กฎหมายอาญาภาคความผิด 1 ความผิดเกี่ยวกับเอกสาร
มาตรา 264: ความผิดฐานปลอมเอกสาร ทำปลอมขึ้นทั้งฉบับหรือแต่ส่วนหนึ่งส่วนใด เติมหรือตัดทอนข้อความ แก้ไขด้วยประการใดๆ ประทับตราปลอม หรือ ลงลายมือชื่อปลอม องค์ประกอบภายนอก ผู้ใด (มนุษย์ซึ่งไม่จำกัดว่าเป็นใคร) เอกสาร พฤติการณ์ประกอบการกระทำ: โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน องค์ประกอบภายใน: เจตนา รู้ข้อเท็จจริงอันเป็นองค์ประกอบความผิด ประสงค์ต่อผล/เล็งเห็นปลอมแปลงเอกสาร เจตนาพิเศษ: เพื่อให้ผู้หนึ่งผู้ใดหลงเชื่อว่าเป็นเอกสารที่แท้จริง ความสัมพันธ์ระหว่างการกระทำและผล (causation) ได้มีการกระทำดังกล่าวเกิดขึ้น คุณธรรมทางกฎหมาย ความมั่นคงและความเชื่อถือในการใช้เป็นพยานหลักฐาน
เอกสาร มาตรา 1(7) ตัวเลขประจำปืนบนพันท้ายปืน ทะเบียนรถยนต์ หมายเลขตัวถังรถ เลขประจำหรือตราประทับบนท่อนซุง ภาพถ่าย (ที่ปรากฎความหมาย (เช่นภาพรับปริญญา) สำเนาถ่ายเอกสาร
ปลอมเอกสาร การปลอมเอกสาร = การที่บุคคลหนึ่งทำเอกสารขึ้นโดยให้เข้าใจว่าเอกสาร นั้นเป็นเอกสารที่ทำขึ้นโดยบุคคลอื่น ข้อความในเอกสารจะเป็นจริงหรือเท็จก็ได้ ไม่จำเป็นต้องมีเอกสารที่แท้จริงอยู่ก่อน (ฏ. 1422/2554) ไม่ต้องปลอมให้เหมือนของจริงก็ได้ (ฏ. 1650/2493)
เอกสารปลอม - เอกสารเท็จ ฎ. 106/2497 เช่าบ้านเขาอยู่โดยไม่ได้ทำหนังสือสัญญาเช่ากันไว้ครั้นเจ้าของบ้าน ขายบ้านนั้นให้ผู้อื่นไปผู้ซื้อคนใหม่ให้ผู้เช่าออกจากบ้านเช่าผู้เช่าก็ไม่ยอมออกผู้ซื้อจึง ฟ้องขับไล่ผู้เช่าได้สมคบกับเจ้าของบ้านคนเดิมทำหนังสือสัญญาเช่าขึ้น 1 ฉบับแล้ว ผู้เช่าเอามาอ้างเป็นพยานต่อศาลดังนี้ ถือว่ายังไม่เป็นผิดฐานปลอมหนังสือ
เอกสารปลอม - เอกสารเท็จ ฎ. 6509/2549 จำเลยที่ 2 ในฐานะกรรมการผู้จัดการและผู้ถือหุ้นของบริษัทจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็น ประธานที่ประชุมผู้ถือหุ้นเป็นผู้มีหน้าที่ต้องจัดให้มีการทำรายงานการประชุมของจำเลยที่ 1 การที่จำเลยที่ 2 ได้จัดให้มีการทำบันทึกรายงานการประชุมผู้ถือหุ้นขึ้นตามหน้าที่ของตนและ ลงลายมือชื่อตนเองเป็นประธานที่ประชุม มิได้ทำในนามของบุคคลอื่น จึงเป็นเอกสารที่แท้จริง ของจำเลยที่ 2 แม้ข้อความในเอกสารจะไม่เป็นความจริง เพราะไม่มีการประชุมดังกล่าว ก็เป็น การทำเอกสารอันเป็นความเท็จเท่านั้น ไม่ทำให้เป็นเอกสารปลอมตาม ป.อ. มาตรา 264
