ดาวน์โหลดงานนำเสนอ
งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ
1
ทำวัตรเย็น ปรับปรุงล่าสุด 11/09/54
2
บทนมัสการพระรัตนตรัย
อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา พระผู้มีพระภาคเจ้า, เป็นพระอรหันต์ ดับเพลิงกิเลสเพลิงทุกข์สิ้นเชิง, ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง พุทธัง ภะคะวันตัง อะภิวาเทมิ ข้าพเจ้าอภิวาท,พระผู้มีพระภาคเจ้า, ผู้รู้, ผู้ตื่น, ผู้เบิกบาน (กราบ)
3
สฺวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม
สฺวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม พระธรรมเป็นธรรมที่พระผู้มีพระภาคเจ้า, ตรัสไว้ดีแล้ว ธัมมัง นะมัสสามิ ข้าพเจ้านมัสการพระธรรม (กราบ)
4
สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า, ปฏิบัติดีแล้ว สังฆัง นะมามิ ข้าพเจ้านอบน้อมพระสงฆ์ (กราบ)
5
บทนมัสการพระพุทธเจ้า
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า, พระองค์นั้น อะระหะโต ซึ่งเป็นผู้ไกลจากกิเลส สัมมา สัมพุทธัสสะ ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง (ว่า ๓ หน)
6
บทบูชาพระพุทธเจ้า 28 พระองค์
นะโม เม สัพพะพุทธานัง อุปปันนานัง มะเหสินัง ตัณหังกะโร มะหาวีโร เมธังกะโร มะหายะโส สะระณัง กะโร โลกะหิโต ทีปังกะโร ชุตินธะโร โกณฑัญโญ ชะนะปาโมกโข มังคะโล ปุริสาสะโภ สุมะโน สุมะโน ธีโร เรวะโต ระติวัฑฒะโน โสภีโต คุณะสัมปันโน อะโนมะทัสสี ชะนุตตะโม
7
ปะทุโม โลกะปัชโชโต นาระโท วะระ สาระถี
ปะทุมุตตะโร สัตตะสาโร สุเมโธ อัปปะฎิปุคคะโล สุชาโต สัพพะโลกัคโค ปิยะทัสสี นะราสะโภ อัตถะทัสสี การุณิโก ธัมมะทัสสี ตะโมนุโท สิทธัตโถ อะสะโม โลเก ติสโส จะ วะทะตัง วะโร ปุสโส จะ วะระโท พุทโธ วิปัสสี จะ อะนูปะโม
8
สิขี สัพพะหิโต สัตถา เวสสะภู สุขะทายะโก
กะกุสันโธ สัตถะวาโห โกนาคะมะโน ระณัญ ชะโห กัสสะโป สิริสัมปันโน โคตะโม สักกยะปุงคะโว ติฯ
9
นมัสการพระพุทธเจ้า ๒๘ พระองค์
นะโม เม สัพพะพุทธานัง ข้าพเจ้าขอนอบน้อมแด่พระพุทธเจ้าทั้งหลายทั้งปวง อุปปันนานัง มะเหสินัง ผู้แสวงหาคุณอันใหญ่ซึ่งได้อุบัติแล้ว คือ ๑. ตัณหังกะโร มะหาวีโร พระตัณหังกร ผู้กล้าหาญ ๒. เมธังกะโร มะหายะโส พระเมธังกร ผู้มียศใหญ่ ๓. สะระณังกะโร โลกะหิโต พระสรณังกร ผู้เกื้อกูลต่อชาวโลก
10
นมัสการพระพุทธเจ้า ๒๘ พระองค์
๔. ทีปังกะโร ชุตินธะโร พระทีปังกร ผู้ทรงไว้ซึ่งปัญญาอันรุ่งเรือง ๕. โกณฑัญโญ ชะนะปาโมกโข พระโกณฑัญญะ ผู้เป็นประมุขแห่งหมู่ชน ๖. มังคะโล ปุสิสาสะโก พระมังคละ ผู้เป็นบุรุษประเสริฐ ๗. สุมะโน สุมะโน ธีโร พระสุมนะ ผู้เป็นธีรบุรุษมีพระหฤทัยงาม ๘. เรวะโต ระติวัฑฒะโน พระเรวะตะ ผู้เพิ่มพูนความยินดี
11
นมัสการพระพุทธเจ้า ๒๘ พระองค์
