เทศกาล/วันสำคัญทางศาสนา ของศาสนาคริสต์

งานนำเสนอเรื่อง: "เทศกาล/วันสำคัญทางศาสนา ของศาสนาคริสต์"— ใบสำเนางานนำเสนอ:

1 เทศกาล/วันสำคัญทางศาสนา ของศาสนาคริสต์
หลังจากถูกตรึงที่กางเขนแล้ว 3 วัน พระเยซูก็ฟื้นขึ้นจากความตาย เทศกาล/วันสำคัญทางศาสนา ของศาสนาคริสต์ อาจารย์สอง Satit UP

2 เทศกาลคริสต์มาส Christmas Season ( X’mas )
หลังจากถูกตรึงที่กางเขนแล้ว 3 วัน พระเยซูก็ฟื้นขึ้นจากความตาย เทศกาลคริสต์มาส Christmas Season ( X’mas ) อาจารย์สอง สุดหล่อ

3 Christmas day

4 วันสำคัญทางศาสนาคริสต์ วันคริสต์มาส ( Christmas Day )
วันคริสต์มาส คือ การฉลองการบังเกิดของพระเยซูคริสต์ ส่วนใหญ่จะเฉลิมฉลองกันใน วันที่ 25 ธันวาคม (นิกายโรมันคาทอลิกกับนิกายโปรเตสแตนท์) ส่วนนิกายออร์โธดอกซ์ยังคงใช้ตามปฏิทินเดิมที่โดยใช้วันที่ 7 ม.ค. บางประเทศใช้วันที่ 6 ม.ค. เช่น อาร์เมเนีย เป็นวันคริสต์มาส

5 วันคริสต์มาส เป็นวันที่ชาวคริสต์ระลึกถึงการประสูติ และพระเจ้าประทาน พระบุตร (Son of God) (เป็นหนึ่งในตรีเอกานุภาพ) ซึ่งจะมาในฐานะ “ พระผู้ไถ่บาป ” หรือ “ พระผู้ช่วยให้รอด ” (Messiah)

6 วันคริสต์มาส เป็นวันที่ชาวคริสต์ระลึกถึงการประสูติ และพระเจ้าประทานพระบุตร (Son of God)

7 Christmas Eve

8 วันสำคัญทางศาสนาคริสต์ คืนก่อนวันคริสต์มาส Christmas Eve

9 Christmas Caroling

10 คืนวันคริสต์มาส Christmas Eve
ในคืนประสูติในหมู่บ้านเบ็ธเลเฮมนั้น ได้มีทูตสวรรค์ลงมาปรากฎแก่พวกเลี้ยงแกะและแจ้งข่าวการประสูติของพระเยซูให้ได้ทราบ และมีเหล่าทูตสวรรค์ได้ลงจากฟ้าลงมาร้องเพลงอวยพรในการบังเกิดของพระเยซูในครั้งนี้

11 คืนวันคริสต์มาส Christmas Eve
โดยทั่วไปตามธรรมเนียมยิวโบราณ เมื่อมีทารกเกิดใหม่ในหมู่บ้าน บรรดานักร้องนักดนตรีซึ่งเป็นเพื่อนบ้านจะมาชุมนุมกันร้องเพลงขับกล่อมอวยพรแก่ทารก และแสดงความยินดีกับครอบครัวของเขา จึงไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับยิวในธรรมเนียมปฏิบัติเช่นนี้ แต่ที่พิเศษคือผู้มาร้องเพลงขับกล่อมพระกุมารนั้นมิใช่มนุษย์ธรรมดา แต่เป็นทูตสวรรค์ จึงเกิดธรรมเนียมร้องเพลงประสานเสียง (Christmas Carols) และการร้องเพลงอวยพรตามบ้าน (Carolling)

12 ร้องเพลงประสานเสียง (Christmas Carols) และการร้องเพลงอวยพรตามบ้าน (Carolling)
Christmas Caroling

13 ร้องเพลงประสานเสียง (Christmas Carols) และการร้องเพลงอวยพรตามบ้าน (Carolling)
Christmas Caroling

14 ร้องเพลงประสานเสียง ( Christmas Carols )
Christmas Caroling ร้องเพลงประสานเสียง ( Christmas Carols ) และการร้องเพลงอวยพรตามบ้าน ( Carolling )