เอกสารปลอม - เอกสารเท็จ ฎ. 1797/2536 เมื่อจำเลยที่ 1 เป็นเจ้าพนักงานตำรวจที่ทำการจับกุมโจทก์มีหน้าที่ทำและ กรอกข้อความในบันทึกการจับกุม ได้ทำและกรอกข้อความลงในบันทึกการจับกุมนั้น โดยลง ลายมือชื่อจำเลยที่ 1 เป็นผู้ทำบันทึกพร้อมทั้งให้โจทก์ในฐานะผู้ต้องหาลงลายมือชื่อจนเป็น เอกสารที่ครบถ้วนบริบูรณ์แล้ว การที่จำเลยที่ 1 ไปเขียนเติมข้อความอีกว่าสอบถามผู้ต้องหา แล้วให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ซึ่งไม่เป็นความจริงจึงเป็นการเติมข้อความในเอกสาร ที่แท้จริง น่าจะเกิดความเสียหายแก่โจทก์อันเป็นการทำเอกสารปลอมขึ้นบางส่วนโดยอาศัย โอกาสที่ตนมีหน้าที่นั้นแล้ว การกระทำของจำเลยที่ 1 จึงเป็นความผิดฐานปลอมเอกสาร
เอกสารปลอม ปลอมหนังสือสัญญาโดยลงชื่อผู้อื่นที่ไม่มีอยู่จริง หรือใช้ชื่อบุคคลอื่น ลงลายมือชื่อตัวเองในเอกสารว่าเป็นบุคคลอื่นหรือแอบอ้างตำแหน่งหน้าที่ว่าตนมีอำนาจทำเอกสาร ถ่ายเอกสารสีแผ่นป้ายแสดงการเสียภาษีรถยนต์ประจำปีให้เหมือนของจริง แก้ไขสำเนา น.ส.3 ก. แล้วนำไปถ่ายสำเนาว่าเป็นสำเนาของๆจริง ตัดเลขสลากกินแบ่งฉบับอื่นมาปิดสลากกินแบ่งอีกฉบับหนึ่ง นำภาพถ่ายของตนไปปิดทับภาพถ่ายของคนอื่นในบัตรประชาชน/หนังสือเดินทาง
ฎ. 9042/2547 การที่จำเลยนำเช็คธนาคาร ก ฎ. 9042/2547 การที่จำเลยนำเช็คธนาคาร ก. ของโจทก์ร่วมมาแก้ไขและเติมข้อความใน ช่องสั่งจ่ายบ้าง ช่องจำนวนเงินบ้างหรือปลอมลายมือชื่อโจทก์ร่วมในช่องสั่งจ่าย แล้วนำ เช็คไปขอเบิกเงินจากธนาคาร ก. ซึ่งหลงเชื่อว่าเป็นเช็คที่แท้จริงของโจทก์ร่วม จึงจ่ายเงิน ให้จำเลยไป การกระทำของจำเลยจึงเป็นการทำเอกสารปลอมขึ้นบางส่วนโดยการแก้ไข เติมข้อความและลงลายมือชื่อปลอมในตั๋วเงินที่แท้จริง เพื่อให้ผู้อื่นหลงเชื่อว่าเป็นเอกสาร ที่แท้จริงที่โจทก์ร่วมทำขึ้น และก่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ร่วมและธนาคาร ก. การ กระทำของจำเลยจึงครบองค์ประกอบความผิดฐานปลอมตั๋วเงิน
ฎ. 1141/2523 จำเลยเอาป้ายทะเบียนรถยนต์หมายเลข ส. ฎ ฎ. 1141/2523 จำเลยเอาป้ายทะเบียนรถยนต์หมายเลข ส.ฎ.00890 ของรถยนต์ยี่ห้อเฟียตมาติดใช้กับ รถยนต์ของกลาง เมื่อป้ายทะเบียนรถยนต์ดังกล่าวเป็นเอกสารแท้จริงที่ราชการทำขึ้นไม่ใช่เอกสารปลอม จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานปลอมเอกสาร ฎ. 2241/2523 แผ่นป้ายทะเบียนหมายเลข ต.ด.01839 ของกลางเป็นแผ่นป้ายที่จำเลยเป็นผู้กระทำขึ้นเพื่อ ใช้แทนแผ่นป้ายอันแท้จริง การที่จำเลยนำแผ่นป้ายหมายเลขทะเบียนดังกล่าวไปติดเพื่อใช้กับรถยนต์คันของ กลางโดยมีเจตนาแสดงให้ผู้อื่นหลงเชื่อว่า รถยนต์คันของกลางซึ่งเป็นรถที่ผิดกฎหมายเป็นรถที่มีทะเบียน ถูกต้อง จึงเห็นได้ว่าแผ่นป้ายทะเบียนหมายเลข ต.ด.01839 ที่จำเลยทำขึ้นนั้น นำไปใช้เป็นหมายเลข ทะเบียนปลอมของรถยนต์คันของกลางโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชนให้ หลงเชื่อว่าแผ่นป้ายทะเบียนหมายเลขนั้นเป็นเอกสารราชการอันแท้จริงที่ทางการออกให้ใช้กับรถยนต์คันของ กลาง การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานปลอมและใช้เอกสารปลอม
