตรวจสอบรูปแบบเมมโมรี่การ์ดที่คุณใช้ ดูที่คู่มือของกล้อง , โทรศัพท์ หรือ อุปกรณ์ที่คุณใช้อยู่ว่ารองรับการใช้เมมเมรี่การ์ด (Memory Card) แบบไหน ถ้าคู่มือเป็นภาษาอังกฤษให้ดูตรงที่มีข้อความอย่างเช่น “memory card compatability” or “storage ส่วนใหญ่จะมีอยู่ในหน้าสรุปรายละเอียดหรือสเปกสินค้าถ้าคุณไม่สามารถหาคู่มือให้ดูที่ฝาช่องเสียบการ์ดหน่วยความจำ จะมีเครื่องหมายบอกอย่างเช่น CF (CompactFlash Card ), SD (Secure Digital), xD (Extreme Digital), MS (Memory Stick), MMC (MultiMediaCard), SM (Smart Media)
40
การเลือกซื้อเมมโมรี่การ์ด (Memory Card) (ต่อ)
ขั้นตอนที่ 2 : ตรวจสอบความจุ (Capacity) - ความจุเยอะก็จะเก็บข้อมูล รูป หรือ เพลงได้เยอะ และความจุยิ่งเยอะ การ์ดก็จะมีราคาแพงขึ้นตามไปด้วย - อุปกรณ์บางอย่างรองรับความจุที่จำกัด เช่น กล้องรุ่นเก่าอาจรองรับความจุสูงสุดได้แค่ที่ 2 GB
41
การเลือกซื้อเมมโมรี่การ์ด (Memory Card) (ต่อ)
ขั้นตอนที่ 3 : ความเร็วของการ์ด (Speed)ที่ตัวการ์ดจะมีเครื่องหมายอย่าง เช่น 4X , 12X อยู่นั้นหมายถึงความเร็วในการเขียน ต่อวินาที เครื่องหมาย X มีความหมายคือ .. ร้อยกว่ากิโลไบท์ต่อวินาที (kb/s)เช่น 1x คือความเร็วในการเขียน 150 กิโลไบท์ต่อวินาที (KB/s) 4x คือ 400 กว่ากิโลไบท์ต่อวินาที (KB/s)
42
การเลือกซื้อเมมโมรี่การ์ด (Memory Card) (ต่อ)
สำหรับผู้ใช้กล้องดิจิตอลหรือวีดีโอความเร็วมีผล อย่างเช่น - ผู้ใช้กล้องแบบมืออาชีพ ภาพจะมีความละเอียดสูงเวลาจัดเก็บภาพจะใช้เวลานานกว่าปกติ ความเร็วย่นเวลาในการจัดเก็บภาพหลังถ่ายเสร็จ - การถ่ายภาพวัตถุเคลื่อนไหวอย่าง เช่น กีฬา ทำให้ถ่ายภาพต่อเนื่องได้เร็วขึ้น - การถ่ายวีดีโอ ความเร็วจะช่วยทำให้การถ่ายภาพสมูธขึ้น
43
วิธีดูแลรักษาเมมโมรี่การ์ด (Memory Card)
1. การใส่เมมโมรี่การ์ด ควรจะใส่อย่างระมัดระวัง และถูกทิศทาง เพราะหากรีบใส่หรือฝืนใส่ผิดทาง อาจจะทำให้พินในตัวอุปกรณ์เสียหายได้ ซึ่งค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมนั้นค่อนข้างสูง 2. เก็บรักษาเมมโมรี่การ์ดไว้ในที่ที่ปราศจากฝุ่นและความชื้น และไม่ควรทิ้งไว้ให้ถูกแสงแดดตรงๆ 3. ไม่ควรทำการบันทึกข้อมูลลงในเมมโมรี่การ์ดจนเต็ม ควรจะเหลือพื้นที่ว่างไว้ประมาณ 10% ของความจุทั้งหมด 4. ระวังหล่นหายขณะพกพา เนื่องจากขนาดที่เล็ก 5. ระวังถูกขโมย
44
จบการนำเสนอ
45
แหล่งข้อมูลอ้างอิง เรื่อง Card Reader 20 ธันวาคม การ์ดหน่วยความจำ 22 ธันวาคม วิธีการเลือกซื้อ 26 ธันวาคม วิธีดูแลรักษาการ์ดหน่วยความจำ 26 ธันวาคม
งานนำเสนอที่คล้ายกัน
© 2024 SlidePlayer.in.th Inc.
All rights reserved.