15 การร้องเพลงอวยพรตามบ้าน ( Carolling ) ในคือ Christmas eve

16 Christmas Caroling

17 Christmas Caroling

18 Christmas Caroling

19 Christmas Caroling

20 การร้องเพลงอวยพรตามบ้าน ( Carolling )

21 การร้องเพลงอวยพรตามบ้าน ( Carolling )

22 การร้องเพลงอวยพรตามบ้าน ( Carolling )

23 Christmas tree

24 Christmas tree

25 การประดับต้นคริสต์มาสในเทศกาลคริสต์มาส

26 Christmas tree ในสมัยโบราณหมายถึงต้นไม้ในสวนสวรรค์ ซึ่งอาดัมและเอวาไปหยิบผลไม้มากิน และทำบาปไม่เชื่อฟังพระเจ้า ตั้งแต่ศตวรรษที่11 ชาวคริสต์แสดงละครที่หน้าวัด ถึงความหมายของคริสต์มาสและเอาต้นไม้ต้นหนึ่งไว้ตรงกลางเพื่อประดับฉากแสดงถึง บาปกำเนิดของอาดัมและเอวาต้นไม้ที่ใช้เป็นต้นสน เนื่องจากเป็นต้นไม้ที่หาง่าย ที่สุดในประเทศเหล่านั้น การแสดงละครคริสต์มาสแบบนี้ มีมาเป็นเวลาช้านานหลายร้อยปี จนถึง ศตวรรษที่ 15 พระสังฆราชหลายแห่งได้ห้ามแสดง เนื่องจากการแสดงนั้นกลายเป็นการเล่น เหมือน ลิเก ล้อชาวบ้าน ผู้ปกครองบ้านเมือง และศาสนาซึ่งไม่ตรงกับบรรยากาศของการฉลอง ชาวบ้านรู้สึกเสียดายที่ ไม่มีโอกาสดูละครสนุกๆแบบนั้นอีก จึงไปสนุกกันที่บ้านของตน โดยเอาต้นไม้มาไว้ที่บ้าน เพราะต้นไม้เป็นจุดเด่นในลานวัด ที่เขาเคยร่วมสนุกกัน จากนั้นก็เริ่มมีการแขวนลูกแอปเปิ้ลและแขวนแผ่นขนมปังเพื่อระลึกถึงศีลมหาสนิท ซึ่ง ก็มีวิวัฒนาการ เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ จนในที่สุด ก็กลายเป็นขนมและของขวัญ อย่างที่เห็นอยู่ทุกวันนี้

27 การประดับตกแต่งต้นคริสต์มาสในช่วงเทศกาลคริสต์มาส

28 การประดับตกแต่งต้นคริสต์มาสในช่วงเทศกาลคริสต์มาส

29 มีธรรมเนียมในการตกแต่งรอบ ๆ นอกบ้านด้วยไฟและสิ่งของที่เป็นประกาย รถลากเลื่อนตุ๊กตาหิมะ และสิ่งของอื่น ๆ ในเทศกาลคริสต์มาส

30 มีธรรมเนียมในการตกแต่งรอบ ๆ นอกบ้านด้วยไฟและสิ่งของที่เป็นประกาย รถลากเลื่อนตุ๊กตาหิมะ และสิ่งของอื่น ๆ ในเทศกาลคริสต์มาส

31 มีธรรมเนียมในการตกแต่งรอบ ๆ นอกบ้านด้วยไฟและสิ่งของที่เป็นประกาย รถลากเลื่อนตุ๊กตาหิมะ และสิ่งของอื่น ๆ ในเทศกาลคริสต์มาส

32 การประดับต้นคริสต์มาสในเทศกาลคริสต์มาส
Christmas tree การประดับต้นคริสต์มาสในเทศกาลคริสต์มาส

33 การประดับต้นคริสต์มาสในเทศกาลคริสต์มาส
Christmas tree การประดับต้นคริสต์มาสในเทศกาลคริสต์มาส