ฎ. 3997/2548 การที่จำเลยที่ 1 ตัดโครงคัสซีของรถยนต์ของกลางบริเวณตัวอักษร ตัวเลขออกแล้วนำชิ้นส่วนของโครงคัสซีที่ระบุตัวอักษรตัวเลขอื่นมาเชื่อมติดใหม่ โดย ไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 1 ขุดลบ แก้ไข เปลี่ยนแปลงตัวอักษรตัวเลขคัสซีแต่อย่างใด การกระทำของจำเลขที่ 1 ดังกล่าวจึงไม่อาจเป็นความผิดฐานปลอมเอกสารตัวอักษร ตัวเลขคัสซี
โดยประการที่น่าจะเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ฎ. 1020/2517 ลายมือชื่อนั้นไม่มีกฎหมายให้เซ็นแทนกันได้ แม้จะมอบอำนาจก็เซ็นแทนไม่ได้ จำเลย เซ็นชื่อสามีจำเลยลงในสัญญามัดจำซื้อขายที่ดินจึงเป็นการลงลายมือชื่อปลอม แต่ความผิดฐาน ปลอมเอกสารนั้นจะต้องมีลักษณะที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชนด้วย เมื่อผู้เสียหาย รู้จักชื่อและตัวสามีจำเลยผู้เป็นเจ้าของที่ดินตลอดจนจำเลยซึ่งเป็นภรรยาอยู่ก่อนแล้ว ยังได้สมัครใจ เข้าทำสัญญากับจำเลยและรู้เห็นว่าจำเลยได้ลงชื่อสามีจำเลยในช่องผู้ให้สัญญาตอนทำสัญญานั้น จากพฤติการณ์ดังกล่าวแสดงว่าผู้เสียหายมิได้หลงผิดหรือหลงเชื่อ จึงไม่อยู่ในฐานะที่จะอ้างว่าได้รับ ความเสียหายตามกฎหมายสามีจำเลยก็ไม่เสียหายเพราะเป็นผู้มอบอำนาจให้จำเลยไว้ จำเลยจึงไม่มี ความผิด
โดยประการที่น่าจะเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ฎ. 213/2539 การที่จำเลยนำเอาภาพถ่ายของจำเลยเองมาปิดทับลงในสำเนา ภาพถ่ายใบอนุญาตขับรถของจำเลยถึงแม้จะกระทำไปเพื่อให้เจ้าพนักงานตำรวจ และบุคคลทั่วไปหลงเชื่อว่าเป็นต้นฉบับเอกสารที่แท้จริงแต่ในเมื่อเป็นภาพถ่ายของ จำเลยและเป็นสำเนาภาพถ่ายใบอนุญาตขับรถของจำเลยเองการกระทำของจำเลย ย่อมไม่ก่อให้เกิดความเสียหายใดๆแต่ผู้อื่นหรือประชาชนจึงไม่เป็นความผิดฐาน ปลอมเอกสาร
โดยประการที่น่าจะเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ฎ. 1568/2521 แก้ตัวเลขในสลากกินแบ่ง 1 ตัว ให้เป็นหมายเลขที่ถูกรางวัลเพื่อให้ เพื่อนเลี้ยงอาหารจำเลยก่อน แล้วจำเลยทิ้งสลากกินแบ่งในถังขยะในบ้าน มีผู้เก็บ สลากกินแบ่งนั้นไปขอรับรางวัลนอกความรู้เห็นของจำเลย การหลอกให้เลี้ยงอาหาร เป็นการล้อเล่นระหว่างเพื่อนซึ่งทำอยู่เป็นปกติ ไม่เป็นความเสียหายแก่ประชาชน หรือเพื่อนของจำเลยไม่เป็นความผิดฐานปลอมเอกสาร