๙. โสภิโต คุณสัมปันโน พระโสภิตะ ผู้สมบูรณ์ด้วยพระคุณ ๑๐. อะโนมะทัสสี ชะนุตตะโม พระอโนมทัสสี ผู้สูงสุดอยู่ในหมู่ชน ๑๑. ปะทุโม โลกะปัชโชโต พระปทุมะ ผู้ทำให้โลกสว่าง ๑๒. นาระโท วาระสาระถี พระนารทะ ผู้เป็นสารถีประเสริฐ ๑๓. ปะทุมุตโต สัตตะสาโร พระปทุมุตตระ ผู้เป็นที่พึ่งของหมู่สัตว์
12
นมัสการพระพุทธเจ้า ๒๘ พระองค์
๑๔. สุเมโธ อัปปะฏิบุคคะโล พระสุเมธะ ผู้หาบุคคลเปรียบมิได้ ๑๕. สุชาโต สัพพะโลกัคโค พระสุชาตะ ผู้เลิศกว่าสัตว์โลกทั้งปวง ๑๖. ปิยะทัสสี นะราสะโภ พระปิยทัสสี ผู้ประเสริฐกว่าหมู่นรชน ๑๗. อัตถะทัสสี การุณิโก พระอัตถทัสสี ผู้มีพระกรุณา ๑๘. ธัมมะทัสสี ตะโมนุโท พระธรรมทัสสี ผู้บรรเทาความมืด
13
นมัสการพระพุทธเจ้า ๒๘ พระองค์
๑๙. สิทธัตโถ อะสะโม โลเก พระสิทธัตถะ ผู้หาบุคคลเสมอมิได้ในโลก ๒๐. ติสโส จะ วะทะตัง วาโร พระติสสะ ผู้ประเสริฐกว่านักปราชญ์ทั้งหลาย ๒๑. ปุสโส จะ วะระโท พุทโธ พระปุสสะ ผู้ประทานธรรมอันประเสริฐ ๒๒. วิปัสสี จะ อะนูปะโม พระวิปัสสี ผู้ที่หาเปรียบมิได้ ๒๓. สิขี สัพพะหิโต สัตถา พระสิขี ผู้เป็นศาสดาเกื้อกูลแก่สรรพสัตว์
14
นมัสการพระพุทธเจ้า ๒๘ พระองค์
๒๔. เวสสะภู สุขะทายะโก พระเวสสภู ผู้ประทานความสุข ๒๕. กะกุสันโธ สัตถะวาโท พระกกุสันธะ ผู้นำสัตว์ออกจากสันดารตัวกิเลส ๒๖. โกนาคะมะโน ระณัญชะโห พระโกนาคมนะ ผู้หักเสียซึ่งข้าศึก คือ กิเลส ๒๗. กัสสะโป สิริสัมปันโน พระกัสสปะ ผู้สมบูรณ์ด้วยสิริ ๒๘. โคตะโม สักยะปุงคะโว พระโคตมะ ผู้ประเสริฐแห่งหมู่ศากยราช
15
นมัสการพระพุทธเจ้า ๒๘ พระองค์
เตสาหัง สิระทา ปาเท วันทามิ ปุริสัตตะเม วะจะสา มะนะสา เจวะ วันทาเมเต ตะถาคะเต ข้าพเจ้าขอกราบไหว้พระบาทของพระพุทธเจ้าเหล่านั้น ด้วยเศียรเกล้า และขอกราบไหว้พระพุทธเจ้าเหล่านั้น ผู้เป็นบุรุษอันสูงสุด ผู้เป็นตถาคตด้วยวาจาและใจทีเดียว สะยะเน อาสะเน ฐาเน คะมะเน จาปิ สัพพะทา ทั้งในที่นอนในที่นั่ง ในที่ยืน และแม้ในที่เดินด้วย ในกาลทุกเมื่อฯ
16
บทพิจารณาสังขาร สัพเพ สังขารา อะนิจจา สัพเพ สังขารา ทุกขา
สังขารคือร่างกายจิตใจ,แลรูปธรรมนามธรรม,ทั้งหมดทั้งสิ้น มันไม่เที่ยง, เกิดขึ้นแล้วดับไป มีแล้วหายไป สัพเพ สังขารา ทุกขา สังขารคือร่างกายจิตใจ, แลรูปธรรมนามธรรม,ทั้งหมดทั้งสิ้น มันเป็นทุกข์ทนยาก, เพราะเกิดขึ้นแล้ว แก่ เจ็บ ตายไป สัพเพ ธัมมา อะนัตตา สิ่งทั้งหลายทั้งปวง, ทั้งที่เป็นสังขาร,แลมิใช่สังขารทั้งหมด ทั้งสิ้น ไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตน, ไม่ควรถือว่าเราว่าของเรา, ว่าตัว ว่าตน ของเรา
17
สัพเพ สังขารา อะนิจจาติ, ยะทา ปัญญายะ ปัสสะติ
เมื่อใด, บุคคลเห็นด้วยปัญญาว่า, สังขารทั้งปวงไม่เที่ยง อะถะ นิพพินทะติ ทุกเข, เอสะ มัคโค วิสุทธิยา เมื่อนั้น, ย่อมเบื่อหน่ายในสิ่งที่เป็นทุกข์, ที่ตนหลงนั่นแหละ, เป็นทางแห่งพระนิพพาน, อันเป็นธรรมเครื่องหมดจด สัพเพ สังขารา ทุกขาติ, ยะทา ปัญญายะ ปัสสะติ เมื่อใด, บุคคลเห็นด้วยปัญญาว่า, สังขารทั้งปวงเป็นทุกข์