34 การประดับต้นคริสต์มาสในเทศกาลคริสต์มาส

35 การประดับต้นคริสต์มาสในเทศกาลคริสต์มาส

36 การประดับต้นคริสต์มาสในเทศกาลคริสต์มาส

37 การประดับต้นคริสต์มาสในเทศกาลคริสต์มาส

38 การประดับต้นคริสต์มาส ในเทศกาลคริสต์มาส

39 การประดับต้นคริสต์มาสในเทศกาลคริสต์มาส

40 การประดับต้นคริสต์มาสในเทศกาลคริสต์มาส

41 การประดับต้นคริสต์มาสในเทศกาลคริสต์มาส

42 การประดับต้นคริสต์มาสในเทศกาลคริสต์มาส

43 ส่วนเครื่องประดับตกแต่งสถานที่ที่กลายเป็นที่นิยมกันนั้น ได้แก่ ระฆัง กระดิ่ง เทียนไข ทอฟฟี่มีรูปร่างเป็นแท่งเป็นลายขาวแดง ถุงเท้ายาว พวงมาลัย และเทพยาดา(นางฟ้า/ทูตสวรรค์)

44 ระฆัง : เสียงระฆังที่ถูกดังขึ้นในตอนเช้าของวันคริสต์มาสนั้นถือเป็นการเฉลิมฉลองให้กับการกำเนิดของพระเยซู ตามตำนานได้เล่าไว้ว่าเสียงระฆังได้ดังอยู่นานนับชั่วโมงก่อนเวลาเที่ยงคืนของวันคริสต์มาสอีฟ การตีระฆังดังกล่าวมีจุดประสงค์เพื่อลดพลังความมืดก่อนที่ผู้ช่วยในการไถ่บาปจะถือกำเนิดขึ้น และในเวลาเที่ยงคืน เสียงกึกก้องของระฆังได้เปลี่ยนมาเป็นเสียงแห่งความสุข นอกจากนี้ยังถูกนำไปประดับตกแต่งในการ์ดวันคริสต์มาสและบนต้นคริสต์มาสด้วย Christmas tree

45 ถุงเท้า ; จากนิทานที่เล่ากันว่ามีนักบุญชื่อนิโคลัสได้พบกับพี่น้องสามสาว ซึ่งพวกเธอได้พักอยู่นอกเมืองและมีความเป็นอยู่ที่ค่อนข้างยากจน นักบุญนิโคลัสเกิดความคิดที่จะช่วยให้พวกเขาสามพี่น้องหลุดพ้นจากความเป็นไปได้ที่ 3 สาวพี่น้องจะต้องไปเป็นโสเภณี คืนนั้นนักบุญนิโคลาสก็ได้ปล่อยทองสามก้อนลงไปในปล่องไฟของบ้านของพวกเธอ ซึ่งเหรียญนั้นไม่ได้ตกลงไปบนพื้นเตาอย่างที่เขาคิดไว้แต่กลับตกลงไปในถุงเท้าของพวกเธอที่แขวนไว้ข้างหน้าเตาผิงเพื่อที่จะให้ถุงเท้านั้นแห้ง ในตอนเช้าของวันต่อมาพวกเธอทั้งสามคนได้พบเหรียญอยู่ในถุงเท้าจึงเกิดความปิติยินดีมาก ต่อมาก็มีผู้คนมากมายแขวนถุงเท้าคริสต์มาสไว้ โดยหวังว่าจะได้รับของขวัญในลักษณะเดียวกันบ้าง

46 The Christmas Wreath การแขวนพวงมาลัยไว้ที่หน้าประตูบ้านนั้นเป็นประเพณีที่นิยมกระทำกันในช่วงเทศกาลที่มีความสำคัญ รวมถึงช่วงเทศกาลคริสต์มาสด้วย พวงมาลัยคริสต์มาสนั้นถูกร้อยด้วยโบสีแดงซึ่งแสดงให้เห็นถึงความรื่นเริง ในขณะที่ใบไม้สีเขียวเป็นสัญลักษณ์ของชีวิตที่เป็นนิรันดร์ซึ่งจะแสดงถึงความมีศรัทธาต่อวันประสูติของพระเยซู รูปร่างวงกลมของพวงมาลัยเป็นสิ่งเตือนใจให้ระลึกถึงมงกุฏหนามที่อยู่บนศีรษะของพระเยซูซึ่งในช่วงเวลานั้นทหารชาวโรมันได้หัวเราะเยาะและล้อเลียนพระเยซูว่าเป็นเสมือนกษัตริย์ของชาวยิว อีกเหตุผลหนึ่งที่มีการใช้พวงมาลัยคริสต์มาสเป็นส่วนหนึ่งของการเฉลิมฉลองต่อเทพเจ้า BACCHUS ซึ่งผู้ที่ศรัทธานั้นเชื่อว่าพระองค์นั้นได้สวมมงกุฏทรงกลมที่ทำมาจากต้นไอวี่