เพื่อให้ผู้หนึ่งผู้ใดหลงเชื่อว่าเป็นเอกสารที่แท้จริง ฎ. 2995/2537 จำเลยได้นำแผ่นกระดาษซึ่งมีข้อความ และตัวเลขว่าเหมือนกับแผ่นป้าย ทะเบียนกรุงเทพมหานคร 9ง-9999 ของทางราชการ แล้วนำไปใส่กรอบโลหะติดไว้กับ รถจักรยานยนต์ของจำเลย เมื่อแผ่นป้ายดังกล่าวมิได้ทำขึ้นด้วยแผ่นโลหะเช่นของทางราชการ ทั้งยังปรากฎข้อความอย่างอื่นในแผ่นกระดาษนั้นว่า คุ้มครองป้ายทะเบียนและห.จ.ก.รวมการ ช่าง แสดงให้เห็นว่าเป็นป้ายที่ใช้เป็นตัวอย่างในการโฆษณา การจัดทำป้ายทะเบียน รถจักรยานยนต์เพื่อจำหน่ายของห้างดังกล่าว กรณีจึงมิใช่การทำเอกสารปลอมเพื่อให้ผู้หนึ่ง ผู้ใดหลงเชื่อว่าเป็นเอกสารที่แท้จริงเอกสารแผ่นป้ายดังกล่าวจึงมิใช่เอกสารปลอม
มาตรา 264 วรรค 2 องค์ประกอบภายนอก องค์ประกอบภายใน: เจตนา ผู้ใด (มนุษย์ซึ่งไม่จำกัดว่าเป็นใคร) กรอกข้อความโดยไม่ได้รับความยินยอม หรือ โดยฝ่าฝืนคำสั่งของผู้อื่นนั้น แผ่นกระดาษ หรือ วัตถุอื่นใดซึ่งมีลายมือชื่อของผู้อื่น องค์ประกอบภายใน: เจตนา รู้ข้อเท็จจริงอันเป็นองค์ประกอบความผิด ประสงค์ต่อผล/เล็งเห็นปลอมแปลงเอกสาร เจตนาพิเศษ: เพื่อนำเอาเอกสารนั้นไปใช้ในกิจการที่อาจเกิดเสีหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือประชาชน ความสัมพันธ์ระหว่างการกระทำและผล (causation) ได้มีการกระทำดังกล่าวเกิดขึ้น คุณธรรมทางกฎหมาย ความมั่นคงและความเชื่อถือในการใช้เป็นพยานหลักฐาน
เหตุที่ทำให้ต้องรับโทษหนักขึ้น ปลอมเอกสารสิทธิ หรือ เอกสารราชการ ตามมาตรา 265 ปลอมเอกสารสำคัญอื่นๆ ตามมาตรา 266
มาตรา 265: เอกสารสิทธิ มาตรา 1(9) โฉนดที่ดิน สัญญาต่างๆ สลากกินแบ่งรัฐบาล ตั๋วเครื่องบิน/ ตั๋วหนัง สมุดคู่ฝากเงินกับธนาคาร/ใบถอนเงินธนาคาร ใบเสร็จรับเงิน
ไม่ใช่เอกสารสิทธิ ทะเบียนสมรส บัตรประจำตัวประชาชน/ ใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว หนังสือเดินทาง ใบขับขี่รถยนต์ ใบสั่งซื้อสินค้า/ คำขอใช้บริการ/ คำขอเอาประกันชีวิต/ ใบเสนอราคา
มาตรา 265: เอกสารราชการ มาตรา 1(8) --- เฉพาะเอกสารของราชการไทยเท่านั้น มาตรา 1(8) --- เฉพาะเอกสารของราชการไทยเท่านั้น ป้ายทะเบียนรถยนต์/ แผ่นป้ายแสดงการเสียภาษีรถยนต์/ ใบขับขี่ บัตรประชาชน ประกาศนียบัตรของกระทรวงศึกษา/ ในปริญญา หนังสือรับรอง/อนุญาตที่ออกโดยเจ้าหน้าที่ราชการ
มาตรา 266 (1) เอกสารสิทธิอันเป็นเอกสารราชการ โฉนดที่ดิน/ หนังสือรับรองการทำประโยชน์ ใบเสร็จรับเงินที่ทางราชการออกให้ รายงานการใช้จ่ายการเดินทางไปราชการสำหรับการเบิกเงินกับทางราชการ