18
อะถะ นิพพินทะติ ทุกเข, เอสะ มัคโค วิสุทธิยา
เมื่อนั้น, ย่อมเบื่อหน่ายในสิ่งที่เป็นทุกข์, ที่ตนหลงนั่นแหละ, เป็นทางแห่งพระนิพพาน, อันเป็นธรรมเครื่องหมดจด สัพเพ ธัมมา อนัตตาติ, ยะทา ปัญญายะ ปัสสะติ เมื่อใด, บุคคลเห็นด้วยปัญญาว่า, ธรรมทั้งปวง, เป็นอนัตตา
19
บทพิจารณา ปัญจอภิณหปัจจเวกขณะ
เรามีความแก่เป็นธรรมดา ล่วงพ้นความแก่ไปไม่ได้ เรามีความเจ็บไข้เป็นธรรมดา ล่วงพ้นความเจ็บไข้ไปไม่ได้ เรามีความตายเป็นธรรมดา ล่วงพ้นความตายไปไม่ได้ เราละเว้นเป็นต่าง ๆ คือว่า พลัดพรากจากของรัก ของเจริญใจทั้งหลาย
20
เรามีกรรมเป็นของ ๆ ตน เป็นผู้รับผลของกรรม เป็นผู้มีกรรมเป็นกำเนิด เป็นผู้มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ เป็นผู้มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย จักทำกรรมอันใดไว้ จะดีหรือชั่วก็ตาม ย่อมเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น เราทั้งหลาย, พึงพิจารณาเนืองๆ อย่างนี้แล ฯ
21
วะยะธัมมา สังขารา, อัปปะมาเทนะ สัมปาเทถะ
ปัจฉิมโอวาท วะยะธัมมา สังขารา, อัปปะมาเทนะ สัมปาเทถะ สังขารทั้งหลายมีความเสื่อมสลายไปเป็นธรรมดา ท่านทั้งหลายจงทำความไม่ประมาทให้ถึงพร้อมเถิด
22
เจริญเมตตาแก่ตนเอง อะหัง สุขิโต โหมิ ขอให้ข้าพเจ้า.....มีความสุข
อะหัง สุขิโต โหมิ ขอให้ข้าพเจ้า.....มีความสุข อะหัง นิททุกโข โหมิ ขอให้ข้าพเจ้า.....ปราศจากความทุกข์กาย,และทุกข์ใจ อะหัง อะเวโร โหมิ ขอให้ข้าพเจ้า.....ปราศจากเวรและกรรม
23
อะหัง อัพพะยาปัชโฌ โหมิ
ขอให้ข้าพเจ้า.....ปราศจากอุปสรรคอันตรายทั้งปวง สุขี อัตตานัง ปะริหะรามิ ขอให้ข้าพเจ้า.....จงมีสติและสัมปชัญญะอยู่ทุกเมื่อ, รักษากาย วาจา ใจ,ให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นเถิด
24
เจริญพรหมวิหาร สัพเพ สัตตา
สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์, เกิด แก่ เจ็บ ตาย, ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น อะเวรา โหนตุ จงเป็นสุข ๆ เถิด, อย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย อะโรคา โหนตุ จงเป็นสุข ๆ เถิด, อย่าได้มีความเจ็บไข้,ลำบากกาย ลำบาก ใจเลย
25
อัพพะยาปัชฌา โหนตุ จงเป็นสุข ๆ เถิด,อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย อะนีฆา โหนตุ จงเป็นสุข ๆ เถิด,อย่าได้มีความทุกข์กาย ทุกข์ใจเลย สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ จงมีความสุขกายสุขใจ,รักษาตัวของตน,ให้พ้นจากทุกข์ภัย ทั้งสิ้นเถิด
งานนำเสนอที่คล้ายกัน
© 2024 SlidePlayer.in.th Inc.
All rights reserved.