ดาวน์โหลดงานนำเสนอ
งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ
ได้พิมพ์โดยNeeramphorn Plaphol ได้เปลี่ยน 9 ปีที่แล้ว
2
เริ่มจากอดีต ตั้งแต่ยุคสมัยเริ่มต้น ของการใช้ PC มีการนำเอาสแตติกแรมมา ใช้ แต่ขนาดของ RAM ในขณะนั้นมีเพียง 8-16 กิโลไบต์ ซึ่งต้องใช้พื้นที่บอร์ด ขนาดใหญ่ ครั้นถึงยุคพีซีที่แพร่หลาย เช่น เครื่องแอบเปิ้ลทู การใช้ หน่วยความจำเริ่มหันมาใช้แบบ DRAM
3
เมื่อมีการพัฒนา PC โดยบริษัท ไอบีเอ็มที่เป็นต้นแบบที่เรียกว่า พีซี เอ็กซ์ที ไอบีเอ็มเลือกใช้ DRAM และ เริ่มต้นด้วยขนาด 64 K ไบต์ และขยาย มาเป็น 640 K ไบต์ ขยายเพิ่มจนหลาย ร้อยเมกะไบต์ในปัจจุบัน ในยุคแรกการใช้ DRAM ยังใช้เป็น ชิพ ไม่มีเทคนิคอะไรมากนัก เพราะ ซีพียูทำงานด้วยความเร็วเพียง 4-10 เมกะเฮิร์ทซ์เท่านั้น แต่ต่อมาถึงยุคพีซี 386, 486 ซีพียูเริ่มทำงานที่ความเร็ว 33 MHz จนถึง 66 MHz
4
FPM มาจากคำว่า Fast Page Mode เป็น DRAM ในยุคแรกของรุ่น 486 โดยเพิ่มความเร็วในลักษณะแบ่ง หน่วยความจำเป็นหน้าตามโครงสร้าง ที่แบ่งเป็นแถวและสดมภ์ โดยหาก อ่านหรือเขียนหน่วยความจำในห้อง เดียวกัน ก็ไม่จำเป็นต้องส่งค่า แอดเดรสในระดับแถวไป เพราะ กำหนดไว้ก่อนแล้ว คงส่งเฉพาะ สดมภ์เท่านั้น
5
Fast Page DRAM (FPM) นั้น ก็ เหมือนกับ DRAM เพียงแต่ว่า มันลด ช่วงการหน่วงเวลาขณะเข้าถึงข้อมูล ลง ทำให้ มันมีความเร็วในการเข้าถึง ข้อมูล สูงกว่า DRAM ปกติ ซึ่งโดยที่ สัญญาณนาฬิกาในการเข้าถึงข้อมูล จะเป็น 6-3-3-3 (Latency) เริ่มต้นที่ 3 clock พร้อมด้วย 3 clock สำหรับการ เข้าถึง page) และสำหรับ ระบบแบบ 32 bit จะมีอัตราการส่งถ่ายข้อมูล สูงสุด 100 MB ต่อวินาที
6
ส่วนระบบแบบ 64 bit จะมีอัตรา การส่งถ่ายข้อมูลที่ 200 MB ต่อ วินาที เช่นกัน ปัจจุบันนี้ RAM ชนิด นี้แทบจะหมดไปจากตลาดแล้วแต่ ยังคงมีให้เห็นบ้าง และมักมีราคา ที่ ค่อนข้างแพงเมื่อเทียบกับ RAM FPM DRAM
7
ปกติหน่วยความจำเป็น วงจรอิเล็กทรอนิกส์ ดังนั้นจึง ต้องมีกระแสไฟฟ้าเลี้ยงวงจร เพื่อให้คงสถานการเก็บข้อมูล เราเรียกหน่วยความจำที่ต้องมี กระแสไฟฟ้าคงไว้ว่า หน่วยความจำแบบโวลาไทน์ (Volatine) หน่วยความจำ ประเภทนี้ได้แก่ RAM ที่เราใช้ อยู่ทั่วไป แต่การใช้งานใน วงจรพีซีจำเป็นต้องมีการเก็บ โปรแกรมถาวรไว้กับเครื่อง ซึ่ง การเก็บถาวรนี้จึงต้องไม่ขึ้นกับ ไฟฟ้าเลี้ยง
8
วงจรเราเรียกว่าหน่วยความจำ แบบนอนโวลาไทน์ (nonvolatine) ซึ่งได้แก่ ROM - Read Only Memory ROM จึงเป็น หน่วยความจำที่บรรจุโปรแกรม มาแล้ว และสามารถอ่านเรียก ข้อมูลมาใช้ได้ อย่างไรก็ดีด้วย เทคโนโลยีที่ทันสมัย ปัจจุบันมี หน่วยความจำที่เขียนอ่านได้ เหมือน RAM ที่ใช้ทั่วไป
9
DRAM ใช้คาปาซิเตอร์ที่ต้องการ power-refresh เพื่อเก็บการชาร์ต เพราะ การอ่าน DRAM จะดิสชาร์ตสิ่งที่เก็บไว้ ความต้องการ Power-refresh ภายหลัง การอ่านแต่ละครั้ง นอกจากการอ่านแล้ว เป็นการรักษาชาร์ตให้อยู่ในตำแหน่ง RAM จะต้องมีการ refreshed ทุก ๆ 1.5 microsecond และ DRAM มีราคาถูกที่สุด ในประเภทของ RAM
10
นางสาวชลธิชาเชียงเหงียม 503021147-9 นายชัยวัฒน์กลัดเจ็ด 503021148-7 นายชานนสมพงษ์ 503021149-5
งานนำเสนอที่คล้ายกัน
© 2024 SlidePlayer.in.th Inc.
All rights reserved.