มาตรา 267: ความผิดฐานแจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสาร องค์ประกอบภายนอก ผู้ใด (มนุษย์ซึ่งไม่จำกัดว่าเป็นใคร) แจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จ เอกสารมหาชน หรือ เอกสารราชการ ซึ่งมีวัตถุประสงค์สำหรับใช้เป็นพยานหลักฐาน พฤติการณ์ประกอบการกระทำ: โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน องค์ประกอบภายใน: เจตนา รู้ข้อเท็จจริงอันเป็นองค์ประกอบความผิด ประสงค์ต่อผล/เล็งเห็นผลแจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จ ความสัมพันธ์ระหว่างการกระทำและผล (causation) มีการแจ้งและจดข้อความลงในเอกสาร คุณธรรมทางกฎหมาย ความมั่นคงและความเชื่อถือในการใช้เป็นพยานหลักฐาน
ฎ. 5584/2543 จำเลยแจ้งข้อความอันเป็นเท็จว่ารถยนต์หาย แล้วนำรายงาน ประจำวันเกี่ยวกับคดีไปแสดงต่อบริษัทประกันภัย เป็นการกระทำที่มีเจตนาเดียว คือ มุ่งหมายเพื่อให้จะได้เงินจากบริษัทประกันภัยเป็นหลักการกระทำต่าง ๆของจำเลย เป็นเพียงวิธีการเพื่อจะให้ได้รับเงินไปเท่านั้น การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 173, 267
ฎ. 1430/2537 การที่จำเลยร่วมกับ อ. และให้อ ฎ. 1430/2537 การที่จำเลยร่วมกับ อ.และให้อ. ยื่นขอจดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติม กรรมการของบริษัท ก. ต่อนายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทโดยยื่นเอกสารรายงานการ ประชุมวิสามัญของบริษัท ก. อันเป็นเอกสารเท็จประกอบไปด้วย เป็นเหตุให้นาย ทะเบียนรับจดทะเบียนให้เป็นการแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จด ข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารมหาชน ซึ่งมีวัตถุประสงค์สำหรับใช้เป็น พยานหลักฐานโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่โจทก์ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นและเป็น กรรมการของบริษัท ก. และประชาชน จึงเป็นความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 267
ฎ. 5052/2530 โจทก์ไม่ทราบว่าจำเลยได้จดทะเบียนสมรสกับน้องสาวของโจทก์ไว้ ก่อนแล้ว การที่จำเลยแจ้งต่อนายทะเบียนซึ่งเป็นเจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่ ให้จดข้อความอันเป็นเท็จในเอกสารราชการซึ่งมีวัตถุประสงค์ใช้เป็นพยานหลักฐาน ว่าไม่เคยจดทะเบียนสมรส ณ ที่ใดมาก่อนเพื่อขอจดทะเบียนสมรส กับโจทก์ นาย ทะเบียนจึงจดทะเบียนสมรสให้ ดังนี้ การกระทำของจำเลยทำให้โจทก์ได้รับความ เสียหายโจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 267 ได้