47 The Christmas Wreath จุดประสงค์อีกอย่างของพวงมาลัยคริสต์มาสในส่วนที่เป็นสีเขียวนั้น ได้ถูกเชื่อว่าจะสามารถช่วยป้องกันบ้านเรือนจากพวกพลังอันชั่วร้ายได้ ซึ่งช่วงเวลานี้มักถูกคิดว่าเป็นช่วงที่พลังความชั่วร้ายมีมากที่สุดในรอบปี ในช่วงยุคกลางผลสีแดงของต้นฮอลลี่ได้ถูกเชื่อกันว่าเป็นสิ่งที่คอยขับไล่พวกแม่มดให้ออกไปจากบ้าน นี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมต้นฮอลลี่ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของเทศกาล และนำความโชคดีมาให้กับผู้ที่จัดทำพวงมาลัย

48 การประดับ The Christmas Wreath ที่ประตู

49 Christmas Gifts (ของขวัญคริสต์มาส)
ประวัติความเป็นมาของการแลกเปลี่ยนของขวัญวันคริสต์มาสนั้นต้องย้อนกลับไปถึงประเพณีการให้ของขวัญในยุคโรมันซึ่งทำกัน เมื่อประเพณีดังกล่าวตกมาเป็นของชาวคริสต์ ก็กล่าวกันว่ามีความเกี่ยวเนื่องกับของขวัญที่นักปราชญ์(โหราจารย์)จากทิศตะวันออก นำมาถวายพระกุมารเยซูคริสต์เมื่อครั้งประสูติ

50 การประดับ The Christmas Wreath ที่ประตู

51 Christmas season พ่า เป็นเทศกาลที่เป็นวันหยุดประจำปีซึ่งเป็นโอกาสที่จะพบญาติพี่น้องอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาและรับประทานอาหารร่วมกัน

52 Christmas season เป็นเทศกาลที่เป็นวันหยุดประจำปีซึ่งเป็นโอกาสที่จะพบญาติพี่น้องอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา

53 คริสต์มาส คือวันหยุดสำคัญทางศาสนาของชาวคริสต์และเป็นวัฒนธรรมที่เป็นที่รู้จักโดยทั่วไปของคนทั่วโลก โดยจะเห็นได้จากการมีการประดับ ตกแต่งด้วยต้นคริสต์มาสในช่วง เทศกาลคริสต์มาส Christmas season

54 ในหลายประเทศวันที่ 25 ธ.ค. จะเป็นวันหยุดราชการและเป็นวันรื่นเริง

55 Christmas Flower

56 ดอก Poinsettia หรือดอกไม้คริสต์มาส

57 ดอก Poinsettia หรือดอกไม้คริสต์มาส

58 Santa Claus

59 เมื่อคนเลี้ยงแกะกลางทุ่งนาได้เห็นดาวที่มีแสงสุกใสเจิดจ้ามาหยุดอยู่เหนือหมู่บ้านเบ็ธเลเฮ็ม จึงเข้ามาดูเหตุการณ์และพบพระกุมารเยซูนอนในรางหญ้า ก็รู้ทันทีว่าผู้มีบุญลงมาเกิดแล้ว แต่ด้วยความยากจน จึงนำลูกแกะซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเขามีอยู่ ถวายเป็นบรรณาการแด่พระกุมารเยซู          ดังนั้น เทศกาลคริสต์มาสจึงเป็นเทศกาลแห่ง “การให้” โดยไม่เลือกฐานะยากดีมีจนและชนชั้น การให้ของขวัญจึงเป็นสัญลักษณ์แสดงถึงความกตัญญูขอบคุณพระเจ้า ที่ประทานพระบุตร(พระเยซู)ลงมาบังเกิดในโลก เป็นของขวัญล้ำค่าแก่มวลมนุษย์และไถ่มวลมนุษย์ให้รอดจากอำนาจแห่งความบาป (เด็ก ๆ ทั่วโลกเชื่อว่า ซานตาคลอส จะนำของขวัญมาให้เด็ก ๆ ในวันคริสต์มาสทุกปี)

60 ซาตาครอส คือ ส่วนหนึ่งในเทศกาลคริสต์มาสที่แสดงออกถึงการให้

61 ซาตาครอส คือส่วนหนึ่งในเทศกาลคริสต์มาสที่แสดงออกถึงการให้ในเทศกาลคริสต์มาส