ฎ. 1237/2544 ขณะที่จำเลยจดทะเบียนสมรสกับ ส ฎ. 1237/2544 ขณะที่จำเลยจดทะเบียนสมรสกับ ส. ในวันที่ 10 สิงหาคม2531 จำเลยไม่มีคู่ สมรสเพราะจำเลยจดทะเบียนหย่ากับ ค. แล้วตั้งแต่วันที่ 4 กรกฎาคม 2515 การที่จำเลยไม่มีคู่ สมรสอยู่ในขณะที่จดทะเบียนสมรส แม้จำเลยจะแจ้งว่าจำเลยเคยสมรสแต่ไม่ได้จดทะเบียน สมรสก็มีผลอย่างเดียวกันว่าจำเลยไม่มีคู่สมรสในขณะที่จำเลยจดทะเบียนสมรสกับ ส. นั่นเอง การที่นายทะเบียนจดทะเบียนสมรสให้จำเลยกับ ส. โดยเชื่อว่าจำเลยไม่เคยสมรสมาก่อนจึงไม่ อาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหายและไม่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน จำเลยจึงไม่มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 137 และมาตรา 267
มาตรา 269: ความผิดฐานทำคำรับรองอันเป็นเท็จ องค์ประกอบภายนอก ผู้ใด ในการประกอบการงานในวิชาแพทย์ กฎหมาย บัญชี หรือวิชาชีพอื่นใด ทำคำรับรองเป็นเอกสารอันเป็นเท็จ พฤติการณ์ประกอบการกระทำ: โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน องค์ประกอบภายใน: เจตนา รู้ข้อเท็จจริงอันเป็นองค์ประกอบความผิด ประสงค์ต่อผล/เล็งเห็นผลทำคำรับรองอันเป็นเท็จ ความสัมพันธ์ระหว่างการกระทำและผล (causation) มีการทำคำรับรองอันเป็นเท็จ คุณธรรมทางกฎหมาย ความมั่นคงและความเชื่อถือในการใช้เป็นพยานหลักฐาน
มาตรา 268: ความผิดฐานใช้เอกสารปลอมหรือเอกสารเท็จ องค์ประกอบภายนอก ผู้ใด ใช้หรืออ้าง เอกสารอันเกิดจากการกระทำความผิดตามมาตรา 264 - 267 พฤติการณ์ประกอบการกระทำ: ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน องค์ประกอบภายใน: เจตนา รู้ข้อเท็จจริงอันเป็นองค์ประกอบความผิด ประสงค์ต่อผล/เล็งเห็นผลใช้เอกสารปลอมหรือเอกสารเท็จ ความสัมพันธ์ระหว่างการกระทำและผล (causation) มีการใช้เอกสารปลอมหรือเอกสารเท็จ คุณธรรมทางกฎหมาย ความมั่นคงและความเชื่อถือในการใช้เป็นพยานหลักฐาน ผู้ใช้เอกสารปลอม/เท็จ เป็นผู้ปลอมเอกสาร/แจ้ง ให้จดเอกสารเท็จ = ลงโทษฐานเป็นผู้ใช้เอกสาร เพียงกระทงเดียว
มาตรา 269 วรรค 2: ความผิดฐานใช้หรืออ้างคำรับรองอันเป็นเท็จ องค์ประกอบภายนอก ผู้ใด ใช้หรืออ้าง คำรับรองอันเกิดจากการกระทำความผิดตามาตรา 269 วรรคแรก องค์ประกอบภายใน: เจตนา รู้ข้อเท็จจริงอันเป็นองค์ประกอบความผิด ประสงค์ต่อผล/เล็งเห็นผลใช้เอกสารปลอมหรือเอกสารเท็จ โดยทุจริต ความสัมพันธ์ระหว่างการกระทำและผล (causation) มีการใช้หรืออ้างคำรับรองอันเป็นเท็จ คุณธรรมทางกฎหมาย ความมั่นคงและความเชื่อถือในการใช้เป็นพยานหลักฐาน
ข้อ 1 นายเดชาได้ทำนิติกรรมขายที่ดิน น.ส.3 ก. ของตนให้แก่นายเดโชไปแล้ว แต่นายเดชากลับ แจ้งความต่อพนักงานสอบสวนและแจ้งต่อเจ้าพนักงานที่ดินว่า ตนเป็นเจ้าของผู้ ครอบครองที่ดินตาม น.ส.3 ก. ที่ขายให้แก่นายเดโชและรับรองว่าจำเลยมิได้ทำนิติกรรม หรือมีภาระติดพันอื่นใดเกี่ยวกับที่ดินแปลงนี้ตามใบไต่สวนซึ่งเป็นเอกสารราชการและ ขอให้บันทึกรายงานประจำวันเกี่ยวกับคดีว่า น.ส. 3 ก.ของตนที่เก็บไว้ที่บ้านสูญหายไป เพื่อขอคัดสำเนารายงานดังกล่าวไปขอออก น.ส.3 ก. ต่อมานายเดชานำสำเนาภาพถ่าย สำเนา น.ส. 3 ก. ดังกล่าวมาแก้ไขโดยการเพิ่มเติมตัดทอนข้อความ และแก้รูปแผนที่ที่ดิน ให้ผิดไปจากความจริง แล้วถ่ายภาพสำเนาดังกล่าวเพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องเข้าใจว่าเอกสารที่ นายเดชาทำขึ้นเป็นภาพถ่ายสำเนาที่แท้จริงที่เจ้าพนักงานได้รับรองในหน้าที่ และนายเดชา ได้นำภาพถ่ายสำเนาที่ทำขึ้นไปแสดงต่อเจ้าพนักงานที่ดินเพื่อขอออกโฉนดที่ดิน
ข้อ 2 นางพิศไม่มีบัตรประจำตัวประชาชน จึงไปยื่นคำขอมีบัตรประจำตัวประชาชนใหม่ กรณีบัตรประจำตัวประชาชนฉบับเดิมสูญหาย โดยอ้างว่าชื่อนางเยาว์ นางพิศได้ ยื่นหนังสือรับรองของนายพงษ์ พัฒนาการอำเภอกะเปอร์ (ที่นางพิศไปแจ้งว่าตนคือ นางเยาว์เพื่อให้นายพงษ์รับรองว่าตนคือนางเยาว์ เพื่อนำไปทำบัตรประชาชนและ นายพงษ์รับรองให้) ต่อเจ้าพนักงานฝ่ายทะเบียน ซึงได้จดแจ้งลงในใบคำขอว่า ผู้ แจ้งชื่อนางเยาว์และบัตรสูญหาย และนางพิศได้ลงลายมือชื่อในช่องผู้ยื่นคำขอมี บัตรว่า “นางเยาว์” แล้วใช้ใบคำขอดังกล่าวแสดงต่อเจ้าพนักงานฝ่ายทะเบียนผู้มี หน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับงานบัตรประชาชน เมื่อเจ้าพนักงานฝ่ายทะเบียนผู้มีหน้าที่ รับผิดชอบเกี่ยวกับงานบัตรประชาชนเห็นก็หลงเชื่อ จึงได้ออกบัตรประจำตัว ประชาชนให้แก่นางพิศในชื่อของนางเยาว์
ข้อ 3 นายเกรียงสำเร็จการศึกษาหลักสูตรมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 3 แต่ต้องการเข้าศึกษาต่อ ระดับอุดมศึกษา ซึ่งต้องมีวุฒิการศึกษาสำเร็จหลักสูตรมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 6 นาย เกรียงจึงไปติดต่อนายกรุงให้ช่วยจัดทำประกาศนียบัตรรับรองว่าตนสำเร็จ การศึกษาหลักสูตรมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 6 นายกรุงจึงนำประกาศนียบัตรปลอมที่ตน เคยทำออกมาแสดงให้นายเกรียงเห็นเพื่อให้มั่นใจในฝีมือของตน และได้ชี้ให้นาย เกรียงดูรูปรับปริญญาของตนที่ติดผนังอยู่ว่าเป็นภาพที่ตนตัดต่อมาจากรูปของคน อื่นโดยเอาเฉพาะใบหน้าของตนปิดทับเข้าไปบนในหน้าของเจ้าของรูปเดิมและ แก้ไขเลขที่ปี พ.ศ. ที่รับปริญญาเสียใหม่โดยไม่ปรากฎชื่อของนายกรุงบนรูป ดังกล่าวเลย หลังจากที่นายเกรียงได้รับประกาศนียบัตรปลอมจากนายกรุงแล้ว นายเกรียงก็ได้นำประกาศนียบัตรดังกล่าวไปสมัครเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง